บทที่ 315 คู่นอนของหยางเฉิน
“ไปกันเถอะ ผมได้จองโตะ ในร้านอาหารไว้แล้ว ไปกินข้าวกัน ก่อน ค่อยไปหาพ่อตาของผมก็ได้ครับ หยางเฉินพูดไปยิ้มไป ไม่ รอให้อ้ายหลินตอบ เขาก็เดินตุ่มๆ ออกไปแล้ว
เขานั้นรู้ดี ว่าถ้าอ้ายหินเข้าสู่โหมดทำงานแล้ว สามารถเปรียบ เปลือยด้วยค่าว่าบ้าคลั่งได้เลย ถ้าปล่อยให้เธอไปหาฉันต้าหญิง ตอนนี้ละก็ เกรงว่าคงต้องลากยาวไปจนถึงช่วงข้าวเย็นแน่นอน
ทั้งสามไปยังร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล ที่มีชื่อว่า หนานเยวียนเชียง
คนที่มาดโรงพยาบาลในช่วงนี้ หยางเฉินก็พามาเลี้ยงข้าวที่นี่ ทุกคน รสชาติถือว่าใช้ได้อยู่
“พี่อ้ายครับ ผมอยากถามพี่หน่อย การที่ลู่เหวินจิ้นเปลี่ยนได
ไปแล้ว เธอยังสามารถมีชีวิตได้อีกนานแค่ไหนครับ?”
“โอกาสรอดของการเปลี่ยนถ่ายไตหลังระยะเวลาหนึ่งปี คือ95.2% โอกาสรอดของการเปลี่ยนถ่ายไตหลังระยะเวลาสาม ปีคือ85.3% โอกาสรอดของการเปลี่ยนถ่ายไตหลังระยะเวลาห้า ปีคือ74.2% โอกาสรอดของการเปลี่ยนถ่ายไตหลังระยะเวลาสิบ ปีคือ59.1% สิ่งที่จะกระทบต่อการเปลี่ยนถ่ายไตหลักๆ ก็คือการ ต่อต้านของร่างกายที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ
อ้ายหลินพูดต่อ “การที่จะตอบว่าสามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่นั้น ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่กรณีของลู่เหวินจิ้นนั้นถือว่าค่อนข้างดี
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะมีชีวิตได้อีกประมาณสิบปีค่ะ”
หยางเฉินพยักหน้า ถึงแม้จะอยู่ได้อีกแค่ประมาณสิบปี แต่ สำหรับลู่เหวินจิ้นนั้น มันก็ถือว่าดีมากๆ แล้ว
ไม่นาน อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
อ้ายหลินนั้นก็หิวแล้วจริงๆ เธอกินข้าวหมดไปชามใหญ่ พอกินอิ่มแล้ว จู่ๆ หยางเฉินก็ถามขึ้นมาว่า “พี่อ้ายครับ ก่อน หน้านี้ที่พี่บอกว่า ตระกูลอ้ายหาคู่ให้พี่นั้นเรื่องมันเป็นมายังไงกัน แน่ครับ?”
หม่าชาวที่เงียบมาโดยตลอด พอได้ยินหยางเฉินพูดถึงเรื่อง การหาคู่ให้อ้ายหลิน ก็รีบหนึ่งขึ้นมาทันที
“ฉันอายุสามสิบแล้ว ถ้ายังไม่แต่งอีก มันก็จะแก่เกินไปแล้ว
จริงๆ”
“ก่อนหน้านี้ตอนที่พาทีมแพทย์ไปที่ชายแดนเหนือ ความจริงก็ เพื่อหนีเรื่องที่ถูกเร่งให้แต่งงานนี่แหละ รวมถึงการที่ไปต่าง ประเทศในครั้งนี้ การที่ไปดำเนินการภารกิจการช่วยเหลือ ทางการแพทย์ระหว่างประเทศนั้น ก็เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องนี้เหมือน กัน”
“ครั้งนี้ถ้าฉันกลับไปอีก ก็ไม่มีทางหนีได้อีกแล้ว บางทีฉันอาจ จะยอมทำตามความต้องการของตระกูล แต่งงานไปอยู่กับ ตระกูลหวงก็ได้”
อ้ายหลินพูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่น แววตาค่อนข้างเจ็บปวด “บางที นี่อาจจะเป็นความเจ็บปวดที่ได้เกิดมาอยู่ในตระกูลใหญ่ ก็ได้ ไม่มีอิสรเสรี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ตระกูลต้องการ
“ตระกูลหวงอย่างนั้นเหรอ? ตระกูลหวงที่เป็นหนึ่งในแปด ประตูแห่งเย็นใช่มั้ยครับ?” หยางเฉินถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
อ้ายหลินพยักหน้า “รุ่นที่สามของตระกูลหวง มีคนรุ่นหลังที่ อายุยังน้อยอยู่คนหนึ่ง เขาเองก็อายุสามสิบแล้ว ยังไม่ได้ แต่งงาน คนในตระกูลอยากให้ฉันแต่งงานกับเขา
“ตระกูลอ้ายมีสิทธิ์อะไรมากำหนดการแต่งงานของพี่
หม่าชาวที่นั่งเงียบมาโดยตลอด จู่ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นมา แถมยัง ทำหน้าโมโหด้วย จนทำให้หลายคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันหัน มามอง
หยางเฉินเองก็อึ้งไปเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าเขาจะตอบสนองได้
แรงขนาดนี้
“ขอโทษครับ!”
หม่าชาวตั้งสติได้ทันที จึงรีบพูดขอโทษ แล้วนั่งลงที่เดิม รินซา ให้ตัวเองแก้วใหญ่ แล้วกระดกทีเดียวจนหมดแล้ว
“ความจริง ทางตระกูลนั้นได้ทำดีต่อฉันมากแล้ว ถ้าเป็นคนรุ่น เดียวกันของตระกูลอื่นละก็ แค่อายุยี่สิบกว่าก็ถูกจัดการหมั้น หมายแล้ว จะว่าไป ฉันก็เป็นอิสระมากกว่าคนอื่นมาเป็นสิบปี แล้ว” อ้ายหลินยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง อีกอย่าง ฉันเองก็อายุสามสิบเข้าไป เลยเวลาที่จะต้องแต่งงานไปแล้วด้วย ถ้ายังไม่รีบ แต่ง ก็ไม่มีใครเอาแล้ว
“ใครบอกครับว่าพี่ไม่มีคนเอา?!
หม่าชาวท่าทางตื่นเต้น จ้องมองอ้ายหลินด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แล้วๆ อึ้งๆ ออกมาเบาๆ ว่า “ผมเอา!”
แต่ว่า เสียงของหม่าชาวนั้นเบาเกินไป อ้ายหลินจึงได้ยินแค่ ประโยชน์หน้า แต่สองพยางค์สุดท้ายที่สำคัญที่สุดอย่าง “ผม เอา” นั้นกลับไม่ได้ยิน
“นายพูดว่ายังไงนะ?
อ้ายหลินถามไปด้วยความสงสัย
เมื่อกี้ เนื่องจากหม่าชาวตกอยู่ในความร้อนรน ถึงได้พูดคำนั้น ออกไป ถ้าจะให้เขาพูดต่อหน้าอายหลินอีกครั้ง ยากมาก
“เขาบอกว่า ตระกูลอ้ายนั้นทำเกินไป ไม่ควรเห็นแก่ผล ประโยชน์ของตระกูล และทำให้พี่ต้องเสียสิทธิ์ที่จะได้เลือกไป
แล้วหยางเฉินก็ได้พูดออกมา เพื่อช่วยแก้ต่างให้หม่าชาว
เดิมทีความสามารถในการได้ยินของเขานั้นก็ดีเป็นพิเศษอยู่ แล้ว คำพูดที่หม่าชาวพูดมาเมื่อกี้ เขาเองก็ได้ยินทั้งหมด
แม้แต่เขาก็ยังไม่คาดคิดว่าหมาชาวเกือบจะสารภาพรักไป
แล้ว
เขานั้นอยากเชียร์คู่ของอ้ายหลินกับหม่าชาว แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ตอนนี้ ไม่ได้อยู่ในขั้นที่จะสารภาพความในใจเลย
ถ้าอ้ายหลินเกิดได้ยินคำพูดของหม่าชาวเมื่อเข้าจริงๆ เกรง ว่าความรู้สึกระหว่างทั้งคู่ อาจจะอึดอัดยิ่งกว่าเดิม
พอได้ยินคําอธิบายจากหยางเฉิน หม่าชาวก็ทำหน้าตื้นตัน แต่ อ้ายหลินนั้นกลับยิ้มออกมา “ขอบคุณนะ ไอ้ชาว!”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ!”
หม่าชาวพูดด้วยสีหน้าที่แดง
“เอาล่ะ ไม่ไปพูดถึงเรื่องที่ชวนอารมณ์เสียพวกนั้นแล้ว มาพูด ถึงเรื่องของพวกคุณดีกว่า!”
อ้ายหลินถามด้วยรอยยิ้ม “พี่เฉินนั้นแต่งงานไปแล้ว และมี ลูกสาวที่น่ารักหนึ่งคน ตอนนี้ก็มีความสุขมาก! ไอ้ชาว แล้วนาย ล่ะ? ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
หม่าชาวตอบอย่างตรงไปตรงมา “ยังคนอยู่ตัวคนเดียวครับ!!
“ทำไมถึงไม่หาแฟนสักคนที่เมืองเจียงโจวล่ะ?” อ้ายหลินถาม “เพราะว่า ในใจของผมนั้น ได้ถูกผู้หญิงคนหนึ่ง เติมเต็มไป แล้วครับ!”
จู่ๆ หม่าชาวก็พูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง
แต่พอพูดจบ เขาก็ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองหน้าอ้ายหลิน อายหลินนั้นรู้มาโดยตลอดว่าหม่าชาวนั้นชอบเธอ ตอนนี้จึง ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ และไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสามต่างก็เงียบไป จนบรรยากาศเริ่มผิดปกติ
“ไปกันเถอะ! ตอนแต่เช้า พี่อ้ายยังไม่ได้พักเลย เดี๋ยวรอให้ ตรวจพ่อตาของผมเสร็จแล้ว พี่อ้ายก็รีบไปพักผ่อนเลยนะครับ หยางเฉินลุกขึ้นแล้วพูดออกไป
ตอนที่ทั้งสามมาถึงในห้องคนไข้นั้น นอกจากฉินซีกับฉันต้า หย่งแล้ว โจวซุยเองก็อยู่ที่นี่ด้วย
“พี่เฉิน นี่ก็คือภรรยาของคุณ คุณฉันใช่มั้ยคะ?”
ไม่รอให้หยางเฉินได้แนะนำ อ้ายหลินก็มองไปยังฉินซีด้วย สีหน้าที่ยิ้มแย้ม
นี่คือครั้งแรกที่เธอได้เจอกับฉินซี ต่อให้เป็นเธอ ก็ยังต้องทึ่ง เลย
หยางเฉินพยักหน้า แล้วทำการแนะนำให้กับฉินซี “เสี่ยว เธอ
คนนี้ก็คือพี่อ้ายที่ผมเคยพูดกับคุณ หมอผู้เชี่ยวชาญที่นานา
ประเทศต่างก็รู้จักครับ
“พีอ้าย สวัสดีค่ะ!”
พอฉินซีได้ยินแบบนั้น เธอก็รีบก้าวมาข้างหน้า และยื่นมือออก ไปจับมือกับอ้ายหลินอย่างอัตโนมัติ แล้วพูดด้วยความดีใจว่า “ฉันได้ยินหยางเฉินพูดถึงพี่ปล่อยๆ ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอสักที”
อ้ายหลินหันมองหยางเฉินด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แล้วถามฉินซี ไปว่า “เขาคงไม่ได้เล่าอะไรแย่ๆ ของฉัน ให้คุณฟังหรอกใช่มั้ย ค่ะ?”
“พี่อ้าย ผมเหมือนคนที่จะแอบนินทาเรื่องแย่ๆ ของคนอื่นลับ หลังรีไงครับ?” หยางเฉินพูดด้วยที่หน้าที่ขมขื่น
“ใครจะไปรู้ล่ะ?” อ้ายหลินพูดไปยิ้มไป
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าที่จนใจ “พี่อ้ายครับ พี่เลิกหยอกผมได้ แล้ว รีบไปดูอาการของพ่อตาผมเถอะครับ
อ้ายหลินถึงได้มองไปที่ฉันต้าหย่ง และเตรียมที่จะทำการตรวจ “เดี่ยวก่อน!”
อ้ายหลินกำลังจะตรวจชีพจร ตอนที่ยังไม่ทันได้แตะโดนข้อมือ ของฉันต้าหย่ง ก็ถูกโจวยขวางเอาไว้ซะก่อน “นี่เธอเป็นใคร? เป็นหมออย่างนั้นเหรอ? มีใบรับรองของแพทย์มั้ย? ถ้าเกิดว่า ไม่มี ก็ห้ามแตะต้องสามีของฉันเด็ดขาด!
“แม่คะ นี่แม่ทำอะไรคะ? พี่อ้ายเป็นเพื่อนที่ดีของหยางเงินค่ะ เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เก่งมากๆ หยางเฉินได้เอาผลวินิจฉัยของพ่อให้ พี่อ้ายแล้วค่ะ และพี่อ้ายก็บอกว่า มีความหวังมากๆ ที่พ่อจะฟื้น ขึ้นมาได้” ฉินซีรีบพูดขึ้นมา
โจวชุ่ยนั้นรู้ตั้งนานแล้ว ว่าหยางเฉินนั้นจะหาคนมาดูอาการ ของฉันต้าหย่ง และรู้ดีว่าฉันต้าหย่งนั้นมีหวังที่จะฟื้นขึ้นมาได้ มาก
แต่ก่อนหน้านี้ ที่เธอทำตัวโหดเหี้ยมกับฉันต้าหย่ง พูดอะไรไป มากมาย รวมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันต้าหย่ง ก็เธอนั่นแหละที่จ้าง คนมาทําเอง
เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันต้าหย่งเกิดฟื้นขึ้นมา สิ่งที่เธอทำมาทั้งหมด มันก็จะถูกเปิดโปง
ตอนนี้อ้ายหลินจะมารักษาให้ฉันต้าหย่ง เธอก็ต้องไม่ยอมอยู่
แล้ว
“หยางเฉินบอกว่าแม่นี่เป็นก็เป็นผู้เชี่ยวชาญได้แล้วใช่มั้ย?”
โจวยยยืนขวางอยู่ตรงหน้าของฉันต้าหญิง จ้องหน้าอ้ายหลิน อย่างเหี้ยมโหด และด่าทอไปว่า “ดูแล้วเธออายุยังไม่ถึงสามสิบ เลยมั้ง? แล้วจะไปเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ยัง ไง?”
“เธอคงไม่ใช่คู่นอนของหยางเฉินหรอกใช่มั้ย มันเป็นคนพา เธอมา เพื่อจะทำสามีฉันให้ตายใช่มั้ย?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ