บทที่ 290 แผนร้าย
เว่ยเสียงมองหยางเฉินที่ได้ขับรถออกไปอย่างรีบร้อน ใบหน้า ก็ได้เต็มไปด้วยความดีใจที่รอดมา
“แม่งเอ๊ย ยังเป็นคนหรือเปล่าว่ะ?” เขาก็ได้พูดบ่นออกมา เสียงเบา
ถึงแม้ว่าบนตัวยังเจ็บอยู่ แต่เวลานี้ เขากลับไม่มีท่าที่จะมี ความรู้สึกอยากล้างแค้นหยางเฉินเลยแม้แต่นิด
ขนาดตระกูลเว่ยได้ส่งบอดี้การ์ดให้ตัวเองสิบกว่าคน แต่ก็ ไม่มีทางทำให้หยางเฉินเจ็บได้แม้แต่น้อย คนแบบนี้ เป็นคนที่ ตระกูลเว่ยกล้ามีเรื่องด้วยได้เหรอ?
“ไม่ได้ ฉันจำเป็นต้องไปรายงานกับทางตระกูล อย่าไปคิด ต่อกรกับหยางเฉินอีก ไม่อย่างนั้น ตระกูลเว่ยต้องถูกล้างโคตร แน่!”
อยู่ๆ เว่ยเสียงก็ได้พูดด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
เขาสามารถที่จะถูกตระกูลเว่ยมอบหมายให้ไปติดต่อตระกูล เพิ่ง ก็มากพอที่จะอธิบาย จุดยืนของเขาในตระกูลเว่ย
สามารถที่จะเป็นหนึ่งในคนที่มีอำนาจในตระกูลเว่ย เขาก็ไม่ ใช่ไอ้โง่
“พ่อครับ ผมมีเรื่องหนึ่ง จำเป็นต้องรายงานกับท่าน!
เว่ยเสียงก็ได้โทรไปหาเว่ยเจิ้งโจว เสียงได้ดูเครียดมาก
ว่ามา!”
เสียงที่น่าเกรงขามของเว่ยเฉิงโจวได้ส่งมา
เขาเป็นหัวหน้าของตระกูลเว่ย กับคนในตระกูล ก็ได้เข้มงวด มากๆ มาโดยตลอด
“พ่อครับ เมื่อกี้…….…..
“ปัง!”
เว่ยเสียงยังไม่ได้พูดจบ อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงปืนที่แสบหูดังขึ้น
ในการตกใจของบอดี้การ์ดสิบกว่าคน ระหว่างคิ้วของเวีย เสียง ก็ได้มีรูขนาดใหญ่ที่มีเลือดไหล
เวลาต่อมา ร่างกายของเว่ยเสียงก็ได้ล้มไปกับพื้น ตายตาไม่
หลับ
“ปังๆๆ !”
จากนั้น ก็ได้มีเสียงปืนดังติดกัน บอดี้การ์ดสิบกว่าคนของเวีย เสียง ตายไปทั้งหมด ไม่มีคนรอด
เจียงโจว ตระกูลเว่ย
ในคฤหาสน์ส่วนตัวหลังหนึ่ง ผู้นำตระกูลเวยเว่ยเฉิงโจว กำลัง ฟังการรายงานของเว่ยเสียง แต่ตอนที่เว่ยเสียงพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้น เสียงของเว่ยเสียงก็ได้หายไปเลย
จากนั้นต่อด้วย เสียงปืนที่ได้ดังติดกันไม่หยุด
“เว่ยเสียง!”
เว่ยเฉิงโจวเหมือนรู้อะไรแล้ว สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปเลยทันที ก็ได้ตะโกนอย่างโมโห
แต่ว่าเว่ยเสียงได้ถูกฆ่าไปแล้ว แล้วจะตอบได้ยังไง?
“ตึ้ง!”
เว่ยเฉิงโจวก็ได้รับโยนโทรศัพท์ไปที่พื้นอย่างแรง ตะโกน อย่างโมโหว่า “รีบส่งคนไปหาเว่ยเสียง!”
“ครับ ผู้นํา!”
เว่ยเฉิงโจวในเวลานี้ ก็ได้โมโหเอามากๆ ดวงตาก็ได้แดงก่ำ
เสียงปืนเมื่อกี้หมายความว่าอะไร เขารู้ดี
แต่ว่า ต่อให้ตายแล้ว เขาก็ต้องเห็นศพ
ไม่นาน คนที่หน้าตาสกปรก บอดี้การ์ดที่ร่างกายเต็มไปด้วย บาดแผล ก็ได้ไปหาเว่ยเฉิงโจว
“ซาหลังเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เห็นบอดี้การ์ด สีหน้าของเว่ยเฉิงโจวก็ได้เต็มไปด้วยความ ตกใจ
ซาหลังเป็นบอดี้การ์ดที่เก่งมากในตระกูลเว่ย เป็นคนที่เขาส่ง ไปเอง ไปปกป้องความปลอดภัยของเว่ยเสียง
“ตุ้บ!”
สองเข่าของซาหลังก็ได้คุกเข่าไปกับพื้นตรงหน้าเว่ยเฉิงโจวอ ย่างแรง พูดด้วยความเจ็บปวดว่า “ผู้นำครับ ขาหลังทำให้ท่าน ผิดหวังแล้วครับ ได้มารับโทษกับท่านโดยเฉพาะ!
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ตาของเว่ยเฉิงโจวก็ได้แดงตะโกนอย่างโมโห
“ประธานเว่ย ตายแล้วครับ!”
ซาหลังเช็ดน้ำตา พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เป็นเด็กหนุ่มที่ ชื่อว่าหยางเฉิน เขาฆ่าประธานเว่ยแล้วครับ!”
ได้ยินลูกน้องพูด ลูกชายของตัวเองถูกฆ่า สีหน้าของเว่ยเฉิงโจ
วก็ได้เคร่งเครียดจนถึงขีดสุด
ถึงแม้ว่าเขาเดาจุดจบนี้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าตอนนี้ได้รับ การยืนยันข่าวร้ายนี้ สำหรับเขาแล้ว ก็ยังเจ็บปวดเอามากๆ
“ต่อให้ตายแล้ว ฉันก็จะเห็นศพ!” เว่ยเฉิงโจวตะโกนด้วย สีหน้าที่เคร่งเครียด
ซาหลังก็ได้รีบพูดว่า “ประธานเว่ยอยู่ข้างนอกครับ!”
เว่ยเฉิงโจวก็ได้เดินตามชาหลัง เดินออกจากห้องอย่างเซ ก็ได้มองศพสักพัก นอนอยู่หน้าประตูพอดี
เป็นเว่ยเสียงจริงๆ ด้วย ระหว่างคิ้วของเขา เป็นรูเลือดที่ดูแล้วทำให้ตกใจ
คนถึงแม้ได้ตายไปแล้ว แต่ว่าตาทั้งสองยังลืมอยู่
“สั่งการว่า ขับเคลื่อนกำลังของตระกูลเวียที่สามารถขับได้ ทั้งหมด ไปจับตัวหยางเดินกลับมาให้ฉัน
เว่ยเฉิงโจวก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ ตาที่ได้ปิดอยู่ๆ ก็ได้ลืมตา ขึ้นทันที ก็เหมือนกับแรงอาฆาตร้ายแรงแผ่ซ่านออกมา “ฉัน ต้องการจับเป็น! ฆ่าลูกชายของฉันเว่ยเฉิงโจวคนนี้ ฉันจะให้มัน ตายทั้งเป็น!”
เว่ยเฉิงโจวราวกัดฟันกรอดพูดออกมา สามารถรู้ได้เลยว่าเขา ได้โมโหขนาดไหน
ในเจียงโจว ตระกูลเว่ยก็คือพระเจ้า
ถึงแม้ว่ากับอีกสามตระกูลใหญ่ ถูกเรียกว่าสี่ตระกูลใหญ่ใน เจียงโจวเหมือนกัน แต่เขามั่นใจ อีกสามตระกูล ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ ของเขา
วันนี้ เด็กหนุ่มที่อายุไม่ถึงสามสิบคนหนึ่ง กล้าที่จะฆ่าลูกชาย ของตัวเอง
จัดการเตรียมตระกูลเว่ยเรียบร้อย เว่ยเฉิงโจวก็ได้โทรออกไป หาอีกคน “ท่านตระกูลจวง ถ้าเกิดผมจำไม่ผิด หลานชายของคุณ จวงปี่ฝาน ก็ได้ถูกเด็กอายุน้อยที่ชื่อว่าหยางเฉินคนหนึ่งฆ่าใช่ ไหม?”
“เจ้าบ้านเว่ย คุณอยากจะพูดอะไร?” จวงเพิ่งเปิดปากพูด ตั้งแต่ผู้นำตระกูลจวงคนก่อน จางเจี้ยนเซ่อเป็นเพราะลังเลปล่อยเฉียนเปียวที่บุกฆ่าถึงที่บ้านไป ก็ได้ถูกคนของเมิ่งฮุยฆ่า
จากนั้นลูกคนเล็กของจางเจี้ยนเซ่อจวงเชิ่ง ก็ได้ถูกเมิ่งฮุยระบุ ให้เป็นผู้นำตระกูลจวง
ตอนที่จางเจี้ยนเซ่อมีชีวิตอยู่นั้น จวงเซิ่งก็ได้เป็นผู้สืบทอดของ ตระกูลจวง ก็สามารถพูดได้ว่า ความสามารถของเขา ไม่ใช่กระ จอกๆเลย
“ก็เมื่อกี้ ลูกชายของผมเว่ยเสียง ถูกหยางเฉินฆ่าแล้ว! ผมคิด ที่จะใช้กำลังทั้งหมดของตระกูล ไล่ฆ่าหยางเฉิน อยากจะขอ กำลังของตระกูลจวงมาช่วย ไม่รู้ว่าตระกูลจวงสนใจไม่ครับ?” เว่ยเฉิงโจวก็ได้พูดไปตรงๆ
จวงเพิ่งได้ยินแบบนั้น ก็ได้แกล้งถามอย่างตกใจว่า “อะไรนะ ครับ? ขนาดประธานเว่ยก็กล้าฆ่า! ไอ้เด็กนั่นไม่อยากที่จะมีชีวิต แล้วเหรอ!”
“แต่ว่า เจ้าบ้านเว่ย เรื่องนั้นได้ผ่านไปนานแล้ว ถ้าให้พูดอีก พวกเราก็ไม่มีหลักฐานที่จะไปพูดว่า คนที่ฆ่าหลานชายของผม เป็นหยางเฉิน!”
“เรื่องนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจน รอให้ตรวจสอบให้ ชัดเจนแล้ว ถ้าเกิดเป็นหยางเฉินทำจริง พวกเราตระกูลจวงไม่มี ทางปล่อยมันไปแน่ๆ
จวงเซิ่งหัวเราะอย่างเย็นชาในใจ “อยากจะลากพวกเราไป ชวยด้วย ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”
ตอนทีเฉียนเปียวบุกมาถึงบ้าน ในการจับตามองของคนที่ แข็งแกร่งมากมายของตระกูลจวง ฆ่าคนมีฝีมือที่ตระกูลเพิ่งส่งมา
เจียนเปียวคนเดียว ก็สามารถที่จะทำให้ตระกูลจวงวุ่นวายได้ เขานั้นไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งด้วย
ถ้าจะให้พูด จวงผ่านก็เป็นแค่หลานชายของเขา และพ่อของ จวงผ่านจวง โม่ ยังเป็นคู่แข่งของตน เขาก็ไม่จำเป็นที่จะไปช่วย คู่แข่งล้างแค้นหรอก
“ไหนๆ ตระกูลจวงไม่สนใจ งั้นก็ช่างเถอะ!
เว่ยเฉิงโจวพูดจบ ก็ได้วางสายไป ไม่ได้ซื้อต่อเลยแม้แต่น้อย ต่อด้วย เว่ยเฉิงโจวก็ได้โทรไปหาซูเฉิงคู่กับกวนเจิ้งซาน เนื้อหาก็เหมือนกัน ไปขอให้ตระกูลซูกับตระกูลกวนช่วย ผลที่ได้รับคิดๆ ก็รู้ แต่ก็โดนปฏิเสธ
“เห็นที อำนาจตระกูลเว่ยของฉัน ก็ยังน้อยเกินไป!
สองตาของเว่ยเฉิงโจวได้หรี่ นัยน์ตาดำสนิท แล้วก็ได้มีไฟ โกรธปนเล็กน้อย
ที่เขาติดต่อไปหาผู้นำทั้งสามตระกูลด้วยตัวเองนั้น ก็ไม่ได้ที่จะ ขอให้ช่วยจริงๆ ก็แต่อยากจะอาศัยโอกาสนี้ ดูท่าทางของตระกูล อื่น
“ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ รอให้จัดการหยางเฉินเสร็จ ตำแหน่งใน เจียงโจว ก็ควรที่จะเรียงใหม่แล้ว!”
เว่ยเจิงโจวประคองตัวลุกขึ้น พูดอย่างเต็มอก
ออร่ามาเต็ม ดูยิ่งใหญ่มาก
เป็นผู้นำตระกูลเว่ย เขามีความมั่นใจที่จะพูดแบบนี้
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินอยู่ระหว่างทางที่จะไปเมืองเอก แล้วก็ได้รับสายของกวนเจิ้งซานกับซูเฉิงอู่ติดต่อกัน
คําพูดในสายก็เหมือนกัน เว่ยเฉิงโจวหาพวกเขา ให้ออกแรง จัดการหยางเฉิน
แต่หยางเฉินก็ตอบไปเหมือนกันว่า “เตรียมตัวให้ดีในการที่ จะจัดการตระกูลเว่ย!”
ก็แค่คำเดียว กลับทำให้กวนเจิ้งซานกับซูเฉิง ก็ได้ดีใจขึ้นมา
เลยทันที
กี่ปีมานี้ ธุรกิจของตระกูลเว่ยเป็นพวกธุรกิจใหญ่ๆ ได้กดขี่อีก สามตระกูลที่เหลืออย่างไร้ความปราณี
พอตระกูลเวยล้มลง ก็เป็นช่วงที่ตระกูลกวนกับตระกูลซูแบ่ง เจียงโจวกันแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ