The king of War

บทที่ 354 ไล่ไปต่อหน้าสาธารณชน



บทที่ 354 ไล่ไปต่อหน้าสาธารณชน

ต่อให้เป็นพระพุทธรูป คงมีเคืองขึ้นมาได้ระดับหนึ่งเช่นกัน การยั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่าของเฝิงฉิน ยั่วโมโหหยางเฉินเข้า แล้ว

แต่ที่มุมปากหยางเฉินกลับวาดเส้นรัศมีวงกลมขึ้นนิดๆ ห ตามองเขาพลางพูดว่า “ในเมื่อนายชอบกินขวดเหล้าขนาดนี้ งั้น ฉันจะทำให้นายสมหวัง”

ไม่รู้ว่าทำไมตอนมองเห็นลักษณะท่าทางแบบนี้ของหยางเฉิน ทันใดนั้นเฝิงอี้ฉันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา

แต่พอนึกถึงข้างหลังตนเองมีหนิงเฉินหยู่เป็นที่พึ่งหลักอยู่

ความกังวลแบบนั้นก็หายลับไปหมด

แขกที่อยู่รอบด้านทำหน้าตกใจเช่นกัน ดูท่าทางจะเอาจริงแล้ว เวลานี้ ในสายตาของทุกคน ล้วนเต็มไปด้วยการรอคอย

“ไอ้หนุ่ม อย่าพึ่งมาโอ้อวด รอให้นายเอาของขวัญที่ราคาสิบ ล้านขึ้นไปออกมาได้ก่อนแล้วค่อยพูด!”

เฝิงอี้ฉันพูดจาด้วยท่าทางหยอกเย้า

“ขอให้นายสมปรารถนา”

หยางเฉินยิ้มบอก จากนั้นหยิบกล่องของขวัญขนาดเล็กที่ห่อ ได้งดงามกล่องหนึ่งออกมา ด้านบนยังมี “เมืองเทียน” สามคำนี้ประทับอยู่ด้วย

ตอนที่หยางเฉินหยิบกล่องของขวัญออกมาชั่วพริบตาเดียวสี หน้าเฝิงฉินซีดเซียวไปเยอะเลย

เมืองเทียนอยู่ที่เมืองเอก คือธุรกิจอัญมณีชั้นนำ ว่ากันว่าด้าน ในล้วนเป็นของเก็บสะสมที่ราคาแพงส่วนหนึ่ง และของเล่น

โบราณมากมายล้วนประเมินราคาไม่ได้

ของชิ้นเล็กๆ ไม่ว่าชิ้นใดที่อยู่ข้างในนั้น ล้วนมูลค่าหลักล้าน ขึ้นไป

ของเล่นโบราณที่ราคาหลายสิบล้าน ก็มีมากมาย

“เฟยเฟย สุขสันต์วันเกิดนะ นี่คือของขวัญที่ฉันให้เธอ! ดูสิว่า ชอบหรือเปล่า?”

หยางเฉินพูดแบบหน้าตาอ่อนโยน

ในสายตาของเขา หานเฟยเฟยเหมือนเป็นน้องสาว ในใจเขา ไม่มีความคิดชั่วร้ายใดๆ ก่อนหน้านี้ซื้อของขวัญวันเกิดให้เธอ ก็

เป็นเพราะเห็นเธอเป็นน้องสาว

ว้าว! กําไลหยกสวยมากเลยนะ!”

“คาดไม่ถึงว่ามาจากเมืองเทียน ดูสีและความมันวาวของ กำไลนี้ น่าจะเป็นรองก็แค่เขียวเจิ้งหยังของหยกสีเขียวจักรพรรดิ์ ราคาอย่างน้อยต้องห้าล้านขึ้นไป

“ถ้าเธอซื้อกำไลหยกเขียวเจิ้งหยังคุณภาพดีขนาดนี้ได้ในราคาห้าล้านได้ ขายเท่าไรฉันก็ซื้อเท่านั้น! กำไลวงนี้ ราคาอย่าง น้อยสิบล้านขึ้นไป!”

“ก่อนหน้านี้ฉันเคยเจอกำไลวงนี้ที่เมืองเทียน ราคาขายสิบ สองล้านแปดแสนแปดหมื่น เพราะแพงเกินไป ฉันถึงไม่ได้ซื้อ!” “อะไรนะ? สิบสองล้านแปดแสนแปดหมื่น? เธอแน่ใจว่าคือชิ้น

นี้เหรอ?”

ตอนที่หยางเฉินหยิบกำไลออกมา ทุกคนส่งเสียงร้องตกใจ ออกมาพักหนึ่ง พวกผู้หญิงเหล่านั้น ยิ่งตื่นเต้นกันยกใหญ่

ไม่นานราคาของกำไลชิ้นนี้ก็ถูกคนที่รู้เรื่องราวเปิดเผยออกมา แล้ว

เฝิงอี้ฉินที่เดิมที่ยังแอบมีความหวังระดับหนึ่ง ตอนที่ได้ยิน ราคาของกำไลชิ้นนี้เกินกว่าสิบล้าน สีหน้าซีดขาวไปแล้ว

สีหน้าของหนิงเฉินหยูก็ดูแย่เช่นกัน กำไลที่ราคาสิบกว่าล้าน

เขาไม่ใช่ว่าซื้อไม่ได้ แต่เมื่อถูกหยางเฉินส่งออกมา ก็พอจะอธิบายได้ว่าความ สัมพันธ์ระหว่างเขากับหานเฟยเฟยไม่ธรรมดา

“พี่หยาง ขอบคุณนะคะ ฉันชอบมากเลย!”

ฟานเฟยเฟยหน้าตาตื่นเต้นเต็มเปี่ยม ทันใดนั้นหน้าแดงระเรื่อ ท่าทางเขินอาย “พี่หยาง พี่……..ใส่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย?”

หยางเฉินหัวเราะแล้ว รู้อยู่แล้วว่าหานเฟยเฟยกำลังเล่นละครจึงไม่ได้สนใจ จับมือน้อยของทานเฟยเฟยขึ้นมาต่อหน้าผู้คน ช่วยใส่กำไลให้เธอแล้ว

“งามเหลือเกิน!

“กำไลอันนี้ คือของที่ทำขึ้นมาเพื่อคุณหานเสียจริง!!

“มองจากไกลๆ ยังเหมือนภาพวาดทิวทัศน์ภาพหนึ่ง ช่างมี เสน่ห์เหลือเกิน!”

พวกผู้หญิงเหล่านั้นต่างมองข้อมือของหานเฟยเฟยด้วย ท่าทางอิจฉาเต็มที่

“ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อมีคนบอกว่าถ้าคุณหยางสามารถเอา ของขวัญวันเกิดที่ดียิ่งกว่าออกมาได้ จะกินขวดเหล้าเลยมั้ง?”

ในเวลานี้เอง กวนเสวยงพูดอย่างหน้าตาเสียดสีขึ้นกะทันหัน

ในสายตาที่มองทางเฝิงอี้ฉินหยอกเย้าสุดๆ

เขาพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนถึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องสนุกที่ ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า

“โตมาขนาดนี้แล้ว ฉันยังไม่เคยดูการแสดงกินขวดเหล้ามา ก่อน ในที่สุดวันนี้ก็มีโอกาสแล้ว

“ฮ่าๆ ฉันก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน อยากรู้อยากเห็นมากเลยว่า ขวดเหล้าหยาบขนาดนั้น เขากินลงไปได้ยังไง?

“กินไม่ลงไม่ยากเลย ทุบให้แตกก็ไม่ใช่ว่ากินลงไปได้แล้วเหรอ?”
บรรดาแขกเหล่านั้นต่างทยอยมองทางเฝิงฉินอย่างหยอกล้อ พลางพูดขึ้นมา

ที่งานเลี้ยง ล้วนเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ชั้นนำแต่ละ เมือง ย่อมไม่เห็นเฝิงอี้ฉันอยู่ในสายตาเป็นธรรมดา หยางเฉินหรี่ตามองทางเฝิงอี้ฉันเหมือนกัน ก่อนจะเอ่ยปาก

บอก “สามารถเริ่มการแสดงของนายได้แล้ว!”

“ไอ้หนุ่ม แกอย่ามาโอหังเกินไป คิดว่าเอากําไลของปลอมอัน หนึ่งออกมาแล้ว จะมาเห็นพวกฉันเป็นคนโง่ที่หลอกได้งั้นเหรอ?”

เฝิงอี้ฉันหัวเราะเยาะติดกันพูดขึ้น “ถ้าแกให้กำไลที่ราคาเป็น สิบล้านไปได้ ทําไมถึงได้แต่งตัวยาจกแบบนี้ได้ล่ะ?”

“ของปลอม?”

“เป็นไปไม่ได้มั้ง?”

“สีและความมันวาวของกำไลนั้น ละมุนเนียนละเอียดขนาดนี้ จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไรกัน?

“เฝิงอี้ฉิน นี่นายแพ้ไม่เป็นใช่มั้ย! ถ้าเป็นลูกผู้ชาย ก็กินขาด เหล้าไปซะ!”

“ขวดเหล้าใหญ่เกินไป งั้นกินแก้วเอาเถอะ? ฮ่าๆ!” ทุกคนต่างโวยวายขึ้นมา ตะโกนให้เฝิงอี้ฉันกินขวดเหล้าแล้ว

คนในงาน เป็นคุณชายตระกูลใหญ่ของแต่ละเมือง ปกติพอ เจออัญมณีมามากมาย ยังมีความสามารถดูออกอยู่นิดหน่อย
กําไลที่หยางเฉินมอบออกมา พอมองก็รู้แล้วว่าเป็นของจริง

“เฝิงอี้ฉิน กำไลนี้ เป็นคุณหยางไปที่เมืองเทียนของพวกฉัน ด้วยตนเอง เพื่อซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณหาน ฉันเป็นคนรับผิด ชอบอยู่ตรงนี้ นายบอกว่านี่คือของปลอมก็คือของปลอมเหรอ?”

เฉินยิ่งเหาก็ลุกออกมาแล้ว หัวเราะเยาะไม่หยุด

ทุกคนถึงได้สติกลับมา ปัจจุบันนี้เมืองเทียนถูกตระกูลเฉินซื้อ ไปแล้ว อยากเทียบกำลังทรัพย์ขึ้นมาจริงๆ ตระกูลเฉิน ในตอนนี้ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองเอกมากเท่าไร

เพิ่งฉินสีหน้าดูแย่อย่างมาก ถูกทำให้โกรธจนพูดไม่ออกสัก ประโยคเดียว

ได้แต่มองทางหนึ่งเฉินหยู่อย่างขอความช่วยเหลือ

“ฉันยอมรับ ของขวัญที่นายให้ แพงกว่าของฉัน แต่นี่แล้วยังไง กัน? แหวนเพชรรูปหัวใจที่ฉันเอาให้เป็นของฉันซื้อมาด้วยความ รักที่จริงใจ ความรักที่ฉันมีต่อเฟยเฟย ประเมินค่าไม่ได้!!

หนิงเฉินหยู่มองทางหยางเฉิน พูดจาด้วยสีหน้าเย็นชา “เมื่อกี้ พวกเราบอกไว้ว่าถ้าของขวัญ ใครแพงยิ่งกว่า ก็ไม่ใช่เพียงแค่ ราคาแพงกว่าแบบทั่วไป

หยางเฉินหัวเราะแต่ไม่พูด เวลานี้ เขาไม่อยากโต้เถียงอะไร กับพวกโง่แบบนี้แล้ว

“พวกนายน่าจะรู้สึกโชคดี นี่คือที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของ เฟยเฟย เลือดตกยางออกมันไม่เป็นมงคล
หยางเฉินเอ่ยปากบอกทันได “นายว่าอะไรนะ?”

หนิงเฉินหยู่ที่หน้าเปลี่ยนในชั่วขณะนั้น

“หนิงเฉินหยู่ คุณหุบปากไปเลยนะ! วันนี้คืองานวันเกิดของฉัน ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ตอนนี้คุณไสหัวออกไปเลย!

ในที่สุดหานเฟยเฟยระเบิดความโกรธขึ้น ตาแดงตะโกน ขึ้นมาแล้ว จากนั้นยื่นมือไปยังเฝิงฉิน ตำหนิว่า “ยังมีนายอีก ไสหัวออกไปให้ฉันเลยนะ! อย่าคิดว่าตระกูลเส็งพึ่งพาตระกูล หนิง แล้วตระกูลหานของฉันจะไม่กล้าแตะต้องนายนะ!”

“ให้เวลานายสามสิบวินาที ไสหัวออกไปจากงานวันเกิดฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ถือสาให้รุ่นหลานอายุน้อยคนหนึ่งของ ของตระ กูลเฝิงหายตัวไป!!

เวลานี้ หานเฟยเฟยทำหน้าโกรธเคือง คำพูดก็เผด็จการถึงขั้น สุด

ทำเอาเฝิงอี้ฉันตกใจจนสั่นเทาขึ้นมาทั้งตัว จากนั้นเขาถึงมี ปฏิกิริยาเข้ามา ตนเองอยู่ที่ตระกูลหาน เป็นศัตรูกับผู้ชายที่หาน เฟยเฟยชอบไปทุกที่

ต่อให้ตระกูลหานฆ่าเขาแล้ว ตระกูลเฝิงก็คงไม่กล้าทำอะไร หรอก

“คุณ……..คุณหาน ใจเย็นครับ! ผมไสหัวไป ผมไสหัวไปเดี๋ยวนี้ เลยครับ!”
เฝิงอี้ฉันพูดจบ หมุนตัววิ่งออกไปจากโถงงานเลี้ยงแล้ว “คุณก็ใสหัวออกไปให้ฉันด้วย!!

หานเฟยเฟยยื่นมือชี้ไปทางหนิงเฉินหยอีกคน กัดฟันแน่น ตะโกนเสียงดัง

สีหน้าหนิงเฉินหยู่เขียวปัดถึงขีดสุด โตมาขนาดนี้ เป็นครั้ง แรกที่ถูกคนไล่ออกไปท่ามกลางสาธารณชน

โดยเฉพาะรอบด้านยังมีลูกหลานตระกูลใหญ่แต่ละเมืองมาก ขนาดนั้น นี่ทำให้เขารู้สึกว่าบนหน้าร้อนผะผ่าว อยากหารมุด เข้าไปหลบใจแทบขาด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ