The king of War

บทที่ 445 ให้เวลาห้านาที



บทที่ 445 ให้เวลาห้านาที

ณ ตระกูลหวง ภายในวิลล่าสุดคลาสสิกของคฤหาสน์ขนาด ใหญ่

ชายสูงอายุสวมชุดสามัญชนโบราณสีเทาคนหนึ่งกำลังอยู่บน เก้าอี้ด้วยสีหน้าที่หมองมน

ข้างกายของเขามีชายผมขาวหลังค่อมเล็กน้อยคนหนึ่งกำลัง ยืนอยู่ด้วย

“ผู้นำ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วอย่างนั้นหรอครับ ?

ชายที่ยืนอยู่ข้างกายของชายสูงอายุคือพ่อบ้านของตระกูล หวง และเป็นคนใช้ที่น่าเชื่อถือมากที่สุดของตระกูลหวง นับ ตั้งแต่ผู้นำตระกูลหวงคนแรกจนมีการสืบทอดตำแหน่งมาเรื่อยๆ เขาก็จะเป็นผู้ที่คอยสนับสนุนผู้นำตระกูลหวง ในการจัดการ ตระกูล

ส่วนชายสวมชุดสามัญชนโบราณที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย ก็ ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือผู้นำตระกูลหวงหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ แห่งเยี่ยนตู หวงเทียนเชิง

หวงเทียนเชิงกัดฟันพูด “หวงเจิ้งถูกเจ้าเด็กนั่นตบหน้าต่อ หน้าผู้คน ตอนนี้แม้แต่จะพูดออกมาให้เป็นคำพูดอย่างพูดไม่ ออก ! ”

“อะไรนะครับ?”
พ่อบ้านถามออกไปอย่างครุ่นคิด “ที่ผู้นำพูดถึงก็คือเจ้าเด็ก ที่ถูกตระกูลอวี่เหวินทอดทิ้ง หยางเฉิน ? ”

หวงเทียนเชิงพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะ กัดฟันพูดต่อ : “เจ้าหนุ่มนั่นจะโอหังเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ ลงมือกับหวงจงต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก คราวนี้ก็ยังลงมือกับ หวงเจิ้งอีก เขาไม่ได้กำลังตบหน้าของผู้สืบทอดของตระกูลหาง แต่กำลังตบหน้าตระกูลหวงต่างหาก!

“เรื่องนี้ เขาจะต้องชดใช้ไม่อย่างนั้นเขาก็จะทำเหมือนกับ ตระกูลหวงของพวกเรานั้นอ่อนแอจริงๆ ! ”

“เป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง ยังกล้ามาท้าทายกับตระกูลหวง ช่างไม่รู้จักความตายซะแล้ว!

หวงเทียนเชิงพูดออกมาด้วยความโกรธหนัก บนใบหน้าแก่

อันแสนเหี่ยวย่นตอนนี้เต็มไปด้วยความเดือดดาล

“ผู้นำ ข้างกายของหวงเจิ้ง มีตงเชยคอยคุ้มกันอยู่ไม่ใช่หรอ ครับ ? ทำไมถึงได้ถูกตบต่อหน้าผู้คนอย่างนี้ได้? ” พ่อบ้านนั้น ยังคงมีความใจเย็นอย่างมาก พร้อมเอ่ยปากถาม

หวงเทียนเชิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม : “ตงเชยบอกว่าเขา ไม่ใช่คู่ปรับของเจ้าเด็กนั่น !

“ว่ายังไงนะครับ?

คราวนี้บนใบหน้าของพ่อบ้านปรากฏสีหน้าที่ตกตะลึงขึ้นมา คนตระกูลหวง ล้วนเป็นคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว ดังนั้นผู้นำทุกรุ่นจึงมักจะหาพ่อบ้านที่มีสติปัญญามาคอยให้ช่วยเหลือ เพื่อที่จะ หลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้นำของตระกูลท่าเรื่องใจร้อน

ดังนั้น ในตระกูลหวง ตำแหน่งและฐานะของพ่อจึงสูงส่งอย่าง มาก

แม้แต่เหล่าคนรุ่นหลังที่ทำการแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอด ตระกูล เวลาที่อยู่ต่อหน้าพ่อบ้าน ต่างก็ไม่กล้าที่จะอวดดี ทั้งยัง

คอยเอาใจใส่อย่างระมัดระวังอีกด้วย

“ผู้นำ คุณคิดจะให้คนนั้นไปแก้แค้นใช่หรือไม่ ?

พ่อบ้านพูดอย่างระมัดระวัง

หวงเทียนเชิงพยักหน้าพูดด้วยดวงตาที่แดง ถ้าไมม่ฆ่า เจ้าหนุ่มนี่ ความอัปยศของตระกูลหวงก็ไม่มีทางที่จะเรียกคือ กลับมาได้อีก ดังนั้นเขาจะต้องตาย”

แต่แล้วพ่อบ้านกลับส่ายหน้าด้วยใบหน้าจริงจัง แล้วพูดอย่าง หนักแน่น : “ผู้นำ แม้แต่ความแข็งแกร่งของตงเชยยังไม่ สามารถเอาชนะเด็กหนุ่มได้ แบบนี้เขาจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป ได้ยังไงครับ ?

“ตงเชยอยู่ในตระกูลหวง ถูกจัดอันดับความแข็งแกร่งอยู่ถึง อันดับที่สามแล้ว แม้แต่เขายังสามารถถูกหยางเฉินเอาชนะได้ อย่างง่ายดายแบบนี้ แล้วเขาคนนั้นที่คุณจะส่งไปจะสามารถฆ่า เจ้าหนุ่มนั่นได้จริงหรอครับ ? ”

“ตามที่บอกกล่าวเอาไว้ มีครั้งที่หนึ่งครั้งที่สองแต่อย่าได้มีครั้งที่สาม ผู้สืบทอดของตระกูลหวงทั้งสองคนล้วนเป็นฝ่ายที่เข้าไป ท้าทายหยางเฉินเอง ถึงได้รับความอับอายต่อหน้าผู้คนแบบนั้น

“ถ้าหากพวกเราตระกูลหวงยังไปท้าทายอีกครั้ง หากแพ้ขึ้นมา จริงๆ อย่างนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการประกาศว่าตระกูลหวงอันยิ่ง ใหญ่ของเราไม่มีใครที่สามารถยับยั้งหยางเฉินได้เลยไม่ใช่หรอ ครับ?

คำพูดของพ่อบ้านทำให้หวงเทียนเชิงใจเย็นลงมาไม่น้อย

หวงเทียนเชิงสามารถกลายเป็นผู้นำได้ ความสำเร็จส่วนมาก ล้วนเกิดขึ้นมาจากพ่อบ้านทั้งนั้น

ทุกครั้ง ในตอนที่เขากำลังจะตัดสินใจผิดพลาดเพราะความ ฉุนเฉียวนั้น มักจะมีพ่อบ้านที่จะคอยเตือนสติอยู่เสมอ เพื่อทำให้ เขาตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ และเลือกทำในสิ่ง ที่ถูกต้อง

“อย่าบอกนะว่าผู้สืบทอดทั้งสองคนของตระกูลหวงถูกทำให้ อับอายต่อหน้าผู้คน แล้วพวกเรายอมปล่อยไปง่ายๆ แบบนั้น หรอ ? ” หวงเทียนเชิงถามด้วยความไม่พอใจ

“แน่นอนว่าไม่ใช่ครับ!

ในดวงตาที่ขุ่นมัวของพ่อบ้านมีแสงริบหรี่ฉายออกมา ก่อนที่ เขาจะหรี่ตาลงพูด : “ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้ามาท้าทายกับ อำนาจของตระกูลหวง คนนั้นจะต้องได้รับการลงโทษ แต่ว่าตอน นี้ยังไม่ถึงเวลาครับ !
“หือ? แล้วพ่อบ้านคิดว่าตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไงดี? หวงเทียนเชิงถามอย่างต่อเนื่อง

“ครั้งนี้ พวกเราไม่เพียงแค่ไม่ไปท้าทายหยางเฉิน แต่ยังต้อง แสดงความปรารถนาดีต่อเขาอีกด้วย อีกอย่างยังต้องแสดง ความจริงใจของพวกเราด้วย นี่ถือเป็นขั้นที่หนึ่ง !

พ่อบ้านหรี่ตายิ้ม: “ขั้นที่สองถึงจะเป็นจุดสำคัญ คือขอเพียง

แค่พวกเรา …..

พ่อบ้านพูดต่ออยู่นาน รอจนเขาได้พูดแผนการของตัวเองจน หมด หวงเทียนเชิงก็เข้าใจได้ทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับหัวเราะเสียงดังออกมา : “ฮ่าๆๆ ดี ! สมกับเป็นพ่อ บ้านของหวงเทียนเชิง ถึงได้มีแผนการดีที่สามารถยิงนัดเดียวได้ นกสองหัวแบบนี้ !

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นผมก็ควรจะเดินทางไปที่เจียงโจว ด้วยตัวเองสักครั้ง เพื่อไปพบปะกับเจ้าหนุ่มนั่นดีหรือเปล่า ครับ? ” พ่อบ้านถามด้วยหน้ายิ้มแย้ม

“ดี เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้อง ให้เจ้าหนุ่มนั่นได้รับความ “จริงใจ” จากพวกเรา”

แววตาของหวงเทียนเชิงฉายแววชั่วร้ายออกมา

“ครับ! ”

พ่อบ้านตอบรับเสร็จ ก็รีบไปจัดเตรียมเรื่องการเดินทางไปยัง เจียงโจวทันทีเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
ทว่าเขาที่เพิ่งจอดรถได้ไม่ทันไร ก็เห็นว่ามีรถเบนซ์สีดำคัน หนึ่งจอดอยู่ข้างๆ ตั้งนานแล้ว ราวกับว่าจงใจมาอยู่รอเขา

หยางเงินคิ้วขมวดขึ้น ผู้หญิงคนนี้มาอีกแล้ว?

“ไปหาที พวกเราพูดคุยกันหน่อยได้หรือเปล่า ?”

หยางเฉินที่เพิ่งเดินลงจากรถ แม่านก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับ มองหยางเฉินด้วยใบหน้าจริงจัง

เย่ม่านถึงแม้จะขจัดความเย่อหยิ่งออกไปแล้ว แต่น้ำเสียงก็ยัง คงแข็งกระด้างดังเดิม

เห็นได้ชัดว่าการยอมเป็นฝ่ายยอมครั้งแรกทำให้เธอรู้สึก อึดอัดไม่น้อย

แต่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว จึงต้องยอมอ่อนข้อต่อ หยางเฉินอย่างเลี่ยงไม่ได้

“มีอะไร ก็คุยกันตรงนี้เถอะครับ

หยางเฉินตอบกลับอย่างเฉยชา

แน่นอนว่าเขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการคุย อะไรกับเขา ซึ่งไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเรื่องของฉินซี

เย่ม่านขมวดคิ้วขึ้น กำลังจะอาละวาด แต่จู่ๆ เมื่อนึกถึงเป้า หมายของตัวเอง ความโกรธ ในแววตาของเธอก็ค่อยๆ สงบลง

“ฉันมากล่าวขอโทษเกี่ยวกับความใจร้อนของตัวเองก่อนหน้า นี้! ขอโทษด้วย! ” เท่านผงกหัวเล็กน้อย แล้วกล่าวขอโทษต่อหยางเงิน

การกระทําของเธอนั้นเกินความคาดหมายของหยางเฉินอย่าง มาก

แต่แล้วเมื่อคิดค่าขอโทษที่เสแสร้งของผู้หญิงคนนี้แสดงต่อฉัน ซีแล้ว หยางเฉินจะเชื่อมั่นในความจริงใจของผู้หญิงคนนี้ได้

อย่างไร ?

“ผมให้เวลาคุณห้านาที มีอะไรก็พูดมาตามตรงเถอะครับ หยางเฉินยกมือขึ้นเพื่อดูนาฬิกาแล้วพูดอย่างเย็นชา

เย่ม่านเกิดความโกรธเคืองอยู่ในใจ แต่บนใบหน้ากลับเต็ม ไปด้วยคำพูดที่จริงใจ : “หยางเฉิน ฉันคือลูกสาวของฉัน ฉัน หวังว่าคุณสามารถช่วยฉันแล้วใจเธอให้พวกเราสองแม่ลูกได้ เข้าใจกันซักที !

หยางเฉินยิ้มเยาะเย้ยออกมา “เสี่ยวซีเพียงแค่อยากรู้ เหตุผลที่คุณทิ้งเธอไปในตอนนั้น แต่คุณกลับไม่ยอมพูด ไม่คิด แม้แต่จะรับคำยินยอมจากเธอก็จะพากลับไปยัง ตระกูลเย่ คุณมี คุณสมบัติอะไรที่จะมาทำความรู้จักกับเธอ

เย่ม่านถึงกับจุกอก เธอนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะพูดออกมาด้วย ใบหน้าที่เจ็บปวด : ที่ฉันไม่ยอมบอกความจริงกับเธอ นั่นเป็น เพราะว่าฉันไม่อยากจะทำร้ายเธอ

หยางเฉินไม่พูดอะไร เพียงมองเท่านอย่างสงสัยเท่านั้น “ฉันในอดีตนับได้ว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีของ ตระกูลเย่ และเป็นดั่งแก้วตาอย่างมลายหายไป

ยอมตัดขาดกับตระกูลอย่างไม่ลังเล เพื่อหนีตามเขาและในตอนที่กำลังท้อง เขาพูดลาคำ หนีหาย

จากฉัน

“เพื่อเขาฉันยอมละทิ้งความั่งคั่งสุขสบายอย่างไม่ลังเล กลับ อยู่ชนบทกับเขา แต่เขากลับหลอกลวงความรู้สึกอย่างคน

คุณรู้ไหมว่า ตอนนั้นตัวมีความสิ้นหวังขนาดไหน ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ