The king of War

บทที่ 411 ตระกูล ยิ่งไร้ยางอาย



บทที่ 411 ตระกูล ยิ่งไร้ยางอาย

หลังจากที่ตระกูลหล่มสลาย ตั้งแต่นี้ต่อไป หนันยังจะอยู่ใน ความดูแลของตระกูลจ

คำพูดของเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

“อนาคต?”

หานเดี่ยวเทียนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จึงขมวดคิ้วถามขึ้น

จูกว่างจื้อยิ้ม “เจ้าบ้านหาน คุณก็รู้ เมื่อสิบปีก่อนหนุนยังและ เจียงผิงเป็นหนึ่งเดียวกัน ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่จะรวมสอง มณฑลเข้าด้วยกันอีกครั้ง!

หานเซียวเทียนยิ้มเยาะ “รวมสองมณฑลเข้าด้วยกัน ความ ทะเยอทะยานของเจ้าบ้าน มีไม่น้อยเลยนะ!”

จูกว่างจื้อหัวเราะลั่น พลางหรี่ตากล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าผม ทะเยอทะยาน แต่ทุกอย่างเป็นการฉวยโอกาส!”

“สมาคมบูโดกำลังจะจัดการกับตระกูลมั่งคั่งในสองมณฑล ของพวกเรา สุดท้าย ไม่สมาคมบูโดก็พวกเราสองมณฑลจะเป็น ฝ่ายชนะ”

“ถ้าสมาคมบูโดชนะ พูดอะไรไปก็ไม่มีความหมาย แต่ถ้าพวก เราสองมณฑลชนะ จะวางแผนอย่างไรต่อไป?”

จูกว่างจื้อถามด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าชราเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

“เจียงผิงก็คือเจียงผึ้ง หนันยังก็คือหนันยัง จะวางแผนอะไรได้ อีก?” หานเยี่ยวเทียนกล่าวอย่างเฉยเมย

จูกว่างจื้อส่ายหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ได้การ

“ไม่ได้การยังไง?”

“ถ้าคนในตระกูลของผมออกหน้า เอาชนะสมาคมบูโดได้ ถ้า อย่างนั้นก็หมายความว่า พวกเราตระกูลช่วยเจียงผิงแก้ปัญหา วิกฤติในครั้งนี้ได้น่ะสิ”

จูกว่างจื้อพูดพร้อมกับยิ้มตาหยี

“คุณมั่นใจในตัวเองมากเลยนะ!

หานเดี่ยวเทียนหัวเราะเยาะ “งานต่อสู้ยังไม่ทันเริ่มต้น คุณก็ รีบร้อนเริ่มเข้ายึดเจียงผิงแล้วเหรอ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้ว ตระกูลจูกับสมาคมบูโดจะต่างกันยังไงล่ะ?”

“เจ้าบ้านหาน ต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว” เฉินซิงไห่กล่าวด้วย รอยยิ้ม

“เอ๊ะ? ตรงไหนที่ไม่เหมือนกัน?” หานเซี่ยวเทียนแสร้งทำเป็น

สับสน

“สมาคมบูโดมีศักยภาพมากกว่า แข็งแกร่งกว่าตระกูล”

เฉินชิงไห่กล่าว

“ฮ่าฮ่า! แตกต่างจริงๆ!
หานเยี่ยวเทียนหัวเราะลั่น รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ จางหาย ไป “อีกอย่างหนึ่ง ตระกูลนั้นไร้ยางอายยิ่งกว่าสมาคมบูโดเสีย อีก!”

หานเดี่ยวเทียนและเฉินชิงไห่ ทั้งสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของกว่างจื้อหายไปในทันใด ถูกแทนที่ด้วย ความเย็นชา

ในเวลานี้ปรมาจารย์หงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน “เจ้าบ้าน ผมเคย บอกไปแล้วว่า ไม่จําเป็นต้องพูดคุยเรื่องความร่วมมือกับพวกเขา ฆ่าไปเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ?”

ปรมาจารย์หงเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจที่สุดของตระกูล

เขาถูกตระกูลจูเก็บซ่อนไว้อยู่เสมอ ถ้าตระกูลหูไม่ล่มสลาย เขาก็จะไม่ถูกเปิดเผย

เดิมทีจูกว่างจื้อได้วางแผนเก็บปรมาจารย์หงไว้ เพื่อใช้รับมือ กับตระกูลหู แต่คิดไม่ถึงว่า ยังไม่ทันได้ลงมือกับตระกูลหู ตระกูล หูก็ถูกทำลายเสียก่อน

ยิ่งไปกว่านั้นเขามั่นใจว่า ถ้าปรมาจารย์หงลงมือ แม้แต่ยอด ฝีมือจากสมาคมบูโดก็อาจไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของเขา สำหรับเจียงผิง เขาไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา

“คุณต้องการจะทำอะไร?”

ในขณะนี้ ร่างที่อยู่เบื้องหลังหานเดี่ยวเทียน ได้ก้าวออกมา และยืนขวางอยู่ตรงหน้าเขา
องครักษ์ประจํากายของหานเดี่ยวเทียน ผู้แข็งแกร่งที่สุดของ ตระกูลหาน กุ้ยหยา

กุ้ยหยารู้สึกถึงแรงกดดันอย่างรุนแรงจากปรมาจารย์ทั้ง

ความรู้สึกเช่นนี้ เป็นอันตรายอย่างยิ่ง

ปรมาจารย์หงมองกุ้ยหยาอย่างยั่วเย้า “คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ ผม ผมแนะนำให้คุณออกไปจากที่นี่ดีกว่า มิฉะนั้นจะตายเปล่า!

กุ้ยหยาไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าดูจริงจัง

เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังพูดโกหก

องครักษ์ของเฉินซิงไห้ก็ก้าวออกมายืนกับกุ้ยหยา จ้องมอง ปรมาจารย์หงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขาทีละก้าวตาเป็นมัน ในดวงตาของหานเดี่ยวเทียนและเฉินซิงไห่ เต็มไปด้วยความ

เคร่งขรึม

พวกเขารู้ดีว่า ครั้งนี้อาจพ่ายแพ้ให้กับเมืองหนุนหลังจริงๆ

พวกเขาเชื่อคำพูดของจูกว่างจื้อ คิดว่าอีกฝ่ายต้องการร่วมมือ กับตระกูลมั่งคั่ง ในเจียงผึ้งเพื่อรับมือกับสมาคมบูโดร่วมกัน

ตอนนี้ดูเหมือนว่า อีกฝ่ายต้องการควบคุมเจียงผิงก่อนที่จะ จัดการกับสมาคมบูโด

เพียงแต่ว่า เมื่อมีคุณหยางอยู่ พวกเขาจะทำแผนชั่วสำเร็จหรือ

ไม่?

เมื่อนึกถึงหยางเฉิน หานเยี่ยวเทียนและเฉินชิงไห่ก็สงบจิตใจลงมาก

“กว่างจื้อ คุณแน่ใจหรือว่าต้องการจัดการความขัดแย้ง ภายในก่อนที่จะต่อสู้กับสมาคมบูโด?”

จู่ๆ หานเยี่ยวเทียนก็ตะโกนออกมา

เขาไม่เกรงกลัวตระกูล แต่เขาต้องการร่วมมือกับตระกูล มั่งคั่งในเมืองหนุนหลังเพื่อแก้ปัญหาเรื่องสมาคมบูโดก่อนจริงๆ

แม้ว่าเขาจะมั่นใจในศักยภาพของหยางเฉินมาก แต่ทุกเรื่อง ย่อมไม่มีความแน่นอน มีผู้ช่วยเพิ่มขึ้นอีกคน อย่างไรก็ดีกว่าให้ หยางเฉินเผชิญหน้ากับสมาคมบูโดเพียงลำพัง

“ในเมื่อคุณต้องการร่วมมือ อย่างน้อยก็ต้องให้ผมเห็นก่อนว่า เจียงผิงมีคุณสมบัติเพียพอหรือไม่!!

จูกว่างจื้อพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “ยอดฝีมือที่อยู่ข้างกายเจ้า

บ้านทานและผู้นำเงิน น่าจะเป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดของเจียง

ผิงใช่ไหม?”

“เอาล่ะ เมื่อมีสองยอดฝีมือระดับสุดยอดที่แข็งแกร่งที่สุดจาก ตระกูลมั่งคั่งแห่งเจียงผิงมาอยู่ด้วยกัน ดูซิว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของ ปรมาจารย์หงจากตระกูลแห่งหนันยังได้หรือไม่”

“ปรมาจารย์หง ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”

จูกว่างจื้อถามด้วยรอยยิ้ม เขาก็รู้ดีถึงผลลัพธ์ของการสังหารหานเดี่ยวเทียนและเฉินซิงไร่ในเวลานี้

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!”

ปรมาจารย์หงแสยะยิ้มมุมปาก มองไปยังกุ้ยหยาและยอด ฝีมือของตระกูลเฉินอย่างเย้ยหยัน “เศษสวะสองคน เข้ามาพร้อม กันเลย!”

“ไอ้เวร!”

เมื่อถูกดูหมิ่นเช่นนี้ ยอดฝีมือของตระกูลเฉินก็ตะโกนด้วย สีหน้าโกรธจัด พุ่งเข้าไปพร้อมกับเหวี่ยงหมัด

กุ้ยหยารู้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเพียงใด จึงไม่กล้าซักช้า ขณะที่ยอดฝีมือของตระกูลเฉินพุ่งเข้าไป เขาก็ขยับเท้า กระโจน เข้าใส่ปรมาจารย์หงทันที

ภายในห้องประชุม ทุกคนในล้วนมีสีหน้าตื่นเต้น

นี่เป็นการประลองระหว่างตระกูลชั้นนำแห่งเมืองหนุนหลังและ มณฑลเจียงผิง การประมือในระดับเช่นนี้ นานๆ จะได้เห็นสักครั้ง หนึ่งในหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ยอดฝีมือตระกูลเฉินชิงบุกเข้าไปก่อน

แต่ก่อนที่เขาจะได้โจมตี ปรมาจารย์หงก็ย่อเข่าลงอย่างผ่อน คลายแล้วยืดออกดัง “พรึ่บ” ยอดฝีมือตระกูลเฉินถูกเตะกระเด็น ออกไปหลายเมตร

ก่อนจะร่วงลงกับพื้น กระอักเลือดออกมา ใบหน้าซีดเผือด
ทุกคนตกตะลึง นี่น่ะหรือคือการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือที่พวก เขาตั้งตารอคอย?

เพียงกระบวนท่าเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเฉิน ก็

กระอักเลือดพ่ายแพ้แล้ว? สีหน้าของเฉินซึ่งไม่แย่ลงจนถึงขีดสุด เขาเป็นยอดฝีมือที่

แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเฉิน แต่เขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ

ปรมาจารย์หงเลย

“ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!”

ขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจที่ยอดฝีมือตระกูลเฉินถูก สังหารอย่างรวดเร็ว กุ้ยหยากับปรมาจารย์หงก็ได้เข้าประมือกัน แล้ว

แม้ว่ากุ้ยหยาจะไม่ได้พ่ายแพ้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทักษะสู้เขาไม่ ได้ ปรมาจารย์หงยืนนิ่งอยู่กับที่ตั้งแต่ต้นจนจบ

กุ้ยหยาใช้ทุกกระบวนท่าของเขาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถ โจมตีเข้าเป้า ตรงกันข้ามกลับถูกปรมาจารย์หงที่ยืนอยู่กับที่ โจมตีหลายครั้ง

“นี่คือยอดฝีมือระดับสุดยอดแห่งมณฑลเจียงผึ้งแล้วใช่ไหม?” ปรมาจารย์หงกล่าวเสียดสีขณะที่เขากำลังสกัดกั้นการโจมตี ของกุ้ยหยา

หานเดี่ยวเทียนมีสีหน้าทั้งอายทั้งโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ความจริงเป็นเช่นนี้
ผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหาน ไม่สามารถแตะต้อง ปรมาจารย์หงได้เลย

“ผัวะ!”

ปรมาจารย์หงขยับเท้าอย่างกะทันหัน ทุกคนเห็นเพียงเงาที่ส่ง เสียงผ่านไป จากนั้นก็เห็นร่างกุ้ยหยาลอยขึ้นไปบนอากาศ

เกิดเสียงดังลั่น ร่างของกุ้ยหยาตกลงมาอยู่แทบเท้าของหาน

เซี่ยวเทียนอย่างแรง

เกิดความเงียบสงัด!

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายวัยกลางคนในชุดเพ้าสีฟ้าอมเขียว

ที่อยู่ตรงกลางห้องโถง

แม้ว่ายอดฝีมือของทั้งสองตระกูลใหญ่แห่งเจียงผึ้งจะร่วมมือ กัน แต่ก็พ่ายแพ้อย่างง่ายดาย

ปรมาจารย์หงผู้นี้ เป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจขนาดนี้เชียวหรือ?

ผ่านไปนานกว่าทุกคนจะได้สติกลับมา ในห้องประชุมเต็มไป

ด้วยการสรรเสริญ

“หนันยังรอดแล้ว!”

“สมกับที่เป็นปรมาจารย์หง สุดยอดอย่างที่คิดไว้จริงๆ!

“ด้วยศักยภาพของปรมาจารย์หง สมาคมบูโดจะมีอะไรน่า

กลัว?”

“ฉันตั้งตารองานต่อสู้ในวันที่ 15 สิงหาคมเหลือเกิน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ