The king of War

บทที่221ภรรยาผมโกรธ



บทที่221ภรรยาผมโกรธ

หลังจากผ่านไปยี่สิบนาที หยางเฉินขับรถมาถึงร้านอาหารเปีย หยวนซุน

เวลานี้เป็นเวลาอาหารเย็น ลานจอดรถของร้านอาหาร เต็มไป ด้วยรถหรูยี่ห้อต่างๆ

ร้านอาหารเปียหยวนซุน เป็นธุรกิจของตระกูลซูใช่ไหม” จู่ๆ หยางเฉินก็ถามขึ้น

ฉินซีส่ายหน้าเบาๆ “จริงๆ เจ้าของที่แท้จริงของร้านอาหาร เปยหยวนซุน เป็นของตระกูลมแห่งเมืองเอก เหมือนให้ตระกูล ทําหน้าที่ดูแลร้านอาหารเปียหยวนซุนในเจียง โจวเท่านั้น ที่นี่ก็ คงเหมือนกัน”

หยางเฉินพยักหน้า “ตระกูลมู่ เป็นตระกูลอันดับต้นๆ ในเมือง เอกเหรอ”

“ตระกูลมู่ เป็นแค่ตระกูลธรรมดา เรียกว่าตระกูลที่รับใช้ ตระกูลหานก็ได้ ใช้เงินของตระกูลหานมาพัฒนาตระกูล ว่ากันว่า ต้องส่งกำไรจำนวนมาก ให้ตระกูลหานทุกปี” ฉินซีเอ่ยขึ้น

หยางเฉินแอบตกใจ คิดไม่ถึงว่าตระกูลเล็กๆ ในเมืองเอก จะมี ความคิดเกี่ยวกับตระกูลรับใช้อะไรทำนองนี้ด้วย

ทั้งสองเดินเข้ามาในร้านอาหาร ระหว่างที่พูดคุยกัน
พนักงานต้อนรับพาทั้งสองคนมายังห้องอาหารที่เพิ่งเหม่ยหลิง จองเอาไว้

เมื่อเข้ามาถึงก็เจอเฉินอิงเหานั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เจิ้งเหม่ยหลิงนั่ง อยู่ด้านขวา รวมถึงคนอื่นด้วย

คนเยอะมาก ส่วนใหญ่อายุยังน้อย น่าจะประมาณสามสิบกว่า

คนนั่งกันเต็มโต๊ะ เหลือที่นั่งข้างเฉินอิงเหาเพียงที่เดียว

นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเล็กๆ วางอยู่ข้างโต๊ะอาหารโต๊ะใหญ่อีก ด้วย เหมือนโต๊ะที่นั่งได้สองคน ในร้านอาหารฟาสต์ฟูดอะไร ทํานองนั้น

“พี่มาแล้วเหรอ!”

เจิ้งเหม่ยหลิงเห็นฉินซี ก็ยิ้มและลุกขึ้นมาต้อนรับ

ทุกคนต่างพากันมองมาที่ฉินซี ด้วยสีหน้าตกตะลึง แม้แต่ คนในตระกูลร่ำรวยอย่างพวกเขา ก็ยากที่จะเจอความสวยระดับ นี้

“ทำไมคนกากเดนอย่างนาย ถึงมาที่นี่ด้วยล่ะ”

เจิ้งเหม่ยหลิงรู้ตั้งนานแล้วว่าหยางเฉินต้องมาด้วย แต่จงใจ หาเรื่องเท่านั้น

“ถ้าเธอยังว่าหยางเฉินอีก ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้!” ฉินซีพูดด้วย สีหน้าไม่สบอารมณ์ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงพูดแทนหยางเฉิน โดยไม่ลังเล ยิ่งไป กว่านั้น ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนคือสามีภรรยา

เจิ้งเหม่ยหลิงรีบพูดขึ้นมาว่า “พี่ อย่าไปสิ ฉันไม่ว่าเขาแล้ว ก็ได้”

สีหน้าของฉันซีเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย

“พี่ ฉันไม่ได้จะไล่หยางเฉิน ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมาด้วย เลยไม่ได้ จองที่นั่งให้เขา พี่ก็เห็นว่าที่นั่งว่างแค่ที่เดียว” เจิ้งเหม่ยหลิงแสร้ง ทําสีหน้ารู้สึกผิด

สีหน้าของฉันซีเอ็นซา ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเจิ้งเหม่ยหลิงคิด อะไร เธอจึงพูดอย่างไม่ลังเลว่า

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นช่างเถอะ เรากลับกันเถอะ!!

พูดจบ เธอจึงกอดแขนของหยางเฉินและพูดว่า “คุณสามี เรา กลับกันเถอะ!

ขณะที่สองสามีภรรยากำลังจะเดินออกไป เฉินอิงเหาลุกขึ้นยืน และพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “คุณฉิน ผมตั้งใจเชิญคุณชายตระกูล ใหญ่ในเมืองโจวเฉิงมาที่นี่ เพื่อคุณเลยนะ เพราะอยากช่วยคุณ คุยเรื่องธุรกิจ ขืนคุณออกไปแบบนี้ ดูจะไม่เป็นการดีสักเท่าไร

“คุณฉิน พวกเรานับถือคุณมาก คุณใช้ความสามารถของตัว เอง สร้างธุรกิจระหว่างที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย พวกเราเลย อยากทำธุรกิจกับคุณ ขืนคุณไปแบบนี้ มันจะไม่น่าเสียดายเหรอ”

จู่ๆ ก็มีคนลุกขึ้นพูด เขายิ้มตาหยีแล้วพูดออกมา
เขาพูดได้ดีเลยทีเดียว ถึงจะไม่มีคำพูดข่มขู่ แต่ก็ทำให้ฉัน รู้สึกกดดันเล็กน้อย

พวกเขามาที่นี่ เพราะอยากทำธุรกิจกับฉัน ถ้าขืนเธอกลับไป ต่อจากนี้ฉินซีคงไม่ต้องคิดเรื่องทำธุรกิจในเมือง โจวเฉิงอีกเลย สีหน้าของฉินซีเปลี่ยนไปเล็กน้อย หน้าของเธอเต็มไปด้วย

ความสับสน

ฝั่งหนึ่งคือสามีของเธอ อีกฝั่งหนึ่งก็เป็นอนาคตของบริษัท สำหรับเธอแล้ว ถึงสามีจะสำคัญที่สุด แต่ตลาดในเมืองโจวเฉิง ก็สําคัญกับซานเรือกรุ๊ปมากเช่นกัน

“คุณหยาง คุณแค่ลูกเขยที่ว่างสุดๆ แบบไม่มีอะไรทำ แถมยัง ไม่รู้เรื่องธุรกิจด้วย”

จู่ๆ เฉินอิงเหาก็พูดขึ้น “เอาอย่างนี้ไหม คุณหยางไปนั่งโต๊ะ

ตรงนั้น ให้คุณฉินนั่งคุยธุรกิจกับเราที่โต๊ะนี้ ผมจะสั่งให้คน

เตรียมอาหารให้คุณ ว่าไงครับ

“พี่เหา จะไปเกรงใจไอ้กากเดนนั่นทำไม คนที่นั่งอยู่ที่นี่ เป็น คุณชายตระกูลใหญ่ในเมือง โจวเฉิง ให้มันนั่งโต๊ะข้างๆ ถือว่าไว้ หน้ามันมากแล้ว จะเตรียมอาหารให้มันอีกทำไม

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดประชดอย่างไม่ลังเล

“ใช่ พี่เหา ที่นี่คือร้านอาหารสุดหรูในเมืองโจวเฉิง อาหาร แต่ละอย่างไม่ใช่ถูกๆ แค่คนจนๆ จะให้กินทำไม ให้มันกินน้ำ แก้วเดียวก็พอแล้ว ไปกินน้ำในห้องน้ำนุ่น”
“ฮ่าๆ ไปกินน้ำในห้องน้ำ ก็ไม่เลวนี่นา แต่ฉันแนะนำว่าเอา จานให้มันสักใบก็ดี จะได้เอาไปกินอะไรในห้องน้ำ ฮ่าๆ……

“พวกนาย ใจร้ายจริงๆ ทำไมถึงกลั่นแกล้งคนอื่นแบบนี้ ฉัน

ว่าเดี๋ยวเอากระดูกที่พวกเรากินเหลือ โยนให้มันก็พอแล้ว ฮ่าๆ…… ในห้องอาหารเต็มไปด้วยคำพูดเหน็บแนมของทุกคน ฉินซี

โกรธจนตัวสั่น สีหน้าของเธอดูโมโหมาก

สีหน้าของหยางเงินค่อยๆ เย็นยะเยือก “ฉันไม่สนใจคำดูถูก ของพวกนายหรอก แต่พวกนายทำให้ภรรยาฉันโกรธ ฉันไม่ ปล่อยพวกนายเอาไว้แน่!!

หยางเฉินพูดออกมา ทุกคนพากันตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าลูกเขย ที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง จะกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าเฉินอิงเหา

“แกเล่นบ้าอะไรไม่ทราบ กล้าอวดดีต่อหน้าพี่เหาเหรอ” “ถ้าพี่เหาไม่ไว้หน้าแก แกคิดว่าจะเข้ามาในห้องอาหารนี้ได้เห รอ

“สำเหนียกตัวเองหน่อย ทำตามที่พี่เหาบอก ไปนั่งโต๊ะข้างๆ ไม่งั้นก็ไสหัวไปซะ!”

จู่ๆ หยางเฉินกลายเป็นเป้าที่โดนโจมตี คนพวกนี้ เป็นคนที่เฉินอิงเหาพามา พวกนี้เป็นสุนัขรับใช้ของเขา ก่อนหน้านี้เจิ้งเหม่ยหลิง บอก ให้คนพวกนี้ต่อว่าหยางเฉิน

สีหน้าของหยางเฉินฉายแววหงุดหงิด ฉินซีรีบดึงแขนเขาไว้ และพูดว่า “นายอย่าบ่มบ่าม

สําหรับหยางเฉิน เมืองโจวเจ๋งแค่เมืองเล็กๆ ถ้าเขาอยากได้ แค่เอ่ยปากเท่านั้น ลั่วถึงก็จะช่วยเขาจัดการทุกอย่าง

แต่เขารู้ดีว่าซานเหอกรุ๊ปสำคัญกับฉัน ถ้าขึ้นเขาทำแบบนี้ ฉันจะคิดว่าไม่ทำอะไรก็ได้ประโยชน์ และจะทำให้ฉันรู้สึกว่า ตัวเขาไร้ค่า

ดังนั้นเขาจึงรับปาก ตอนที่เจิ้งเหม่ยหลิงชวนฉัน ทานข้าว แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะโจมตีเขาแบบนี้

“พอแล้ว!”

ขณะนั้น เฉินอิงเหาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “คุณหยาง เป็น ความผิดของผมเอง ที่ไม่ได้จองโต๊ะใหญ่ไว้ล่วงหน้า เอาเป็นว่า ผมจะให้พนักงานเอาเก้าอี้มาเพิ่ม คุณจะได้นั่งด้วยกันกับเรา

เขาไม่คิดไม่หยางเฉินไป ไม่งั้นฉันก็จะกลับไปด้วย ขืนทำ แบบนั้น สิ่งที่เตรียมมากทั้งหมดน่ะสิ

เมื่อเขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของฉันซีดูดีขึ้นมาก ตอนนี้เธอรู้สึก ผิดมาก ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ เธอคงปฏิเสธตั้งแต่ตอนที่เจิ้งเหม่ย หลิง โทรมาแล้ว

ไม่นาน พนักงานจึงยกเก้าอี้เข้ามา
“พี่มานั่งนิสิ!”

เจิ้งเหม่ยหลิงรีบพูดและดึงฉินซีมา เธอพยายามที่จะให้ฉัน นั่งข้างเฉินอิงเหา

แต่ทว่าหยางเฉินนั่งลงไปแล้ว ฉินซีจึงจงใจนั่งลงตรงด้านซ้าย ของหยางเงิน

ตอนนี้ หยางเฉินจึงนั่งคั่นกลางระหว่างฉินซีกับเฉินอิงเหา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ