บทที่ 431 คนใกล้ตาย
ถึงจะเป็นลานประลองที่สร้างเป็นการชั่วคราว แต่ก็สร้างด้วย คอนกรีต ทว่ากลับถูกหยางเฉินทำลายได้เพียงฝ่าเท้าเดียว ฝ่าเท้านี้ต้องมีพลังแค่ไหนกันนะ?
ท่ามกลางฝูงชนนั้นยังมีคนที่มาจากตระกูลใหญ่เมืองเยี่ยน เช่นเดียวกับเม่าน
เดิมทีพวกเขายังแอบเตรียมการลับๆ คิดจะส่งคนเข้าท้าชิง แต่พลานุภาพฝ่าเท้าของหยางเฉินทำให้ฐานะตระกูลใหญ่ที่ พวกเขาภาคภูมิแหลกเป็นผุยผงทันที
ไม่ว่าฐานะจะสูงส่งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้มีความ สามารถแล้วก็ไร้ค่า
ในห้องเพรสซิเดนสูทชั้นบนสุดของโรงแรมจงโจว
หยางเฉินนั่งอยู่ตำแหน่งประธาน ส่วนพวกหานเดี่ยวเทียนกับ เฉินซิงไห่ก็นั่งอยู่กับเจ้าบ้านตระกูลใหญ่ที่พวกเขาสนิท
ภายในห้องยังมีหลายคนที่ยืนอยู่อย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เจ้าบ้านจู นี่พวกคุณหมายความว่ายังไง? คงไม่ใช่คิดจะ รวมหัวมาบีบออกจากตำแหน่งหรอกนะ?”
หานเยี่ยวเทียนที่อยู่ข้างหยางเฉินพูดพลางหรี่ตามองกว่างจื้อ
กลุ่มคนที่ยืนอยู่นี้ก็คือเจ้าบ้านตระกูลหลักในเมืองหนุนหลัง หยางเฉินไม่ได้เชิญมา แต่พวกเขากลับมากันเอง
เมื่อได้ยินคำพูดของหานเดี่ยวเทียนแล้ว จูกว่างจื้อก็โกรธใน ใจ แต่ก็ไม่แสดงอาการต่อหน้าหยางเฉิน ได้แต่ต้องหานเดี่ยว เทียนเขม็ง
จากนั้นก็มองหยางเฉินอีกแล้วรีบพูด “คุณหยางครับ พวกเรา มาขอโทษคุณ ก่อนหน้านี้พวกเราล่วงเกินคุณไป คุณหยางเป็น ผู้ใหญ่โปรดอย่าถือสาผู้น้อยเลยครับ
“คุณหยางโปรดอย่าถือสาผู้น้อยเลยครับ”
คนอื่นก็พากันพูดตาม ทำหน้าวิงวอน
ถึงหยางเฉินไม่คิดหาเรื่องพวกเขา แต่พวกเขาก็กลัวนี่
เพราะก่อนเริ่มงานต่อสู้ พวกเขาได้ลบหลู่หยางเฉิน
ตอนนี้แม้แต่ยอดฝีมือของสมาคมบูโดยังถูกหยางเฉินริบชีวิต พวกเขาเกรงว่าหากหยางเฉินไม่พอใจจะกำจัดพวกเขาทั้งหมด ด้วย
“แพ้แล้วก็ต้องชดใช้!”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็เอ่ยปาก
เมื่อได้ยินดังนั้น เจ้าบ้านตระกูลใหญ่เมืองหนุนหลังก็ตื่น ตระหนก หยางเฉินยังไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปอีกหรือ?!
คุณหยาง หรือจะไม่ยอมปล่อยพวกเราจริงๆจูกว่าง
อกัดฟันพูด
เขาเจ็บใจ
เจ็บใจมาก
เพื่อได้เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหนันหยัง เขาต้องเตรียมการ หลาย
และขณะที่เขาเพิ่งได้เป็นผู้นำตระกูลใหญ่กี่วันต้องพบการสิ้นสลายของตระกูล แล้วนี่จะเขายอมรับ
คนทว่าสายตาของหยางเฉินกลับนิ่งสงบ
หน้าแต่ละล้วนอยู่สายตาเขา
ดื่มเหล้าพิษซะ แล้วจะปล่อยตระกูลของพวกหยางเฉินแก้วสุราวางบนด้านข้างแล้วพูด “แกอยากให้เราตายจูกว่างนี่เป็นท่าทางคุณกับคุณหยางเหรอ”
เมื่อได้ยินดังนั้น พวกว่างจื้อหน้าถอดทันที
จูกจื้อพูดด้วยดวงตาแดง
หานเซียวเทียนพูดเสียงกร้าว
จูกว่างจื้อก้มหน้าเงียบ เวลานี้ไม่มีใครเห็นความเคียดแค้นใน ดวงตาของเขาว่าน่ากลัวเพียงใด
“ขอแค่ผมดื่มเหล้าพิษนี้ คุณหยางก็จะปล่อยตระกูลของผมไป
ใช่ไหม?”
ตอนนี้เอง เจ้าบ้านตระกูลใหญ่คนหนึ่งที่ยืนข้างกว่างจื้อก็เอ่ย ปากขึ้น
หยางเฉินเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย
“ได้! ผมติ่ม! หวังแค่พอผมตายไปแล้วคุณหยางจะรักษาคำ พูด!”
ว่าแล้วเขาก็เดินไปที่โต๊ะ ยกแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด
“หวังว่าคุณหยางจะรักษาคำพูด!! จากนั้นเจ้าบ้านตระกูลใหญ่คนที่สองก็ยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว
หมดเหมือนกัน
ไม่นาน ก็เป็นคนที่สาม ที่สี่ ที่ห้า
เจ้าบ้านตระกูลใหญ่ทั้งหก นอกจากลูกว่างซื้อแล้ว ห้าคนที่ เหลือก็ดื่มสุราพิษจนหมด
“จูกว่างจื้อ นี่คุณเลือกให้ตระกูลจบสิ้นเหรอ?” หานเดี่ยวพูด เทียนเสียงเกรี้ยว
“ตระกูลจูจะไม่สิ้น และฉันก็จะไม่ตายด้วย!”
ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเปี่ยมด้วยความบ้าคลั่ง
“หมายความว่ายังไงหานเดี่ยวเทียนขมวดคิ้ว
“เพราะ…
เมื่อจูกว่างจื้อพูดก็ล้วงโคลท์คิงคอบร้าเงามาจาก ในเสื้อ แล้วคือแกต่างหาก
“จูก
หานเซียวเทียนตกใจหน้าถอด
“นี่อยากให้ตระกูลจูต้องจบสิ้นแล้วหรือยังไง
เฉินชิงไห่ก็ถามเสียงแข็งด้วย
“จะตายอยู่แล้ว ตระกูลจะเป็นหรือ
ใบหน้า กว่างพจนานุกรม ไม่เรียกรอความตาย ใครให้ฉันตาย ฉันเอามัน”
ใบหน้าหยางเฉินเรียบเฉย นั่งอยู่ความหวาดหวั่น และจู่ก็ขึ้น “เมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณตายไปได้แล้ว!
เมื่อได้ยินดังนั้นว่างจื้อหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พูดด้วยความ ดุดัน คนต้อง
“ปัง
วินาทีที่เขาเหนี่ยวไก จู่ๆ โคลท์คิงคอบร้าระเบิดออก
เมื่อเกิดเสียงดังสนั่นแล้ว มือของกว่างจื้อที่ถือปืนอยู่ก็ถูก ระเบิดจนเละ
เขาครวญครางด้วยความเจ็บปวด
เวลานี้แววตาของเจ้าบ้านตระกูลใหญ่เมืองหนุนหลังทั้งห้าที่ เพิ่งดื่มสุราพิษไปมีแต่ความตื่นกลัว
พวกเขาเห็นกับตาว่าขณะที่ถูกว่างจื้อกำลังจะเหนี่ยวไก หยาง เฉินได้ดีดนิ้วออกไป
แม้ไม่เห็นว่าหยางเฉินดีดอะไรออกไป แต่ก็รู้ว่าปืนของกว่าง จื้อที่ระเบิดต้องเกี่ยวข้องกับหยางเฉินแน่ “กล้าฆ่าคุณหยาง โทษตายสถานเดียว!
พอหานเซียวเทียน โบกมือ ชายฉกรรจ์ร่างบิ๊กสองนายที่อยู่
ด้านหลังก็ลากตัวจูกว่างจื้อออกไป
ทุกคนต่างรู้ว่าที่ถูกว่างจื้อถูกพาตัวไปเช่นนี้ คงต้องมีแต่ตาย เท่านั้น
“แต่นี้ต่อไป ทุกคนก็คือคนของผมหยางเฉิน ถ้าใครกล้าทรยศ จูกว่างจื้อในวันนี้ก็คือพวกคุณในวันหน้า
หยางเฉินกวาดตามองเจ้าบ้านตระกูลใหญ่ทั้งห้าของหนุนหลัง ดวงตาที่นิ่งสงบมาตลอดส่องประกายเย็นชา
ทั้งห้าพากันมองกันไปมองกันมา มึนงงไปหมด
“คุณหยางไว้ชีวิตพวกคุณแล้ว ยังจะงงอะไรอีก?
เสียงกร้าวของหานเดี่ยวเทียนทำให้คนทั้งห้าได้สติ
“ขอบคุณครับคุณหยาง! ต่อไปพวกเราจะเป็นข้ารับใช้ของคุณ จะไม่ทรยศเด็ดขาด!
ห้าคนขานเป็นเสียงเดียวกัน ตื่นเต้นเหลือคณา
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าหยางเฉินต้องการเอาชีวิตพวกเขาจริง ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นบททดสอบของเขาเท่านั้น
“ขนาดความปลอดภัยของคนในตระกูลยังไม่คำนึงถึง แล้วยัง มีสิทธิ์อะไรอยู่บนโลกนี้?”
เมื่อนั้นหยางเฉินก็เอ่ยปากขึ้น
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินจากไป ด้านหลังก็มีเสียงเคารพดังขึ้น “น้อมส่งคุณหยาง!”
มีบททดสอบเมื่อครู่แล้ว ต่อไปพวกเขาคงไม่กล้าทรยศหยาง เฉินอีก
“หยะ…คุณหยางครับ!”
ขณะที่หยางเฉินเพิ่งเดินออกจากโรงแรมจงโจว เงาร่างที่คุณ เคยก็เดินขึ้นหน้ามา ขณะที่จะเรียกหยางเฉิน ก็เปลี่ยนคำพูด กะทันหัน
หยางเฉินยื่นมือออกไปต่อยหน้าอกอีกฝ่ายเบาๆ เคืองเล็ก น้อย “นายก็เป็นไปกับเข้าด้วยเหรอ? เรียกชื่อก็พอ!”
หวังหย่งที่เคร่งเครียดในตอนแรก พอได้ยินคำพูดของหยาง เฉินแล้วก็ซาบซึ้งใจยิ่งนัก
เขาอยากเป็นเพื่อนกับหยางเฉินเหมือนเมื่อก่อน
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสนามเมื่อครู่นี้ เกิดเป็นความประทับ ใจที่ยากจะลืมเลือน ในใจเขา ความเก่งเช่นนี้ เขามีสิทธิ์อะไรไป เป็นเพื่อนเกลอกับอีกฝ่ายกัน?
“สวัสดีค่ะคุณหยาง ฉันเป็นว่าที่ภรรยาของพี่หย่งชื่อหลัว หยวนหยวน ก่อนหน้านี้เราเคยเจอกันแล้ว”
“คุณหยาง ฉันคือเพื่อนสนิทของพี่หย่งค่ะ ชื่อสกุลี่!” ขณะที่หยางหย่งกำลังจะเอ่ยปากพูด กลิ่นหอมฟุ้งก็ปะทะมา เป็นหลัวหยวนหยวนกับสวลีที่วิ่งโล่มานั่นเอง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ