บทที่ 223 นี่มันอะไรกัน
“พี่โดนไอ้เลวนี่หลอกแล้ว เมื่อกี้พี่ก็ได้ยินที่คุณชายเพิ่งพูดแล้ว นิ แหวนดวงดาวชมพูของจริง มูลค่าห้าร้อยล้าน คนจนๆ อย่าง มันจะซื้อได้ยังไง”
เจิ้งเหม่ยหลิงพยายามพูดเกลี้ยกล่อมเต็มที่ “ถ้าให้ฉันพูด พี่ ควรจะหย่ากับไอ้คนหลอกลวงคนนี้ตั้งนานแล้ว”
“ใช่ คุณฉิน ไอ้หมอนี่มันคนหลอกลวง คุณยอม ใช้ชีวิตกับคน แบบนี้ไปตลอดชีวิตเหรอ”
“มันไม่ใช่แค่คนหลอกลวง แถมยังเป็นคนโง่ด้วย คิดไม่ถึงว่า จะเอาแหวนดวงดาวชมพู มาหลอกคุณ
“ผมว่าคุณเหมาะสมกับพี่เหา อย่างกับกิ่งทองใบหยก พี่เหา เป็นผู้สืบตระกูลไฮโซ ในเมือง โจวเฉิงเชียวนะ ถ้าคุณได้อยู่กับเขา ต่อไปคุณจะได้เป็นคุณนายของผู้นำตระกูลเฉิน”
สุนัขรับใช้ของเฉินอิงเหา ให้ความร่วมมือกับเจิ้งเหม่ยหลิง เป็นอย่างดี พวกเขาดูถูกหยางเฉินจนไม่มีค่าอะไรเลย
ในที่สุดฉินซีก็เข้าใจ การเถียงกับคนพวกนี้ เหมือนสีซอให้
ควายฟัง
หยางเฉินทำเหมือนไม่ได้ยินอะไร เขากินดื่มอย่างสบายอก สบายใจ และคีบอาหารใส่ชามของฉันเรื่อยๆ
“คุณภรรยา อย่าพูดไร้สาระกับคนพวกนั้นเลย เหนื่อยมาทั้ง วัน คงจะหิวแล้วใช่ไหม ทานสันในหมูผัดเปรี้ยวหวานที่คุณชอบ นี่สิ” พูดพลางเขาก็คืบเนื้อใส่ชามของฉัน
ฉิน หงุดหงิดใจมาก อีกทั้งยังกลัวว่าหยางเฉินจะกังวล เธอ ยิ้มอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “ขอบคุณนะ คุณสามี!
ภายใต้สายตาของทุกคน สองสามีภรรยามีความสุข เหมือน อยู่กันแค่สองคน ทั้งสองไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง เฉินอิงเหาโกรธจน
หน้า หน้าแดง เขาเหลือบมองเจิ้งเหม่ยหลิงด้วยสีหน้าที่น่ากลัว
เจิ้งเหม่ยหลิงใจกระตุกวูบ เธอรีบยิ้มและพูดประนีประนอม “เรามาดื่มเหล้ากันเถอะ!”
เธอพูดพลาง ถือแก้วเหล้าของตัวเอง เดินมาตรงหยางเฉิน และเอ่ยขึ้นว่า “หยางเฉิน ถึงฉันจะเกลียดนายมาก แต่พี่ฉันชอบ นายมาก ฉันจึงต้องทำใจยอมรับนาย ฉันดื่มเหล้าแก้วนี้ให้นาย เป็นการไถ่โทษที่ไร้มารยาทกับนายเมื่อกี้
ราวกับเจิ้งเหม่ยหลิงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แน่นอนว่าหยาง เฉินไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะไถ่โทษกับเขา
หยางเฉินมองเจิ้งเหม่ยหลิงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ซึ่งเธอก็มอง เขาเหมือนกัน ผ่านไปครู่หนึ่ง หยางเฉินก็ยังไม่ยกแก้วเหล้าของ ตัวเองขึ้นมา
“หยางเฉิน ฉันคารวะเหล้าให้นาย นายไม่แม้แต่จะยกแก้วเหล้าขึ้นมา ไม่ไว้หน้าฉันเลยสักนิด!
เจิ้งเหม่ยหลิงหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เพื่อจะใช้การคารวะเหล้า
ชื่อใจหยางเฉิน เธอจึงสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้ในใจ หยางเฉินพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอบอกว่าจะดื่มเหล้าเป็นการ
ไถ่โทษฉัน ทำไมฉันต้องดื่มเป็นเพื่อนเธอด้วยล่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจิ้งเหม่ยหลิงถึงกับเป็นใบ้ไปเลย
“โอเค ฉันดื่มเอง นายจะทำอะไรก็ตามใจ!
เจิ้งเหม่ยหลิงกัดฟันพูด จากนั้นจึงดื่มเหล้ารวดเดียวจนหมด แก้ว
จากนั้นเธอก็เทเหล้าจนเต็ม และหันมายกแก้วให้หยางเฉิน “หยางเฉิน แก้วนี้ฉันดื่มคารวะให้นาย!
เหมือนกับครั้งที่แล้ว หยางเฉินไม่ได้ยกแก้วขึ้นมา
“เมื่อกี้ฉันไถ่โทษให้นาย นายไม่รับก็ไม่เป็นไร ทำไมครั้งนี้ นายถึงไม่รับอีกล่ะ”
ความหงุดหงิดแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเจิ้งเหม่ยหลิง หยางเฉินยิ้มบางๆ “ไถ่โทษด้วยการดื่มแค่แก้วเดียวเหรอ”
เจิ้งเหม่ยหลิง โมโหจนแทบจะระเบิดออกมา แต่เมื่อคิดถึงงาน ที่เฉินอิงเหามอบหมายให้เธอ เธอจำเป็นต้องสะกดกลั้นอารมณ์ เอาไว้
“งั้นนายจะให้ฉันดื่มแก้ว” เจิ้งเหม่ยหลิงเอ่ยขึ้น
“ถ้าเป็นคนอื่น ดื่มไม่ถึง 7-8 แก้ว ฉันไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ หรอก แต่เห็นแก่ที่เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอต้องดื่มไม่ โทษสามแก้ว! รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นตรงมุมปากของหยาง
ผู้หญิงคนนี้ ทำให้เขาหงุดหงิดมานานแล้ว ในเมื่อเธอหาเรื่อง เอง ก็อย่ามาโทษเขาแล้วกัน หยางเฉันคิดในใจ
เจิ้งเหม่ยหลิงดื่มต่ออีกสองแก้ว
สุดท้าย เธอเทเหล้าอีกแก้ว จากนั้นจึงยกขึ้นต่อหน้าหยางเฉิน “ครั้งนี้ นายคงจะไม่ปฏิเสธนะ
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง หยางเฉินยกแก้วชาขึ้น ต่อหน้า เจิ้งเหม่ยหลิง จากนั้นจึงดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
เมื่อดื่มหมด เขาเม้มปากเข้าหากัน และยิ้มอย่างสบายใจ “ชา
“ตุ้บ!”
ในที่สุด เจิ้งเหม่ยหลิงก็ระเบิดอารมณ์ออกมา เธอวางแก้ว เหล้าลงบนโต๊ะอย่างแรง และพูดอย่างโมโหว่า “หยางเฉิน นาย จงใจเหรอ”
“ตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาในตระกูลโจว เธอก็เอาแต่ด่าทอฉัน เมื่อ ยังพูดเหน็บแนมฉันตั้งมากมาย จู่ๆ ก็มาขอโทษฉัน เธอคิดว่าฉัน โง่หรือไง”
หยางเฉินจ้องเจิ้งเหม่ยหลิง แววตาของเขาเยือกเย็น “ฉันเตือนเธอไว้เลย ทางที่ดีเก็บความคิดนั้นไปซะ ถ้ายังกล้ามายั่ว โมโหฉันอีก อย่าหาว่าฉันไม่เห็นแก่หน้าเธอก็แล้วกัน!”
“ปิง!”
เมื่อพูดจบ หยางเฉินใช้มือตบลงบนโต๊ะ เมื่อเขายกมือขึ้น เห็นเป็นรอยฝ่ามือลึกประทับอยู่บนโต๊ะ
ภาพตรงหน้า ทำให้ทุกคนตกตะลึง!
เจิ้งเหม่ยหลิงยิ่งหวาดกลัวเข้าไปใหญ่ เธอมองรอยฝ่ามือที่ ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน และคิดถึงเรื่องที่ตัวเองดูหมิ่นหยางเฉิน
ถ้าฝ่ามือเมื่อมาอยู่บนหน้าของเธอ เธอคงจะเสียโฉมไปแล้ว สินะ
เฉินอิงเหาหรี่ตาลงเล็กน้อย จนถึงตอนนี้ เขาเพิ่งรู้ว่าหยางเฉิน
ไม่ใช่คนอ่อนแอ
ถึงจะเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย ผู้มีฝีมือในตระกูลเฉิน อย่าว่าแต่ทิ้งรอยฝ่ามือไว้เลย ให้ตบโต๊ะนี่จนแตกกระจาย ก็เป็น เรื่องที่สบายมาก
“ไอ้น้อง นี่นายจะไม่ไว้หน้าฉันเลยเหรอ!”
ในที่สุด เฉินอิงเหาก็พูดออกมา เขามองหยางเฉินด้วยแววตา ไม่เป็นมิตร
นอกจากหยางเฉินกับฉินซี คนที่เหลือก็เป็นสุนัขรับใช้ของเขา ตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคน ราวกับโดนอำนาจของหยางเงินข่มขู่อย่างไรอย่างนั้น
ถ้าแม้แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไรออกมา แผนคืนนี้คงพังทลาย
อย่างแน่นอน
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร ทำไมฉันต้องไว้หน้านายด้วย
อำนาจของหยางเฉิน แผ่ซ่านออกมา เขาพูดอย่างก้าวร้าว
เฉินอิงเหาไม่อยู่ในสายตาเขาสักนิด เมื่อพูดออกไปเช่นนั้น สีหน้าของเฉินอิงเหาเคร่งขรึมขึ้นทันที
แต่เฉินอิงเหายังคงสะกดกลั้น ไม่ให้ระเบิดอารมณ์ออกมา
เมื่อกี้หยางเฉินฝากรอยฝ่ามือไว้บนโต๊ะ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขามีพละกำลังมากแค่ไหน
ถ้าหยางเฉินจะสู้ขึ้นมา กลัวว่าคนในงานจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ
เขาน่ะสิ
“ดี ในชีวิตวัยรุ่น มีนายเพียงคนเดียว ที่ไม่ไว้หน้าฉัน เฉินอิงเหาพูดเพียงแค่ประโยคเดียว และไม่พูดอะไรอีกเลย
พวกสุนัขรับใช้ของเขา มีสีหน้าตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเฉินอิงเหา จะพูดแค่ประโยคเดียว และไม่ทำอะไรต่อ
แต่ทว่า ใครๆ ก็รู้ เฉินอิงเหาไม่ใช่คนที่ยอมเสียเปรียบ เขา ไม่มีทางปล่อยไปแบบนี้อย่างแน่นอน
“พี่เหา ฉันดื่มคารวะให้คุณ!
ขณะนั้นเจิ้งเหม่ยหลิงรีบวิ่งเข้ามา เธอเป็นฝ่ายยกแก้วเหล้า เพื่อดื่มคารวะเฉินจึงเหา
เมื่อเจิ้งเหม่ยหลิงเข้ามาไกล่เกลี่ย สีหน้าของเฉินอิงเหาดีขึ้น เล็กน้อย เขายกแก้วขึ้นมาชนกับเจิ้งเหม่ยหลิง จากนั้นจึงดื่มรวด เดียวจนหมดแก้ว
“พี่เหาเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เหมือนบางคนที่ไม่มีมารยาท สักนิด คนอื่นดื่มคารวะก็ไม่ดื่มตอบ สมแล้วที่พี่เหาได้เป็นผู้ สืบทอดตระกูลเฉิน”
เจิ้งเหม่ยหลิงยิ้มหวาน ขณะเอ่ยชมเป็นอิงเหา เธอก็ไม่ลืมพูด แขวะหยางเฉิน
พูดจบ ราวกับกลัวว่าหยางเฉินจะโกรธ เธอแอบปรายตามอง หยางเฉิน เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีอะไร เธอจึงถอนหายใจอย่าง
โล่งอก
“ฮ่าๆ เจิ้งเหม่ยหลิงพูดถูก พี่เหาเยี่ยมยอดขนาดนี้ สมควร แล้วที่ได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลเฉิน ฮ่าๆ
“พวกเรามาดื่มคารวะพี่เรากันเถอะ!!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ