The king of War

บทที่149 สามีภรรยาทะเลาะกัน



บทที่149 สามีภรรยาทะเลาะกัน

โจวชุ่ยถลึงตาโต มองภาพด้านหลังของหยางเฉินที่ออกไป ด้วยท่าทางที่คาดไม่ถึง

ไม่นานการแสดงออกบนใบหน้าของหล่อนบิดเบี้ยวขึ้นมาถึงที่ สุด กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ฉันจะทำให้แกเสียใจเป็นแน่!”

นี่คือครั้งแรกที่หยางเฉินพูดจาด้วยน้ำเสียงแบบนี้ต่อโจวยชัย เห็นได้ชัดว่าเป็นความโกรธแค้นของจริง

ภายในห้อง ฉินซีเช็ดน้ำตาแล้ว มองหยางเฉินพลางพูดว่า “หยางเฉิน ขอโทษนะ!” หยางเฉินส่ายหน้า เดินเข้าไปกอดเสี้ยวเลี้ยวเอาไว้ มองฉัน

แล้วบอกว่า “คุณคือภรรยาของผม ไม่มีช่วงไหนที่จำเป็นต้องพูด

ค่านี้กับผมทั้งนั้น”

ในใจฉันรู้สึกอบอุ่น นึกถึงทุกอย่างที่หยางเฉินทำเพื่อเธอ ใน ใจมีเพียงความรู้สึกตื้นตัน อย่างไรก็ควบคุมน้ำตาไว้ไม่อยู่ หมุน ตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

หยางเฉินถอนหายใจเบาๆ มีมารดาแบบโจวยอย่างนี้ เธอ กับฉินยีช่างเศร้าสลดเสียจริง

“ปะป๋า หม่าม้าร้องไห้แล้ว ปะป๋าต้องปลอบหม่าม้านะ หม่าม้า ก็จะไม่ร้องไห้แล้ว!”
เสี้ยวเสี้ยวขลุกอยู่ในอ้อมอกของหยางเฉิน กะพริบดวงตา กลมโตที่หลักแหลม

หยางเฉินยื่นมือไปบีบใบหน้าน้อยๆ ของเธอด้วยรอยยิ้มอ่อน โยน “หนูอยากให้ปะป๋าปลอบหม่าม้ายังไงดีล่ะ?

เสี้ยวเลี้ยวตอบ “ปะป๋าต้องเรียกหม่าม้าว่าที่รัก ต้องบอกว่ารัก หม่าม้ารักเสี้ยวเสี้ยว ต้องอยู่กับหม่าม้าและเสี้ยวเลี้ยวไปตลอด

ชีวิตด้วย”

หยางเฉินถามแบบรู้สึกตลก “หนูไม่ใช่ให้ปะป๋าปลอบหม่าม้า เหรอ? ทําไมต้องปลอบหนูด้วย?”

“เพราะหม่าม้าไม่สบายใจ เสี้ยวเสี้ยวก็ไม่สบายใจด้วย ปะป๊า ปลอบใจ หนูก็มีความสุขแล้วค่ะ!” ดวงตาของเสี้ยวเสี้ยวดูดีมาก กำลังเปล่งประกาย

เวลานี้ฉินซีล้างหน้าเดินออกมาแล้ว น้ำตาหยุดไหลเช่นกัน แต่

ดวงตากลับแดงๆ

“ที่รัก!”

หยางเฉินเรียกขึ้นฉับพลัน

หยางเฉินเรียกเธอว่าเสียวมาโดยตลอด พอเรียกว่าที่รักขึ้น มากะทันหัน จึงทำให้ฉันหน้าตาตกตะลึง

หยางเฉินกระแอม บนหน้ามีรอยยิ้มที่ละมุน มองฉันแล้วพูด ว่า “ที่รัก ผมรักคุณ และรักเสี้ยวเสี้ยวด้วย ผมจะอยู่เคียงข้างคุณ กับเสี้ยวเสี้ยวไปตลอดชีวิต!
เมื่อสักครู่ฉินซียังทำหน้าเศร้าใจ ชั่วพริบตาเดียวเผยสีแดงระ เรือขึ้น ดวงตาที่ชุ่มชื่นมองค้อนหยางเป็นที่หนึ่ง พูดแบบเขินอาย อยู่บ้าง “คุณทำอะไรกัน! พูดจาน่าขนลุกขนาดนี้ เสี้ยวเสี้ยวอยู่ ด้วยนะ!”

เสี้ยวเลี้ยวหัวเราะคิกคักขึ้นมาแล้ว พูดจาด้วยท่าทางภาค ภูมิใจ “ปะป๊าคะ ปะป๊าทำดีมาก แบบนี้แหละ ปะป๋าดูสิ หม่าม้า ไม่ร้องไห้แล้ว!”

มองท่าทางภาคภูมิใจของเสี้ยวเสี้ยวอยู่ หยางเฉินไม่รู้ว่าจะ ร้องไห้หรือหัวเราะ

ฉินซีตอบสนองกลับมาเช่นกัน มิน่าหยางเฉินถึงพูดจาน่า ขนลุกขนาดนั้นกับตนเองขึ้นมากะทันหัน ที่แท้เป็นเสี้ยวเสี้ยว บงการ

“หม่าม้าคะ หม่าม้ารีบเข้ามา!”

เสี้ยวเสี้ยวกวักมือไปยังฉินซีแล้ว

ฉันรู้สึกเขินอยู่บ้างที่ใกล้กับหยางเฉินเกินไป นั่งอยู่ตำแหน่ง ที่ห่างจากหยางเงินประมาณครึ่งเมตร

“หม่าม้าคะ หม่าม้าเข้ามาใกล้ๆ หน่อย”

เสี้ยวเสี้ยวพูดแบบไม่พอใจ

“ลูกยัยเด็กคนนี้ อยากทำอะไรกัน? ฉินซีหัวเราะพลางพูดขึ้น แต่ยังทำตามที่เสี้ยวเสี้ยวบอก นั่งใกล้เข้ามาอีกหน่อย

“หม่าม้า ใกล้อีกหน่อย!”

เสียวเสี้ยวพูดจบ ดึงมือของหยางเฉินและฉินซีมาวางไว้ด้วย

กัน

“ปะป๊าคะ ปะป๋าต้องจับมือของหม่าม้าเอาไว้ด้วย แบบนี้หม่า มาถึงจะมีความสุข!

เสี้ยวเลี้ยวยืนอยู่ตรงหน้าของสองสามีภรรยา เอามือเท้า สะเอว มองมือของสองคนที่วางอยู่ด้วยกัน พยักหน้าด้วยความ พึงพอใจมาก

หยางเฉินและฉันไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ฉันไม่ดิ้นรนอะไร เพียงแค่บนหน้าขวยอายอยู่บ้าง แต่มีเสี้ยว เสี้ยวที่คอยจัดแจงแบบนี้ ความเศร้าใจก่อนหน้าของฉันจึงหาย ไปหมดเกลี้ยง

“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!”

ในเวลานี้ มีคนเคาะประตูห้องนอนดังฉับพลัน

ฉินซีดึงมือกลับไปโดยจิตใต้สำนึก ลุกขึ้นพูดว่า “ฉันจะไปเปิด ประตู!”

พอเปิดประตูออก เห็นเพียงฉินต้าหย่งยืนอยู่หน้าประตู

“พ่อคะ นี่พ่อทำอะไรมา? ทำไมเหงื่อถึงเต็มหน้าเลยคะ?” ฉันบอกแบบหน้าตาตกใจ รีบเข้ามาในห้องก่อนค่ะ!”
ฉันต้าหญิงเดินเข้ามาในห้อง ยิ้มพูดอย่างขมขื่น “เพิ่งเก็บข้าว ของนิดหน่อย”

“ทําไมพ่อต้องเก็บของอะไรตอนดึกด้วยคะ?”

ฉินซีถามด้วยความสงสัย พร้อมเทน้ำเปล่าแก้วหนึ่ง ให้ฉันต้า หย่งแล้ว

“ข้าวของของพ่อเก็บเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้จะออกไปอยู่ข้าง นอกกับแม่”

ฉันต้าหย่งเอ่ยปากบอกกะทันหัน “พ่อสามารถลุกขึ้นยืนหยัด ต่อไปได้อีกครั้ง ล้วนเป็นเพราะหยางเฉิน พ่อกับแม่ของลูก เรื่องที่ไม่ดีต่อหยางเฉินมามากมาย พ่อไม่มีหน้าทนอยู่ด้วยกัน กับพวกลูกได้แล้ว”

ฉินซีกับหยางเฉินตะลึงกันหมด หยางเฉินรีบพูดทันที “พ่อครับ พ่ออย่าพูดแบบนี้สิ! คฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้ และไม่ใช่ว่าไม่มีที่อยู่ พวกพ่อย้ายออกไปทําไมครับ?”

“หยางเฉิน พ่อรู้ว่าลูกหวังดีต่อพวกเราจริงๆ แต่พูดตามตรง ตอนนี้ได้ทำงานที่บริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอ พ่อพอใจมากแล้ว ถ้ายังมาพักที่บ้านหรูของลูกทุกวันอีก พ่อคงรู้สึกไม่สบายใจมาก นัก”

ฉันต้าหย่งพูดอยู่ เบ้าตาแดงขึ้นมาทันใด “ลูกไม่ถือสาเรื่องใน อดีตกับพวกเรา ถือว่าใจกว้างต่อพวกเรามากแล้ว พ่อยังมีหน้า พักอยู่ที่นี่ รบกวนชีวิตสามีภรรยาของพวกลูกได้ยังไง?
“พ่อ คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่ขนาดนี้ ไม่ได้รบกวนเลย!”

หยางเฉินพูดด้วยหน้าตาจริงจัง “ถ้าพ่อรู้สึกผิดกับผม งั้นแค่ ตั้งใจทําให้บริษัทเติบโตขึ้นมา ทำเงินให้ผมมากหน่อย ถือเสีย ว่าเป็นการชดใช้ให้ผมแล้ว ต่อไปไม่ต้องพูดถึงเรื่องย้ายออกไป อะไรนี้อีก”

เห็นได้ชัดว่าฉันต้าหย่งตัดสินใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาสาย หน้า “หยางเฉิน พูดแบบไม่ปิดบังนะ พ่อเช่าห้องที่ข้างนอกไว้ แล้ว พรุ่งนี้เช้า พ่อจะย้ายเข้าไป

“หยางเฉิน คุณไม่ต้องกล่อมแล้ว ในเมื่อพ่อตัดสินใจแล้ว ต่อ ให้พูดยังไงก็คงไม่ยอมเปลี่ยนใจ

หยางเฉินยังอยากพูดเกลี้ยกล่อม ทันใดนั้นฉันเอ่ยปากขึ้น “ยังเป็นลูกสาวที่รู้ใจพ่อ!”

ฉินต้าหย่งแสดงรอยยิ้มสดใส “พูดตามจริง ที่นี่ดีมาก แต่พ่อ กลับไม่เป็นอิสระสักนิด ชีวิตคนเราชาติหนึ่งมันสั้นมาก อยากมี ชีวิตที่มีความสุข งั้นต้องเป็นอิสระ

หยางเฉินส่ายหน้าแบบขมขื่น นึกไม่ถึงการพักที่นี่ทำให้ฉันต้า หย่งไม่เป็นอิสระ แต่เขาสามารถเข้าใจได้

โดยเฉพาะไม่ใช่ว่าทุกคนล้วนชอบพักที่คฤหาสน์หรู โดย เฉพาะสำหรับฉันต้าหย่งนั้น เขาสำนึกตัวได้แล้ว งานในปัจจุบัน ยังเป็นหยางเฉินหาให้ แม้แต่ที่พักก็เป็นของหยางเฉิน

ในใจเขาทั้งรู้สึกขาดทุน พักอยู่ที่นี่ จึงไม่เป็นอิสร“ในเมื่อพ่อตัดสินแล้ว งั้นผมจะไม่พูดกล่อมอีก เพียงแต่หาก พ่อไปพักข้างนอก อย่าให้ตัวเองเสียเปรียบเด็ดขาด มีเรื่องอะไร รีบเอ่ยปากทันที” หยางเฉินไม่ดึงดันต่ออีกเช่นกัน

“วางใจได้เลย ไม่ว่าจะพูดยังไง ตอนนี้พ่อก็เป็นผู้จัดการใหญ่ ของบริษัท เงินเดือนไม่น้อย เช่าห้องอยู่ไปก่อนสักพักหนึ่ง รอให้ มีเงินสักหน่อย พ่อค่อยซื้อบ้านใหม่อยู่

ฉันต้าหย่งยิ้มบอก บนหน้ายังมีความภูมิใจและความสุขระดับ หนึ่งด้วย

“พ่อคะ ที่หนูยังมีเงินเก็บอยู่หน่อย…….

ฉินซียังไม่ทันพูดจบ ถูกฉินต้าหย่งขัดจังหวะ “รอพ่อแก่แล้ว ทําอะไรไม่ได้ ลูกค่อยมาตอบแทนพ่อ

“เอาล่ะ พ่อแค่มาบอกกับพวกลูกสักหน่อย ขอกลับห้องก่อน

แล้วกัน”

ฉันต้าหย่งพูดจบ จากนั้นหมุนตัวออกไป

ไม่นานก็มีเสียงเอะอะของโจวยดังขึ้นด้านนอก เห็นได้ชัด ว่าเป็นฉันต้าหย่งไปบอกหล่อนเรื่องย้ายบ้าน

ฉินซีถอนหายใจทีหนึ่ง พูดขึ้นทันใด “ถ้าเมื่อไรที่แม่สำนึกตัว ได้อย่างพ่อบ้าง อย่างนั้นน่าจะดีมากสินะ!

หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร โจวซุยนิสัยอย่างไร เขาชัดเจนดี ไม่ ง่ายที่จะได้พักในคฤหาสน์หรู เป็นไปได้อย่างไรที่จะยินยอม พร้อมใจย้ายออกไป
เกรงว่าผลสรุปคงเป็นเพียงฉินต้าหย่งที่ออกไปตามลำพัง “พี่ ไม่ดีแล้ว แม่ตีกับพ่อขึ้นมาแล้ว!!

ในเวลานี้เอง ฉินที่สวมเพียงแค่ชุดนอน พุ่งเข้ามาอย่าง หน้าตาแตกตื่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ