The king of War

บทที่ 333 ดนตระกูลหวง



บทที่ 333 ดนตระกูลหวง

หยางเฉินยังคงอยู่ห่างจากหม่าชาว ในระยะหนึ่ง แต่เขาผู้ที่มี ประสาทสัมผัสในการฟังที่ดี จึงได้ยินคำพูดของชายหนุ่มคนนั้น อย่างชัดเจน

นามสกุลหวง และยังเป็นคู่หมั้นของอ้ายหลินอีกด้วย ดูแล้ว ต้องเป็นคนของตระกูลหวง หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเย็นอย่าง แน่นอน

ก่อนหน้านี้อ้ายหลินเคยบอกหยางเฉินแล้วว่าเธอจะสละความ สุขของเธอเพื่อแต่งงานกับคนตระกูลหวง

แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะตามมาถึงเจียงโจวเลย

“หยางเฉิน ดูเหมือนพี่อ้ายกำลังมีปัญหาอยู่นะ เรารีบเข้าไปดู กันเถอะ!”

ฉินซีก็สามารถรับรู้ถึงบรรยากาศแห่งความตึงเครียดจากที่

ไกล

ซึ่งข้างหลังหวังอันยังมีชายวัยกลางคน ในชุดจีนคนหนึ่ง แม้ ร่างกายของเขาจะไม่แข็งแรงเท่าหมาซาว แต่ออร่าในตัวเขาไม่ ได้ด้อยกว่าหม่าชาวเลย และเห็นได้ชัดว่าเขาก็เป็นยอดฝีมือคน หนึ่ง

แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้น่าแปลกใจเลยที่คนรุ่นใหม่ของแปด ตระกูลแห่งเย็นตูจะมีคนคุ้มกันอยู่ข้างกาย และมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

“คุณมาได้ไง?”

เมื่ออ้ายหลินเห็นหวงอัน สีหน้าของเธอก็ดูไม่มีความสุขทันที จากนั้นเธอเดินอ้อมหม่าชาวแล้วพูดกับหวงกันอย่างไม่สบ อารมณ์

แม้หม่าซาวจะปฏิเสธการจับมือทักทาย แต่หวงอันก็ไม่ได้รู้สึก โกรธ เขาเพียงแค่ดึงมือกลับไปแล้วยิ้มจางๆ บนใบหน้า “ผมมา ทำธุระส่วนตัวกับผู้อาวุโสของตระกูลที่เจียงโจว พอดีได้ข่าวว่า คุณอยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมาหา

“พี่ชาว ซ้อ ขอโทษด้วยนะที่ให้พี่สองท่านรอนานเลย!

ในขณะนี้หยางเฉินกับฉินซีได้เดินเข้ามา และหยางเฉินก็พูด ด้วยรอยยิ้ม

แต่คําว่า ชาวกับช้อของหยางเฉินได้ทำให้หม่าชาวกับอ้าย หลินถึงกับตกใจ แต่ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าใจเจตนา ของหยางเฉิน

ในทางกลับกัน หวงอันที่ได้ยินคำพูดของหยางเฉินเมื่อครู่นี้ ความเป็นคุณชายของเขาก่อนหน้านี้ได้หายไป และแทนที่ด้วย ความเย็นชาทันที

“ไอ้หนู นายเรียกอ้ายหลินว่าอะไรนะ?”

หวงอินทรี่ตามมองหยางเฉิน และน้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วย กลิ่นอายแห่งการสังหารที่รุนแรง
แต่บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างหลังกลับรู้สึกถึงแรงกดดันอัน มหาศาลจากตัวของหยางเฉิน เขาจึงขยับตัวเข้าใกล้หวงอันตาม สัญชาตญาณ

“คุณไม่เข้าใจภาษาคน? หรือว่าหูของคุณมีปัญหาครับ?”

หยางเฉินพูดอย่างเฉยเมยพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก

ของเขา

“อยากตายใช่มั้ย!

หวงอันโกรธทันที

“หวงอัน คุณจะทำอะไร?

อ้ายหลินก็เดินเข้ามาขวางอยู่ตรงหน้าหยางเฉินด้วยความไม่

พอใจ

เธอรู้สถานะของหยางเฉินดี และเธอรู้ว่าด้วยอิทธิพลของหยาง เฉินแล้ว เขาไม่จําเป็นต้องให้เกียรติหวงอันเลยก็ได้

แต่ตระกูลหวงที่อยู่เบื้องหลังหวังอันอาจจะสร้างปัญหา มากมายให้กับหยางเฉินได้

เธอจึงไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวของเธอต้องเป็นเหตุในการเป็น ภาระของคนอื่น

“อ้ายหลิน คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่?

หวงอันเพ่งมองไปที่อ้ายหลินแล้วพูดอย่างโกรธเคือง “คุณ เป็นคู่หมั้นของผม แต่คุณกลับปกป้องผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผมคุณรู้ตัวไหม การกระทำของคุณไม่ได้ต่อต้านแค่ผมคนเดียว แต่ คุณต่อต้านตระกูลหวงทั้งตระกูลของผม!

“ฉันเคยสัญญาจะแต่งงานกับคุณเมื่อไหร่?” อ้ายหลินพูดอย่าง โกรธเคือง

“เพราะผู้ชายคนนี้?”

หวงอันยื่นมือออกมาชี้ไปที่หน้าชาวแล้วถามด้วยความโกรธ

“คุณยังไม่ได้แต่งงาน และยังก็ยังโสด ฉันจะอยู่กับใครมัน เกี่ยวอะไรกับคุณไหม?”

ในเวลานี้ อ้ายหลินแสดงท่าทีแข็งกร้าวแล้วยื่นมือออกไป ดวงแขนของหม่าชาว

“คุณไม่กลัวการกระทำของคุณจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับ ครอบครัวตระกูลอ้ายเหรอ?”

หวงอันหรี่ตาแล้วพูดอย่างข่มขู่

“ที่แท้ก็ลูกแหง่อีกคนที่คอยพึ่งพาครอบครัวสินะ

หยางเฉินยิ้มพูดอย่างเย้ยหยัน

“ไอ้หนู นายเชื่อไหมว่าข้าจะฆ่านายที่นี่ได้อย่างไม่มีอุปสรรค เลย?” หวงอันจ้องเขม็งไปที่หยางเฉิน

หยางเฉินสายตาเย็นชา “คุณรู้ไหมว่าผมเกลียดอะไรมาก

ที่สุด?”

“อะไร?”
หวงอันถามกลับด้วยสัญชาตญาณของคนสงสัย

“สืบ!”

ในขณะที่เสียงพูดของเขาลดลง หยางเฉินก็หายตัวไปในทันที

“คุณชายอัน ระวังครับ!!

บอดี้การ์ดชุดจีนที่อยู่ข้างๆ ตกใจตะโกนออกมาและพยายาม หยุดหยางเฉิน

ในขณะที่บอดี้การ์ดชุดจีนเพิ่งขยับตัว หยางเฉินก็ปรากฏตัว ต่อหน้าหวงอันก่อนและบีบคอของเขาไว้

“ไสหัวไปให้พ้น!”

หยางเฉินตะคอกใส่บอดี้การ์ดชุดจีนด้วยความโกรธ

ด้วยเสียงตะโกนราวกับเสียงฟ้าร้องที่ระเบิดใส่หูของบอดี้ การ์ดชุดจีนคนนั้น ร่างกายของเขาถึงกับสะดุ้งและถอยหลังไป หลายก้าว

หลังจากที่เขาตั้งสติได้ เขาถึงพบว่าหวงอันถูกหยางเฉินยกขึ้น ด้วยมือข้างเดียว สองขาของเขาถึงกับลอยขึ้นจากพื้นและ พยายามดิ้นรนอย่างไม่หยุด

“คุณจะบีบบังคับให้อ้ายหลินแต่งงานด้วยงั้นเหรอ?”

“คุณคิดจะกดขี่ตระกูลอ้ายใช่ไหม?”
“คุณคิดจะฆ่าผมที่นี่ด้วยใช่ไหม?”

“คุณกล้าผม คุณเอาความกล้านี้มาจากไหน คุณมีสิทธิ์อะไร ถึงทําแบบนี้ได้?”

คำพูดของหยางเฉินเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจหวังอัน

ทุกครั้งที่หยางเฉินถามคำถาม แรงบีบที่คอก็จะแน่นขึ้น และ หลังจากสี่คําถามติดต่อกัน หวงอันก็รู้สึกว่าคอของเขากำลังจะ หัก เขากลัวจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง

และในตอนนี้ หวงอันได้รู้สึกถึงเส้นบางๆ ที่ขีดขั้นความตาย ของเขา

สําหรับบอดี้การ์ดชุดจีนที่ยืนอยู่ด้านหลังหวงอัน เขาตกใจกับ เสียงตะคอกของหยางเฉินและไม่กล้าเข้าใกล้อีก

“พี่เฉิน! หยุดเถอะ! ปล่อยเขาลงเถอะ!”

หลังจากนั้น อ้ายหลินตั้งสติได้และรีบตะโกนเรียก

เธอไม่อยากเสียสละความสุขของตนเพื่อครอบครัวก็จริง แต่ เธอก็ไม่อยากให้ครอบครัวต้องเผชิญกับความพินาศเพราะตัว เธอเองเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหยางเฉินฆ่าหวงกันจริงๆ เธอต้องเดือดร้อน

ไปด้วยอย่างแน่นอน

“เสี่ยว รีบห้ามหยางเฉินเร็วเข้า

เมื่อเห็นหยางเฉินไม่ตอบสนองใดๆ อ้ายหลินจึงรีบขอความช่วยเหลือจากฉินซี

ฉินซีเองก็เพิ่งตั้งสติได้ เธอจึงรีบพูดอย่างกังวลว่า “ที่รัก ปล่อยเขาลงเถอะ! ไม่อย่างนั้นเขาจะตายได้นะ!

เมื่อได้ยินเสียงของฉินซี ดวงตาสีแดงเลือดของหยางเฉินถึงจะ ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ

“เพื่อเห็นแก่พี่อ้าย ผมจะยอมไว้ชีวิตคุณสักครั้ง!

หยางเฉินเหวี่ยงมือออกไปและหวงอันก็ถูกโยนออกไปหลาย เมตร จากนั้นเขาฟาดลงกับพื้นและหายใจอย่างรุนแรงเหมือน สุนัขที่กำลังจะตาย

เมื่อครู่นี้ เขาได้ยืนอยู่บนเส้นขั้นบางๆ ของความตายแล้ว จากนั้นสักพัก หวงอันถึงค่อยๆ ฟื้นตัวและลำคอของเขาที่ถูก หยางเฉินบีบยังทิ้งรอยที่ชัดเจนไว้

“ไปสืบข้อมูลมา ให้ข้ารู้ว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นใครกันแน่!!

เมื่อมองไปยังทิศทางที่หยางเฉินกับคนอื่นๆ เดินจากไป หวง อันก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ

เขาเป็นถึงหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเย็นตู และยังเป็นทายาทคน สำคัญของตระกูลหวง อย่าว่าแต่เจียงโจวแค่เมืองเดียวเลย แม้แต่อีกหลายสิบจังหวัดของจิ๋วโจวยังต้องให้เกียรติเขา เขา เป็นถึงมหาเศรษฐีระดับต้นๆ ของ เมืองเยนด้วยซ้ำ แล้วใครจะ กล้าทําเช่นนี้กับเขาได้
แต่แล้ว เด็กหนุ่มอายุยี่สิบหกคนนี้เกือบจะฆ่าเขาตายกลาง ถนนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อัปยศอดสูสำหรับเขามาก

ในเวลานี้ หยางเฉินและคนอื่นๆ ได้เข้าไปในร้านอาหารเปีย หยวนซุน

ในห้องอาหารนั้น อ้ายหลินรู้สึกหดหู่ใจมาก ดวงตาของเธอ แดงเล็กน้อยและเธอนั่งอยู่กับที่ไม่พูดอะไรสักคำ

หม่าชาวได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ เธอและไม่รู้ว่าจะปลอบใจเธอ อย่างไร

“พี่อ้าย อย่าเครียดไปเลยนะ เชื่อหนู มีพี่ชาวอยู่ทั้งคน ไม่มี ใครทําร้ายพี่ได้หรอก”

ฉันชกุมมือของอ้ายหลินแล้วปลอบโยนเธอ

หม่าชาวก็พูดขึ้นว่า “ใช่ ใช่ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้าย คุณได้”

หยางเฉินก็พูดขึ้นเช่นกัน “พี่อ้าย อย่าคิดมากไปเลยครับ ตราบใดที่เป็นสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่มีใครบังคับพี่ได้หรอก!

อ้ายหลินมองพวกเขาด้วยความซาบซึ้งแล้วตอบว่า “ขอบคุณ ทุกคนนะ!”

อาหารมื้อนี้ถูกลิขิตให้เป็นมื้อที่ไม่น่าจดจำแล้ว แต่ก่อนที่จะ ทุกคนจะจากกันไป อ้ายหลินพูดขึ้นอย่างกะทันหันว่า “พรุ่งนี้ ฉัน จะกลับไปที่เมืองเยนตูนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างก็เงียบลง

การที่อ้ายหลินมาเจียงโจวในครั้งนี้ เธอตั้งใจจะมารักษาดิน ต้าหย่ง และในวันนี้ฉันต้าหญิงก็ได้ฟื้นคืนสติแล้ว อีกอย่างเธอก็ อยู่ที่นี่มาสักพักแล้วด้วย ฉะนั้นจึงถึงเวลาที่เธอต้องไปจากที่นี่ จริงๆ แล้ว

“ครับ งั้นพรุ่งนี้ผมกับหม่าชาวจะไปส่งนะครับ!” หยางเฉินพูด

เขารู้ว่าหลังจากอ้ายหลินกลับไปเมืองเยนในครั้งนี้ บางทีเธอ อาจจะทําตามข้อตกลงของครอบครัวและแต่งงานกับคนของ ตระกูลหวงก็ได้

แม้หยางเฉินอยากให้หม่าชาวกับอ้ายหลินได้อยู่ด้วยกัน แต่ เขารู้จักนิสัยของอ้ายหลินดี อะไรก็ตามที่เธอตัดสินใจไปแล้ว ต่อ ให้หม่าชาวจะพาคนเป็นพันๆ หมื่นๆ ไปที่บ้านตระกูลอ้ายเพื่อขอ เธอแต่งงาน เธอก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจอยู่แล้ว

เว้นแต่เธอตั้งใจจะอยู่กับหม่าชาว

แต่ในตอนนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังไม่ถึงขั้นคุยถึงเรื่อง การแต่งงานกัน

หม่าชาวถึงกับหม่นหมองไป จากนั้นเขายกชาแก้วใหญ่ขึ้นมา แล้วดื่มจนหมดแก้วในทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ