The king of War

บทที่ 266 ตบหน้าตัวเอง



บทที่ 266 ตบหน้าตัวเอง

“หยุดให้หมดทุกคนเลย!!

ตอนที่ต้าเมามองเห็นซูเฉิงปรากฏตัวขึ้น ชั่วขณะนั้นหวาด ผวาแล้ว รีบร้องคารามทันที

“ผู้นำชู วันนี้ท่านว่างมาที่นี่ได้อย่างไรกันครับ?”

ต้าเมารีบเข้ามาหา เหงื่อออกเต็มหน้า

ซูเฉิง เคยเตือนเขาเอาไว้แต่แรก ให้เขาทำอะไรอย่าเอิกเกริก

เมื่อสักครู่ เขากลับให้คนมาจัดการหยางเฉินจนพิการต่อหน้า

สาธารณชน เวลานี้ ในใจเขารู้สึกว่าโชคดีอยู่บ้าง ที่เมื่อสักครู่ไม่ได้รีบร้อน

ลงมือ ไม่อย่างนั้นหากโดนซูเฉิงจับได้ เป็นอันว่าเขาจบเห่แน่

ซูเฉิงอู่ไม่มองเขาแม้แต่แวบเดียว รีบก้าวไปยังทางหยางเฉิน ข้างกายเขายังมีผู้หญิงอายุน้อยคนหนึ่งตามมาด้วย ซึ่งก็คือซู ชาน

“คุณหยางครับ ให้คุณรอนานแล้วนะครับ!!

หลังซูเฉิงอู่มาถึงตรงหน้าของหยางเฉิน พยักหน้าเล็กน้อย

ท่าทางเคารพนบน้อม

ครืน!
ทั้งร้านอาหารเปียหยวนซุน เวลานี้เงียบเชียบไร้เสียง

ทุกคนเบิกดวงตากลมโตมองเหตุการณ์ฉากนี้

วินาทีก่อนหน้านี้ต้าเมายังรู้สึกโชคดีที่ตนเองลงมือช้า วินาที ต่อมา ซูเฉิงอู่กลับวิ่งเข้าไปหาหยางเฉินและกล่าวทักทายก่อน

หยาดเหงื่อไหลลงมาตามหน้าผากของเขา ในชั่วพริบตาสั้นๆ

ต้าเมาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อหมดทั้งตัว

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สามารถทำให้เศรษฐีเมืองเจียงโจวกล่าว ทักทายได้ เป็นการมีตัวตนที่เขาต้าเมาสามารถล่วงเกินได้เหรอ?

“หยางเฉิน ไม่เจอกันนานเลยนะ!”

ซูซานหน้าตาดูยิ้มแย้มแจ่มใส

ในความเป็นจริง ระยะห่างจากครั้งก่อนที่ทั้งสองเจอหน้ากัน ในเมือง โจวเฉิงเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์สั้นๆ เท่านั้นเอง

ทันใดนั้นสายตาซูซานตกอยู่บนตัวเซี่ยเหอ ในสายตา ประกายแววตาตกใจนิดๆ พาดผ่านไป

แม้จะใส่ชุดพนักงานที่ธรรมดา กลับไม่มีทางปกปิดใบหน้าที่ งดงามนั้นของเซี่ยเหอไว้ได้ ยังมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบเหลือเกิน ด้วย

เวลานี้ ลักษณะท่าทางกำลังกังวลและอับอาย มือทั้งคู่จับชาย เสื้อของหยางเฉินไว้แน่น บนหน้ายังมีอาการตกใจกลัวพอสมควร
หยางเฉินไม่ได้สนใจ มองทางด้าเมาที่ตกใจจนอยู่ไม่นิ่งไปตั้ง นานแล้วด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “เมื่อกี้แกบอกว่า อยากบดขยี้แขน ขาฉัน? ยังอยากให้ฉันตายทั้งเป็นอีกใช่ไหม?”

พอพูดจบไป หยางเฉินก็ก้าวเดินไปทางต้าเมาทันใด

“ยังบอกว่าจะมานอนกับเพื่อนของฉัน ต่อหน้าฉันอีกด้วย?”

“ยังอยากให้ฉันอยากจะอยู่ก็ไม่รอด อยากจะตายก็ตายไม่ ได้?”

“ยังอยากดูหน่อยว่าถึงตอนนั้น ฉันยังจะหยิ่งในศักดิ์ศรีขนาด

นั้นเหมือนเมื่อกี้หรือเปล่า?”

แต่ละก้าวที่หยางเฉินเดินมาด้านหน้า สอบถามต้าเมามา เรื่อยๆ หลังเขาพูดจบ ระยะห่างกับต้าเมาก็เหลือเพียงหนึ่งเมตร

“ไอ้สารเลว!”

ซูเฉิงอู่พูดอย่างเดือดดาล “ต้าเมา แกใจกล้ามากเลยนะ นึก ไม่ถึงแม้แต่แขกพิเศษของฉัน ยังกล้าล่วงเกิน!!

ซูเฉิงอู่ในเวลานี้ โกรธแค้นอย่างยิ่งจริงๆ และไม่ได้เสแสร้ง แกล้งทําสักนิด

วันนั้นที่หยางเฉินเพิ่งกลับมาถึงเมืองเจียงโจว หานเทียนเฉิง พ่อบ้านของตระกูลอวี่เหวินเคยสั่งกำชับเขาไว้ อยากให้เขา ติดตามหยางเฉินไม่ห่าง

เพียงแต่หยางเฉินไม่ต้อนรับเขามาโดยตลอด
ไม่ง่ายที่จะให้ซูซานช่วยเชื้อเชิญหยางเฉินมาทานข้าวที่นี่ แต่ สุนัขของตัวเองกลับผิดใจหยางเฉินเข้าแล้ว

เขาใช้พลังไปมากขนาดนั้น ถึงได้รับความรู้สึกดีสักนิดของ หยางเฉินมา หรือว่าจะพังลงในชั่วข้ามคืนเหรอ?

“ตึก!”

ถึงแม้ต้าเมาจะเป็นผู้มีอิทธิพล แต่ก็เป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งที่ เฉิงอู่เลี้ยงไว้ กล้าล่วงเกินซูเฉิงอู่ที่ไหน?

ปัจจุบันนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สถานะสูงส่งยิ่งกว่าซูเฉิง กลับ ถูกเขาล่วงเกินแล้ว

“ผู้นำชู ผมรู้ว่าผิดแล้วครับ!”

“ขอร้องท่านให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง อีกเด็ดขาด!”

“ต่อไป ผมจะเป็นหมาที่เชื่อฟังตัวหนึ่ง และไม่กล้าเที่ยวไป ดูถูกใครอีกแล้วครับ”

ต้าเมาตกใจแทบแย่แล้วจริงๆ ขอร้องไปด้วย เอาศีรษะโขก บนพื้นอย่างแรงไม่หยุดไปด้วย ไม่นานบนหน้าผากของเขาเต็ม

ไปด้วยเลือดสด

มองเห็นฉากนี้ ลูกค้าที่มุงดูกันเมื่อสักครู่เหล่านั้นต่างมอง

ตาค้างกันหมด

าเมา เมื่อสักครู่ยังยโสโอหังอย่างยิ่ง บัดนี้กลับคุกเข่าอ้อนวอนอยู่แทบเท้าคนอื่น แถมยังด่าตนเองเป็นหมาตัวหนึ่ง

เว่ยหมิงเยวสีหน้าดูแย่มาก หล่อนรู้ว่าหยางเฉินและซูซานรู้จัก กัน แต่กลับนึกไม่ถึงว่าแม้แต่ซูเฉิงยังเคารพนอบน้อมหยางเฉิ นมากเช่นกัน

เขาเป็นเพียงลูกสะใภ้สวะที่ตระกูลเล็กๆ ไล่ออกมาคนหนึ่ง ไม่ใช่เหรอ?

เข้ามาส บดขยี้แขนขาของต้าเมา ให้ฉัน จากนั้นเอามันทิ้งไว้ หน้าประตูร้านอาหารเปียหยวนซุน ห้ามให้มันหนีไปไหนสัก ก้าว!”

ในสายตาซูเฉิงอู่เหี้ยมโหดเต็มที่ พูดจาอย่างโมโหฉุนเฉียว “ถ้ามีลูกค้ายอมให้ข้าวมันกินสักคำ ก็ให้มันกิน ถ้าไม่มี งั้นก็ให้ มันอดตาย!”

ในฐานะเศรษฐีเมืองเจียงโจว ซูเฉิงอู่จะเป็นคนที่มีเมตตา

ใจอ่อนได้เหรอ?

ได้ยินคำพูดของซูเฉิงอู่ ชายกำยำตัวสูงใหญ่ที่เมื่อกี้ยังฟังค่า สั่งต้าเมาหลายคนนั้น ต่างพุ่งไปยังต้าเมาแทน

“ตบ! ตบ! ตบ!”

ในสายตาต้าเมาตกใจกลัวสุดๆ โขลกศีรษะลงบนพื้นอย่าง แรง โขลกลงพลางอ้อนวอน “ผู้นำชูครับ ผมสำนึกผิดจริงๆ แล้ว ครับ ไม่กล้าทำอีกแล้ว ขอร้องท่านปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ ครับ!”
“ลงมือ!”

ซูเฉิงอู่ตะโกนสั่งอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ไม่นาน ในส่วนสําคอลึกของต้าเมาก็ระเบิดเสียงคำรามที่ ย่ำแย่ออกมา

คน ในที่เกิดเหตุไม่มีใครไม่รู้สึกตื่นตกใจ

ต้าเมาที่เพิ่งข่มขู่จะบดขยี้แขนขาของหยางเฉิน ตอนนี้แขนขา ของเขากลับโดนบดขยี้

เรื่องนี้ ยืนยันความจริงที่ว่าทำชั่วได้ชั่วโดยสมบูรณ์แบบ “คุณหยางครับ ท่านว่าผมจัดการแบบนี้ ได้หรือเปล่าครับ?”

ซูเฉิงอู่ไม่วางใจ ถามไปด้วยความระมัดระวังอีกที

หยางเฉินเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย ยังคงไม่พูดอะไร ทันใด นั้นดวงตาที่แหลมคมตกบนตัวของเว่ยหมิงเยว่

ถูกหยางเฉินจ้องมากะทันหันแบบนี้ เว่ยหมิงเยวสีหน้าลนลาน หวาดผวาอย่างยิ่ง

“นายกินเสร็จแล้วหรือยัง? กินเสร็จแล้วก็รีบไปสิ!”

เว่ยหมิงเยว่ไม่กล้าสบตากับหยางเฉิน ดึงเด็กหนุ่มที่ตนเอง เลี้ยงดูไว้หมายจะออกไป

“คุณหนูเว่ย เมื่อกี้เธอไม่ได้โวยวาย อยากให้เพื่อนฉันชดใช้คาเสื้อผ้าของเธอเหรอ? ยังไม่ได้ชดใช้เลยนะ ทำไมเธอถึงจะไป แล้วล่ะ?”

ในนํ้าเสียงของหยางเฉินเต็มไปด้วยการเสียดสี

ทุกอย่างที่เกิดเมื่อสักครู่นี้ เว่ยหมิงเยว่เป็นตัวการก่อกรรมทำ เข็ญ หยางเฉินย่อมไม่ปล่อยหล่อนไปง่ายๆ

ได้ยินเสียงของหยางเฉิน เว่ยหมิงเยวสั่นไปทั้งตัว ในทำเป็น สงบนิ่งพูดว่า “แค่เสื้อผ้าหนึ่งแสนกว่าเท่านั้นเอง ในเมื่อเปื้อน แล้ว งั้นก็ทิ้งไป ยังไงฉันก็ไม่ขาดเงินหนึ่งแสนกว่านั้นอยู่ดี

“เมื่อกี้คุณหนูเว่ยไม่ได้พูดแบบนี้หรอกมั้ง?” หยางเฉินพูดเยาะ

เย้ย

“หยางเฉิน นายอย่ามาทำเกินกว่าเหตุไปหน่อยเลย!!

เว่ยหมิงเยวถูกสอบถามต่อหน้าสาธารณชน ชั่วขณะนั้น อับอายจนโมโห “นายอย่าลืมนะ ฉันเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูล เว่ย! ถ้านายกล้ามาทำอะไรฉัน ตระกูลเว่ยจะไม่ปล่อยนายไปเด็ด ขาด!”

“เชอะ!”

ซูเฉิงอู่เดินมาข้างหน้า พูดจาเย็นชา “ลูกหลานตระกูลเวียคน หนึ่ง กล้ามาแกล้งทำตัวใหญ่โตต่อหน้าฉัน? ต่อให้เธออยู่ตรง นี้ เขาจะกล้าพูดอะไรสักคำต่อหน้าคุณหยางเหรอ?”

เว่ยหมิงเยว่เม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าพูดจา
ซูเฉิงเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ระดับเดียวกับปูหล่อน โดยเฉพาะ ควบคุมเศรษฐกิจสําคัญของเมืองเจียงโจวไว้ไม่ใช่คนที่ตระกูล เวยสามารถผิดใจได้ง่ายดายจริงๆ

“เซี่ยเหอ รอยฝ่ามือบนหน้าคุณ เป็นหล่อนทำสินะ?”

หยางเฉินมองทางเซี่ยเหอแล้วถามขึ้น

ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเพิ่งเห็นเซี่ยเหอ ก็พบว่าบนหน้าของเซีย เหอมีรอยฝ่ามือนี้ไปแล้ว เวลานี้ถึงแม้มองไม่เห็น กลับไม่มีทาง เปลี่ยนแปลงความจริงที่เคยโดนตบหน้าได้

เซี่ยเหอรีบส่ายหน้า “ไม่มีใครตบฉัน!”

เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต โดยเฉพาะ อย่างยิ่งฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคุณหนูตระกูลเวีย

บนหน้าของเว่ยหมิงเยวมีความสับสนแวบผ่านนิดๆ อย่างแจ่ม

แจ้ง

“เธอเอามือข้างไหนตบหล่อน ตอนนี้ใช้มือข้างนั้นตบหน้าตัว เองไปสิบที ถ้าเธอไม่ออกแรง ฉันลงมือเอง!

ในลูกตาดำมืดของหยางเฉินเต็มไปด้วยความโกรธเคือง หลัง จากพูดจบ ทันใดนั้นก็ตบลงที่หนึ่ง

“ปัง!”

เสียงดังลั่น โต๊ะอาหารไม้ที่แข็งที่อไร้ที่เปรียบตัวหนึ่งด้านข้าง เขา แหลกละเอียด ในชั่วพริบตาเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ