The king of War

บทที่ 401 เป็นใครกันแน่



บทที่ 401 เป็นใครกันแน่

จนกระทั่งตอนนี้ เหตุการณ์ฉากนั้นที่หยางเฉินต่อยหมัดเดียว จนทำเขาสั่นถอยไปหลายก้าว ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมองเขา แบบชัดแจ๋วทั้งหมด

ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่เขาจะประเมินศัตรูต่ำไป แต่พอหยางเฉิ

นระเบิดพลังในชั่วพริบตา ยังคงทำให้เขาอกสั่นขวัญแขวน เย่ม่านอึ้งทึ่งในชั่วพริบตานั้น รีบส่ายหน้าทันที “เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

พูดว่าเป็นไปไม่ได้สองรอบติดกัน พอจะอธิบายความหวาด ผวาในใจเธอได้

จากก้นบึงหัวใจ เธอไม่มีทางยอมรับได้ว่าชายหนุ่มที่พึ่งถูก

เธอใส่ร้ายว่าไม่มีอะไรดีเลยเมื่อสักครู่ จะเป็นราชาเจียงผึ้งที่

ตระกูลเบ่อยากจะยกให้เป็นแขกพิเศษ

ในใจเหลียงเหลียนแอบทอดถอนใจ สุดท้ายไม่พูดมากอีก

“ไปตระกูลหานแห่งเมืองเอก ฉันไม่เชื่อว่าตระกูลใหญ่ที่สุด ของเจียงผิง จะไม่รู้ว่าราชาเจียงผึ้งคือใคร!”

บนใบหน้าที่เย็นชาของเม่านเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธ

ความจริงตอนเช้าตรู่วันนี้ เธอมาถึงเมืองเจียงโจวแล้ว ไป หลายตระกูลมาติดต่อกัน กลับไม่มีสักคนกล้าเปิดเผยต่อเธอว่าราชาเจียงฝังคือใคร

ทุกคนล้วนแสร้งแสดงความนบนอบคล้อยตามต่อเธอ ภายนอกแสดงว่าเคารพนับถือมาก แต่ตอนที่เธอถามถึงราชา เจียงยิ่งขึ้นมา กลับต่างพากันเปลี่ยนหัวข้อ พูดจาคลุมเครือ

นอกจากข่าวที่คนภายนอกเหล่านั้นรู้กัน ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ใดๆ ต่างไม่ยอมเปิดเผย

และไม่ใช่ว่าตระกูลเหล่านี้ไม่รู้จักดีเลว แต่ว่าวันนั้นที่งาน ประชุมแลกเปลี่ยน หยางเฉินสั่นสะเทือนจิตใจพวกเขามากเหลือ เกิน

ผู้สืบทอดตระกูลหวง โดนกดให้คุกเข่าลงต่อหน้าสาธารณชน แม้แต่ไหล่ยังถูกหยางเฉินบีบจนเละ

นับประสาอะไรกับผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งของตระกูลเ

เวลานี้ หยางเฉินมาถึง ใต้ตึกของซานเรือกรุ๊ปแล้ว รอรับฉินซี

เลิกงาน

ในเวลานี้เอง มือถือของเขาดังขึ้นกะทันหัน

“คุณหยางครับ มีเรื่องหนึ่ง ผมต้องรายงานท่านครับ!”

เสียงของกวนเจิ้งซานดูเคารพอย่างมาก “คนของตระกูลเย่ แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู มาที่ตระกูลกวนแล้วครับ สอบถามถึง ข่าวของท่านกับผมครับ”

พอได้ยิน หยางเฉินท่าทางแปลกประหลาด ถามอย่างติดตลกอยู่คนตระกูลหรอกมั้ง?

“ใช่คือผู้หญิงเธออยากจะเจอหน้าท่านสักครั้ง ครับ”

กวนเจิ้งซานพูดว่า ฟังความหมายของน่าจะอยากสนิท ท่านครับ”

แต่ว่าท่านวางใจครับ ข่าวที่เกี่ยวท่าน ผมไม่ได้เปิดเผย สักนิดเดียว

“เผยสถานะท่านครับ

กวนเจิ้งซานขึ้นอีก

ผมแล้วหยางเฉินตอบกลับ

หลังวางสายโทรศัพท์ หยางเฉินฉีกปากขึ้นเบาๆ วาดรอย ยิ้มเย็นชา

“เม่านนะแม่ม่าน คุณรู้ผมคือราชา

ตามหา จะหน้าตาอย่างไรกันนะ

หยางเฉินพูดพึมพำกับตนเอง

เมื่อสักครู่อยู่ต่อหน้าเอม่าน ตอนแรกยังโกรธเคืองเต็มที่ พอรับรู้ตนเอง หยางเฉิน ความโกรธหายมากทีเดียว
เพียงแต่นึกถึงความสัมพันธ์ของเม่านและฉันซ์ สีหน้ายาง เฉินก็มืดมนลงมาอีกครั้ง

“สรุปฉันจะบอกเสียวซีดีหรือเปล่านะ?” หยางเฉินทำหน้า นําบากใจ

ทันใดนั้นเขาเป็นห่วงฉินซีอย่างมาก ก่อนหน้านี้โจวซียก็ ทำให้หล่อนเสียใจมากพอแล้ว

พอต่อมา มารดาแท้จริงปรากฏตัวแล้ว คาดไม่ถึงยังเป็นคน นิสัยแบบนี้

อยู่ด้วยกันมาในช่วงเวลานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและฉินซี ความจริงก็ลึกซึ้งมากแล้ว

ถ้าคนที่เย่มานไปหาก่อนคือฉัน เขาจะไม่สงสัยสักนิดเดียว ฉินซีคงปฏิเสธที่จะแยกจากเขาเหมือนกัน

ด้วยนิสัยของฉินซี แม้กระทั่งมีความเป็นไปได้จะปฏิเสธการ

ยอมรับเย่ม่านด้วย

ส่วนตัวหล่อนเองนั้น กลับต้องยอมรับความเจ็บปวดทุกอย่าง

“หวังว่าตระกูลเย่จะไม่ทำเกินกว่าเหตุแล้วกัน!

หยางเฉินหรี่ตาพูด สุดท้ายยังตัดสินว่าจะเก็บซ่อนความจริงไว้

ชั่วคราว

แค่ในตอนนี้ หากฉันรู้ความจริงเข้า น่าจะเจ็บปวดอย่างมาก ตระกูลหานแห่งเจียงผึ้ง
ในคฤหาสน์เล็กที่แยกเดี่ยวหลังหนึ่ง

“เจ้าบ้านหาน วันนี้ที่ฉันมาหาคุณ มีเรื่องหนึ่งต้องการความ ช่วยเหลือจากคุณค่ะ!”

เย่ม่านพูดจาอย่างตรงไปตรงมา

หานเซียวเทียนหัวเราะแล้ว “เรื่องที่แม้แต่ตระกูลเย่ยังทำไม่ได้ ผมหานเดี่ยวเทียนจะมีความสามารถอะไร สามารถช่วยเหลือได้ ครับ?”

เม่านสีหน้าดูแย่อยู่บ้าง แต่โดยเฉพาะที่นี่คือเจียงผึ้ง เธอจึง ไม่กล้าทําเริบเบสานเกินไป

“เจ้าบ้านหานพูดตลกแล้วค่ะ หลังจากที่ตระกูลเพิ่งและตระกูล หนึ่งพังพินาศ ตระกูลหานก็ก้าวขึ้นเป็นตระกูลใหญ่แกร่งสุด ทั่ว ทั้งมณฑลเจียงผิง ที่เจียงผิง จะมีเรื่องอะไรที่เจ้าบ้านหานทำไม่ได้ กันคะ?”

เย่ม่านหัวเราะอยู่พูดไป ในแววตาลึกมีความเย็นชาระดับหนึ่ง หานเดี่ยวเทียนหัวเราะแต่ไม่พูด ยกแก้วชาที่คราบน้ำชาเปื้อน เต็มเอาไว้ จิบน้ำชาเบาๆ อีกหนึ่ง

เขาได้รับคำเตือนของกวนเจิ้งซานมาตั้งแต่แรกแล้ว เย่ม่าน อาจจะมาหาเขา ดังนั้นเขาย่อมรู้เจตนาของเม่านแจ่มแจ้ง

เห็นเขาไม่พูดจา เย่ม่านก็เงียบไม่พูด ดวงตาทั้งคู่จ้องหาน เซี่ยวเทียนที่กำลังก้มหน้าดื่มชาอยู่ตลอด
เหลียงเหลียนยืนอยู่ด้านหลังของเม่านมองทางหานเดี่ยว เทียนด้วยสีหน้าเย็นชา

บรรยากาศกดดันอยู่บ้าง แต่ว่าหานเซียวเทียนกลับเหมือน ไม่รู้สึกถึงอะไรเลย นั่งอยู่หน้าโต๊ะน้ำชา ท่าทางผ่อนคลาย สบายใจ

เวลาผ่านไปวินาทีแล้ววินาทีเล่า จนมาถึงสองนาทีเต็มๆ ยัง

ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น

ในที่สุดเข่ม่านก็หมดความอดทน น้ำเสียงเฉยชาขึ้นมาก ที่ ฉันมาเพียงเพื่อเรื่องเดียว ราชาเจียงผึ้ง สรุปว่าเป็นใครกัน?”

หานเซียวเทียนหัวเราะนิ่งๆ “ราชาเจียงผิงก็คือราชาเจียงผึ้ง ไม่ทราบว่าคำถามของคุณนายเย่หมายความว่าอะไรกัน?

“หานเซียวเทียน อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันมากเกินไป ฉันไม่ชอบ

พูดอ้อมค้อม บอกฉันมา คุณหยางราชาเจียงผิง สรุปเป็นใครกัน

แน่?”

เย่ม่านพูดจาอย่างเย็นชา “ถ้ามาถ่วงธุระสำคัญของตระกูลเ ตระกูลหานของคุณแบกรับไม่ไหวหรอกนะ!

“คุณนายเย่ ขอร้องคนอื่นต้องมีท่าทีของผู้ขอร้องสิ คุณ แข็งกร้าวแบบนี้ เกรงว่าคงไม่มีใครยอมช่วยคุณหรอกมั้ง?

รอยยิ้มบนหน้าของหานเดี่ยวเทียนหายไป วางแก้วชาลงช้าๆ พูดจาเย็นชา

“ขอร้องคนอื่น?”
เย่ม่านหัวเราะทีหนึ่ง พูดอย่างโมโห “ตระกูลมานแห่งเจียงฝั่ง เล็กๆ ยังไม่มีสิทธิ์ให้ฉันเท่านไปขอร้อง!”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเชิญกลับไปเถอะ!”

หานเซียวเทียนกล่าวไล่แขกออกไปโดยตรง ไม่เห็นเข่ม่านอยู่ ในสายตาสักนิดเดียว

“โอหัง!”

เหลียงเหลียนที่อยู่ด้านหลังเย่ม่านตะโกนใส่ ทันใดนั้นก้าว เท้าเข้ามา มองทางหานเดี่ยวเทียนด้วยท่าทางอาฆาตพูดว่า “กล้าไร้เหตุผลกับคุณนายเย่ นายรู้ผลลัพธ์หรือไม่?”

“ที่นี่คือเจียงผิง! ที่นี่คือตระกูลหาน!”

หานเซียวเทียนยืนเอามือไพล่หลัง ท่าทางถูกต้องตามทำนอง คลองธรรม

แต่คำพูดประโยคนี้ของเขา กลับประหนึ่งกรอกสติปัญญาเข้า

ในมันสมอง ทำให้เม่านและเหลียงเหลียนได้สติในชั่วพริบตา ข้างกายเท่านเพียงพาเหลียงเหลียนมาคนเดียว แต่นี่คือ

ตระกูลหานตระกูลชั้นนำของเจียงผึ้ง

ถึงแม้ไม่มีใครสามารถขวางกั้นเหลียงเหลียนได้ แต่ถ้าตระกูล หานอยากฆ่าเม่าน กลับเป็นเรื่องง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ตระกูลเยส่งแม่ม่านมาที่เจียงผึ้ง เพื่อมาผูก มิตรกับราชาเจียงผิง แม้กระทั่งแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ด้วย
ตระกูลหานสามารถอยู่รอดท่ามกลางการปะทะครั้งนี้ พอ อธิบายได้ว่าความสัมพันธ์ของราชาเจียงผึ้งและตระกูลหานนั้น แน่นแฟ้น

ถ้าเย่ม่านกล้าแตะต้องหานเดี่ยวเทียนจริง ไม่ต้องพูดถึง สามารถเอาตระกูลหานมาได้หรือไม่ แม้แต่ราชาเจียงสิ่งที่อยู่ ด้านหลังตระกูลหาน ก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไป

“ดี ดีมาก!”

เย่ม่านโกรธไม่เบา กัดฟันแน่นพูดว่า “กล้าเพิกเฉยตระกูลเย่ ของฉัน คุณยังเป็นคนแรก!!

พูดประโยคนี้จบ ในหัวสมองของแม่านปรากฏภาพชายหนุ่ม ที่เย็นชาเผด็จการคนหนึ่งขึ้นกะทันหัน สำหรับตระกูลเย เขาไม่ได้ มีความเคารพแต่อย่างใด

อารมณ์ของเม่านย่ำแย่มาก ก่อนหน้าอยู่ที่เมืองเจียงโจว ไป

มาหลายตระกูลแล้ว ล้วนคว้าน้ำเหลวกลับมา

อยู่ต่อหน้าหยางเฉิน ก็ถูกปฏิเสธหงายหลังมาเช่นกัน ตอนนี้ที่ตระกูลหาน ก็เป็นเช่นนี้

นี่ทำให้เธอสงสัยอยู่บ้าง โดยฉับพลัน แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ในภาพจําของเจียงผิง หรือว่าอ่อนแอขนาดนี้จริงเหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ