The king of War

บทที่253ไร้ซึ่งความอดทน



บทที่253ไร้ซึ่งความอดทน

หยางเฉินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น หญิงสาวคนนี้ก็คือหาน เฟยเฟยนั่นเอง เพิ่งเจอกันตอนบ่ายของเมื่อวาน

ตอนนั้น หยางเฉินก็รู้สึกอยู่ว่าผู้หญิงคนนี้รู้จักตัวเอง แต่ตอน นั้นเขาก็มั่นใจมากๆ ว่า ทั้งคู่เพิ่งเคยได้เจอกันครั้งแรก

ตอนนี้พอได้มาเห็นเธอปรากฏตัวพร้อมกับหานเดี่ยวเทียน เขา ถึงเข้าใจว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่

หานเยี่ยวเทียนก็คือคนแก่ที่เขาช่วยไว้ที่ข้างทางเมื่อวาน ไม่ นึกเลย ว่าตาแก่นี่จะเป็นผู้นำตระกูลหานไปซะได้

ไม่ใช่แค่หยางเฉินคนเดียวที่รู้จักหานเฟยเฟย ฉินซีเองก็รู้จัก

รวมถึงเจิ้งเหม่ยหลิงที่หลบอยู่ด้านหลังเจิ้งหยันก็ด้วย

เมื่อวานตอนอยู่ที่งานนิทรรศการ เจิ้งเหม่ยหลิงกับเฉินอิงเหา นั้นถูกหานเฟยเฟยไล่ออกไปต่อหน้าคนมากมาย

ตอนนี้ หานเฟยเฟยมาทักทายหยางเฉินอย่างเป็นกันเองแบบ นี้ ก็เห็นได้ชัดว่า ผู้หญิงคนนี้รู้สึกเป็นมิตรกับหยางเฉินมากขนาด

ไหน

“ผู้มีพระคุณ ในที่สุดผมก็ได้เจอคุณ!

“เจ้าบ้านหานเรียกผมว่าหยางเฉินก็พอครับ อย่าเรียกผมว่าผู้ มีพระคุณเลย” หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่า ได้!”

หานเยี่ยวเทียนนั้นหัวเราะออกมาเสียงดัง ยิ่งมองหยางเฉินก็ ยังชอบใจ

เมื่อวานจู่ๆ โรคหัวใจของเขาก็กำเริบจนล้มลงกับพื้น มีคน มากมายเข้ามามุงดู แต่กลับไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเลย และ ในตอนที่เขากำลังรู้สึกสิ้นหวังอยู่นั้น หยางเฉินก็ปรากฏตัวขึ้น

ถึงแม้มันจะเป็นแค่การเอายาของเขาให้เขากิน

ต่อให้มันเป็นแค่การกระทำง่ายๆ แต่มันก็ได้ช่วยชีวิตของเขา

ไว้

เขาไม่ได้กลัวตาย แต่ก็ไม่อยากมาตายอย่างไร้ค่าแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของหยางเฉินมาก ทันใด นั้น เขาก็สั่งให้คนไปตามสืบว่าใครเป็นคนที่ช่วยเขาไว้

ความจริงเขาสืบรู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าเป็นหยางเฉิน แต่ก็เจอ กับสหายเก่า ดื่มไปเยอะมาก ลากยาวมาจนถึงวันนี้ถึงได้มาหา ด้วยตนเอง

“หยางเฉิน ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?

“ยี่สิบเจ็ดครับ!”

“ดูเธออายุยังน้อย ยังไม่ได้แต่งงานใช่มั้ย? เธอว่าหลานสาว ของฉันเป็นยังไงบ้างล่ะ?”

“คุณปู่คะ!!!”
พอหานเซียวเทียนได้เจอหยางเฉิน เขาก็รู้สึกถูกใจมาก จนถึง ขั้นอยากจับคู่หยางเฉินกับหานเฟยเฟยเข้าด้วยกัน หานเฟยเฟยนั้นทำหน้าทั้งโกรธทั้งอาย “คุณปู่คะ เขาแต่งงาน

ไปแล้ว ส่วนนี่ก็คือภรรยาของเขาค่ะ!”

เมื่อวานตอนอยู่ที่งานนิทรรศการ หานเฟยเฟยกับฉันก็เคย เจอกันมาแล้ว

“หา?”

หานเซียวเทียน หน้าเขินอาย แล้วรีบหันไปพูดกับฉันว่า “นี่ สาวน้อย ฉันต้องขอโทษจริงๆ! ฉันไม่รู้ว่าหยางเนินเขาแต่งงาน

ไปแล้ว”

พอเห็นหยางเฉินกับหานเดี่ยวเทียนที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกัน

อยู่ สีหน้าของคนในตระกูลโจวก็ดูแย่ไปตามๆ กัน

ถ้าหากว่าเมื่อก่อน พวกเขาทำตัวดีๆ กับหยางเฉินสักนิด ตอน นี้ก็มีเหตุผลให้เข้าหาผู้นำตระกูลสูงสุดของเหล่ามหาเศรษฐีแห่ง เมืองเอกแล้ว

“เจิ้งหยัน นี่คือคุณลุงหัน ยังไม่รีบมาทักทายอีก!”

เจิ้งเต๋อหัวรู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจ เจิ้งหยันไอ้หน้าโง่ นี่ไม่เห็น ไงว่าเขานั้นมาพร้อมกับหานเดี่ยวเทียน

ถึงกับต้องรอให้เขาเรียก ถึงได้รู้ว่าต้องมา

“คุณลุงหัน สวัสดีครับ!
เจิ้งหยันวิ่งเหยาะๆ เข้ามา พร้อมกับสีหน้าที่ตื่นเต้น

“เจ้าบ้านหาน เขาเป็นลูกชายของผม เจิ้งหยัน ตอนนี้ ผมได้ส่ง มอบเจิ้งเหอกรุ๊ปให้เขาดูแลแล้วครับ”

เจิ้งเต๋อหัวพูดไปยิ้มไป

เมื่อเห็นเจิ้งเต๋อหัวแนะนำลูกชายของตัวเองให้หานเซียนเทียน รู้จักแล้ว เมียวเจิ้งอวี่ก็แอบพูดอยู่ในใจว่า แย่แล้ว

เขารู้จักคนอย่างหานเดี่ยวเทียนมากๆ ต่อให้เป็นเมียวเจิ้งอ เองก็ตาม นับตั้งแต่รู้จักกับหานเซียวเทียนมานานขนาดนี้แล้ว ก็ ยังไม่เคยเข้าหาเขาด้วยตนเองมาก่อนเลย

ไม่อย่างนั้น ด้วยฐานะและตำแหน่งของหานเดี่ยวเทียน แค่พูด คำเดียว ก็สามารถทำให้ตระกูลเมียวนั้นกลายเป็นตระกูลที่สูง ที่สุดในเมืองโจวเฉิงแล้ว และคงไม่ต้องเป็นแค่ตระกูลระดับสอง ของเมือง โจวเจ๋งมานานขนาดนี้หรอก

หานเดี่ยวเทียนจ้องมองเจิ้งหยันแวบหนึ่ง แล้วพูดออกมาอย่าง เรียบเฉยว่า “อืม!!

ตอบไปแค่คำเดียว ก็ไม่อยากไปสนใจเจิ้งหยันอีก

หานเยี่ยวเทียนนั้นเป็นสหายร่วมรบกับเมียวเจิ้งอวี่ เคยผ่าน ความเป็นความตายมาด้วยกัน แต่กับเจิ้งเต๋อหัวนั้นไม่ได้มีความ สัมพันธ์อะไรแบบนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกชายของเจิ้งเพื่อ หัวเลย

“คุณปู่คะ!”
ทันใดนั้นเอง เจิ้งเหม่ยหลิงก็ได้เดินเข้ามาเหมือนกัน

“เหม่ยหลิง รีบเรียกคุณปู่หันเร็ว!”

เจิ้งเต๋อหัวรีบบอกกล่าว

“คุณปู่หัน สวัสดีค่ะ!”

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดออกมาอย่างไม่ค่อยชัดเจน

เมื่อกี้ หานเซียวเทียนยังตอบกลับเจิ้งหยันว่า “อืม” ไปคำหนึ่ง แต่ตอนนี้เขากลับไม่มองเจิ้งเหม่ยหลิงเลยด้วยซ้ำ แถมยังทำหน้า หงุดหงิดด้วย

“เจ้าบ้านหาน เธอคือหลานสาวของผม……

เจิ้งเต๋อหัวยังสังเกตไม่เห็นสีหน้าที่ทิ้งตึงของหานเดี่ยวเทียน และยังคงแนะนำเพิ่งเหม่ยหลิงต่อ

เมียวเจิ้งอวี่จึงรีบพูดขึ้นมาว่า “เต๋อหัว อย่าพูดอะไรที่มันได้ สาระพวกนี้เลย!”

เมียวเจิ้งอวี่พูดจบ ยังหันไปส่งสายตาให้เจิ้งเต๋อหัวอีกด้วย

ในที่ตอนนี้ เจิ้งเต๋อหัวถึงได้สังเกตเห็นสีหน้าที่ไม่ชอบใจของ หานเซี่ยวเทียน จึงรีบหุบปากไปทันที

“เหม่ยหลิง นี่เธอเป็นอะไรไป?”

เมื่อกี้เจิ้งเหม่ยหลิงพูดออกมาอย่างไม่ค่อยชัดเจนนัก จนตอน นี้เจิ้งเต๋อหัวถึงสังเกตเห็นว่าแก้มกับปากของเจิ้งเหม่ยหลิงนั้น บวมเป่งขึ้นมาแล้ว จึงได้โมโหขึ้นมาทันที “ใครมันไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหน? แม้แต่หลานสาวของเจ๋งเต๋อหัวคนนี้ยัง กล้าทําร้าย?”

เจิ้งเหม่ยหลิงทำหน้าดุร้าย ชี้นิ้วไปที่หยางเฉิน แล้วพูดพร้อม

กับกัดฟันแน่น “คุณปู่ ไอ้สารเลวนั่นค่ะที่เป็นคนตบหนู!”

ความเกลียดชังที่เจิ้งเหม่ยหลิงมีต่อหยางเฉินนั้น ได้มาถึงขีด สุดแล้ว

ตอนที่ได้รู้ว่าหยางเฉินช่วยชีวิตของหานเดี่ยวเทียนไว้นั้น เธอ

ก็ตั้งใจจะยอมแพ้เรื่องการแก้แค้นหยางเฉินแล้ว

แต่นี่เพิ่งเต๋อหัวคุณปู่ของเธอ กลับรู้จักกับหานเดี่ยวเทียน แถม ยังให้เธอเรียกหานเดี่ยวเทียนว่าคุณปู่อีก เธอจึงเข้าใจไปว่า ใน ใจของหานเซี่ยวเทียนนั้นเธอต้องสำคัญกว่าหยางเฉินแน่นอน

พวกคนของตระกูลโจวนั้นต่างทำหน้าดีใจ สายตานั้นเต็มไป ด้วยความคาดหวัง อยากเห็นว่าหานเดี่ยวเทียนนั้นจะจัดการกับ หยางเฉินยังไง

“ว่าไงนะ?”

พอเห็นเจิ้งเหม่ยหลิงกำลังชี้ไปที่หยางเฉิน เจิ้งเต๋อหัวก็ช็อกไป

ทันที

เขานั้นยังถือว่ารู้ถึงสถานะของตัวเองดี ถ้าไม่ใช่เพราะเมียวเจิ้ งอ หานเดี่ยวเทียนก็คงไม่แม้แต่จะมองเขาเลยด้วยซ้ำ

แต่หยางเฉินนั้น เป็นถึงผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของหานเดี่ยว เทียนไว้
“พ่อครับ ไอ้หมอนี่เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้ามาอยู่ในบ้าน แล้ว

มันจะไปช่วยชีวิตของคุณลุงหันไว้ได้ยังไงครับ นอกจากว่า จะ

เป็นคนอื่นที่ช่วยคุณลุงหันไว้ แล้วมันก็ไปแอบอ้างรึเปล่า?” เจิ้งหยันไม่รู้ตัวว่าสีหน้าของผู้เป็นพ่อนั้นดูไม่ดีแล้ว เขายังคง พูดต่อไม่ยอมหยุด “ไอ้หมอนี่ทำตัวโอหัง ไม่เพียงทำร้ายเหม่ย

หลิง แต่ยังให้คนทำร้ายผมด้วย!

“คุณปูหัน คุณปู่อย่าถูกมันหลอกเด็ดขาดนะคะ!ต้องเป็นอย่าง ที่พ่อหนูพูดแน่เลยค่ะ เป็นคนอื่นที่ช่วยคุณปู่ไว้ พอไอ้หมอนี่มันรู้ ว่าคุณปู่ไม่ใช่คนธรรมดา มันเลยแอบอ้างว่าเป็นคนที่ช่วยคุณปู่ ไว้แน่นอนค่ะ”

เจิ้งเหม่ยหลิงรีบพูดเสริมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มองหยางเฉิน ด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม “เมื่อกี้แกยังทำตัวโอหังอยู่เลยไม่ใช่รึไง? ทำไมตอนนี้ถึงเงียบไปแล้วล่ะ?”

“เธออีกแล้วเหรอนังผู้หญิงหน้าโง่ หุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ!

หานเฟยเฟยก็จําเจิ้งเหม่ยหลิงได้แล้ว จึงได้พูดไปด้วยสายตา ที่ไม่ชอบใจว่า “คุณปู่ของฉันเป็นคนระดับไหน แล้วคนโง่เง่าที่ได้ ยางอายอย่างเธอ มีสิทธิ์อะไรมาทำตัวสนิทสนมกับท่าน?”

“คุณหานคะ ก่อนหน้านี้ระหว่างเราน่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกัน มันเป็นเพราะ….” เจิ้งเหม่ยหลิงที่กำลังจะอธิบาย กลับถูกหาน เฟยเฟยพูดขัดอย่างไม่ใยดี “หุบปาก! ถ้าเธอยังกล้าพูดอีก แม้แต่คำเดียว หลังจากวันนี้ เมืองโจวเฉิงก็จะไม่มีตระกูลเจิ้ งอีก!”
ถึงหานเฟยเฟยจะดูเหมือนคนที่อายุยี่สิบเท่านั้น แต่รังสีที่อยู่ รอบตัวนั้นกลับน่าเกรงขามมาก พอตวาดออกมาแบบนี้ ทำเอา เจิ้งเหม่ยหลิงตกใจจนสะดุ้ง จนต้องกลืนคำพูดที่ยังไม่ได้ออก จากปากให้ลงคอไป

“นังสารเลว ยังไม่รีบขอโทษคุณหานอีก!”

เจิ้งเต๋อหัวที่สีหน้าเกรี้ยวกราด หันมาตวาดใส่เจิ้งเหม่ยหลิง

กว่าที่เขาจะสามารถมีความสัมพันธ์กับหานเดี่ยวเทียนนั้นมัน ไม่ง่ายเลย แต่ตอนนี้กลับถูกเจิ้งเหม่ยหลิงมาทำลายซะได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ