บทที่ 427 น้อมรับราชาเจียงผึ้ง
แต่วินาทีที่เขารู้สึกถึงอันตราย ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว หนิวเกนหุยที่เพิ่งหลบการโจมตีของหัวหน้าสำนักหลง ยกมุม ปากขึ้นเกี่ยวเป็นเส้นโค้งเหี้ยมเล็กน้อย “จบมันได้แล้ว!”
พูดจบ เนื่องจากการขับเคลื่อน ร่างกายจึงยังไม่หยุดนิ่ง พริบ ตาเดียวก็วาดมือออกไป หมัดที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วเข้าเสยคาง ของหัวหน้าสํานักหลงทันที
“Un!”
“แกรก!”
เสียงจุกจากการโจมตีดังขึ้น และแทบจะเป็นเวลากัน เสียง กระดูกหักก็ดังขึ้นด้วย
ร่างของหัวหน้าสำนักหลงกระเด็นออกไปราวกับถูกรถบรรทุก กระแทกใส่
ทุกคนลุกขึ้นพร้อมกันพรวด มองภาพนี้ด้วยความตะลึง แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ วินาทีที่ร่างหัวหน้าสำนักหลงร่วงลงพื้น เงาของหนิวเกนหุยก็ปรากฏขึ้น
ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความเลือดเย็น เอ่ยปาก “ฉันเกลียดพวกไม้ใกล้ฝั่งที่สุด แกตายไปได้แล้ว!”
“wan!”
หนิวเกนหุย หมัดทั้งสอง ใช้หมัดที่ราวกับค้อนเหล็กทุบเข้า กลางอกหัวหน้าสำนักหลงที่กำลังร่วงลงอย่างอิสระ
หลังจากเกิดเป็นเสียงดังสนั่น ร่างของหัวหน้าสำนักหลงก็ตก พื้นอย่างจัง ไม่รู้ว่าการโจมตีที่ทำให้กระดูกหักไปแล้ว ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ต่างตกตะลึงกับการลงสู่พื้นของหัวหน้า
สํานักหลง
พริบตาเดียว สนามอันกว้างขวางก็เงียบกริบ
ทุกคนต่างลุกขึ้นยืน สายตาจดจ่ออยู่กับร่างที่ยืนตระหง่านอยู่ ใจกลางลานประลองอย่างภาคภูมิ
หัวหน้าสำนักหลงที่เปื้อนเลือดไปทั้งตัว นอนกองอยู่ด้านข้าง เจอกับการโจมตีหนักขนาดนี้ มีหรือจะรอด?
“ตายแล้ว?”
ใบหน้าจูกว่างจื้อเต็มไปด้วยความตะลึง แทบจะพูดสองคำนี้ ออกมาด้วยความสะท้าน
คนหนันหญิงล้วนตื่นตระหนก หวาดหวั่นอยู่ในใจ
ที่เมืองหนุนหลัง สำนักมังกรเสือเป็นดินแดนในตำนาน และ หัวหน้าสำนักหลงก็ถูกเห็นเป็นราวกับเทพบนดิน
บัดนี้พวกเขากลับได้เห็นเทพบนดินในใจของผู้คนหนุนหลังถูก หนิวเกนหุยสังหารอยู่บนลานประลองต่อหน้าต่อตา
“ไม่!”
“เป็นไปไม่ได้!”
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
จูกว่างจื้อหวีดร้องเสียงหลง พูดว่าเป็นไปไม่ได้ติดๆ เขารับไม่ได้กับเรื่องที่หัวหน้าสำนักหลงถูกสังหาร
เพื่อเชิญหัวหน้าสำนักหลงออกมา เขาถึงกับยอมทำตามความ ต้องการอีกฝ่ายทุกอย่าง รอได้เมืองเจียงผึ้งกับเมืองหนุนหลัง แล้วยังจะสถาปนาอีกฝ่ายขึ้นเป็นราชาของเมืองนี้อีก
หัวหน้าสำนักหลงอยู่เบื้องหลังของแผนการ และ
และตระกูลจูก็เป็น
ตระกูลใหญ่ที่ออกหน้าช่วยหัวหน้าสำนักหลงควบคุมสองเมืองนี้
ทว่าตอนนี้หัวหน้าสำนักหลงถูกเก็บไปแล้ว ความฝันที่เขาจะ ควบคุมเมืองทั้งสองนี้ก็แตกสลายไปทันที
“เจ้าบ้าน นี่ก็คือราชาที่คุณอยากสถาปนาขึ้นร่วมเป็นเจ้าแห่ง
เจียงผิงกับหนันหยังเหรอ?”
หานเซียวเทียนพูดด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน
จูกว่างจื้อ โมโหพูด “หานเดี่ยวเทียน! อย่างน้อยหัวหน้าสำนัก หลงก็รั้งได้ตั้งนาน แต่ผู้กล้าที่ตระกูลหานเชิญมา กลับตายใน พริบตา คุณมีสิทธิ์อะไรมายิ้มเยาะต่อหน้าผม?”
“ตระกูลหานของผมหาผู้กล้าไม่ได้ แต่เจียงผึ้ง มีราชาเจียงผึ้ง อยู่นี่!”
หานเดี่ยวเทียนยิ้มเย็น ทำหน้าหยิ่ง “เมื่อราชาเจียงผิงปรากฏตัวออกมา ใครยังจะกล้าเทียบเทียมด้วยอีก?”
ตอนนี้เอง หนิวเกนหุยที่ยืนตระหง่านอยู่บนลานประลองอย่าง ภาคภูมินั้น ก็ใช้สายตาจดจ้องที่นั่งคนดู มองร่างชายหนุ่มคน หนึ่ง
“ตอนนี้ แกใสหัวออกมารับความตายได้แล้วละสิ?”
เสียงของหนิวเกนหุยดังก้องไปทั่ว แม้ไม่มีเครื่องมือถ่ายทอด เสียง แต่เสียงของเขากลับระเบิดแก้วหูทุกคน
“ถ้าแกอยากตายนัก ฉันก็จะสงเคราะห์ให้
ท่ามกลางฝูงชน ร่างหนุ่มน้อยคนหนึ่งก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพูด
ไร้คำพูดสิ้นเปลือง สองประโยคนั้นกลับสะเทือนลั่นไปทั้งพื้นที่
“หยาง…หยางเฉิน”
เมื่อหวังหย่งเห็นชายหนุ่มข้างๆ ที่ลุกขึ้นดึงดูดสายตาผู้คนแล้ว ก็ตกใจจนพูดไม่ออก
ส่วนหลังหยวนหยวนกับสกุลที่ดูแคลนหยางเฉินมาตลอด เวลานี้กลับสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง เอา มือปิดปากตัวเอง
ราชาเจียงผึ้งนั่งอยู่ข้างพวกเขามาตลอด แต่พวกเขากลับไม่รู้
เลย!
“จะ…จะ…เป็นเขาไปได้ยังไง?”
ท่ามกลางฝูงชน ตอนที่เท่านเห็นหยางเฉิง จิตใจก็เหม่อลอยจนเกือบสะดุดล้ม
แต่เธอกลับไม่รู้ว่าเย่เสี่ยวเตี้ยที่นั่งอยู่ข้างเธอ และไม่สนใจ เรื่องงานต่อสู้เลยจะตัวสั่นระริกเพราะความตื่นเต้นด้วย
“ในที่สุดฉันก็หาคุณพบจนได้!
เย่เสี่ยวเตี๋ยพูดพึมพำ ดวงตาทั้งสองมีน้ำตาไหลรินเป็นสาย “สารเลว! จะลุกขึ้นยืนทำไม?!
เขาเรียกหาราชาเจียงผึ้ง แกจะมาเต๊ะท่าหาพระแสงอะไร ฮะ?”
“ถ้าแกอยากตายก็อย่าทำให้พวกเราเดือดร้อนด้วยก็แล้ว กัน!”
หลังจากหลัวหยวนหยวนกับสวลีที่อยู่ข้างหยางเฉิงตะลึงค้าง
ไปชั่วครู่แล้วก็เกิดโทสะ
จะให้พวกเธอเชื่อได้อย่างไรว่าหยางเฉิงก็คือราชาเจียงผึ้ง
เมื่อได้ฟังคำพูดของสองสาวแล้วหวังหย่งก็ร้อนใจ เมื่อคิดขึ้น ได้จึงรีบลุกขึ้นยืนฉุดแขนหยางเฉิน จากนั้นก็รีบพูด “หยางเฉิน นายรีบนั่งลงเร็ว อย่ารนหาที่ตายเลย!
หยางเฉินมองหวังหย่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย เปิดปากพูด “เห็น แก่ที่เป็นเพื่อนกันมาหลายปี ผมขอเตือนนะ ไปจากผู้หญิงคนนั้น เถอะ!”
ว่าแล้วหยางเฉินก็ไม่พูดอะไรอีก สาวเท้าตรงไปยังลานประลองทันที
คำพูดของหยางเฉิงก้องในโสตประสาทหวังหย่งครั้งแล้วครั้ง เล่า เขากําหมัดทั้งสองแน่น
เขาหรือไม่อยากไปจากผู้หญิงคนนี้?
แต่…เขามีเหตุจําเป็นต่างหาก
“สารเลว! เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ก็แค่ไอ้คนจน ยังกล้ามา ยุ่งเรื่องของฉันอีก!”
หลังจากที่หยางเฉินไปไกลแล้ว หลัวหยวนหยวนถึงได้ฉุกคิด ขึ้นมาได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
สวลี่มองแผ่นหลังที่จากไปของหยางเฉินด้วยความเย็นชา เอ่ย ขึ้น “หยวนหยวน เธออย่าเพิ่งโมโหไป ฉากเด็ดกำลังจะเริ่ม! ไอ้ คนจนนั่นถึงกับกล้ามาแอบอ้างเป็นราชาเจียงผึ้ง ยอดฝีมือสมา คมบูโดบนเวทีคนนั้นต้องไม่ปล่อยมันไปแน่
“จริงด้วย! เขาแอบอ้างเป็นราชาเจียงผึ้ง มีแต่ต้องตายสถาน เดียว!” แววตาหลัวหยวนหยวนเต็มไปด้วยความเหี้ยม
เวลานี้หวังหย่งก็ได้สติแล้วเช่นกัน ในใจสับสนมาก ทั้งเป็น ห่วงหยางเฉินทั้งตื่นเต้น
ที่เป็นห่วงคือ หากหยางเฉินแอบอ้างเป็นราชาเจียงผึ้งจริง เช่น นั้นเขาก็ต้องตายไร้ดินฝังกลบแน่
แต่หาก…หยางเฉินก็คือราชาเจียงผึ้งจริงๆ ล่ะ?
เมื่อคิดว่าเพื่อนที่ถูกตนปกป้องอาจเป็นราชาเจียงผึ้ง หวังหย่ง ก็ตื่นเต้น สองมือกําหมัดแน่น แอบภาวนา ในใจ
“หานเซียวเทียน เจ้าบ้านหานแห่งเจียงผิง ขอเป็นตัวแทน
ตระกูลทุกคนน้อมรับราชาเจียงผิงครับ!” “เฉินชิงไห่เจ้าบ้านเฉินแห่งเจียงผึ้ง ขอเป็นตัวแทนตระกูลทุก
คนน้อมรับราชาเจียงผิงครับ!”
“กวนเจิ้งซาน เจ้าบ้านกวนแห่งเจียงผึ้ง ขอเป็นตัวแทนตระกูล ทุกคนน้อมรับราซาเจียงผิงครับ!!
วินาทีที่หยางเฉินเดินออกจากที่นั่งคนดู ทุกคนฝั่งที่นั่งของ ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงผิงก็ลุกขึ้นพริบ
เจ้าบ้านกว่ายี่สิบตระกูลพากันนำคนในตระกูลหันไปโค้ง
คำนับทางหยางเฉิน
“หูย!”
ทุกคนอีกทีกคึกโครมทันที ต่างรู้สึกว่าเลือดลมในร่างกายของ ตนกำลังเดือดพล่าน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวพวกนั้น
เมื่อได้เห็นหยางเฉินก็ตื่นเต้นกันสุดขีด
ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้ แถมยังทำให้ เจ้าบ้านตระกูลใหญ่กว่ายี่สิบตระกูลโค้งคำนับอีก
เสียงน้อมรับราชาเจียงผิงดุจคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่า หลังไหลมาจากทั่วสารทิศ เสียงตะโกนจากทั้งสนามกระหมพร้อม เพียง
และท่ามกลางฝูงชน หลัวหยวนหยวนกับสวลีที่เพิ่งถากถาง หยางเฉินต่างตะลึงงัน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ