The king of War

บทที่ 508 ท่านคืออาซึม



บทที่ 508 ท่านคืออาซึม

ความหวั่นไหวที่ส่องออกมาจากแววตาเยาวซวงเพียงแบบ หนึ่ง ถูกหยางเฉินจับบันทึกไว้ได้อย่างง่ายดาย เป็นดังที่คิด เจ้าหมอนี่ ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นจากเปลือกนอก ขนาดยังรอดสายตาหยางเฉินไปได้ ใช้เป็นคนมีบทบาทจริง ๆ แต่ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจระดับไหน อยู่ต่อหน้าหยางเฉิน ล้วน เพียงภาพลวงตา

“พูดมา! ”

หม่าชาวได้เดินไปถึงข้างหน้ารูปภ.ทั้งสองคนนั้นแล้ว พูดด้วย เสียงครุกรุ่นของการฆ่า

สองรปภ.ตัวสั่นงันงก มองไปที่เยาวซวงด้วยสีหน้าวอนขอ

ใจของเย่หวูซวงตกวูบลงไป พูดใส่ด้วยความโกรธ “บอกให้ เจ้าพูดก็พูด ถ้าขืนยังจะมีการปิดบัง ก็อย่ามาโทษว่าข้าไม่ เกรงใจ!

ฟังผ่าน ๆ ในคำพูดประโยคนี้ ดูเหมือนไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ ใช้ในสถานการณ์แบบนี้ กลับเต็มไปด้วยความกดดันสุด ๆ

สองรูปภ.สีหน้าขาวซีด ค่นี้ของเย่หวูซวง เป็นคำเตือนชัด ๆ

พูดก็พูดในฐานะของพวกเขา ตระกูลเคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ จะไป กล้าล่วงเกินได้ไง?
“พวกผมได้แต่ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่มีบัตรรับ เชิญ ก็ต้องห้ามไม่ให้เข้า! ”

ทั้งสองรปภ.ยืนกระต่ายขาเดียวพูด ก็เพราะไม่มีบัตรรับเชิญ เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถให้พวกหยางเดินเข้าไปได้

หม่าชาวหัวเราะเสียงเยือก “ก็ในเมื่อพวกเจ้าเลือกเดินทางไป

ตาย ข้าก็จะส่งพวกแกเดินทาง

เพียงพูดขาดค่ เขาก็สะบัดขาขึ้นทันที ซัดไปที่ตัวของรูปภ

“พอได้แล้ว!

สองรปภ.ตกใจจนเซ่อออกตา มองขาของหม่าชาวห่างหัวของ เขายิ่งใกล้ยิ่งใกล้เข้ามา เสียวเวลาเส้นยาแดงผ่าแปดนั้น เสียงที่ เต็มไปด้วยอานุภาพดังขึ้น

ขาของหม่าชาวหยุดกึกลงในพริบตานั้นห่างกลางกระหม่อม

ไม่กี่มิล.

สองรปภ.หน้าซีดไปสุด ๆ โดยเฉพาะคนที่เกือบจะโดนเข้ากับ ขาของหม่าชาว ถึงกับเหงื่อแตกท่วม ตัวอ่อนปวกเปียก หมด เรี่ยวแรงไปเลย

“ในเมื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ก็เป็นเหตุให้อภัยกัน ได้อยู่”

หยางเฉินพูด แล้วยิ้มหยีตามองเหวซวงถามไปว่า “คุณเย่ ผมพูดไม่ผิดนะ?
เย่หวูซวงถึงกับสั่นไปนิดหนึ่ง ไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไร ทำให้เขามี ความรู้สึกเหมือนว่าหยางเฉินมองเห็นอะไรออกแล้ว

เขาหัวเราะแก้เขินนิด พูดสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ในเมื่อคุณหยาง ไม่ถือสา ผมก็คงไม่ไปพิจารณาในเรื่องหน้าที่การงาน งานของเขาสะ

พูดจบ เย่หวูซวงมองไปที่รปภ.ทั้งสองคน พูดเสียงเลือก “ยัง

ไม่รับขอบคุณคุณหยางที่ได้ช่วยชีวิตเอาไว้อีก!

สองรปภ.ดึงเอาสติกลับคืนมาได้ รีบกล่าวขอบคุณ “ขอบพระคุณท่านหยาง! ขอบพระคุณท่านหยาง

“คุณหยาง เชิญข้างในครับ!

เย่หวซวงสีหน้ากลับเป็นปกติ พูดยิ้ม ๆ

คนที่อยู่โดยรอบล้วนออกอาการให้รู้สึกประหลาดใจ สายตา มองตามเย่หวซวงพาหยางเฉินกับหม่าชาวเดินเข้าไปใน คฤหาสน์ตระกูลเย่

เพียงครู่เดียว ที่หน้าโถงจัดงานเลี้ยง เย่หนูชวงหยุดยืน พูด ด้วยเสียงหัวเราะว่า “คุณหยางครับ ที่นี่เป็นบริเวณจัดงานเลี้ยง ฉลองแซยิดนะครับ ผมมีงานอีกนิดหน่อย ค่อยพบกันให้หลังนะ ครับ”

“ได้! ” หยางเฉินผงกหัวตอบรับ

หลังจากเย่หวูซวงจากไปแล้ว หม่าชาวส่งเสียงฮีแล้วพูด “พี่เฉิง ที่เราถูกขวางอยู่หน้าประตูเมื่อกี้นี้ เห็นชัด ๆ ว่าเจ้าหมอน เป็นคนจัดการอยู่เบื้องหลัง พี่เฉิงทำไมไม่ฉีกหน้ากากจอมปลอม ของมันออกมาให้เห็น ๆ กันนะ? ”

หยางเฉินหัวเราะแล้วพูดว่า “ยากนักที่จะได้เจอคนรุ่นเดียวกัน ที่ข้ามองข้ามไปได้ ถ้าไปฉีกหน้ากากของเขาออกในตอนนี้ จะ ไม่รู้สึกน่าเสียดายไปหน่อยหรือ?

หม่าชาวส่ายหัวอย่างเสียไม่ได้ “มันก็มีพี่เฉิงนี่แหละ ที่ยังมี อารมณ์นักสนุกด้วย เล่นกับไอ้พวกจอมลวงโลกแบบนี้ น่ากลัว งานเลี้ยงวันนี้ คงยังจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอีกเป็นแน่”

“ข้าไม่กลัวเรื่องยุ่งยากอยู่แล้ว แต่กลัวว่าเรื่องมันจะเล็กเกินไป มีเหตุผลไม่พอจะให้ข้าเล่นงานตระกูลเยได้”

หยางเฉินพลันพูดขึ้นมากับเสียงหัวเราะเหอะ ๆ

พูดจบ เขาก็เดินตรงเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของงานจัดเลี้ยง

หม่าชาวสูงขึ้นมาแวบหนึ่ง แล้วก็เข้าใจในความหมายที่หยาง เฉินพูดในทันที

พี่เฉินเรา คิดจะจัดการกับตระกูลเย่แล้วหรือนี่?

ในความคิดของหม่าชาว เกิดเห็นบางสิ่งที่รอคอยขึ้นมาใน ทันที

ทั้งสองเดินตามกันก้าวเข้าไปในห้องโถงจัดงานเลี้ยง ในห้อง โถงงานจัดเลี้ยง สว่างแสงไฟผนังเจิดจ้า จัดตกแต่งประดับ ประดาไว้อย่างหรูหราอลังการ
ได้มีคนเข้ามาแล้วมากมาย เห็นชัดว่าล้วนเป็นคนในตระกูล ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ไม่เช่นนั้นคงไม่มีสิทธิ์ได้รับเชิญ

การปรากฏตัวของหยางเฉินกับหม่าชาว ดึงสายตามองเข้ามา มากมายในทันที

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในงาน ล้วนเป็นคนระดับมีหน้ามีตา ต่าง

คนต่างรู้จักถึงกันอยู่

มีแต่หยางเฉินกับหม่าชาว มองยังไงก็แปลกหน้ากันอยู่มาก เห็นชัด ๆ ได้ว่าต้องเป็นคนต่างถิ่น

“พี่เฉิน ดูเหมือนมีสาวสวยตั้งหลายคน ล้วนกำลังมองพี่อยู่

หม่าชาวพูดเสียงหัวเราะ หุ ๆ

หยางเฉินถลึงตาใส่ พูดอย่างเอือมระอาว่า “ถ้าแกชอบ เดี่ยว ข้าช่วยแนะนำให้แกสักคนมั้ย?

หม่าชาวส่ายหน้าหลายตลบ พูดหน้าเครียดว่า “ในใจผมมีแต่

อ้ายหลินคนเดียว”

หยางเฉินในวันนี้ บรรจงใส่ชุดออกงานสีดำ อีกยังผูกเนกไทสี

ดำ คู่รองเท้าดำ

บุคลิกของหยางเฉินนั้นดูดีมากอยู่เป็นทุนเดิม ความคมคาย ชัดเจนทุกมุมมอง ราศีดูสูงส่ง มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาสาว ๆ เป็น อย่างมากอยู่แล้ว

มาขณะนี้ หญิงสาวมากมายในบริเวณงาน ล้วนแล้วแต่สาวสังคมชั้นสูง กับกลิ่นไอหนุ่มงามหล่ออย่างหยางเฉินนี้ ย่อมเป็นที่ น่าชื่นชมมากเป็นธรรมดา

“คุณรูปหล่อคะ ดูหน้าไม่คุ้นเอามากเลย ไม่ทราบเป็นคุณชาย บ้านไหนคะ?

ในขณะนั้นเอง หญิงในชุดราตรีสีดำคนหนึ่งเดินเข้ามามอง

หยางเฉินถามเสียงหัวเราะคิก ๆ

ผู้หญิงนั้นมองดูคงจะอยู่ในวัยสามสิบห้า-สามสิบหก หน้าตา แต่งเต็มด้วยเครื่องสําอาง มองดูก็สวยได้การอยู่ บุคลิกก็ดูดีมาก มองดูก็รู้ว่าเป็นสาวสังคมบริหารระดับสูง เห็นผู้หญิงคนนี้เดินเข้าไปหาหยางเฉิน หลายคนมีสีหน้า

ทะเล้นแสดงออก

“นั่นซูจินนี่ ประธานบริษัทการบันเทิงจิ้งอาน เห็นว่าศิลปินหนุ่ม ๆ หลายคนในสังกัดของหล่อน ล้วนโดนหล่อนเอาไปนอนแล้ว”

“เจ้าหนุ่มคนนี้ โดนซุจิ้นหมายตาแล้ว นับว่าดวงนารีอุปถัมภ์ ไม่เบา”

“ดวงนารีอุปถัมป์อะไรกัน? ผู้หญิงคนนี้มันนางอสรพิษชัด ๆ กินคนได้อย่างไม่เหลือซาก

หลายคนซุบซิบกันเบา ๆ

“ประสาทฟังเสียงของหยางเฉินนั้นไม่ธรรมดา จากเสียงนินทา กันค่อย ๆ ก็ให้เขารู้ได้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ตระกูลใหญ่ในเยี่ยนดูนี้ คงไม่มีตระกูล ไหนมีคุณสมบัติพอให้ผมไปเป็นคุณชายใหญ่อะไรหรอก”

หยางเฉินพูดด้วยยิ้มเก๋ ๆ

ได้ยินดังนั้น จิ้นสะอึกนิดหนึ่ง แล้วทำปิดปากหัวเราะเบา ๆ ค้อนตาใส่หยางเฉิน พูดว่า “เธอนอารมณ์ขันตีจัง

พูดจบ หล่อนหัวเราะหฺ ๆ พูดว่า “ดิฉันซุจิ้น ประธานบริษัทการ บันเทิงจิ้งอาน เธอเรียกฉันว่าพี่ซุก็ได้นะ”

หยางเฉินพียงแค่ยิ้มจืด ๆ ไม่มีทีท่าจะเจรจาพาทีด้วย

ที่เขามาวันนี้ ไม่ได้จะมาหานารีอุปถัมภ์

“พ่อรูปหล่อ จะไม่ยอมแนะนำตัวหน่อยหรือ?

ซุจิ้นกระพริบตาถี่ ยิ้มตาหยี ๆ ถาม

หยางเฉินส่ายหน้า “คุณอย่ารู้จักผมเลยดีกว่า มิฉะนั้นแล้ว หลังจากคืนนี้ไป คุณคงจะต้องเสียใจภายหลัง

ซุจิ้น หัวเราะออกเสียงคิก “ก็ได้ ฉันขอบอกเธอตรง ๆ นะ หุ่น ภายนอกของเธอ ถูกใจฉันมากเลย ถ้าเธอเห็นดีด้วย ฉันก็จะเป็น เพื่อนหญิงของเธอตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย”

หยางเฉินมองผู้หญิงคนนี้ด้วยสีหน้าแปลก ๆ เขาก็แสดงออก ให้เห็นแล้วว่าไม่มีความรู้สึกสนุกอะไรกับหล่อนเลย ไหงหล่อนก็ ยังจะฝืนเบียดตัวเข้ามาอีก

“คุณอาผู้หญิงครับ คุณอาคงอายุได้สักห้าสิบแล้วไหมครับ?พี่เฉินของผมปีนี้ยังไม่ถึงสามสิบเลย คุณอาจะขอเป็นเพื่อนหญิง กับเขา มันจะเหมาะเหรอ? “

ทันใดนั้นหม่าชาวถลันก้าวเข้ามา ยืนขวางอยู่หน้าหยางเฉิน แสยะมุมปากพูดประชดไป

พอพูดออกไปแบบนี้ สดุ้งฮือฮากันไปทั้งบริเวณ

ซุจิ้น อายุเพียงแค่สามสิบหก แต่พอได้แต่งหน้าแต่งตาแล้วดู อ่อนวัยขึ้นโข มองดูก็เหมือนสาวรุ่นวัยสักยี่สิบต้น ๆ

หม่าชาวดันผ่าไปพูดเป็นอาซิมวัยห้าสิบกว่า นี่มันเป็นการ หยามใส่จิ้น กันอย่างชัด ๆ

พลันเห็นรอยยิ้มบนหน้าจิ้นหายวับไปในทันที กลายเป็นหน้า นางร้ายเหี้ยมโหด ไม่พูดพล่ามทำเพลง ยกมือขึ้นฟาด ตบใส่ หน้าของหมาชาวเข้าให้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ