The king of War

บทที่ 503 ผู้นำประนีประนอม



บทที่ 503 ผู้นำประนีประนอม

ในฐานะอดีตทายาทของวงศ์ตระกูล เขาจะไม่ยอมให้ใคร ก็ตามที่มีความสามารถมากกว่าเขาปรากฏตัวขึ้น ต่อให้มีก็ไม่ ยอมรับ

แม้แต่เขาก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แล้วเขาจะเชื่อคำพูดของหวัง เฉินได้อย่างไร?

“นี่คุณแพ้ไม่เป็นเหรอ?” หวังเฉินถามอย่างเย้ยหยัน ไร้ซึ่ง

ความกลัว

“ผมหยูเหวินหนูไม่เคยแพ้ แล้วทำไมยังต้องพูดว่าแพ้ไม่เป็น อีก?”

หยูเหวินหวูสีหน้าหยิ่งผยอง กล่าวอย่างเย็นชา “ทุกคนในตระ กูลอวี่เหวินกำลังพูดคุยกันถึงวิธีแก้ปัญหา คุณเพิ่งออกไปชั่วโมง เดียว จู่ๆ ก็บอกว่าคุณเป็นคนแก้ปัญหา แล้วจะมีใครเชื่อล่ะ?”

“แน่นอน ถ้าคุณต้องการให้พวกเราเชื่อคุณ ก็ต้องแสดงหลัก ฐานให้พวกเราเห็น ขอเพียงคุณพิสูจน์ได้ว่าคุณเป็นคนแก้ไข ปัญหาของตระกูล แล้วทำไมผมจะยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ ล่ะ?”

“ถ้าเอาหลักฐานออกมาแสดงไม่ได้ คุณก็ควรออกจากตระกูล ไป อย่ามาทําขายหน้าเลย

หยูเหวินหวูไม่ได้ปิดบังการดูถูกหวังเฉินของตนเองเลยแม้แต่น้อย

ลูกนอกกฎหมายที่ถูกไล่ออกจากตระกูล จะมีคุณสมบัติมา แข่งขันกับตนได้อย่างไร?

เมื่อได้ยินสิ่งที่หยูเหวินหวูพูด พวกที่เคยเชื่อว่าหวังเฉินได้แก้ ปัญหาให้กับตระกูล ก็เริ่มสงสัยว่าหวังเฉินสามารถแก้ไขวิกฤติ

ได้จริงหรือไม่?

อวี่เหวินเกาเจิ้นสีหน้าย่ำแย่ เขาหรี่ตามองหยูเหวินหว เขาไม่ พอใจอย่างยิ่งที่เด็กรุ่นหลังคนนี้โจมตีลูกชายของตน

แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องหวังเฉินมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เขาแค่ อยากจะดูว่าลูกชายที่ถูกเขาทอดทิ้งมาหลายปี เติบโตขึ้นมาเป็น อย่างไร

“อย่าทำท่าที่เย่อหยิ่งนัก แม้ว่าตอนนี้ผมจะไม่ใช่ทายาทของ ตระกูล แต่อย่างน้อยผมก็เป็นเด็กรุ่นหลังในระดับเดียวกับคุณ คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำเย่อหยิ่งต่อหน้าผม?”

“ก็เพราะปัญหาใหญ่ที่คุณนำมาสู่ตระกูลของเราไง?”

หวังเฉินพูดประชดประชันไปหลายคำ ใบหน้าเพื่อรอยยิ้มผ่อน คลายราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ “ในเมื่อคุณต้องการให้ผม แสดงหลักฐาน ถ้าอย่างนั้นผมขอหลักฐานจากคุณด้วยได้ไหม?”

“ในเมื่อคุณคิดว่าผมไม่ได้เป็นคนแก้ปัญหา งั้นคุณก็ควรแสดง หลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นคนแก้ปัญหาไม่ใช่เหรอ?”

“ถ้าเอาออกมาแสดงไม่ได้ คุณจะหุบปากสักทีได้หรือยัง?”
“อย่าลืมนะว่า ตอนนี้คุณถูกปลดออกจากตำแหน่งทายาทแล้ว ผมต่างหากที่เป็นคนที่จะขึ้นเป็นทายาทของตระกูล!”

หวังเฉินควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก เขายิ้มผ่อนคลายเหมือน สายลมฤดูใบไม้ผลิเสมอ แต่สิ่งที่เขาพูดกับหยูเหวินหว กลับเต็ม ไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

หลังจากพูดไปอย่างนั้น หมูเหวินหวก็โมโหจนสุดจะทนได้ พลันครามอย่างโกรธเกรี้ยว “สารเลว! คุณเป็นแค่ลูกนอก กฎหมายที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่ยังเป็นเด็ก คุณจะเอาอะไรมาเปรียบ เทียบกับผมซึ่งทายาทสายตรงของตระกูลอวี่เหวิน?”

“คุณมีสิทธิ์อะไรมาขอหลักฐานจากผม มาต่อสู้แย่งชิง ตำแหน่งทายาทกับผม?”

“ผมอยากดูว่าถ้าไม่มีหลักฐาน คุณจะขึ้นนั่งตำแหน่งทายาท

ได้อย่างไร?”

หยูเหวินหวโกรธมากอย่างถึงที่สุด ไม่สนใจเลยว่าที่นี่คือ ที่ไหน

เมื่อดูจากปฏิกิริยาของทั้งสองคน ก็สามารถแบ่งแยกชั่วดีได้ อย่างชัดเจน

แม้แต่อวี้เหวินเกาหยาง ในหัวใจก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ในเมื่อคุณต้องการหลักฐาน ถ้าอย่างนั้นผมก็จะให้คุณ

จู่ๆ หวังเฉินก็ยิ้มแปลกๆ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากด หมายเลขโทรออก
ไม่นานก็ต่อติดปลายสาย เสียงวัยหนุ่มสาวดังขึ้น “หวังเฉิน คุณต้องการลากฉันให้เดือดร้อนไปด้วยใช่ไหม!

ในน้ำเสียงนี้ เพื่อไปด้วยความอึดอัด

เห็นได้ชัดว่า ก่อนที่หวังเฉินจะพูดอะไร เขาก็รู้อยู่แล้วว่าหวัง เฉินต้องการทำอะไร

หวังเฉินหัวเราะลั่น “ผมทำตามคำบงการจากคุณ ให้ต่อสู้แย่ง ชิงตำแหน่งทายาทของตระกูลอวี่เหวิน ตอนนี้ผมก็ไม่มีทางเลือก อื่นนอกจากขอความช่วยเหลือจากคุณเช่นกัน”

“หวังเฉิน ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็ไม่น่าสนใจแล้ว” อีกฝ่ายกล่าว

“ฮ่าฮ่า ล้อเล่นเท่านั้น ผมขอให้คุณมาช่วยแย่งชิงตำแหน่ง ทายาทเอง พูดแบบนี้ คุณพอใจแล้วหรือยัง?” หวังเฉินกล่าวด้วย รอยยิ้ม

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายทำอะไรไม่ถูก เขายิ้มพลางพูดว่า “คุณ บอกมาสิ ต้องการให้ผมช่วยทำอะไรอีก?”

“คนของตระกูลอวี่เหวินไม่เชื่อ ว่าผมเป็นคนแก้ไขปัญหาให้ ลในครั้งนี้ ถ้าคุณเป็นผม คุณจะทำยังไง?” หวังเฉินถาม ตระกูล ด้วยรอยยิ้ม

“อืม”

อีกฝ่ายลากเสียงยาวเหมือนกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นก็พูดขึ้น ว่า “ในเมื่อไม่เชื่อ งั้นก็ปล่อยให้วิกฤตเมื่อครู่เกิดขึ้นอีกครั้ง พอ ถึงเวลานั้นความมั่งคั่งของตระกูลอวี่เหวินจะลดลงอย่างมากแม้ว่าคุณอยากเป็นผู้นำ บางทีพวกเขาอาจจะเห็นด้วยก็ได้?

“ฮ่าฮ่า พูดได้ดี!”

หวังเฉินหัวเราะลั่นแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็รบกวน คุณ ปล่อยให้ปัญหาที่ตระกูลอวี่เหวินเคยประสบ เกิดขึ้นอีกรอบ หนึ่ง!”

“รอผมห้านาที!

อีกฝ่ายพูดจบ ก็วางสายลงทันที

เมื่อครู่หวังเฉินกดปุ่มเปิดลำโพง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้ยินบท สนทนาทั้งหมด

ทุกคนมีสีหน้าอารมณ์ที่หลากหลาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวี่เหวินเกาหยางและหนูเหวินหวสองคนนี้ คนอื่นอาจจะไม่รู้จักว่าชายหนุ่มที่อยู่ในโทรศัพท์เป็นใคร แต่ พวกเขาทั้งสองคน กลับคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เพียงแต่ว่า บนใบหน้าของอวี่เหวินเกาหยางเต็มไปด้วยความ

เศร้า ชั่วขณะหนึ่ง พลังของเขาได้ลดลงอย่างมาก ใบหน้าผ่าน โลกมาอย่างโชกโชน ร่างกายเผยให้เห็นความเงียบเหงา

ในขณะที่ใบหน้าของหยูเหวินหวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความ

ดุร้าย

เขาสงสัยว่าทำไมจู่ๆ หวังเฉินมาต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งทายาท กับตน ตอนนี้เพิ่งเข้าใจว่า ที่แท้ทั้งหมดเป็นเพราะชายผู้นั้น
“หวังเฉิน คุณติดต่อเขาแล้วบอกว่า ผมจะทำตามที่เขา ต้องการ!

ขณะที่ทุกคนกำลังเดาว่าคนที่คุยโทรศัพท์กับหวังเฉินเมื่อครู่ คือใคร ทันใดนั้นอวี่เหวินเกาหยางก็พูดขึ้น

พอประโยคนี้ของเขาพูดออกมา ทุกคนในที่นี้ตกใจ!

เขาคือใครกันแน่?

ผู้นำของตระกูลอวี่เหวิน ผู้ซึ่งไม่เคยยอมจำนนมาโดยตลอดจะ ยอมอ่อนข้อได้อย่างไร?

ยังบอกอีกว่า จะตอบสนองทุกสิ่งที่เขาต้องการ

แม้แต่หวังเฉินเองก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามด้วยรอย ยิ้มว่า “ผู้นำหมายความว่า คุณเชื่อว่าผมได้แก้ไขปัญหาที่ทาง ตระกูลได้พบในครั้งนี้แล้วเหรอ?”

อวี่เหวินเกาหยางพยักหน้า “จากวันนี้เป็นต้นไป คุณคือ ทายาทของตระกูลอวี่เหวิน”

โครม

คำพูดสบายๆ ของเขาเหมือนฟ้าผ่าดังก้องที่ข้างหูของทุกคน

ผู้นำที่เผด็จการมาโดยตลอด ยอมถอยและปล่อยให้ลูกนอก กฎหมายที่เพิ่งกลับเข้าตระกูลมาเป็นทายาทจริงๆ เป็นเพราะโทรศัพท์เมื่อครู่หรือเปล่า?

หวังเฉินเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว เขาสาบานว่าไม่ต้องการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉินกับอเหวินเกา หยาง เขาแค่อยากจะพิสูจน์มันจริงๆ

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ อวี่เหวินเกาหยางยอมให้เขา ขึ้นเป็นทายาทได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

“ผมไม่ยอม!”

ในเวลานี้ น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดังกึกก้องไปทั่วห้องประชุม

ทุกคนต่างจับจ้องไปที่หมูเหวินหรูพร้อมกัน สีหน้าเขาดู หม่นหมองมาก พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เขาก็แค่โทรศัพท์ ธรรมดา มันจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนแก้ไขปัญหาของ ตระกูล?”

หยูเหวินหวประสานสายตากับบิดาตัวเองอย่างไม่เกรงกลัว หลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาขัดแย้งกับอวี่เหวินเกาหยาง แล้วยังต่อหน้าผู้คนมากมายอีกด้วย

บรรดาทายาทสายตรงของตระกูลอวี่เหวินต่างตกตะลึง มอง ไปที่หยูเหวินหวอย่างไม่เชื่อสายตา

เขาบ้าไปแล้วเหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ