The king of War

บทที่ 396 หายไปตลอดกาล



บทที่ 396 หายไปตลอดกาล

เฝิงจี้จงร้องไห้แล้ว เขาตกใจจนร้องไห้

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่แม้แต่ผู้นำตระกูลเส็งยังคุกเข่าขอให้ ลงโทษ เกรงว่าต่อให้เป็นผู้นำของสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองเอก คงไม่เป็นเช่นนี้หรอกมั้ง?

เขาจะรู้ได้อย่างไร ต่อให้ผู้นำของตระกูลเพิ่งและตระกูลหนึ่งมี ชีวิตอยู่ ยามอยู่ต่อหน้าหยางเฉิน แม้แต่ผายลมยังไม่กล้าปล่อย ออกมาสักนิด

“เธอบอกว่าน้องสาวฉันเป็นเมียน้อย แทรกแซงความสัมพันธ์ ระหว่างเธอกับสามีเธอ?”

สายตาหยางเฉินมองไปทางหยางหลิ่วอีกที

หยางหลิ่วสีหน้าหวาดกลัวเต็มที่ ทันใดนั้นในหัวสมองปรากฏ ภาพตอนแรกที่ตระกูลหยางยังอยู่ หยางเฉินมาที่ตระกูลหยาง ระหว่างที่ยกมือ สังหารยอดฝีมือตระกูลหยางไปหลายคน

เดิมทีหล่อนอยากจะพึ่งพาอำนาจของตระกูลเฟิง มาแก้แค้น หยางเฉิน แต่วินาทีนั้นที่ผู้นำตระกูลเฝิงคุกเข่าลงแทบเท้าหยาง เฉิน หล่อนถึงสำนึกได้ อยากจะไปหาหยางเฉินเพื่อแก้แค้น เกรง ว่าชาตินี้ไม่มีความหวังเลย

“ไม่ หล่อนไม่ใช่เมียน้อย และไม่ได้แย่งสามีของฉันด้วย”
สมองของหยางหลวเหมือนรัวกลอง สั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง รีบพูดทันที “เป็นสามีฉัน เขาคือคนสารเลว ทั้งที่แต่งงานกับฉัน แล้ว ยังอยากไปพัวพันกับน้องสาวคุณ

“การตายของเขาไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น เป็นเขาหาเรื่องใส่ ตัวเอง”

“ฉันต่างหากที่เป็นนังแพศยา นึกไม่ถึงจะกล้าเหยียดหยาม

น้องสาวของท่าน เป็นฉันที่มีตาหามีแววไม่ โง่เขลาเป็นอย่างยิ่ง

ไม่รอให้หยางเฉินสอบถามต่อไป หยางหลวยอมรับผิดด้วย ตนเอง พูดทั้งหมดออกมาต่อหน้าสาธารณชนแล้ว

บางทีคงผ่านไปนานเกิน หล่อนถึงได้ลืมเลือนความหวาดกลัว ที่หยางเฉินนำมาให้หล่อนไปบ้าง

เวลานี้ เพิ่งฉวนคุกเข่าขอรับโทษ ถึงเตือนสติหล่อนให้นึกถึง

ความสยองขวัญของหยางเฉินได้

ถ้าหยางเฉินอยากฆ่าหล่อน ยังง่ายดายเหลือเกิน

“ตอนแรกฉันไว้ชีวิตตระกูลหยางไปครั้งหนึ่ง แต่เป็นเพราะเธอ ชีวิตอันนี้เลยพังย่อยยับถึงที่สุด

หยางเฉินมองทางหยางหลิ่วด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เอ่ยปากพูด

เปรี้ยง!

หยางหลิ่วเพียงรู้สึกว่าคำพูดของหยางเฉินเหมือนสายฟ้าฟาดระเบิดดังข้างหูของตนเอง

หลังหล่อนอึ้งทึ่งไปในชั่วขณะนั้น ประหม่าเป็นอย่างยิ่ง คุกเข่า ลงแทบเท้าของหยางเฉิน โขกศีรษะลงบนพื้นอย่างหนัก

“ตึง! ตึง! ตึง!”

หล่อน โขกศีรษะพลางอ้อนวอน “คุณหยาง ฉันสำนึกผิดแล้ว

ขอร้องท่านปล่อยตระกูลไปด้วยค่ะ ฉันสำนึกผิดจริงๆ แล้ว………

หยางเฉินไม่ได้สนใจ สำหรับเขานั้น ความเป็นความตายของ ตระกูลหยาง เขาไม่ได้เก็บมาคิด

ตอนแรกที่ไว้ชีวิตตระกูลหยางไปสักครั้ง เป็นตระกูลหยางช่วง เพียงแต่ชีวิตครั้งนั้นอยู่ภายใต้ข้อเสนอว่าตระกูลหยางจะไม่

ชิงเอาเอง

แก้แค้น

ปัจจุบันนี้ คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้อยากจะยืมมือของคนอื่นมา ล้างแค้นตนเอง

แค่จุดนี้ ตระกูลหยางก็ไม่มีทางรอดอีกแล้ว

“ที่แท้สาวสวยคนนั้นไม่ใช่เมียน้อย แต่เป็นผู้หญิงโง่เง่าคนนี้ พูดจาเหลวไหลเอง!”

“ฉันว่าแล้ว! ผู้หญิงที่สวยขนาดนั้น จะเป็นเมียน้อยของคนอื่น ได้อย่างไรกัน?”

“พี่เขยของหล่อนเก่งกาจขนาดนั้น หล่อนจะไปแย่งผู้ชายของนังแพศยาคนหนึ่งได้อย่างไรกัน?”

คนมุงดูเหล่านั้นเมื่อสักครู่ยังซุบซิบนินทาจินอยู่เลย เวลานี้ กลับเปลี่ยนโทนเสียงฉับพลัน แต่ละคนชี้ไปที่หยางหลิ่ว ก่นด่า เสียงต่ำ

เพิ่งฉวนที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง หลังจากฟังเฝิงจงและหยางหลว แล้ว ก็พอเข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาได้คร่าวๆ

เวลานี้ ในดวงตาของเฝึงฉวนเต็มไปด้วยไฟโกรธแล้ว อยาก

พุ่งเข้าไปฆ่าเจ้าสารเลวสองคนนี้ในตอนนี้จนใจแทบขาด

ตอนแรก ตระกูลหยางพังพินาศ ตระกูลหยางพาญาติพี่น้อง บางส่วนในตระกูลมุ่งตรงไปเมืองจีนเหอทันใด บากหน้ามา พึ่งพาตระกูลเฝิง

เพราะภรรยาของผู้นำของตระกูลหยาง หยางเซี่ยงหมิง เป็น

คนของตระกูลเฝิง

ดังนั้นเพิ่งฉวนถึงรับคนของตระกูลหยางเหล่านี้ไว้

เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าคนที่พังตระกูลหยาง ก็คือชายหนุ่มตรง หน้าคนนี้

“เฝิงฉวน ฉันไม่สนว่านายกับตระกูลหยางมีความเกี่ยวข้อง อะไรกัน แต่หลังคืนนี้ไป ตระกูลหยางจำเป็นต้องหายไปตลอด กาล!”
หยางเฉินไม่ได้ลงมือกับเชิง จงและหยางหลิ่ว แต่มองทาง เฝึงฉวน พูดจาแบบหน้าตานิ่งเรียบ “ถ้าวันหลัง ให้ฉันรู้ว่าที่ มณฑลเจียงผึ้ง ยังมีคนของตระกูลหยางแห่งเมืองโจวเฉิงในอดีต อยู่ งั้นตระกูลเฝิงก็สามารถหายไปได้เหมือนกัน!

เพิ่งฉวนพอได้ยิน ในใจเต้นรัวตุบตับ ทั้งตกใจทั้งโกรธ ที่ ตกใจคือคําพูด ของหยางเฉิน เห็นได้ชัดว่าปล่อยตระกูลเพิ่งไป

ที่โกรธคือหยางหลิ่วกล้าปลุกปั่นเฝิงจง มาหาหยางเฉินเพื่อ แก้แค้น

ในฐานะผู้นำตระกูลเฝิง ลูกไม้ตื้นๆ แบบนั้นของหยางหลิ่ว เขา จะมองไม่ออกได้อย่างไร?

“คุณหยางวางใจได้เลยครับ หลังจากคืนนี้ไป ผมจะให้ทั้ง ตระกูลหยางหายไปจากมณฑลเจียงผิงตลอดกาลครับ!”

เฝึงฉวนรีบพูดรับประกันทันที ในดวงตาสาดยิงแสงหนาว เหน็บสองดวงออกมา มองทางเฝิงจงและหยางหลิ่วที่ตัวสั่น งันงกอยู่ด้านข้าง พูดสั่งว่า “กล้าล่วงเป็นผู้นำของเจียงผิง โทษ ประหาร!”

“เอาตัวไป!”

เฝึงฉวนทำหน้าเย็นชา

ชายกำยำสูงใหญ่ที่เขาพามารีบเข้ามากัน นำเชิงจงและ หยางหลิ่วที่อ่อนแรงไปทั้งตัวออกไปจากร้านอาหารแล้ว

ทุกคนต่างทําหน้าตาตื่นตกใจกันหมด โดยเฉพาะคำพูดประโยคนั้นของเฝิงฉวน ยิ่งทำให้ทุกคนตื่นตกใจอย่างยิ่ง

ใครๆ ต่างก็เข้าใจกันว่าเพิ่งจงและหยางหลิ่วมีชีวิตรอดไม่ เกินคืนนี้!

“พวกเราไปกันเถอะ!

หยางเฉินมองฉันที่อยู่ข้างกาย พูดด้วยท่าทางอ่อนโยน

ฉันเหมือนเป็นหุ่นกระบอก ตามหยางเดินออกไป

“เชิญครับคุณหยาง”

“เชิญครับคุณหยาง!!

ด้านหลัง เพิ่งฉวนน่าคนของตระกูลเส็ง ร้องตะโกนเสียงดัง เสียงที่ราวกับคลื่นซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ปกคลุมไปทั่ว ทั้งถนนอาหาร

จนกระทั่งขึ้นรถแล้ว ฉันเหมือนพึ่งตื่นจากฝัน มองทางผู้ชาย ที่เบาะคนขับด้วยท่าทางซับซ้อน พูดเสียงหนักหน่วง “พี่เขย วันนี้ ที่งานประชุมแลกเปลี่ยนของโรงแรมจงโจว สรุปเกิดอะไรขึ้น แล้ว?”

เธอรู้ว่าการแสดงออกของตระกูลเฝิงต้องเป็นเพราะที่ประชุม แลกเปลี่ยนเกิดเรื่องราวใหญ่โตบางอย่างเป็นแน่

หยางเฉินหัวเราะนิดหน่อย ทำหน้าอบอุ่นมองทางผู้หญิงด้าน ข้าง จากนั้นเอ่ยปากบอก “ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร ฉันก็เป็นพี่ชายเธอไม่ใช่เหรอ?”

พอได้ยิน จินยีทําหน้ามึนงง

หลังจากงุนงงไปตั้งนาน อาการตกตะลึงบนใบหน้างดงามนั้น ก็ผ่อนคลายกะทันหัน มุมปากเผยลักยิ้มที่น่ารักสองอันขึ้นมา ยิ้ม พูดว่า “ใช่แล้ว ไม่ว่ายังไง ฉันเพียงต้องเข้าใจว่าพี่คือพี่ชายฉัน เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว!”

หยางเฉินฉีกมุมปากขึ้นเบาๆ จากนั้นสตาร์ทรถ ขับออกไป ด้วยตนเอง พาฉันไปจากเมืองเอก

ในขณะเดียวกัน เมืองจีนเหอ ตระกูลเฝิง

คฤหาสน์นอกเมืองเหนือที่หรูหราแห่งหนึ่ง ภายในคฤหาสน์ เดี่ยวหลังหนึ่งในนั้น บนโซฟาไม้แท้มีระดับ ผู้อาวุโสคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ นั่นคือผู้นำของตระกูลหยางแห่งเมืองโจวเฉิง ในอดีต หยางเซี่ยงหมิง

ด้านหน้าของหยางเซี่ยงหมิง ยังมีภาพชายวัยกลางคนยืนอยู่

ด้วย

“คุณพ่อครับ เวลานี้ ประชุมแลกเปลี่ยนน่าจะสิ้นสุดลงแล้วมั้ง ครับ?”

ผู้ชายวัยกลางคนพูดจาด้วยท่าทางรอคอย

หยางเซี่ยงหมิงมองดูเวลาแล้ว เอ่ยปากบอก “น่าจะสิ้นสุด แล้ว!”
“ครั้งนี้ตระกูลเฝิงมอบสิทธิ์จัดงานประชุมแลกเปลี่ยนไปให้ ตระกูลเมิ่ง ต้องได้รับการสนับสนุนสำคัญของตระกูลเมิ่งเป็นแน่”

“น่าจะใช้เวลาไม่นานมาก ตระกูลเฟิงคงสามารถเข้าสู่เมือง เอกได้ ไม่แน่ว่าผ่านไปไม่กี่ปี ตระกูลระดับหนึ่งของเมืองเอกอาจ จะเพิ่มตระกูลเฝิงเข้าไปด้วย!

ชายวัยกลางคนพูดด้วยท่าทางฮึกเหิม

เขาขอหยางก้วนหยู เป็นลูกชายคนโตของหยางเซียงหนึ่ง และเป็นบิดาของหยางเวยและหยางหลิ่ว

ได้ยินคําพูดของเขา หยางเซี่ยงหมิงก็ดีใจมากเช่นกัน หัวเราะ พลางพูดว่า “ไม่ผิด! ตระกูลเฝิงต้องได้เข้าสู่เมืองเอก ถึงตอนนั้น ตระกูลหยางของพวกเราอยู่ที่เมืองจินเหอ ก็จะกลายเป็นตระกูล เฝิงรายต่อไป”

“จริงด้วย! นึกไม่ถึงพวกเราตระกูลหยางพังพินาศที่เมืองโจว เฉิง มาอยู่เมืองจีนเหอ กลับได้รับชีวิตใหม่อีกครั้ง” หยางก้วนหยู หัวเราะพูดขึ้นมา

ในแววตาหยางเซี่ยงหมิงประกายแรงอาฆาตแค้นที่รุนแรง นิดๆ ผ่านไป หรี่ตาพูดว่า “รอถึงวันนี้ที่ตระกูลหยางของฉันฟื้น กลับมา นั่นคือวันตายของเจ้าหมอนั่น!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ