The king of War

บทที่ 444 น่าอับอายเกินไปแล้ว



บทที่ 444 น่าอับอายเกินไปแล้ว

“สําหรับคนที่คิดจะเอาชีวิตผม ผมไม่เคยที่จะเมตตา” หยางเฉิ นพูดด้วยสีหน้าเฉยชา

แม้แต่คนที่มีความแข็งแกร่งอย่างตงเชย ตอนนี้ยังได้รับความ รู้สึกกดดันจากหยางเฉินเหมือนกัน

ในตอนแรกเขายังคิดว่าเรื่องข่าวลือของหยางเฉินนั้นมีความ เกินจริง

ต่อให้เขาจะสามารถล้มชายผู้เป็นอันดับเก้าของสมาคมบูโด

ได้ ก็เป็นไปได้ว่าเขาจะต้องมีการใช้แผนการชั่วร้ายบางอย่าง แน่นอน จนกระทั่งเมื่อสักครู่นี้ที่ได้แลกหมัดกับหยางเฉิน เขาถึงได้

เข้าใจว่าแค่พึ่งพลังของหยางเฉินอย่างเดียวก็สามารถทำให้เขา

คนนั้นตายได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“ในเมื่อคุณยืนกรานที่จะต่อสู้อย่างนั้นผมคงต้องสงเคราะห์

ให้เท่านั้น!

ตงเชยกัดฟันแน่น พลางขยับเท้า เคลื่อนไหวร่างกายอย่าง ฉับไวกระโจนเข้าหาหยางเฉินทันที

“! ”

หยางเฉินเริ่มการโต้ตอบอย่างทันควัน ด้วยการฟาดเท้าออกไป โดยที่การโจมตีของตงเชยยังไม่ทันถึงตัวเขา บริเวณอกของ ตงเชยก็ได้ถูกหยางเฉินเตะเข้าให้อย่างจัง

ร่างของตงเซยกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร พร้อมกระแทก ลงไปตรงหน้าของหวงเจิ้งอย่างแรง

หวงเจิ้ง ในตอนนี้แทบจะบ้าอยู่แล้ว พลังของตงเชยตัวเขานั้นรู้ เป็นอย่างดี แต่ในเวลานี้เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน เขากลับไม่มี

พื้นที่ที่จะตอบโต้กลับได้เลยแม้แต่น้อย

แต่แล้วจู่ๆ ในสมองของเขาก็พลันมีความคิดที่ไร้สาระเกิด ขึ้น “เกรงว่าต่อให้จะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหวง ก็จะ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉินด้วยเหมือนกัน ! ”

แววตาของตงเชยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อสักครู่นี้ เขาพอจะรับรู้ได้ถึงพลังที่มหาศาลของหยางเฉินแล้ว แต่สิ่งที่คาด คิดไม่ถึงเลยคือเขาจะมีความแข็งแกร่งมากถึงขนาดนี้

พริบ!

เสียงกร้าวดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ทันใดนั้นมวลพลังอันแรงกล้ากล้อมรอบหวงเจิ้งเอาไว้ แล้ว หวงเจิ้งถึงเพิ่งเห็นว่า หยางเฉินที่เมื่ออยู่ห่างจากเขาไปหลาย สิบเมตร ตอนนี้ได้หายตัวไปแล้ว

“ระวัง !

ตงเชยร้อคารามออกมาอย่างกะทันหัน พร้อมกับกระโจน เข้าไปยังหน้าของหวงเจิ้งอย่างถวายชีวิต
ตงเชยที่เพิ่งจะเข้าไปยังหน้าของหวงเจิ้งไว้หน้าอกของเขา ราวกับถูกรถบรรทุกพุ่งชนจนร่างกายของเขากระเด็นออกไปใน ทันที พร้อมกับกระอักเลือดออกมา

เพียะ! ”

และเพียงชั่วขณะจากนั้น เสียงตบก็ดังขึ้นมา

และสิ่งที่เห็นก็คือหยางเฉินที่ตอนนี้ได้ยืนอยู่ต่อหน้าของหวง เจิ้งพร้อมกับฝ่ามือที่ตบลงบนใบหน้าของเขา

ในสายตาของทุกคน ตอนนี้บนหน้าของหวงเจิ้ง ปรากฏรอย ฝ่ามืออย่างชัดเจนที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ส่วนมืออีกข้างของหยางเฉินก็กำลังจับปลอกคอของหวงเจิ้ง เอาไว้

ทั้งห้องโถงการประมูลนิ่งสงัดลงอย่างถึงที่สุด ดวงตาของทุก คนเบิกกว้างมองไปยังหยางเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความ เหลือเชื่อ

เพียงชั่วพริบตา ตงเชยถูกโจมตีจนกระอักเลือด ล้มลงไปกับ

พื้น

ส่วนหวงเจิ้งก็ถูกมือข้างหนึ่งของหยางเฉินจับคอเสื้อเอาไว้ ใน ขณะที่มืออีกข้างก็ตบลงบนใบหน้าของเขาอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นเสียงฝ่ามือก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในห้อง โถงที่เงียบสงัดเกิดเสียงก้องอันแสนไม่ปกติ

ทางด้านหยางเฉินก็ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดการกระทำลงเลย เขา ยังคงตบหน้าของหวงเจิ้งอย่างต่อเนื่อง และในทุกครั้งที่ฝ่ามือ กระทบลงไป บนใบหน้าของหวงเจิ้งก็จะปรากฏรอยฝ่ามือออก มาให้เห็นอย่างชัดเจน

หลังจากถูกตบต่อเนื่องหลายสิบครั้ง แก้มของของหวงเจิ้ง บูดบวมขึ้นมาและปากก็เต็มไปด้วยเลือดสดๆ

ส่วนพื้นที่อยู่เต็มปากได้ถูกตบจนหลุดออกหมดตั้งนานแล้ว

การควบคุมพลังของหยางเฉินนั้นดีมาก จึงโชคดีที่ไม่ทำให้ หวงเจิ้งถึงกับสลบ

ถ้าหากว่าหยางเฉินใช้พลังในระดับเดียวกับที่ใช้กับตงเซย

แค่เพียงฝ่ามือเดียวก็คงจะคร่าชีวิตหวงเจิ้งได้เลย

“ในเมื่อ ตระกูลหวงรักเกียรติยศขนาดนี้ อย่างนั้นผมก็ไม่ ถือสาที่จะเหยียบหน้าของตระกูลให้จมลงไปในดินอย่างหนัก

ทันใดนั้นประโยคที่คุ้นหูก็ดังก้องขึ้นมาในหูของทุกคน เมื่อสักครู่ หยางเงินก็เคยพูดประโยคนี้

แต่แล้วตอนนี้ พวกเขาถึงเพิ่งจะเข้าใจความหมายจาก ประโยคคำพูดนี้ของหยางเฉิน

ก็เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้หวงจงถูกหยางเฉินสร้างความอับอายให้เขาต่อหน้าสาธารณชน จนทำให้ตระกูลหวงต้องเสีย หน้า จึงเป็นเหตุทำให้หวงจงถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้สืบทอด ตระกูล

และตอนนี้ผู้สืบทอดคนใหม่ของตระกูลหวง ก็ยังมาถูกหยาง เฉินตบหน้าต่อหน้าผู้คนจำนวนมากอีก

ดังนั้นสิ่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการตบหน้าของหวงเจิ้ง แต่ยังถือ

เป็นการตบหน้าตระกูลหวงพร้อมกันไปด้วย

เพราะหวงเจิ้งเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหวง และจะเป็นผู้นำ ของตระกูลหวงในวันข้างหน้า

“มา ตอนนี้คุณลองบอกผมว่าคุณจะให้ผมชดใช้พวกคุณยัง ไง?

หยางเฉินสะบัดมือออกทำให้หวงเจิ้งล้มลงไปกับพื้น จากนั้น

หยางเฉินก็เตะลงไปตรงอกของหวงเจิ้งอีกที พร้อมกับมองไป

ที่หวงเจิ้งอย่างวางท่าและถามอย่างเยาะเย้ย

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ ทุกคนก็ต่างเกิดความตกตะลึง พร้อมกับกลืนน้ำลายอย่างหนัก

หวงเจิ้ง ในตอนนี้ใบหน้าบวมเป่ง ไม่มีฟันเหลือแม้สักซี่ และสิ่ง ที่กลัวว่าจะเป็นจริงคือ แม่ของเขาอาจจะทำเขาที่ถูกตีตนมีสภาพ นี้ไม่ได้?

ตงเชยที่นอนกองอยู่อีกฝั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ขนาดเขายังไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของหยางเฉินได้เลย แล้วจะไปเอาอะไรกับหวงเจิ้ง ?

คราวนี้ ตระกูลถูกเหยียบจนแบบราบไปแล้วจริงๆ หากชาย คนนั้นของตระกูลหวงไม่ออกหน้า ใครก็ทำอะไรหยางเฉินไม่ได้

หวงเจิ้งพูดบางอย่างอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอะไร

ถ้อยคําไม่ชัดถ้อยชัดคำเลยสักนิด

แต่ใครที่ดูต่างก็รู้ว่าเขากำลังร้องขอความเมตตากับหยางเฉิน ให้ละเว้นเขาไปสักครั้ง

“คุณพูดอะไร? ”

“ตอนนี้คุณจะจ่ายเงินค่าที่ดินริมแม่น้ำเหล่าหลงงั้นหรอ? ”

“คุณจะซื้อที่ดินผืนนี้ แล้วมอบให้กับผม? ”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะไว้ชีวิตคุณสักครั้งแล้วกัน”

ในทุกครั้งที่หยางเฉินถามออกไป หวงเจิ้งก็จะร้องออกมา

ภาพท่าที่แสนโหดร้ายของหยางเฉินเมื่อสักครู่นี้ พลิกผัน ตัลปัตรทันที จนทำให้ทุกคนต่างถลึงตากว้าง

ใครๆ ก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าที่ดินผืนนั้นที่หวงเจิ้งชนะการประมูลไปเมื่อสักนี้ ในยังได้แบบฟรีอีกด้วย

สำหรับเรื่องหวงเจิ้งเงินไม่นั้น คงต้องให้คนของ

ตระกูลหวงซึ่งเป็นตระกูลที่รักเกียรติยศศักดิ์ศรีขนาดนี้ ปล่อยให้หวงเจิ้งสร้างความอับอายแก่ตระกูล

และในขณะถูกคนกำลังนั่งค้าง หยางเฉินหันหลังเดินออก

จนกระทั่งเขาจาก

ตงเชยเดินโซเซตรงหน้าของหวงเจิ้ง ก่อนจะพยุงเขาขึ้น

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เกินความคาดคิดของ

“คุณหยาง เดี๋ยวก่อนค่ะ!”

หยางเฉินที่จากงานประมูล แต่แล้วเสียงชัดเจนตามหลังเขา

เย่เสี่ยวเตี๋ยวิ่งหอบตามหลังเขามา

หยางเฉินมองไปกฝ่ายด้วยความสงสัยทันที และตอนนั้นเองสีหน้าของเยเสี่ยวเตี้ยก็แดงระเรื่อขึ้น : “ก่อนหน้านี้คุณ เคยบอกไว้ว่า ถ้าหากคุณช่วยฉันแล้ว จะให้ฉันตกลงเรื่องหนึ่ง กับคุณ ไม่ใช่หรอคะ ? –

เธอหยุดชะงักลงตรงนั้น ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ มือทั้งสองจับ ชายเสื้อเอาไว้ ไม่กล้าที่จะมองไปยังหยางเฉิน พร้อมพูดออกมา ด้วยเสียงเบาๆ : “คุณอยากจะทำอะไรกับฉัน ฉันก็เต็มใจ ค่ะ!”

ท่าทีเขินอายของเยเสี่ยวเตี้ย ดูมีเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างมาก ยิ่งโยยเฉพาะในตอนที่เธอพูดประโยคนั้น ก็ยิ่งทำให้คนที่ได้ ฟังเกิดเพ้อฝัน

หยางเฉินนิ่งงักไปชั่วขณะ ก่อนที่จะจำได้ว่าก่อนหน้าเขาได้ พูดแบบนั้นเอาไว้จริง ว่าจะให้เย่เสี่ยวเตี้ยตอบตกลงกับเขาเรื่อง หนึ่ง

แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้เข้าใจอะไรผิดไป

“ผมไม่อยากมีความบาดหมางกับ ตระกูลเย่ ซึ่งคุณเองก็คงจะ รู้เหตุผลดี ดังนั้นคุณกลับไปบอกของคุณด้วยว่า ในวันข้างหน้า ทั้งเมืองเจียงผิงและเมืองหนันหยัง ผมไม่ต้องการให้คน ตระกูล เย่ของพวกคุณมาปรากฏตัวให้เห็นอีก

หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย เย่เสี่ยวเตี้ยที่เดิมที่กำลังเฝ้ารอคำขอของหยางเฉิน ในตอนนี้แววตากลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เธอเฝ้าคิดถึงหยางเฉินมาตลอดหนึ่งปี แต่ตอนนี้กลับมีจุดจบ แบบนี้แทนเสียอย่างนั้น

“เอาล่ะ สิ่งที่ควรพูดผมก็ได้พูดไปหมดแล้ว ตอนนี้คุณไปได้ แล้ว ! ”

หยางเฉินพูดจบก็หันหลังกลับทันที

เย่เสี่ยวเตี้ยยืนนิ่งอึ่งอยู่กับที่ สายตาจ้องมองไปยังร่างนั้นที่ กำลังเดินจากไกลออกไปอย่างช้าๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอาบ หน้าโดยที่ไม่รู้ตัว

ถ้าหากบอกว่าความคิดถึงเป็นอาการป่วยอย่างหนึ่ง อย่างนั้น เธอก็คงจะป่วยเข้าขั้นโคม่าไปนานแล้ว

ในขณะที่อีกด้าน ตงเชยก็พาหวงเจิ้งเดินทางออกจากที่นี่

จนกลับมาถึงที่พัก ตงเชยก็ติดต่อกลับไปหาตระกูลหวงเป็น อันดับแรกทันที พร้อมกับแจ้งเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อสักครู่นี้ให้กับ ตระกูลหวง โดยที่ไม่ปิดบังเลยสักนิด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ