บทที่ 243 ไฟลุกลาม
เหล่าคนที่สงสัยในตัวฉันซีเมื่อครู่ ตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ออกมาสักคน!
ถ้าไม่ใช่เพราะโจวอทรงติดเงินฉินซี เธอคงไม่เอาผิดทาง
ด้านกฎหมายกับโจวอทรงหรอก หยางเฉินมีสีหน้าแปลกใจ ความเด็ดเดี่ยวที่ฉินซีแสดงออก
วันนี้ เหนือความคาดหมายของเขามาก
อันที่จริง ตอนที่ฉันต้าหย่งเปิดโปงเรื่องเหล่านั้น ที่บ้านตระกูล โจวเมื่อวานนี้ ฉันได้ทำการเตรียมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเอาไว้ อีกทั้งยังขอความช่วยเหลือจากสำนักงานกฎหมายเฉินซี ให้ออก หนังสือแจ้งโจวอทรงเมื่อจําเป็น
เมื่อกี้ ฉินซีใจอ่อน เธอเกือบจะยอมยุติเรื่องแล้ว แต่โจวอวี้หรง ไม่ยอมอยู่เงียบๆ มาต่อว่าฉันต่อหน้าทุกคน นี่ทำให้ฉันโมโห มาก เธอจึงตัดสินใจทำแบบนี้
“โจวอวี้หรง คุณดูหมิ่นฉัน ทุกคนในที่นี้ก็ได้ยิน รอหนังสือแจ้ง ทางกฎหมายได้เลย! ข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อ เสียง ต้องรับผิดทางกฎหมาย!”
ฉันไม่ยอมเหมือนกัน เธอพูดด้วยสีหน้าเฉยชา ถึงแม้เมื่อกี้จะโดนดูถูก แต่ทว่าตอนนี้ เธอรู้สึกสะใจมาก
“เสี่ยวซี เสี่ยวยี ฉันแค่ล้อพวกเธอเล่นเท่านั้น ทำไมพวกเธอถึง คิดมากขนาดนี้ล่ะ”
โจวอวี้หรงรีบเปลี่ยนท่าทีทันที เธอฉีกยิ้มและพูดว่า “พวกเธอ วางใจได้เลย ฉันคืนเงินที่ติดไว้แน่นอน มันเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่ แล้ว รอให้งานแต่งของเสียวขายเรียบร้อยก่อน ฉันจะหาวิธีเอา เงินมาคืน ฉันจะคืนให้ทั้งต้นทั้งดอกเลย
เธอรู้ว่าถ้าเรื่องนี้เป็นคดีความ เธอไม่มีทางชนะอย่างแน่นอน
เป็นอย่างที่ฉันพูด ตอนที่ยืมเงิน เธอได้เซ็นสัญญาการยืมเงิน อีกทั้งเงินที่โจว ยโอนให้เธอสองแสน ก็มีหลักฐานอยู่ด้วย
ถึงมันจะน่าอาย แต่ตอนนี้เธอจะไม่ยอม ก็ไม่ได้เสียแล้ว
“ที่แท้โจวอวี้หรงติดหนี้เด็กคนนั้นจริงๆ ด้วย!
“โจวอวี้หรง ผู้หญิงต่ำ ยังเป็นคนอยู่ไหม ยืมเงินคนอื่นแท้ๆ ยังจะหนีหนี้อีก ถ้าเด็กคนนั้นไม่ดำเนินคดี เธอคงไม่ยอมรับสินะ”
“เจอญาติแบบนี้ ช่างน่าเศร้าจริงๆ เด็กคนนั้นใจดีให้เธอยืม เงิน แต่เธอกลับหนีหนี้ แถมยังดูหมิ่นเด็กคนนั้นอีก”
ไม่นาน โจวอทรงถูกตราหน้าด่าทอ ขนาดคนอื่นยังมองเธอ ไม่ดี
โจวอวี้หรงอับอายมาก แต่เมื่อกี้ทนายของฉันดำเนินการ ด้านกฎหมายกับเธอ เธอจึงไม่กล้าทำอะไรทุ่มบ่าม
เธอรีบออกไป เพราะอับอายจนไม่มีหน้าอยู่ต่ออีกแล้ว
มีใครบางคนกำลังมองฉันด้วยแววตาเกลียดชัง อยู่ ท่ามกลางผู้คน
ราวกับสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังจากอีกฝ่าย หยางเฉินหัน ไปมองคนนั้นทันที อีกฝ่ายมีสีหน้าตื่นตระหนก และรีบหลบตา ทันที
หยางเฉินหรี่ตามองเธอ จากนั้นจึงพูดกับตัวเองเบาๆ ว่า “เจิ้ง เหม่ยหลิง ทางที่ดีเธออย่าเหิมเกริม ไม่งั้น เธอจะได้หายไปจาก โลกนี้แน่!”
โจวอวี้เจียเจอกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาว่านอนสอนง่ายขึ้นมา ทันที เมื่อเห็นฉันมองมาทางตัวเอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วย ความอ้อนวอน และพูดเสียงเบาว่า “เสี่ยวซี รอให้งานแต่งของ เสียวขายเรียบร้อยก่อน แล้วเราค่อยมานั่งคุยกันดีๆ ตอนที่สร้าง คฤหาสน์ แม่ของเธอก็ลงเงินมาเยอะมาก
โจวอวี้เจี้ยพูดเสียงเบามาก เพราะกลัวว่าฉันจะดำเนินคดี ทางกฎหมายกับเขา ขึ้นเป็นเช่นนั้น เขาต้องอับอายขายขี้หน้า อย่างแน่นอน
“ได้!”
ฉินซีพูดออกมาแค่คําเดียว สีหน้าของเธอไร้ความรู้สึก เมื่อเห็นโจวอวี้เจี้ยเดินออกไปอย่างสลด ฉันหัวเราะพรืดออก มา “วันนี้พี่น่าเกรงขามมาก!
แววตาของฉินซีแฝงไปด้วยความเศร้า เธอถอนหายใจ “ถ้า พวกเขาไม่ล้ำเส้น ฉันจะทำแบบนี้เหรอ
“พี่อย่ากดดันตัวเองเกินไป”
ฉันกุมมือเธอแน่น และยิ้มให้อย่างสดใส บนโลกใบนี้ ญาติ ไม่จําเป็นต้องมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ระหว่างเรากับพวกเขา ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันเลย ญาติแบบนี้ไม่มีก็ไม่เห็นเป็น อะไรเลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็รู้สึกโล่งใจ ความรู้สึกผิด หายวับไป ทันที
ขณะนั้น รถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งเคลื่อนตัวมาจอดที่ลานจอด รถของสถานที่ท่องเที่ยว
จากนั้นมีชายวัยกลางคนเดินลงมาจากรถ
“มาแล้วเหรอคุณสามี!”
คนที่เพิ่งออกมาจากห้องบอลรูมอย่างโจวอทรง เห็นเจิ้งหยัน สามีของตัวเอง
เจิ้งหยันมองเธออย่างเฉยชา “ถ้าพ่อฉันไม่บอกว่ามีคนใหญ่ คนโตมาตระกูลโจว ฉันก็ไม่มาที่นี่หรอก!!
“คนใหญ่คนโตเหรอ”
โจวอวี้หรงมีสีหน้าตกใจ “คนใหญ่คนโตที่ไหนจะมาตระกูล โจว”
เจิ้งหยันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ผู้หญิงโง่ๆ แบบเธอ จะ ไปรู้เหรอว่าใครคือคนใหญ่คนโต
พูดจบ เขาก็ไม่สนโจวอวี้หรง และเดินเข้าไปในห้องบอลรูม ทันที
“ยินดีด้วยนะครับคุณพ่อ คุณแม่ ในที่สุดเสียวขายก็แต่งงาน แล้ว เดี๋ยวคงมีหลานตัวอ้วนให้พวกคุณ และเป็นทายาทรุ่นที่ ของตระกูลโจว”
เจิ้งหยันเดินมาหน้าโต๊ะของนายท่านตระกูลโจวและนายหญิง ตระกูลโจว จากนั้นจึงยิ้มและเอ่ยออกมา
ความรู้สึกของเขากับโจวอทรงร้าวฉานตั้งนานแล้ว แต่ยัง เป็นสามีภรรยากันในนาม อีกอย่างเมื่อวานเจ๋งเต๋อหัวเพิ่งกลับ มาบ้าน และเตือนเขาว่าวันนี้ต้องมาที่งานแต่งของตระกูลโจว เพราะมีคนใหญ่คนโตมาด้วย
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าคนใหญ่คนโตที่เจิ้งเต๋อหัวพูดถึงคือใคร แต่การที่คนใหญ่คนโตสามารถมาร่วมงานแต่งของตระกูลโจว ได้ ตระกูลโจวต้องมีหน้ามีตาอย่างแน่นอน
“มาแล้วเหรอเจิ้งหยัน!!
ขณะนั้นโจวอวี้เจี้ยเป็นฝ่ายเดินเข้ามาต้อนรับ ด้วยรอยยิ้มพอ อกพอใจ
“ยินดีด้วยพี่ใหญ่! เงินของขวัญอะไรนั่นธรรมดาเกินไป ผมเลยไม่ได้เตรียมมา นี่คือทองคำแท่งสองร้อยกรัม ถือเป็นของ ขวัญอวยพรของผมก็แล้วกัน”
เจิ้งหยันพูดและยิ้มอย่างเบิกบาน เขาเอากล่องทองคำแท่ง ที่ ถูกห่ออย่างประณีตยื่นให้โจวอวี้เจี้ย
การที่เจิ้งหยันเป็นกันเองเช่นนี้ ทำให้โจวอวี้เจี้ยรู้สึกดีใจแต่ก็
รู้สึกไม่ดี เพราะปกติน้องเขยคนนี้ ไม่เคยเรียกเขาว่าพี่เลยสักครั้ง
แต่เขาก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย ใครใช้ให้เจิ้งหยันเป็นลูกชาย คนเดียวของประธานเจิ้งเหอกรุ๊ปกันล่ะ
ในอนาคตเจิ้งเหอกรุ๊ปก็จะตกเป็นของเขา
“เจิ้งหยัน เรามันคนกันเอง จะเกรงใจอะไรกัน รีบมานั่งเร็ว!! โจวอวี้เจี้ยรับทองคำแท่งมาด้วยความดีใจ และรีบชวนเจิ้ง หยันมานั่งที่โต๊ะของนายท่านตระกูลโจว
“เหม่ยหลิง เธอเป็นอะไรน่ะ”
เจิ้งหยันเพิ่งนั่งลง เขาก็เห็นสีหน้าของเจิ้งเหม่ยหลิงผิดปกติ เหมือนเธอป่วยหนักอย่างไรอย่างนั้น
ถึงแม้เขาจะทะเลาะเรื่องหย่ากับโจวอวี้หรง แต่เจิ้งเหม่ยหลิง เป็นลูกสาวแท้ๆ ของเขา เขาเป็นห่วงเธอมาก
“หา?”
เจิ้งเหม่ยหลิงตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอรีบส่ายหน้า “หนูไม่ได้ เป็นอะไร!”
“ยัยเด็กนี่ จะไม่เป็นไรได้ไง เมื่อกี้แม่เธอโดนยัยเด็กนั่นดูถูก ต่อหน้าคนเยอะแยะ เธอกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ใช่ไหม
เหย่เหมยภรรยาของโจวอวี้เจีย พูดอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเจิ้งหยันเคร่งขรึมขึ้นทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ”
สีหน้าของเจิ้งหยันไม่สู้ดี เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ก็เพราะลูกสาวของโจวยน่ะสิ เธอหาทนายมาดำเนินคดี ทางกฎหมายกับโจวอหรง บอกว่าโจวอทรงติดหนี้เธอ เมื่อกี้ นายไม่เห็น ยัยเด็กคนนั้นหยาบคายมาก ทุกคนต่างพูดว่าตระกูล เจิ้งติดหนี้แล้วไม่ยอมคืน เป็นพวกหนีหนี้!!
เหย่เหมยพูด ใส่ไฟ
พฤติกรรมของฉินซีเมื่อครู่ ทำให้เธอคิดว่าฉันซีจงใจสร้าง ความวุ่นวาย ในงานแต่งงานของลูกชายเธอ
เมื่อเห็นท่าทีของฉินซี ที่จะเอาคฤหาสน์ของตระกูลโจว เธอก็ รู้สึกโมโหมาก แต่ก็ไม่กล้าหาเรื่อง
เลยทําได้เพียงยืมมือเจิ้งหยัน มาจัดการฉินซี
“ปัง!”
เป็นไปตามคาด เจิ้งหยันโมโห และใช้มือตบลงบนโต๊ะอย่าง แรง จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน เขาพูดอย่างโมโหว่า “โจวซุ่ย ไหน ลูกสาวของเธอล่ะ เรียกมาขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ