The king of War

บทที่ 509 แกตายแน่ละ



บทที่ 509 แกตายแน่ละ

มีเสียงหลายคนร้องออกมาด้วยความตกใจ ในสายแต่ละคน เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าฝ่ามือของซุจิ้นตบใส่เข้าไปที่หน้าของหม่า ชาว

“ผัวะ! ”

เสียงสนั่นใสจากฝ่ามือดังขึ้นทันที

ในนาทีที่ทุกคนได้เห็นจริงนั้น กลับเป็นฝ่ามือของหม่าชาวตบ ใส่ลงบนใบหน้าของซุจิ้น ทำเอาทุกคนตะลึงค้างอ้าปากหวอ

“แก……แกบังอาจกล้ามาตบฉัน?

ซุจิ้นเอามือกุมบริเวณที่ถูกตบ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่อยากเชื่อ แววตาเต็มไปด้วยอาฆาตอย่างรุนแรง

มุมปากของหล่อน ยังเห็นมีเลือดสด ๆ ไหลออกมา เป็นที่รู้ได้ เลยว่า แรงตบของหม่าชาวนี้ สำหรับผู้หญิงคนนี้ จะเป็นการถูก ทําร้ายให้บาดเจ็บขนาดไหน

ที่หล่อนคงจะไม่รู้คือ การตบนี้ หม่าชาวใช้แรงแค่เพียงไม่ถึง หนึ่งเปอร์เซ็นต์

ไม่เช่นนั้น คงไม่เหลือโอกาสให้หล่อนยืนพูดตรงจุดตำแหน่ง เดิมนี้ได้แล้ว

หม่าชาวก็ขี้เกียจที่จะตอบ เดินกลับไปอยู่ข้างหลังหยางเฉินเงียบ ๆ เหมือนกับว่าที่ตบไปเมื่อตะกี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา “แกกล้าสบประมาทฉัน แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้าตบฉัน

วันนี้จะให้แกอยู่ได้ไม่พ้นคืนนี้!! การสบประมาทของหม่าชาว ทำให้จิ้นอับอายจนโกรธแค้น

อย่างรุนแรง เต็มบนหน้าให้เห็นแต่ความโหด

ความหนาเข้มของเครื่องสําอางบนใบหน้า ถูกแรงเค้นจาก การบูดบึง ทำให้กลายเป็นความอัปลักษณ์สุด ๆ หางตาโชว์เห็น ตีนกา

ต่อให้หล่อนมีการเสริมสวยอย่างประณีต ดูแลสุขภาพด้าน ความงามอย่างดีแค่ไหนก็ตาม ยังไงก็ไม่สามารถปิดกลบลบริ้ว รอยที่กาลเวลาทิ้งไว้ให้ได้

“ท่านประธาน เจ้าหมอนี่บังอาจมากระทบกระทั่งท่าน ทำไม ท่านถึงต้องลงมือเองด้วย? ปล่อยผมจัดการให้ก็พอ

ในขณะนั้นเอง ชายหุ่นล่ำปีกคนหนึ่งก้าวออกมา พูดด้วย สีหน้าเต็มด้วยความสอพลอประจบ

“เป็นรองเจ้าสํานักโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียน ซ่งเหล่ย นั่นเอง”

“เห็นว่าปีนี้อายุเพิ่งจะสามสิบปี แต่กลับได้รับการแต่งตั้งจาก อาจารย์ให้เป็นถึงรองเจ้าสำนัก ทั้งยังเห็นว่ากันว่าคงอีกไม่กี่ปี เขาก็จะได้เป็นเจ้าสำนักโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนแล้ว”

“ในแมทช์สำคัญของการต่อสู้ระดับสากล ผลคะแนนของซ่งเหล่ยล้วนมาหนึ่ง พลังฝีมือจัดน่ากลัวมากสุด ๆ

“เห็นท่าไอ้น้อยไร้สังกัดสองคนนี้ ถึงคราวซวยแน่! ”

เห็นการปรากฏตัวมาของซ่งเหล่ย ขึ้นมาเบา

เห็นชัดว่า โรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนเป็นรู้จักกันมากในมิฉะนั้นบรรดาพวกอำนาจ ตระกูลมหาเศรษฐีเหล่านี้ คงใครว่าซึ่งเหลยเป็นใคร แล้ว

ซุจิ้นชี้นิ้วที่หม่าซาว พูดด้วยหน้าที่โหดเหี้ยมว่า คุณจัดการฉีกแขนขาออกมาชิ้น แล้วควักตาออกฉันจะมันไม่สู้ตายเสีย

คนเราลองเหี้ยมโหดถึงขนาดได้ ชัดแจ้งแล้วว่า เจ้าหล่อนคนมีจิตใจชั่วร้ายขนาดไหน

หยางเฉินขมวดคิ้วย่น สีหน้าแสดงความไม่พอใจออกมา

ไม่ใช่ด้วยเพราะหญิงคน

ปกติโดยทั่วไปแล้ว ขณะผู้หญิงคนเริ่มมีปัญหากระทบ กระทั่งกับเหตุ แล้ว

แต่ป่านยังไม่คนของตระกูลเยออกมาระงับเหตุ แสดง ให้เห็นได้เป็นเพราะตระกูลหวังต้องการให้เกิดฉาก เหตุการณ์นี้
หยางเฉินแอบยิ้มเหี้ยม ในเมื่อพวกแกอยากให้เล่น ข้าก็จะ เล่นด้วยแล้วกัน

“ไอ้หนู ได้ยินคําพูดของท่านประธานไหม? ท่านต้องการฉีก

แขนขาแกทั้งสี่ชิ้นทิ้ง และยังจะให้ควักลูกตาแกออกทั้งคู่

“ข้าจะขอเตือนแกอย่าง ให้ดีแกลงมือด้วยตัวเองดีกว่า ถ้าให้ ข้าจัดการลงมือให้ คงรับประกันให้ไม่ได้นะ มันจะทำให้แกเจ็บ ทรมานยิ่งกว่าหรือไม่”

“ใช่แล้ว ลืมบอกแกไปเรื่องหนึ่ง ข้านี้ถนัดนักกับเรื่องทรมาน คน เคยครั้งหนึ่งในการแข่งขันต่อสู้กันระดับมวยใต้ดิน ข้าเคย ลงมือกับคู่ต่อสู้ของข้า อัดมันจนกลายเป็นเศษขยะ

“รู้จักเศษขยะแบบไหนไหม? แบบว่าเป็นคนพิการขนาดไม่มี แขนไม่มีขานั่นแหละ”

ซงเหล่ยหยีตาจ้องที่หม่าชาว แววตาเต็มไปด้วยความโหด

เหี้ยม คำพูดอัดเต็มไปด้วยความกดดัน

คนรอบบริเวณ ไม่มีใครจะออกหน้ามาห้ามปราม ส่วนใหญ่ กลับเหมือนมีไฟกำลังลุกโชนอยู่ในดวงตาทั้งคู่ต่างจ้องดูอย่าง รอคอย เหมือนกระหายอย่างมากที่จะเห็นการลงมือของซ่งเหล่ย

หม่าชาวกลับดูไม่โกรธ มองจ้องซ่งเหล่ยแล้วพูดด้วยใบหน้า กวน ๆ ว่า “แกแน่ใจนะว่าจะเสนอหน้ามารับแทนผู้หญิงแก่ ๆ หน้าตาอัปลักษณ์คนนี้? ”

ซ่งเหล่ยสะอึกทันที โดยปกติทั่วไป ฝ่ายตรงข้ามพอรู้ว่าตัวเขาเองเป็นรองเจ้าสำนัก โรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียน มันต้อง คุกเข่าลงขอชีวิตไม่ใช่หรือ?

“จัดการฆ่ามันซะ! ”

จิ้นได้ยินหม่าชาวพูดหยามหล่อนว่าทั้งแก่ทั้งอัปลักษณ์ ความโกรธถึงที่สุดทันที อารมณ์เดือดระเบิดสุดขีด ความ เหี้ยมโหดแสดงออกเต็มหน้า

สีหน้าของซ่งเหล่ยเครียดลงไปสุด ๆ หม่าชาวใช้สายตาที่ให้ รู้สึกมองข้ามตัวเขาไป ทำให้เขาเคืองเป็นอย่างที่สุด

“ไอ้หนู เอ็งตายแน่!!

เสียงพูดจบ พลันซ่งเหล่ยกำหมัดทั้งคู่แน่น แววตาฉายแววฆ่า ที่เร่าร้อน ขยับขาในบัดดล พุ่งเข้าใส่หม่าชาว

“ซ่งเหล่ยจะลงมือแล้ว ไอ้หมอนี่ตายแน่!

“โรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียน ถึงจะไม่ใช่โรงยิมศิลปะการ ต่อสู้สุดยอด แต่ตัวเจ้าสำนักเองกับยอดฝีมือที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของสมาคมบูโดหลายคนล้วนมาจากอาจารย์เดียวกัน ด้วย ความเกี่ยวพันนี้ ทั่วทั้งแผ่นดินจิ๋วโจว โรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเห ยียนเดินยืดอกได้”

“ถ้างั้นก็พูดได้ว่า ใครกล้าไปกระทบกระทั่งกับโรงยิมศิลปะ การต่อสู้หงเหยียน ก็เท่ากับไปทำกับสมาคมบูโดด้วย”

ต่างคนต่างพูดกันไปต่างๆ นานา คนที่พอได้รู้ถึงความ สัมพันธ์ของโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนกับสมาคมบูโด ต่างก็ตื่นตะลึงกันมากยิ่ง

มองดูซ่งเหล่ยพุ่งเข้าใส่หม่ามองเห็นอะไร ยังคงยืนอยู่ข้าง แล้วถามว่า เฉิน ว่า คนแบบนี้ ฆ่ามั้ยหรือจะฆ่าทิ้ง”

หยางพูดตอบไปฟัง

แล้วแต่แก

“หุ รอคำนี้ของเฉิงแหละ

หม่าชาวพูดเสียงหัวเราะ

คนอยู่รอบบริเวณตลึงมันเวลาอะไรกัน พวกเขายังมา คุยเล่นอีก

อีกยิ่งนั้นทั้งสองคุยกัน ช่างจะโอหัง

ขนาดฆ่า งเหลี่ย

“หนุ่มน้อยสองคนจะใครไปเชิญมาเล่นละครมั้งจะซ่ง? คุยไปยัง”

“ยังคิดจะฆ่าซ่งเหล่ยข้าซึ่งเหล่ยจะพวกเขามั้ง

“เรานๆ โผล่เอาหน้ารู้จักตายสองคนจากไหนเมื่อไหร่?

จะแล้ว พวกเขายังยืนเล่นกันอยู่ที่ หรือว่าตกใจกันจนขาอ่อน ขยับตัวไม่ออกแล้ว? ”

มีบางคนถึงกับหัวเราะแล้วพูด สายตาที่มองไปที่หยางเฉินกับ หม่าชาว เหมือนมองเห็นคนโง่เอสองคน

“ไปตายซะมึง!

เห็นหม่าชาวมองข้ามตัวเองไปหลายครั้ง ซึ่งเหล่ยถูกกระตุ้น

ความโกรธขึ้นมาสุด ๆ

ซึ่งเหล่ยครามออกมาลั่น ปล่อยหมัดพุ่งใส่กลางกระหม่อม ของหม่าชาว

จากพลังอานุภาพที่ซึ่งเหล่ยสำแดงออกมา จะเห็นได้เลยว่า พลังของเขานั้นเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก

ถ้าเป็นคนธรรมดา โดนหมัดนี้ของซ่งเหล่ยเข้า น่ากลัวต้อง ตายในเดี่ยวนั้น

แต่ทว่า หม่าชาวนั้นไม่ใช่คนระดับธรรมดา

“ปัง! ”

เสียงทุ้มหนักของการกระทบกันดังขึ้น

เร็วเท่าสายฟ้าแลบ หม่าชาวควงหมัดขึ้นในทันใด หม ซ่งเหล่ยต่อยลงตรงหมัดของหม่าชาว นาทีนั้น ทั่วทั้งงานต่างขวัญสะเทือน “อะไรกันนั่น? เจ้าหนุ่มคนนั้น รับหมัดซ่งเหล่ยได้เชียวหรือ! ”

“มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ที่มาพลังฝีมือของซ่งเหล่ยนั้นถึงขั้น พลังยอดฝีมือแดนสุดหมิงจิ้นแล้ว หมัดเดียวของยอดฝีมือแดน สุดหญิงขึ้น คนธรรมดามีหรือจะทานไหว? ”

“ไอ้หน้าโง่เอ๊ย แกมองไม่ออกหรือยังไง? ไอ้หนุ่มคนนั้น ที่จริง ไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ พลังฝีมืออย่างน้อยก็ต้องขนาดยอดฝีมือ แดนสุดหญิงจิ้นแล้ว ไม่งั้นจะต้านทานหมัดของซ่งเหล่ยนี้ได้ หรือ? ”

แต่ละคนที่อยู่ต่างขวัญสะเทือนกันอย่างเทียบกับอะไรไม่ได้ ให้รู้สึกทั้งโลกจะบ้ากันไปหมดก็ไม่ปาน

ซ่งเหล่ยก็ตาค้าง โตทั้งคู่ มึนซื้อไปเต็มหน้า “ไม่! มันเป็นไป ไม่ได้!

แต่นั่นยังไม่ใช่เวลาที่ทำให้คนทั้งหมดตื่นผวา เพราะในช่วง เวลานั้นเอง ที่มุมปากของหม่าชาวกันยิ้มอย่างพิสดารออกมา “พลังยอดฝีมือแดนสุดหมิงจิ้นนะหรือ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ