บทที่ 442 คุณทําผมเจ็บ
“อาหวงคงจะไม่สามารถนำเงิน 1500ล้านหยวนออกมาได้ และเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะทำให้ตระกูลหวงเสียหน้า ดังนั้นก็เลย กลัวขึ้นมาอย่างนั้นสินะคะ ? กลัวว่าหากตระกูลหวงโกรธแล้วจะ ไล่คุณลงจากตำแหน่งผู้สืบทอดหรอคะ ? ”
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเยเสี่ยวเดี๋ยนั้นกำลังจงใจ ส่วนหวง เจ๋งที่ได้ยินก็แทบจะกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว
เธอรู้เพียงคนเดียวก็พอแล้ว ทำไมจะต้องพูดเสียงดังออกมา ด้วย ?
“ไอ้หนุ่ม นายผยองมากเลยไม่ใช่หรือไง? ทำไมตอนนี้ถึงได้
หงอยขนาดนี้? ถ้ามีความสามารถจริงก็มาเอามาวัดกันหน่อย
a! ”
“ฉันเสนอ 1500ล้านหยวน อย่าบอกนะว่านายไม่กล้าแม้แต่จะ เสนอประมูลหน่ะ!
“นายอย่าลืมว่าทำไมฉันต้องการชนะประมูลที่ดินผืนนี้ เพราะเพียงหากที่ดินผืนนี้ถูกฉันครอบครอง ฉันก็จะสร้างสุสานที่ ใหญ่ที่สุดในที่ดินผืนนั้นยังไงล่ะ!
“ถ้านายยังเป็นผู้ชาย ก็อย่าเอาแต่หลบอยู่ผู้หญิงอย่างนี้สิ มา แข่งประมูลกับฉันสิ ! ”
หวงเจิ้งตะคอกขึ้นมา เพื่อลองกระตุ้นหยางเฉิน
ขอเพียงแค่หยางเฉินเข้าเสนอประมูล เขาก็จะยอมแพ้ทันที !
แต่ทว่าหยางเฉินกลับหัวเราะเยาะออกมา “คุณควรที่จะคิด ว่าจะยังไงกับเงิน 1500 ล้านดีกว่านะครับ ! ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ตวาดสายตาไปที่อื่น
“1500ล้าน ครั้งที่หนึ่ง
“1500ล้าน ครั้งที่สอง
ทางฝั่งกรรมการการประมูลไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย พลาง ยกค้อนเคาะการประมูลด้วยความตื่นเต้น และรอให้ค้อนกระทบ ลงไปเป็นครั้งสุดท้าย
แล้วในที่สุดหวงเจิ้งถึงเพิ่งได้รู้ตัวว่าตัวเองนั้นโง่เง่ายิ่งนัก เขา รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้อีก ในตระกูล หวงนอกจากหวงจงแล้ว เขาถือเป็นคนที่มีคุณสมบัติที่จะได้เป็นผู้ สืบทอดตระกูลมากที่สุด
แต่ว่าการประมูลครั้งนี้ เขานอกจากไม่สามารถเอาเงินออกมา ได้แล้ว ตระกูลหวงก็คงจะปลดเขาออกจากตำแหน่งผู้สืบทอด ตระกูลอีกด้วย
“1500ล้าน ครั้งที่สาม! จบการประมูล! ”
เสียงเคาะสุดท้ายสิ้นสุดลงแล้ว!
กรรมการการประมูลขานร้องอย่างตื่นเต้น : “ทุกท่านโปรดแสดงความกับคุณหวงด้วยครับ เป็นผู้ครอบครองที่ดิน แม่น้ำเหล่าหลง ”
ทว่าหวงเจิ้ง กลับหน้าเหม่อลอย ร่างกาย
เก้าอี้
เมื่อสามารถนำเงิน
มาความอับอายถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง ราคาประมูลเริ่มต้นหนึ่ง ร้อยล้านนิดแค่กลับประมูลราคาสูงถึง 1500ล้าน หยวน ที่นับสูงตะลึง
แววของแต่ละคนมองไปยังหวงนั้นล้วนเต็มไปด้วย ความซับซ้อน
แต่ตอนผู้คนมากมายมองยังหวงเวิ้งล้วนเหมือน กำลังจ้องมองคนอยู่
ดินริมแม่น้ำเหล่าหลงผืนนั้น ถึงเหมือนใหญ่แต่ อัตรา
ถึงต่อจะสร้างคฤหาสน์กุหลาบขึ้นอีกกลับไม่
และโดยพื้นฐานแน่นอนคือดินสูญเสียเท่านั้น
หวงเจ๋งที่ปากพูดว่าจะสร้างสุสาน ก็เป็นเพียงคิด ใช้โอกาสนี้ ในการบีบบังคับให้หยางเฉินยอมก้มหัวต่อตระกูลหวงเท่านั้น
แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงว่าในความใจร้อน กลับร้องเสนอประมูลใน
ราคาที่สูงเสียดฟ้าอย่าง 1500ล้านออกไป
“อาหวง 1500ล้านเลยนะ ! คุณนใจป้าจริงๆ เลยนะคะ ไม่รู้ เลยว่าถ้ารอให้เรื่องนี้ดังไปถึงเมืองเยี่ยน คนอื่นเขาจะมอง ตระกูลยังไงหน่ะสิ ?
“ผู้สืบทอดตระกูลหวง ซื้อที่ดินที่มีมูลค่าหนึ่งร้อยล้านหยวนใน
เมืองเล็กๆ ด้วยเงินจำนวนสูงถึง 1500ล้านหยวน
“คุณว่าคนอื่นจะมองว่า ตระกูลหวงไร้ผู้สืบทอดตระกูล ถึงได้ เลือกคนมีตาแต่ไร้แววขนาดนี้มาหรือเปล่านะ?
เยเสี่ยวเตี้ยหัวเราะขึ้นมาพูดอย่างเบิกบาน
คำพูดของเธอเป็นดั่งคมมีดใบหนึ่งที่ทิ่มแทงลงกลางใจของ หวงเจิ้งอย่างแรง
ส่วนผู้คนที่อยู่รอบด้านต่างก็มองไปยังหวงเจิ้งด้วยสีหน้าที่ แปลกประหลาด จนทำให้หวงเจิ้งรู้สึกเพียงว่าใบหน้ากำลังทุ่ม ร้อน จิตใจหวาดหวั่นไม่สงบ
“เธอหุบปากซักที!
หวงเจิ้งที่รู้สึกอับอายจนดมโห กัดฟันพูดต่อ : “ถ้าเธอยัง กล้าพูดเหลวไหลอีกคำเดียว ฉันก็จะให้ตงเชยเปลื้องผ้าหน้าเธอ อย่างไม่แยแสทันที !
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เย่เสี่ยวเตี้ยก้หน้าแดงก่ำ แล้วตอบกลับ ด้วยความเคือง : “ไร้ยางอาย! ”
“คุณหวงครับ การประมูลที่ดินผืนนี้ได้ตกเป็นของคุณแล้ว คุณ ว่าตอนนี้คุณควรจะชำระยอดตามนี้ได้แล้วใช่หรือไม่ครับ ?
กรรมการการประมูลกล่าวถามอย่างระมัดระวัง
“การประมูลครั้งนี้ไม่นับ! ”
และในตอนที่ทุกคนกำลังปากอ้าตาค้างกันอยู่นั้น หวงเจิ้ง ยกมือขึ้นมาชี้นิ้วใส่เย่เสี่ยวเตี้ย แล้วพูดอย่างไร้ยางอายว่า “เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้จงใจโก่งราคาการประมูล ถึงทำให้ผมต้องร้อง ประมูลด้วย 1500ล้านที่สูงเสียดฟ้า”
คำพูดของหวงเจิ้งทำให้ผู้คนต่างเบิกตากว้าง โดยที่แต่ละคน ต่างมองไปที่เขาด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
เขาเป็นผู้สืบทอดตระกูลหวงที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่ง เยี่ยนตูจริงๆ งั้นหรอ ?
ตอนนี้ในสมองของผู้คนส่วนมากต่างก็ปรากฏความสงสัย
แบบเดียวกันขึ้นมา
“คิดไม่ถึงเลยว่าผู้สืบทอดของตระกูลหวง จะเป็นคนจอม ปลอมขนาดนี้เลย”
หลังจากที่เย่เสี่ยวเตี๋ยนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ใบหน้ายิ้มแย้มของเธอ ก็หายไป พร้อมพูดดูถูกอย่างเย็นชา : “ในเมื่อไม่มีเงิน ก็อย่า มาเสแสร้ง ตอนนี้มันจะมาบอกว่าฉันโก่งราคาอีก
“ถึงต่อให้ฉันจะโก่งราคาจริง อย่างนั้นคุณก็อย่าประมูลต่อสี คะ !”
“อีกอย่าง คุณคิดว่าตัวเองบอกว่าใช่ก็ต้องใช่อย่างนั้นหรอ คะ?”
“ตามทฤษฎีความไร้ยางอายของคุณแล้ว คงจะไม่บอกหรอก นะว่า ขอเพียงเป็นใครก็ได้ในตระกูลหวงของคุณมาเข้าร่วมการ ประมูล หากใครก็ตามที่กล้าประมูล คนนั้นก็จะกลายเป็นคนโก่ง ราคาหรอคะ ? ”
เย่เสี่ยวเตี๋ยพูดอย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด คำพูดที่ร่ายยาวออก มานี้ทำเอาสีหน้าของหวงเจิ้งหมองลงอย่างสุดขีด
“นี่เธอรนหาที่ตายชัดๆ ! ”
หวงเจิ้งครามเสียงต่ำ
“ถ้าหากเป็นเพราะเพียงเรื่องแต่นี้ คุณถึงกับจะเอาชีวิตฉันเลย ล่ะก็ อย่างนั้นก็เกรี้ยวกราดเกินไปแล้ว! ”
เยเสี่ยวเตี๋ยยิ้มเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลันพูดต่ออย่าง เฉยชา “ถ้าหากคุณกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บ คุรปู่ของ ฉันไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่นอน!
“ฉันจะไปเอาชีวิตเธอได้อย่างไร ? เธอว่า ถ้าหากหญิงสาวที่ สวยที่สุดของตระกูลเยถูกเปลื้องผ้าตรงนี้ จะถือเป็นการโจมตี ตระกูลเย่ครั้งใหญ่หรือเปล่านะ?
หวงเจิ้งหรี่ตาทั้งสองลงเล็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ย
สีหน้าของเยเสี่ยวเตี้ยเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอกัดริมฝีปาก
แดง แล้วจ้องหวงเจิ้งเขม็ง: “คุณมันหน้าไม่อาย! ”
“ตงเชย เปลื้องผ้าผู้หญิงคนนี้ซะ! ”
เมื่อหวงเจิ้งออกค่าสั่ง ตงเซยก็เดินมุ่งหน้าไปยังเยเสี่ยวเตี้ยที ละก้าวด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ
ทุกคนที่อยู่ในงานต่างพากันตกใจ ใครจะไปคิดว่าการมาร่วม งานประมูล จะได้มาเจอกับการฟาดฟันของสองตระกูลใหญ่แห่ง เยี่ยนตู
ชื่อเสียงของตงเชย จะมีหรือที่เย่เสี่ยวเตี้ยจะไม่เคยได้ยิน
ในตอนนี้เมื่อเห็นว่าตงเชยกำลังมุ่งหน้ามาหาตัวเอง ใบหน้า อันบอบบางของเธอก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเอื้อม มือไปจับมือของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
“คุณจับผมแรงเกินไปแล้ว!
แล้วในตอนนั้นเอง เสียงอันเย็นชาหนึ่งก็ดังขึ้นมา
เย่เสี่ยวเตี้ยตกใจไปชั่วนะ ก่อนที่จะตั้งสติได้ว่า เพราะความ ตื่นเต้นของตัวเองจึงได้เอื้อมไปจับแขนของหยางเฉินเอาไว้
“ขอโทษ ขอโทษค่ะ! ” เย่เสี่ยวเตี๋ยพูดขอโทษอย่างซ้ำๆ
“ถ้าคุณให้สัญญากับผมอย่างหนึ่ง ผมจะช่วยคุณกำจัดปัญหา ตรงหน้าของคุณซะ! ” หยางเฉินพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เย่เสี่ยวเตี๋ยถึงกับอึ้ง จากนั้นจึงพยักหน้า รับอย่างไม่ลังเล : “ขอเพียงสามารถช่วยฉันกำจัดปัญหาได้ ฉัน สามารถตอบตกงคุณได้ทุกเรื่องเลยค่ะ!”
เมื่อพูดจบ ใบหน้าบอบบางของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมา
ทุกคนถึงกับตลึงงัน นี่คุณหยางคิดจะต่อกรกับแปดตระกูล ใหญ่แห่งเยี่ยนตูแล้วงั้นหรอ ?
หวงเจิ้งหรี่ตาลงมองหยางเฉิน แล้วพูดอย่างเยาะเย้ย : “ไอ้ หนุ่ม นี่คุณคิดจะเข้ามายุ่งกับเรื่องของ ตระกูลเย่กับตระกูลหวง งั้นหรอ? ”
ทว่าหยางเฉินกลับไม่มองหวงเจิ้งเลยแม้แต่น้อย เขาหรี่ตาจ้อง ไปยังตงเชยที่เดินมาถึงหน้าของเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ผมขอเตือนคุณให้พาคนโง่เขลาตระกูลหวงคนนี้ไปจากที่นี่ จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเจ้าโง่คนนี้คงจะต้องไปอยู่ในเจียงโจวตลอด
ไปแทน ! ”
บูม!
เมื่อของพูดประโยคนี้ของหยางเฉินถูกพูดออกมา ทุกคนใน งานก็ถึงกับตะลึง !
และแล้ว ทุกอย่างก็ดุเดือดขึ้นอย่างถึงขีดสุด!
“สมกับเป็นคุณหยางจริงๆ แม้แต่แปดตระกูลใหญ่แห่งเยี่ยน
ก็ไม่เกรงกลัวเลยสักนิด!
“อีกฝ่ายเป็นถึงผู้สืบทอดของตระกูลหวงเชียวนะ แต่คุณหยางกลับกล้าข่มขู่ว่าจะทำให้เขาต้องอยู่ในเจียงโจวตลอดไป |
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ