บทที่ 497 ผมมาช่วยคุณ
โครงการการบันเทิงในแต่ละชั้นมีความแตกต่างกัน ยิ่งชั้นสูง เท่าไหร่ โครงการการบันเทิงก็ยิ่งคลุมเครือมากขึ้นเท่านั้น การ ต้อนรับลูกค้าแต่ละระดับก็ต่างกันด้วย
หยางเฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลวเลยนะ แต่ดูเหมือนคุณ จะลืมพาฉันไปสถานที่หนึ่ง
หวังเฉินตกตะลึง พลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เกรงว่าคุณ
จะรู้เรื่องกลับเมืองหลวงมากกว่าเจ้าของอย่างผมเสียอีก
วันแรกที่หยางเฉินออกจากชายแดนเหนือ เขาได้เริ่มส่งคนไป ตรวจสอบทุกอย่างเกี่ยวกับตระกูลอวี่เหวินแล้ว
เดิมทีเขาวางแผนที่จะจัดการกับตระกูลอวี่เหวิน ดังนั้นเขาจึง
รู้จักทุกคนในตระกูลอย่างทะลุปรุโปร่ง
คลับนี้ดูเรียบง่าย แต่ความจริงแล้วมีเวทีมวยใต้ดินขนาด ใหญ่อยู่ หวังเฉินฝึกปรือยอดฝีมือเอาไว้ภายในมากมาย
บางทีแม้แต่ตระกูลอวี่เหวินก็ไม่รู้ว่าหวังเฉินแอบฝึกฝนยอด ฝีมืออย่างลับๆ มากี่คน
คนนอกรู้เพียงว่าคลับเมืองหลวงมีเวทีมวยใต้ดิน คิดเพียงว่า มันเป็นสถานที่สําหรับเล่นการพนัน
“ลงไปเดินเล่นข้างล่างดูไหม?”
หวังเฉินถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อมาแล้ว ก็ต้องไปเดินดู หน่อย”
หวังเฉินพาหยางเฉินและหม่าชาวขึ้นลิฟต์ส่วนตัวที่ชั้นบนสุด ลงไปยังเวทีมวยใต้ดิน
ทันทีที่เขาเข้าไปในเวทีมวยใต้ดิน ก็ได้ยินเสียงเชียร์และเสียง โห่ร้องจากทั่วทั้งสี่ทิศ ดังกึกก้องไปทั่วเวทีมวย
เมื่อพิจารณาจากแผนผังของเวทีมวย มันน่าจะเป็นชั้นใต้ดิน ชั้นที่ 3 ของคลับเมืองหลวง ทั้งหมดทะลุถึงกัน ได้รับการ ปรับปรุงให้เป็นห้องคอนเนคติ้งรูมขนาดใหญ่
มันเหมือนกับโรงยิมขนาดเล็กที่มีเวทีมวยอยู่ตรงกลาง ล้อม รอบด้วยที่นั่งที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ รูปวงแหวนของโรงยิม
ในเวลานี้ มีนักมวยรูปร่างกำยำสองคน กำลังประลองฝีมือกัน
อยู่บนเวทีมวย
ที่เหนือไปจากความคาดหมายของหยางเฉินก็คือ นักมวยสอง คนบนเวทีมวยต่อสู้ด้วยมือเปล่า ทั้งตัวสวมกางเกงขาสั้นเพียง ตัวเดียว ลงมืออย่างโหดร้ายที่สุด
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า แม้แต่ในการแข่งขันชกมวยระดับ นานาชาติ นักมวยล้วน ใส่นวมเพื่อลดทอนกำลังโจมตีจากกำปั้น ของคู่ต่อสู้ให้เบาลง
ที่นี่ นักมวยไม่มีเครื่องป้องกัน ทุกหมัดเข้าปะทะกับเนื้อหนังอย่างโหดเหี้ยม
“พลั่ก พลั่ก พลั่ก!”
ในเวลานี้ นักมวยคนหนึ่งก็ระเบิดพลังออกมาอย่างฉับพลัน เขาต่อยติดต่อกันหลายหมัดและกระแทกคางของคู่ต่อสู้อย่าง แรงทุกครั้ง
ทันทีที่หมัดสุดท้ายเหวี่ยงออกไป ร่างของคู่ต่อสู้ก็ลอยขึ้นไป ในอากาศ แล้วกระแทกลงกับพื้นเวทีมวยอย่างแรงดัง “โครม ก่อนจะสลบไปอย่างสมบูรณ์
ส่วนนักมวยที่นอนลุกไม่ขึ้นอยู่บนพื้น ใบหน้าโชกเลือด อด วางเดิมพันไม่ได้
นักมวยที่ได้รับชัยชนะก็มีสภาพไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าใด ตา ขวาบวม มีเลือดออกจากหางตา
“ฮ่ม!”
ในขณะนี้ ทั่วสนามเดือดพล่านขึ้นมา ผู้ชมรอบๆ แผดเสียง คำรามก้องเหมือนสัตว์ร้าย ดวงตาแดง ตื่นเต้นอย่างที่สุด
“ที่นี่ นักมวยที่ต้องการขึ้นเวทีมวย ก่อนชกต้องลงนามใน สัญญาศึกชี้ชะตา”
หวังเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับกลิ่น คาวเลือดบนเวทีมวยอยู่แล้ว
“ช่างเป็นการต่อสู้ที่โบราณ ไม่ซับซ้อน และเหี้ยมโหดที่สุด!
หยางเฉินมองไปที่ผู้ชนะที่กำลังตะโกนเสียงดังบนเวทีมวย อย่างไม่ละสายตา แล้วพูดอย่างปลงอนิจจัง
จู่ๆ หวังเฉินก็ยิ้มแล้วพูดอย่างเฉยเมย “คุณคิดไม่ถึงแน่ว่ามี ใครที่มาชมการแข่งขันชกมวยที่นี่บ้าง ผมบอกคุณได้เลยว่า มี เกือบทุกสาขาอาชีพ”
“บางทีหนึ่งในนั้นอาจเป็นผู้บริหารของกิจการที่มีชื่อเสียง ปกติเขาใส่สูทรองเท้าหนัง วางมาดเอาจริงเอาจัง แต่ที่นี่กลับ เหมือนคนบ้า ทุกครั้งที่เห็นใครเลือดออกล้มลงกับพื้น พวกเขาจะ กรีดร้องดังลั่น”
บางทีหนึ่งในนั้นอาจเป็นผู้อำนวยการหญิงที่เยือกเย็นของ บริษัท ปกติทําตัวเย็นชา อยู่เหนือผู้คนและรักษาระยะห่าง แต่อยู่ ที่นี่กลับกรีดร้องอย่างไม่เกรงใจเหมือนกันหมด
“นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ ที่นี่พวกเขาสามารถปลดปล่อย
ความปรารถนาของสัตว์ร้ายภายในหัวใจได้อย่างเต็มที่
หวังเฉินกล่าวอย่างสุภาพอ่อนโยนและผ่อนคลาย
คงไม่มีใครเชื่อว่าคำวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้ จะออกมาจากปาก สุภาพบุรุษสะโอดสะองเช่นนี้
หยางเฉินไม่พูดอะไร เขาไม่สามารถตัดสินสิ่งที่หวังเฉินพูดได้ เพราะสิ่งที่หวังเฉินพูดนั้นเป็นความจริง
“ไม่ได้เจอกันมาสิบแปดปี จู่ๆ คุณก็มาหาผม คงจะไม่ได้มา เยี่ยมผมเฉยๆ หรอกนะ?”
จู่ๆ หวังเฉินก็มองไปยังหยางเฉิน พูดด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับยื่น การคิวบา ๆ ให้เขา
หยางเฉินไม่ได้รับการมา เขาเอ่ยว่า “ผมไม่เคยสูบบุหรี่!
หวังเฉินอึ้งไปทันที ก่อนจะยิ้มอย่างสุภาพอ่อนโยน จุดซิการ์ ให้ตัวเอง แล้วสูบอย่างเต็มที่ด้วยสีหน้าเพลิดเพลิน
“ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าการใช้ชีวิตแบบคุณมันน่าสนุกยังไง?”
หวังเฉินยิ้มและพ่นควันบุหรี่ออกมา จากนั้นก็พูดว่า “ไปคุยกัน ที่ห้องทํางานของผมดีกว่า!
ไม่นานก็มาถึงชั้นบนสุด
ทั้งชั้นเป็นอาณาเขตส่วนตัวของหวังเฉิน ดูเหมือนกว้างโล่ง มาก แต่หยางเฉินรู้สึกได้เลาๆ ว่ามีพลังที่แข็งแกร่งอยู่ภายใน ห้องด้านในสุด
“บอกมาซิ ตั้งใจมาหาผมถึงคลับเมืองหลวง มีธุระอะไร?”
หวังเฉินเอนกายพิง โซฟาอย่างผ่อนคลาย มองหยางเฉินด้วย รอยยิ้ม
“มีคนในตระกูลอวี่เหวินล่วงเกินผม เขาไม่อยากให้ผมมีชีวิตที่ ดี ผมก็ต้องไม่ยอมปล่อยให้เขามีชีวิตที่ดีเหมือนกัน”
“ผมมาหาคุณ เพราะต้องการให้คุณมาแทนที่เขา “แต่ไม่รู้ว่าคุณสนใจตำแหน่งทายาทผู้นำหรือเปล่า” หยางเฉินมองไปที่หวังเฉินด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่อ้อมค้อม แต่บอกจุดประสงค์ในการมาไปตรงๆ
หวังเฉินอดทนมาหลายปี แต่หยางเฉินไม่เชื่อว่า เขาไม่สนใจ ตำแหน่งทายาทของตระกูลอวี่เหวินจริงๆ
เป็นไปตามคาด เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน รอยของความ ประหลาดใจได้ปรากฏขึ้นบนรอยยิ้มที่ผ่อนคลายของหวังเฉิน
“หยางเฉิน เรื่องล้อเล่นนี้ มันไม่ตลกเลยแม้แต่นิดเดียว
หวังเฉินพูดด้วยรอยยิ้มสดใส “เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันพี่ น้องมาหลายปี ผมจะแสร้งทำเป็นว่าผมไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่ อย่างนั้นผมอาจจะหยาบคายกับคุณ
แม้ว่าหวังเฉินจะพูดคำเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม แต่หยางเฉินก็ไม่ สงสัยในความจริงในประโยคนี้ของหวังเฉินเลยแม้แต่นิดเดียว
“ถ้าคุณยินยอมจริงๆ ก็คงจะไม่ฝึกฝนยอดฝีมือเอาไว้มากมาย
ขนาดนี้”
หยางเฉินพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง
ทันทีที่ประโยคนี้ออกมาจากปาก หวังเฉินก็ตกใจมากทันที หลายปีที่ผ่านมา เขาแอบฝึกยอดฝีมือเอาไว้มากมาย แต่เขา
ไม่เคยบอกใครเลยนอกจากคนสนิทข้างกายที่สนิทที่สุด
แต่สิ่งที่ทำให้เขานึกไม่ถึงก็คือ หยางเฉินก็รู้ด้วย “หยางเฉิน นี่คุณกำลังพูดเรื่องเหลวไหลอะไรอยู่?” “ที่นี่คือเมืองเยี่ยนตู จะพูดอะไรต้องระวัง มิฉะนั้นคุณจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายยังไง
“ถ้าคุณมาเยี่ยมเยียนผม ผมยินดีต้อนรับ แต่ถ้าไม่ใช่ได้ โปรดออกจากคลับของผมเดี๋ยวนี้!”
สีหน้าของหวังเฉินเต็มไปด้วยความเย็นชา เห็นได้ชัดว่าโกรธ มากจริงๆ
หยางเฉินมาหาหวังเฉินเพื่อช่วยให้เขาเป็นทายาทของตระกูล อวี่เหวิน แล้วเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไร?
“ในเมื่อไม่ยินดี ถ้าอย่างนั้นผมก็จะโทรหาตระกูลอวี่เหวิน แล้วบอกว่าที่ชั้นใต้ดินชั้นที่ 3 และชั้นบนสุดของคลับเมืองหลวง มียอดฝีมืออยู่มากมาย
จู่ๆ หยางเฉินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะกดโทรออกไป ใน ขณะเดียวกันก็พูดต่อว่า “คุณว่า ถ้าตระกูลอวี่เหวินรู้ข่าวนี้ จะส่ง ยอดฝีมือมาตรวจสอบหรือเปล่า?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ