The king of War

บทที่ 300 ไล่ออกจากตระกูล



บทที่ 300 ไล่ออกจากตระกูล

“หยางเฉิน!

หานเซียวเทียนตะโกนในชั่วขณะนั้น หน้าตาเต็มไปด้วยความ

โกรธเคือง

“พี่หยาง!”

หานเฟยเฟยดวงตาแดงก่ำ และร้องตะโกนขึ้นมาเช่นกัน

“คุณหยาง!”

เฉินซิงไห่และกวนเสวซง ยังมีหวังเฉียงอีกคน เมื่อมองเห็น ฉากนี้เข้า ทั้งหมดต่างร้องคำรามขึ้นมากันแล้ว

วันนี้ พวกเขาล้วนมาเพื่อหยางเฉินกันทุกคน ถ้าหยางเฉินโดน

ฆ่า พวกเขาคงต้องเผชิญหน้ากับหายนะที่ถึงแก่ชีวิต

แต่ตอนที่ทุกคนล้วนคิดว่าหยางเฉันคงต้องแบบไม่ต้องสงสัย นั่นเอง ทันใดนั้นหยางเฉินยื่นแขนออกมาข้างหนึ่ง

“ป้าบ!”

ภายใต้ความตื่นตกใจของทุกคน หยางเฉินจับข้อมือของเจ้า ดำที่แกว่งมีดเอาไว้แล้ว พูดจาด้วยหน้าตาไร้อารมณ์ “มาเล่นมืด ต่อหน้าฉัน แก คู่ควรเหรอ?”

“ปิง!”
ชั่วขณะที่หยางเฉินพูดจบไป เท้าข้างหนึ่งลอยออกมา ถีบตรง ท้องน้อยของเพ้า เต็มๆ

เสียงกระแทกที่หนักอึ้งเสียงหนึ่งดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งที่ บัญชาการเองของตระกูลเพิ่งราวกับลูกบอลยาง ชั่วพริบตาเดียว ลอยออกไปสิบกว่าเมตร ชนบนต้นไม้โบราณที่สูงตระหง่านต้น หนึ่งอย่างรุนแรง

ส่วนมีดในมือของเขานั้น เกิดเสียงดังเพลง” จากนั้นตกลงบน

“นี่คือที่พึ่งของแกตระกูลเมิ่ง?”

หยางเฉินหันหน้ามองทางเมิ่งหงายอย่างหยอกเย้าพลางถาม

เหตุการณ์ฉากนี้ สะเทือนจิตใจของแต่ละคนในเหตุการณ์

อย่างรุนแรง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของตระกูลเพิ่งล้วนตาค้างกันหมด นี่คือที่พึ่งของแกตระกูลเมิ่งเหรอ?

คำพูดประโยคนี้ของหยางเฉิน ดังก้องอยู่ในหัวสมองของพวก เขารอบแล้วรอบเล่า

ไม่เพียงแค่คนของตระกูลเมิ่ง ยังมีตระกูลเฉินกับตระกูลกวน และเมืองคิงด้วย ทุกคนต่างทำหน้าอึ้งทึ่ง

แม้แต่หานเซียวเทียน ยังเบิกดวงตาโตทั้งคู่เลย
“เพ้า ลงมือ เลือดท่วม? ถุย! เข้าเฝ้าขาวอะไรกันมาอยู่ ต่อหน้าคุณหยาง ก็แค่ก้อนหนึ่งเท่านั้นแหละ!

เฉินซึ่งไม่ได้สติกลับเข้ามาคนแรกสุด พูดจาเย้ยหยันไปเต็มที่

ในเวลานี้ เขายังเห็นความสำคัญของตระกูลเพิ่งอยู่อีกที่ไหน?

“ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่บัญชาการเองของตระกูลเมิ่ง โดนตีที เดียวก็หมดสภาพแล้ว! จะมาจับมีดต่อหน้าคุณหยาง คู่ควรแล้ว เหรอ?”

กวนเสวซงก็ตอบสนองกลับมาเหมือนกัน รีบพูดทันที

ตามมาด้วยหวังเฉียงหัวเราะฮาๆ เสียงดังขึ้นมา “อยู่ต่อหน้า คุณหยาง ใครกล้าเรียกว่าเป็นตำนาน? มีใครคู่ควรบ้าง?

สามารถพูดได้ว่ามองเห็นหยางเฉินโจมตียอดฝีมืออันดับหนึ่ง ของตระกูลเพิ่งพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดาย คนที่ดีใจมากที่สุดก็คือ ตระกูลเฉินกับตระกูลกวน และยังมีเมืองคิงด้วย

โดยเฉพาะนี่คือตระกูลใหญ่ชั้นนำของเมืองเอก ตระกูลเมิ่ง

พวกเขาพนันด้วยชีวิตของตนเองและครอบครัวแล้ว ถ้าเกิด หยางเฉินแพ้ งั้นตระกูลที่พวกเขาอยู่กันก็คงจะโดนตระกูลเมิ่งพัง ย่อยยับ

แต่ถ้าหยางเฉินได้รับชัยชนะ งั้นวันหลัง ต่อให้เป็นตระกูล ใหญ่ชั้นนำของเมืองเอก สำหรับพวกเขาแล้ว ยังมีอะไรน่ากลัว อีก?
เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกถึงระยะห่างของตนเองและตระกูล ใหญ่ชั้นนำของเมืองเอก ใกล้กันเช่นนี้

กุ้ยหยาที่เมื่อสักครู่พยายามไปช่วยหยางเฉิน เวลานี้รู้สึก อับอายเต็มที่ นึกถึงเมื่อสักครู่ตนเองพูดเรื่องที่กำเริบเสืบสาน อย่างยิ่งพวกนั้นต่อหน้าหยางเฉินไป ยิ่งอายจนหน้าแดงไปหมด

ความสามารถของเค้าดำ เขาเป็นคนที่รู้ชัดเจนดีมาก และเคย

ปะทะกันลับหลังอยู่หลายครั้ง แพ้ชนะไม่ได้นับ

ปัจจุบันนี้ เข้าดำกลับไม่มีทางต้านทานการถีบครั้งเดียวของ หยางเฉินไว้ได้ สลบลงไปในที่สุดแล้ว

นี่อธิบายได้ว่าถ้าเป็นเขากับหยางเฉินปะทะกัน คงเป็นจุดจบ แบบเดียวกัน

“เจ้าบ้านเมิ่ง นายอย่าซุกซ่อนเอาไว้! ส่งพวกกระจอกคน

หนึ่งมาเรื่อยเปื่อยแบบนี้ อยากฆ่าผู้มีบุญคุณของฉันเหรอ?”

ชั่วขณะนั้นหานเซียวเทียนอารมณ์ดีมาก มองทางเมิ่งหงเย่ ด้วยหน้าตาเสียดสีเต็มที่พร้อมบอกว่า “รีบให้ยอดฝีมือที่แกร่ง สุดของตระกูลเพิ่งออกมาเถอะ! ไม่อย่างนั้นหลานชายของนาย เกรงว่าจะโดนเอาตัวไปจริงๆ แล้ว”

บนหน้าของเมิ่งหงเย่เต็มไปด้วยความอับอายและโกรธเคือง เขาฟังค่าเสียดสีในคำพูดของหานเดี่ยวเทียนไม่ออกหรือ อย่างไร?

เพ้า เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเขาตระกูลเมิ่ง แม้แต่เพ้ายังพ่ายแพ้ ตระกูลเพิ่งยังมีใครต้านทานหยางเฉินไว้ได้อีก?

“นายหุบปากไปเลย!

เพิ่งหงเยู่กัดฟันแน่นตวาดใส่ จากนั้นมองทางหยางเฉิน “สรุป แกอยากจะทำอะไร?”

“เมิ่งฮุยฆ่าแม่ยายของฉัน แม้แต่ศพยังไม่ยอมเอาให้ฉัน ฉัน ขอแค่ตัวเขา นี่คงไม่ถือว่าเป็นเหตุไปมั้ง?”

หยางเฉินถามด้วยท่าทางนิ่งสงบ

วันนี้เรื่องราวที่ก่อขึ้นมาก็ใหญ่พอแล้ว เขาไม่อยากทำเรื่อง ราวให้วุ่นวายไปยิ่งกว่านี้อีก

แต่กับเมิ่งฮุย เขาจําเป็นต้องเอาตัวไปด้วย

เวลานี้ ทั้งตัวเมิ่งฮุยสั่นเทารุนแรงขึ้นมา เขารู้ว่าหยางเฉิน แกร่งมาก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะแกร่งได้ถึงขั้นนี้

แม้แต่ยอดฝีมือที่บัญชาการเองของตระกูลเมิ่ง ยังตีพ่ายไปใน ทีเดียว

“คุณปู่ครับ อย่าไปฟังเขา ถ้าเอาตัวผมให้เขาไปจริงๆ เขาจะ ต้องฆ่าผมแน่นอน วันหลัง ศักดิ์ศรีของพวกเราตระกูลเมิ่ง จะเอา ไปไว้ตรงไหนกันครับ?”

เมิ่งฮุยพูดจาแบบสับสนไม่ได้ความ

เขากลัวจริงแล้ว ในฐานะคุณชายตระกูลเมิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความกลัวเช่นนี้
เพิ่งหงเยยกมือขึ้นมาตบ ตบลงบนหน้าของเมิ่งฮยอย่างหนัก ตาแดง พูดอย่างโมโห “ทุกอย่างเป็นความยุ่งยากที่แกก่อขึ้น มา แกยังมีหน้ามาพูดเรื่องศักดิ์ศรีของตระกูลเพิ่งกับฉัน?”

เพิ่งหงเยโกรธจนสั่นเทิ้มไปทั่วตัว

ปัจจุบันนี้ ตระกูลหานที่ความสามารถพอกันกับตระกูลเมิ่ง ได้ ประกาศเปิดศึกต่อตระกูลเพิ่งเรียบร้อยแล้ว ยังมีตระกูลเฉินยักษ์ ใหญ่หนึ่งเดียวของเมือง โจวเฉิง ก็ประกาศศึกกับตระกูลเพิ่ง นอกจากนี้แล้วยังมีตระกูลกวนและเมืองคิงของเมืองเจียงโจว ต่างประกาศศึกต่อตระกูลเพิ่งด้วย

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเผชิญหน้าการร่วมมือของตระกูลใหญ่ มากขนาดนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลเพิ่งเกิดความ เปลี่ยนแปลงมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังมีหยางเฉินอีกคน หนึ่ง

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเมิ่ง ตอนนี้ยังโดนโจมตีแพ้ ไปในยกเดียว ปัจจุบันเป็นตายไม่กระจ่าง

ถ้าเกิดหยางเฉินอยากฆ่าเขา จะมีใครสามารถขัดขวางได้?

นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องที่ทำให้เพิ่งหงเย่รู้สึกหวาดกลัวที่สุด สามารถพูดได้ว่าทุกอย่างในตอนนี้เหนือการควบคุมของเขา ชีวิตของตระกูลเพิ่งถูกหยางเฉินควบคุมไว้ทั้งหมดแล้ว

ถ้าหยางเฉินยินยอม ก็สามารถฆ่าญาติพี่น้องตระกูลเพิ่งในเหตุการณ์ทิ้งได้โดยสิ้นเชิง จากนั้นนำทุกอย่างของตระกูลเพิ่งมา ยึดครองไว้เอง

เสียงดัง”ตึก”ทีหนึ่ง เมิ่งฮุยคุกเข่าลงแทบเท้าของเมิ่งหงอย่ พูดจาแบบหน้าตกใจกลัวเต็มที่ “คุณปู่ครับ ผมผิดไปแล้ว ผม สำนึกผิดแล้วจริงๆ ครับ ขอร้องท่านช่วยผมด้วยครับ อย่าทิ้งผม ไป ผมสํานึกผิดแล้วจริงๆ!”

“ผิดแล้ว ก็ต้องชดใช้คืน!”

ทันใดนั้นเพิ่งหงเย่หลับตาลง พูดประโยคนี้ออกไปด้วยหน้าตา เจ็บปวดเหลือเกิน

เพิ่งฮุยเป็นรุ่นหลานที่เขาเลี้ยงดูขึ้นมาด้วยตนเอง สำหรับรุ่น หลานคนนี้ ต้องทุ่มเทสติปัญญาและกำลังไปมากเท่าไร มีเพียง เขาเองที่เข้าใจดี

แม้กระทั่ง ให้สิทธิ์เขาในการแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งผู้นำใน อนาคตกับบรรดาลุงอา และความจริงพิสูจน์แล้วว่าเพิ่งฮุยยอด เยี่ยมอย่างมากจริง

หลายปีมานี้ สร้างคุณูปการให้แก่ตระกูลมาไม่น้อยเลย

คือหลานชายที่ทำให้เขาชอบได้เช่นนี้ กลับเพราะความผิด พลาดครั้งหนึ่ง เกือบทำทั้งตระกูลเพิ่งย่อยยับลง

ถึงแม้ในใจเขาจะอดทนไม่ได้อย่างไร ก็ต้องตัดสินใจแบบนี้

“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมิ่งฮุยถูกไล่ออกจากตระกูลเมิ่ง ไม่มีความ เกี่ยวข้องใดๆ กับตระกูลเมิ่งอีก!”
เพิ่งหงเย่กวาดสายตามองทุกคน โดยฉับพลัน พูดจาเสียงดัง

“อะไรกัน?”

“นึกไม่ถึงว่าเจ้าบ้านอยากไล่เพิ่งฮุยออกจากตระกูล”

“งั้นคงไม่ใช่ว่าเจ้าบ้านอยากปล่อยเพิ่งฮุยทิ้งแล้วจริงๆ?

“เมิ่งฮุยเป็นคนหนุ่มคนหนึ่งในรุ่นของพวกเราที่ได้รับความ สนใจที่สุดแล้ว! เจ้าบ้านเคยพูดว่าต่อให้คนสืบทอดผู้นำคนต่อ ไปไม่ใช่เขา งั้นคนสืบทอดผู้นำคนต่อๆ ไปก็จำเป็นต้องเป็นเขา

ตอนที่คนของตระกูลเพิ่งได้ยินคำพูดของเมิ่งหงเย่ ต่างหน้าตา

ตื่นตกใจ

เพิ่งฮุยท่าทางอึ้งทึ่ง มึนงงไปทั้งตัวแล้ว อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ ถึงว่าเมิ่งหงเย่จะปล่อยเขาทิ้งไปจริงๆ

“คุณปู่ครับ ท่านทำแบบนี้ไม่ได้นะ ผมเป็นคนในตระกูลเพิ่งที่ดี เลิศที่สุด ทุ่มเทเพื่อตระกูลไปมากขนาดนั้น และสร้างคุณูปการ ให้กับตระกูลมากขนาดนั้นด้วย ท่านจะไล่ผมออกจากตระกูลได้ อย่างไรกัน?”

เพิ่งฮุยสับสนแล้ว คุกเข่าคลานมาถึงเท้าของเมิ่งหงเย่ กอดขา ของเมิ่งหงเย่ไว้ เปล่งเสียงตะโกนขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ