The king of War

บทที่193 ไม่กล้าอีกแล้ว



บทที่193 ไม่กล้าอีกแล้ว

หยางเฉินไม่ได้พูดอะไรเดิมที่ออกมาเดินเล่นกับฉินซี อย่างไร เสียก็มีเวลาอยู่แล้ว

ผู้ที่มุงดูก่อนหน้านี้ ไม่มีคนใดออกไป ล้วนอยากดูหน่อยว่าจะ มีบทสรุปอย่างไรกันแน่

ผู้จัดการร้านมองหยางเฉินอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ตั้งแต่หยาง เฉินหยิบบัตรทองดำออกมา พออธิบายได้แล้วว่าสถานะของเขา สูงมาก

เขาย่อมเชื่อเป็นธรรมดา หยางเฉินคงรู้จักผู้นำตระกูลกวน หนึ่งในสี่พรรคแห่งเมืองเจียง โจวจริง

“ฉินซี นึกไม่ถึงว่าเธอจะแต่งงานกันคนโง่ขนาดนี้ การแสดง ยังดีจริงๆ พูดเหมือนว่าเขารู้จักกับเจ้าบ้านกวนจริงๆ” เฝิงเจีย หัวเราะเยาะ

ฉินซีเพียงแค่มองเฝิงเจียแบบเย็นชาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร ทั้งนั้น เธอเชื่อแน่นอนว่าหยางเฉินรู้จักกับกวนเจิ้งซาน

เพียงแต่เธอสงสัยอยู่บ้าง หยางเฉินไปรู้จักกับกวนเจิ้งซานได้ อย่างไรกัน

“ไอ้หนุ่ม นายอย่าแสดงเลย ฉันไม่มีเวลามาสิ้นเปลืองกับนาย ที่นี่อีกต่อไปแล้ว นายรีบคุกเข่าลงขอโทษคู่หมั้นของฉันซะ ไม่ อย่างนั้นฉันจะไปหาคนตระกูลกวนให้จัดการตระกูลฉินในตอนนี้ผ่านคืนนี้ไป เมืองเจียง โจวจะไม่มีตระกูลฉินอีก!”

เฉาเจี้ยนเอ่ยปากพูดกะทันหัน เวลานี้เขากลับมีท่าทางไม่กลัว เนื่องจากมีคนหนุนหลัง

โดยเฉพาะเห็นคนโดยรอบ ในสายตาเป็นลักษณะตื่นตกใจ เขายิ่งดื่ม ความรู้สึกสุขสมที่แกล้งแสดงแบบนี้มาก

แต่ในเวลานี้เอง เสียงที่เย็นชาไร้ที่เปรียบดังขึ้นฉับพลัน “ใจ กล้าหน้าด้านมากนะ นึกไม่ถึงจะกล้าเอาชื่อตระกูลกวนของฉัน มาข่มขู่คุณหยาง!”

ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้เข้า เฉาเจี้ยนรู้สึกขนตั้งชันขึ้นมาไปทั้ง

เพราะเขารู้ว่าคนที่พูดนี่คือใคร

เสียงนี้เขาคุ้นเคยมาก คือกวนเสวซงหนึ่งในสี่คุณชายแห่ง เมืองเจียงโจว คุณชายรุ่นที่สามของตระกูลกวนที่โดดเด่นที่สุด

ตำแหน่งของกวนเสว่างที่ตระกูลกวน ยังสูงกว่าคุณลุงคุณอา ของเขาด้วย ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดผู้นำตระกูลข้ามรุ่น

นั่นคือขอเพียงกวนเจิ้งซานลงจากตำแหน่ง อย่างนั้นก็มีเพียง

กวนเสวซงที่อายุสามสิบปี ถึงสามารถสืบทอดผู้นำตระกูลกวนได้ ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ตระกูลกวนเพิ่งแต่งตั้งให้กวนเสวซึ่งเป็น ผู้จัดการใหญ่ของกวนเจิ้งกรุ๊ป

“คุณชายซง ท่าน ท่านมาได้อย่างไรครับ?”
เฉาเจี้ยนมองเห็นกวนเสวซง ตกใจจนพูดติดๆ ขัดๆ รีบเข้ามา

ทันที

กวนเสวียงมองเขาด้วยหน้าตานิ่งเฉยแวบหนึ่ง ตวาดใส่ “ไสหัวไป!”

อยู่ภายในสายตาของทุกคน เขาเดินมาด้านหน้าหยางเฉิน โดยตรง โค้งตัวเล็กน้อยแล้วบอกว่า “คุณหยางครับ ขอโทษ จริงๆ ครับ ทําให้ท่านรอนานแล้ว!

สําหรับการปรากฏตัวของกวนเสว่าง หยางเฉินแปลกใจอยู่

บ้าง เพราะเขาเพิ่งโทรศัพท์ไปหากวนเจิ้งซานเมื่อสักครู่ ยังไม่ทัน ได้รับการตอบกลับ กวนเสว่างก็มาแล้ว “ผมมาตรวจงาน Wandaพอดีครับ พอได้รับโทรศัพท์ของ

คุณปู่ เลยไม่กล้าชักช้าครับ”

กวนเสว่างอธิบายสักหน่อย จากนั้นมองเฉาเจี้ยนด้วยสายตา เย็นชาแวบหนึ่ง บอกกับหยางเฉินว่า “พ่อของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ ควบคุมฝ่ายโครงการของกวนเจิ้งกรุ๊ปครับ ส่วนเขาไม่เกี่ยวข้อง กับกวนเจิ้งกรุ๊ปสักนิดเดียวครับ”

หยางเฉินเพียงแค่พยักหน้านิ่งๆ เอ่ยปากบอก “ในเมื่อนายมา แล้ว งั้นเรื่องที่เหลือให้นายจัดการแล้วกัน!

“ครับ คุณหยาง เดินทางปลอดภัยครับ!”

ท่าทีกวนเสวงเคารพนอบน้อมมาก มองตามหยางเฉินที่ จูงมือฉินซีเดินออกไป
คนที่มุงดูอยู่โดยรอบเหล่านั้น ตกใจค้างไปตั้งแต่แรกแล้ว

ไม่นานพวกเขาจึงได้รู้สถานะของกวนเสวี่ยง เขาเป็นผู้สืบทอด ในอนาคตของตระกูลชั้นนำแห่งเมืองเจียงโจว สิ่งสำคัญคือเขา ยังอายุน้อยขนาดนี้

แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นสำคัญคือสำหรับผู้ชายเมื่อสัก ครู่นี้ที่อายุน้อยยิ่งกว่าคนนั้น เขากลับเคารพนอบน้อมเช่นนี้

เฉาเจี้ยนตกใจค้างเช่นกัน หน้าตาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว จนกระทั่งเวลานี้ เขาถึงสำนึกได้ว่าตนเองล่วงเกินบุคคลแบบ ไหนเข้าให้แล้ว

ชายหนุ่มที่แม้แต่กวนเสวซงยังเคารพเช่นนี้ จะเป็นคนที่เขา สามารถล่วงเกินได้เหรอ?

“แจ้งฝ่ายทรัพยากรบุคคล รีบร่างหนังสือเลิกจ้างของเฉาเจี้ย นทันที!”

ในเวลานี้ เฉาเจี้ยนได้ยินเสียงของกวนเสว่างทันใด

“ตึก!”

เฉาเจี้ยนรีบคุกเข่าลงแทบเท้าของกวนเสวซงทันที พูด อ้อนวอนด้วยท่าทางหวาดผวา “คุณชายซงครับ ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดจริงๆ ครับ ขอคุณอย่าไล่พ่อผมออกเลยนะครับ เรื่อง นี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาใดๆ เลยครับ!”

กวนเสวซงพูดแบบหน้าตาเมินเฉย “ล่วงเกินตระกูลกวน ไม่ว่าอย่างไรยังมีทางถอย แต่ล่วงเกินคุณหยาง ไม่มีทางรอดทั้งนั้น พอได้ยินดังนั้น เฉาเจี้ยนอ่อนแรงไปทั่วทั้งตัว นั่งกันกระแทก ลงบนพื้น

ถึงแม้บิดาของเขาจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ควบคุมแผนกของ กวนเจิ้งกรุ๊ปคนหนึ่ง แต่เพราะตำแหน่งของตระกูลกวนที่เมือง เจียงโจว ผู้คนมากมายจึงมาให้บิดาเขาช่วยทำธุระให้ เพราะ เหตุนี้จึงสะสมความมั่งคั่งได้ไม่น้อย

ถ้าโดนไล่ออก ในครอบครัวเขาจะไม่เหลืออะไรสักอย่าง ทั้ง ยังต้องแบกรับค่าบ้านและค่ารถจำนวนมากด้วย

และที่พึ่งพิงของเขาก็พังทลายลงถึงที่สุด

คนมุงดูแต่ละคนต่างหน้าตาตื่นตกใจเต็มที่ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งคำพูดประโยคนั้นของกวนเสว่าง ความหมายชัดเจนอย่าง มาก นั่นคือชายหนุ่มเมื่อสักครู่คนนั้นยังมีตำแหน่งสูงกว่าตระกูล กวนอีก

วินาทีนี้เฝิงเจียสติหลุดเช่นกัน หล่อนรู้ดีว่าตนเองหาเรื่อง วุ่นวายมากแค่ไหนแล้ว บิดาของเฉาเจี้ยนสูญเสียงานไปเพราะ หล่อน เฉาเจี้ยนคงไม่ปล่อยหล่อนไปแน่

“ที่รักคะ สามีของหล่อนเป็นแค่ยามกระจอกคนหนึ่งจริงๆ นะ เป็นไปได้ยังไง…………..

หลังมองเห็นกวนเสว่างออกไป ใบหน้าเฝิงเจียเต็มไปด้วย ความสับสน ดึงมือของเฉาเจี้ยนไว้
“ป้าบ!”

คําพูดของหล่อนยังไม่ทันจบ โดนเฉาเจี้ยนตบบนหน้าไปที หนึ่ง

“เป็นเพราะเธอนั่งตัวดี ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันจะล่วงเกินคุณหยางได้ ยังไงกัน? พ่อฉันจะโดนไล่ออกได้ยังไง?”

เฉาเจี้ยนหน้าดูโกรธเคืองเต็มที่ ตะโกนเสียงดังขึ้นมา ตบเฝิง เจียทีหนึ่งยังไม่พอ จากนั้นเตะต่อยไปอีกยกหนึ่ง เฝิงเจียส่งเสียง กรีดร้องออกมา

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ คงมีคนเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย มาตั้งแต่นานแล้ว

แต่เมื่อสักครู่ชายโฉดหญิงชั่วคู่นี้ ไม่เพียงเหยียดหยาม

แบรนด์Versace แต่ยังก่อเรื่องวุ่น ทุกคนล้วนมองอยู่ด้านข้าง

อย่างหน้าตาเฉย

“ตั้งแต่นี้ต่อไป เธอกับฉันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน ถ้าให้ ฉันเห็นเธออีก ฉันเอาเธอตายแน่!”

เฉาเจี้ยนผลักเฝิงเจียออก ออกไปแบบโมโหเดือดดาล

“ที่รัก ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ คุณให้โอกาสสุดท้ายกับฉันสัก ครั้งนะ ฉันไม่กล้าอีกแล้ว

เฝิงเจียรีบตามเข้าไปหา ร้องไห้อ้อนวอน

“ไสหัวไป!”
เฉาเจี้ยนถีบเฝิงเจียทีหนึ่งล้มลงบนพื้น จากไปอย่างสง่างาม

เฝิงเจียผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเปื้อนเลือดสดเต็มไปหมด ดึงดูดคนมุงดูนับไม่ถ้วน

“ไสหัวไป! ไสหัวไปจากฉันให้หมด! เฝิงเจียร้องไห้ตะโกนเสียงดัง ออกไปแบบลนลาน

อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินกำลังจูงมือของฉินซี เดินเล่นอยู่ Wanda Plaza

นี่คือครั้งที่สองที่หยางเฉินจูงมือของฉินซี แต่สำหรับเขาแล้ว ถือว่าเป็นการจูงมือครั้งแรกแบบมีความหมายโดยแท้จริง

ครั้งก่อนเป็นตอนพาเสี้ยวเลี้ยวไปโรงเรียนอนุบาล ถูกเสี้ยว

เสี้ยวดึงมือของทั้งสองมาจับไว้ด้วยกัน

แต่วันนี้ เป็นหยางเฉินจับมือของฉันซีด้วยตนเองก่อน โดย เฉพาะฉินซีไม่ได้ปฏิเสธด้วย

เพียงแค่เวลานี้ฉันยังไม่ทันได้สติกลับมาจากอาการตกใจ เมื่อสักครู่

สําหรับสถานะของหยางเฉิน ยังมีเรื่องบางส่วนที่ชายแดน เหนืออีก เธอรู้ทั้งหมด แต่รู้เพียงแค่ว่าหยางเฉินชกต่อยเก่งมาก และมีเรื่องที่ตระกูลอวี่เหวินคืนเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาให้เขา

กลับนึกไม่ถึงว่าแม้แต่ตระกูลกวนตระกูลชั้นนำแห่งเมืองเจียง โจว กวนเสวซงผู้สืบทอด ในอนาคต ล้วนเคารพนอบน้อมต่อหยางเฉินเช่นนี้

เธอยังรู้มาว่าตระกูลซูของสี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจว ผู้นำซูเฉิ งอู่ ก็เคารพต่อหยางเงินมากเช่นกัน

เป็นแบบนี้ สี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจว ก็มีสองตระกูลใหญ่ที่ เกรงใจขนาดนี้ต่อหยางเฉินแล้ว

เธอคิดขึ้นมากะทันหัน ถ้าเป็นแบบนี้ ยังมีใครสามารถผิดใจ หยางเฉินได้กัน?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ