บทที่ 521 คู่หูขาวดำ
หลังจากเม่านอึ้งอยู่นาน เธอตกใจ และรีบพูดพัลวัน “หยาง เฉิน รีบคุกเข่าขอบคุณตาสิ!”
“เม่าน นี่เธอกำลังจะเอาตระกูลเที่สร้างมากว่าร้อยปี มอบ ให้คนอื่นเหรอ” เย่ชังพูดอย่างโมโห
เย่ม่านยิ้มเย้ยหยัน “หยางเฉินเป็นลูกเขยฉัน ทำไมถึงเป็น คนนอกล่ะ หรือว่าพ่อต้องเอาตำแหน่งเจ้าบ้านให้นาย ถึงจะ เหมาะสมงั้นเหรอ”
“อีกอย่าง พ่อตัดสินใจแล้ว นายมีสิทธิ์ก้าวก่ายการตัดสินใจ ของพ่อเหรอ”
หรือการที่นายได้เป็นทายาทสืบสกุลมานาน เลยเคยชินกับ
การใช้อำนาจเจ้าบ้าน
เม่านพูดอย่างไม่เกรงใจ
เย่ยังหน้าเปลี่ยนสี เขามองเจงที่แววตาเคร่งขรึม และพูด อย่างหวาดกลัว “เม่าน เธออย่าพูดอะไรไร้สาระ!
“ฉันพูดไร้สาระเหรอ นายกำลังเถียงการตัดสินใจของพ่อชัดๆ นายพูดขัดขึ้นมาแล้ว นายกำลังก้าวก่ายการตัดสินใจของพ่อไม่ใช่หรือไง”
เม่านแสยะยิ้มและถามขึ้น
ในสถานการณ์แบบนี้ เธอต้องเหยียบย่ำเยยังให้สาสม
หลายปีมานี้ เย่องกดขี่เธอมาตลอด กว่าจะหาโอกาสแบบนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องใช้ให้คุ้ม
หยางเฉินเป็นลูกเขยของเธอ ถ้าหยางเฉินสืบทอดตำแหน่งเจ้า บ้าน งั้นเธอก็คือแม่ยายของเจ้าบ้าน เธอจะมีอำนาจรองจาก หยางเฉินไม่ใช่เหรอ
ผลตอนนี้ เหนือกว่าแผนการที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้ มันสมบูรณ์ แบบมาก
“คุณน้า ลุงรองทำเพื่อตระกูลเย่ คุณพูดกับลุงรองแบบนี้ จะ เกินไปหน่อยหรือเปล่า”
“หยางเฉินเป็นลูกเขยของน้า แน่นอนว่าน้าอยากให้เขาเป็นผู้
สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้าน
“แต่ยังไง เขาก็ไม่ใช่คนในตระกูลเย่ ถึงจะเปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนความจริง ที่เขาเป็นคนนอกไม่ได้หรอก”
“ตระกูลเย่ของเราให้ความสำคัญด้านสายเลือดมาก ถึงเขาจะ เก่งขนาดไหน แล้วยังไงเหรอ
เย่หวูซวงพูดขึ้น จู่ๆ เขาก็เล่นงานเท่าน
จู่ๆ เย่ซังกับเย่หวูซวงมีความคิดเห็นตรงกัน และร่วมมือกัน เล่นงานเยม่าน
หยางเฉินยังไม่แสดงท่าทีอะไร เขาทำกับเรื่องที่เกิดขึ้น
การที่เย่องเสนอให้เขาเป็นเจ้าบ้านตระกูลเย่ เป็นสิ่งที่เหนือ ความคาดหมาย นี่แสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของเจง
เขาทุ่มสุดตัว เพื่อความก้าวหน้าของตระกูลเ
อย่างที่เยซังกับเย่หวูซวงพูด ไม่ว่ายังไง ก็เปลี่ยนความจริง ที่ หยางเฉินเป็นคนนอกไม่ได้หรอก
ถ้าหยางเฉินไม่ซื่อสัตย์ขึ้นมา ตระกูลเยก็จะตกเป็นของเขา โดยที่เขาไม่ต้องทําอะไรเลย
“หุบปากให้หมด!”
ขณะที่เย่ชัง เย่หวูซวง และเม่านกำลังปะทะฝีปากกัน จู่ๆ เ จงตวาดออกมาเสียงดัง
ทั้งสามคนจึงเงียบ ใบหน้าของเยซังกับเหวซวง เต็มไปด้วย
ความไม่สบอารมณ์ มีเพียงเย่ม่าน ที่มีสีหน้าชอบใจ
“เรื่องนี้ตกลงเช่นนี้ ฉันให้เวลาสามวัน จัดการเรื่องส่วนตัวให้ เรียบร้อย จากนั้นพาเย่เสี่ยวมาเจอฉัน!”
“เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะเตรียมพิธีมอบตำแหน่งให้ เมื่อเสร็จ เรียบร้อย นายก็คือเจ้าบ้านตระกูลเย่
“นายมีอะไรจะพูดไหม
ราวกับว่าเย่ จงตัดสินใจแล้ว หยางเฉินจะไม่ปฏิเสธ เมื่อพูด เรื่องพิธีมอบตำแหน่ง เขาจึงเพิ่งถามความเห็นของหยางเฉิน
เย่ซังกับเย่หวูซวงมีสีหน้าไม่พอใจ พวกเขาจ้องหยางเฉินเขม็ง สําหรับพวกเขาแล้ว โชคหล่นทับขนาดนี้ มีหรือหยางเฉินจะ ปฏิเสธ
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง หยางเฉินส่ายหน้า และพูดด้วย สีหน้าเรียบเฉย “ผมขอปฏิเสธ!
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนเบิกตาโพลง สีหน้าเหลือเชื่อ
เจงก็อึ้งไปเช่นกัน เข้าใจว่าตัวเองหูฝาด เขาขมวดคิ้วถาม “นายพูดอะไรนะ”
“อย่าว่าแต่จะให้ผมเปลี่ยนนามสกุลพร้อมฉินซีเลย ถึงจะไม่ เปลี่ยนนามสกุล ผมก็ไม่เป็นเจ้าบ้านหรอก”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าแน่วแน่ “ในความคิดของผม อำนาจ และเงินทองที่พวกคุณพูด สำหรับผม มันเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน บนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่ยั่งยืน ก็คือความสามารถที่แท้จริง!
ตอนนี้ คนในตระกูลเย่แน่ใจแล้ว หยางเฉินปฏิเสธ โอกาสที่ จะเป็นเจ้าบ้านจริงๆ
แววตาของ เย่ซังกับเย่หวูซวงเต็มไปด้วยความพอใจ แต่เย
ม่านกลับพูดด้วยสีหน้าโกรธเคือง “หยางเฉิน นายรู้หรือเปล่า ว่า ฐานะของตระกูลเย่ในเมืองเยี่ยนอยู่ระดับไหน พ่อให้นายมา เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง เพราะพ่อเห็นความสำคัญของนาย แต่ นายกลับปฏิเสธ”
สีหน้าของ เจงก็ไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “การที่คนของนายกำราบผู้แข็งแกร่งตระกูลเยสำเร็จ นายคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่เพียงผู้เดียวอย่างนั้นเหรอ
จู่ๆ หยางเฉินยิ้มออกมา ในรอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความ
เย้ยหยัน เขาขาที่คนพวกนี้มองอะไรตื้นๆ ขำพวกกระจอก ที่หลงตัวเอง
ว่ามีอำนาจในตระกูลใหญ่
หลังจากที่ผ่านการฆ่าฟันในสงคราม หยางเฉินเจออะไรมา เยอะแล้ว อีกทั้งยังเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง จนไม่สามารถเทียบได้
ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง คนเดียวสามารถต้านทานได้ทั้งประเทศ
ตระกูลธรรมดาๆ อย่างตระกูลเย่ ในประเทศที่ใหญ่โตขนาดนี้ มีอะไรดีอย่างนั้นเหรอ
“นายยิ้มอะไร”
เยจี้จงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“คิดบางเรื่องขึ้นมาได้นะครับ เลยรู้สึกตลก”
หยางเฉินยิ้มบางๆ และเอ่ยขึ้น
จากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกไป โดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
หยางเฉินเดินได้ไม่กี่ก้าว เย่จี้จงเรียกเขาด้วยความโมโห
“พูดดีๆ ด้วยไม่ชอบ คิดว่าตระกูลเยเป็นตลาดเหรอ คิดจะไปก็ไป คิดจะมาก็มา
“ฉันไม่ได้ทำให้นายลำบากใจ สุนัขรับใช้ของนายทำร้ายผู้ แข็งแกร่งตระกูลเย่ แถมยังกล้าฆ่าผู้แข็งแกร่งข้างกายฉันด้วย”
“ชีวิตแลกด้วยชีวิต ขอแค่เขาตาย ฉันจะปล่อยนายไป! ไม่งั้น วันนี้นายอย่าหวังว่าจะได้ก้าวออกจากตระกูลเย่ แม้แต่ก้าว
เดียว!!
ใบหน้าของเจงเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อเขาพูดจบ ผู้ แข็งแกร่ง 2 คนปรากฏตัวขึ้นข้างหลังชายชราคนหนึ่งแต่งกาย ด้วยชุดสีดำ ส่วนอีกคนแต่งกายด้วยชุดสีขาว
หยางเฉินรู้สึกถึงการมีอยู่ของสองคนนี้ตั้งนานแล้ว แต่คิดไม่ ถึงว่า เมื่อครู่คนที่อยากจะมอบตำแหน่งเจ้าบ้านให้เขา อย่าง เย จี้จง จู่ๆ ก็มาสร้างปัญหาให้เขา
มีพละกำลังแข็งแกร่งแผ่ออกจากตัว ของคนที่สวมชุดดำและ
ขาว ทั้งสองคนฝีมือพอๆ กับหม่าชาว
ไม่เสียแรงที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ไม่ง่ายอย่างที่
คิด
ดูเหมือนว่าแม้แต่คนในตระกูลเย่ ก็ไม่รู้จักผู้แข็งแกร่งสองคน
แม้แต่เย่ชังกับเย่หวูซวง ต่างมีสีหน้าประหลาดใจ เมื่อเห็นผู้ แข็งแกร่งทั้งสองคน
“เหอะๆ”
หยางเฉินหัวเราะ แววตาฉายแววอาฆาต เขาจ้องเจงแล้ว พูดว่า “เขาเป็นเพื่อนผม ถ้าผมยังได้ยินคุณพูดดูถูกเขาอีก ถึง คุณจะเป็นตาของเสี่ยวซี ผมก็จะให้คุณชดใช้!
น้ำเสียงของหยางเฉินเย็นชามาก เมื่อเขาพูดประโยคนี้ออก มา อุณหภูมิห้องโถง ในงาน เหมือนจะลดลงไปหลายองศา
เย่องโดนความกดดันจากหยางเฉิน เขารับรู้ได้ดี รู้สึกขนลุก
ไปทั้งตัว แขนขาเย็นไปหมด
เขาอ้าปากกำลังจะด่า แต่เมื่อเห็นสายตาอันแหลมคมราวกับ มีดของหยางเฉิน จึงจำใจต้องกลืนสิ่งที่จะพูดลงคอ ตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญอยู่กับมัจจุราช
เดิมทีคู่หูขาวดำเป็นผู้แข็งแกร่งฝีมือดี พวกเขารับรู้ถึงความ อาฆาตได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่ก้าวมาข้างหน้าแทบจะพร้อมกัน และ ยืนคุ้มครองซ้ายขวา อยู่ข้างหน้าอย่าง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ