The king of War

บทที่ 190 เธอทําเกินไปแล้ว



บทที่ 190 เธอทําเกินไปแล้ว

ได้ยินคำพูดของเฉาเจี้ยน สายตาของหยางเฉินจึงค่อยๆ คมกริบ นมา

ฉันกังวลว่าเรื่องราวจะบานปลาย รีบดึงมือของหยางเฉินเอา ไว้ทันที ในสายตามีการอ้อนวอนระดับหนึ่ง “ที่รัก อย่าให้คนที่ ไม่มีความสำคัญเหล่านี้ มากระทบช่วงเวลาของพวกเราสองคน เลย”

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินซีเอ่ยปากเรียกหยางเฉินว่าที่รัก ในใจ หยางเฉินสั่นไหว มองสายตาที่มีการขอร้องอยู่บ้างของเธอ ชั่ว ขณะนั้นความโกรธของเขาหายลับเข้ากลีบเมฆ

เขาเพียงแค่มองเฉาเจี้ยนอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นพูดกับ

ฉันว่า “พวกเราไปเลือกเสื้อผ้ากัน

เฝิงเจียเห็นฉินซีกับหยางเฉินไปด้านข้างแล้ว ในสายตามี เลศนัยเพิ่มมาหลายระดับ

“สวัสดีค่ะ ทั้งสองท่านต้องการให้ช่วยอะไรหรือเปล่าคะ?”

หยางเฉินและฉันเพิ่งเดินมาถึงข้างตู้โชว์กระจก พนักงาน ขายที่สวมชุดทำงานคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้ว ยิ้มแย้มท่าทางเป็น มืออาชีพ

ฉินซีชี้ไปยังด้านในตู้กระจก ที่เสื้อโค้ตกันลมบนหุ่นนายแบบ เอ่ยปากบอก “เสื้อโค้ตตัวนี้ รบกวนคุณเอาลงมา ให้สามีฉันลองดูหน่อยสิคะ!”

พนักงานขายพูดด้วยหน้าตาขอโทษ “คุณผู้หญิงคะ ขอโทษ ด้วยนะคะ นี่คือเสื้อโค้ตรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Versaceของ พวกเรา ชุดนี้ลองไม่ได้ค่ะ”

เสื้อโค้ตกันลมในตู้โชว์ ตูขึ้นมาแล้วสวยมากจริงๆ โดย เฉพาะเมื่ออยู่บนตัวหุ่นนายแบบนั้น สวมคู่กับกางเกงเข้ารูปสีดำ และเข็มขัดหนังสไตล์อังกฤษ หล่อเหลาอย่างยิ่ง

ฉันยิ่งมองยิ่งชอบ มองดูเสื้อโค้ตกันลม และมองดูหยางเฉิน มองอย่างไรก็เหมาะสมมาก

“ในเมื่อลองไม่ได้ งั้นซื้อไปเลยแล้วกัน!”

ฉันพูดอย่างสบายใจมาก หยิบบัตรธนาคารออกมาเตรียมที่ จะจ่ายเงิน

“ได้ค่ะ!”

ในใจพนักงานขายรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้างนิดหน่อย

เสื้อโค้ตกันลมตัวนี้อยู่ในตู้โชว์มาหลายวันแล้ว แต่เพราะแพง เกินไป คนที่มาดูมีมากมาย หลังได้รู้ราคา กลับไม่มีใครยอมซื้อ สักคนเดียว

“ที่รักคะ ฉันคิดว่าเสื้อโค้ตตัวนั้นไม่เลวเลยนะ เหมาะกับรูป ร่างของคุณมาก ซื้อตัวนั้นเถอะนะ?”

ในเวลานี้เอง เสียงของเฝิงเจียดังขึ้นฉับพลัน หล่อนกอดแขนของเฉาเจี้ยนอยู่ เบียดเข้ามาด้านหน้าของฉันซีและหยางเฉินทัน

พนักงานขายได้ยินเข้า หน้าตาลำบากใจ เอ่ยปากบอก “ขอโทษด้วยนะคะ เสื้อโค้ตตัวนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ด มีเพียงตัวเดียว ค่ะ คุณผู้หญิงท่านนั้นซื้อไปแล้วค่ะ”

“นี่ไม่ใช่ว่ายังไม่ได้จ่ายเงินเหรอ?”

เฝิงเจียพูดแบบอารมณ์เสีย

เมื่อสักครู่ที่ด้านนอก เพียงแวบเดียวฉันก็ถูกใจเสื้อโค้ตกัน ลมตัวนี้แล้ว เฝิงเจียมาแทรกตัดหน้าไปกะทันหันแบบนี้ ทำให้ เธอโกรธเคืองมาก

เฉาเจี้ยนสูงประมาณ170เซนติเมตร เดิมที่ไม่เหมาะกับเสื้อโค้

ตกันลมตัวนี้ การที่เฝิงเจียปรากฏตัวในเวลานี้ ต้องเพื่อมาแย่ง

ตนเองแน่นอน

สมัยเรียนมหาวิทยาลัยตอนนั้น เฝิงเจียอิจฉาหน้าตางดงาม ของฉินซี จึงตามแย่งฉินซีไปทุกที่ ปัจจุบันนี้เรียนจบมาแล้วห้าปี กลับยังไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

“เฝิงเจีย เธอทําเกินไปแล้วนะ!”

ฉินซีทนไม่ไหว พูดแบบหน้าตาโกรธเคือง

เฝิงเจียหัวเราะเยาะ “ฉันทำเกินไปยังไงกัน? ร้านนี้เป็นที่บ้าน เธอเปิดเหรอ? จะว่าไปเดิมทีก็เป็นพวกฉันที่เข้ามาร้านนี้ก่อน เมื่อ พวกฉันสนใจเสื้อโค้ตตัวนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เดินเล่นไปทั่ว ตอนนี้จะจ่ายเงินแล้ว เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?”

“เป็นแบบนี้งั้นเหรอ?”

ทันใดนั้นฉันซึมองทางพนักงานขายที่ด้านข้าง

ไม่รอให้พนักงานขายตอบกลับ เฝิงเจียพูดว่า “เมื่อกี้ไม่ใช่ หล่อน แต่เป็นพนักงานขายคนอื่น

“คุณผู้หญิงคะ ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเป็นพนักงานขายคน ไหน? ถ้ารับปากเอาไว้จริงว่าจะนำเสื้อโค้ตตัวนี้ให้คุณ งั้นเสื้อ โค้ตตัวนี้ก็เป็นของคุณค่ะ

พนักงานขายยิ้มพูดด้วยท่าทางมืออาชีพ มองทางเฝิงเจียแล้ว ถามขน

“ฉันตกลงกับพนักงานขายคนไหน เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย? เธอ

ยุ่งได้เหรอ?”

เฝิงเจียถลึงตาใส่พนักงานขายด้วยท่าทางดุร้ายพลันพูดไป

พนักงานขายสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ยังฝืนใจยิ้มออกมา พูด อย่างมีมารยาท “คุณผู้หญิงคะ ร้านของพวกเรามีกฎว่าถ้าไม่มี ใครยืนยันกับพนักงานขายไว้ว่าจะซื้อชุดตัวไหน ไม่ว่าใครล้วนมี สิทธิ์ซื้อทั้งนั้นค่ะ”

ได้ยินพนักงานขายพูดแบบนี้ เฝิงเจียกลับเปลี่ยนเป็นแรง ระเบิด’แล้ว หล่อนส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ฉินซี ฉันเตือนเธอว่า อย่ามาแย่งกับฉันจะดีกว่า เธอรู้ไหมว่านี่คือร้านอะไร? คือ แบรนด์ Versace เธอลองดูเอานะ เสื้อผ้าชุดไหนไม่ใช่หลายหมินบ้าง?”

“เธอเป็นผู้หญิงตระกูลเล็กๆ ที่ใกล้จะล้มละลายคนหนึ่ง ซื้อได้ งั้นเหรอ? สามีฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายโครงการของกวนเจิ้งกรุ๊ปนะ เงินเดือนรวมห้าแสน เธอมีอะไร? อ่อ ใช่แล้ว ฉันเกือบลืมไปเลย เธอมีลูกเขยแต่งเข้าบ้านคนหนึ่ง แถมยังเป็นยามกระจอกที่ ทําให้เธอด่างพร้อย

เฝิงเจียก็เหมือนกับหญิงปากร้ายคนหนึ่ง จงใจเพิ่มเสียงดัง จุดนี้ถึงแม้จะไม่ใช่ช่วงคนพลุกพล่าน แต่ยังมีคนมากมาย กำลังเดินช็อปปิ้งอยู่ พอได้ยินคำพูดของเฝิงเจีย ผู้คนมากมาย ล้อมเข้ามาแล้ว

“พวกคุณน่าจะอยากรู้กันมากใช่ไหมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”

เฝิงเจียสังเกตเห็นผู้คนที่มุงดูอยู่รอบด้านเช่นกัน จึงพูดด้วย ท่าทางเย้ยหยัน “ผู้หญิงคนนี้ชื่อฉัน ชื่อของหล่อนบางทีพวกคุณ อาจไม่เคยได้ยิน แต่พวกคุณน่าจะรู้เรื่องหนึ่งกัน ห้าปีก่อน ผู้หญิง คนนั้นที่เรียกกันว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเจียงโจวก็ คือหล่อน มีความสัมพันธ์กับยามกระจอกของบริษัทในชั่วข้าม คืน”

“ส่วนพวกยาจกที่อยู่ด้านข้างหล่อน ก็คือยามที่นอนกับผู้หญิง คนนี้เมื่อห้าปีก่อน พวกเขาแต่งกันงานกันแล้ว ว่ากันว่ายังมีลูก คนหนึ่งด้วย”

ฉินซีโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว ดวงตาแดง น้ำตาคลออยู่ใน เบ้าตา ทั้งอับอายทั้งโมโห
“ฉันรู้แล้ว มิน่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงสวยขนาดนี้ ที่แท้เป็นสาว งามอันดับหนึ่งของเมืองเจียง โจวนี่เอง!”

“ในที่สุดก็เจอตัวจริงจนได้ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าหล่อนจะ แต่งงานกับยามกระจอกคนนั้นจริงๆ

“ใช่ ช่างน่าเสียดาย แต่ว่าสามีของหล่อนดูฉลาดมากนะ ยืนคู่ กันกับหล่อนแล้วเหมาะกันมากเลย”

ทั้งสี่ด้านล้วนเป็นเสียงถกเถียงกัน ติชมไปต่างๆ นานา เสียงพวกนี้ลอยเข้าหูของฉันมาแล้ว ทำให้หน้าเธอเต็มไป ด้วยความรู้สึกไม่เป็นธรรม

มองภรรยาของตนเอง ในใจหยางเฉินรู้สึกลำบากใจ บางที ช่วงห้าปีในอดีต ฉินซีเคยได้ยินคำพูดไร้สาระแบบนี้มานับครั้งไม่ ถ้วนเลยเหรอ?

“ที่รัก พวกเราไปกันเถอะ!!

ทันใดนั้นฉันซึมองหยางเฉินแล้วพูดขึ้น เธอไม่อยากโดนคน มากขนาดนี้มุงดูเหมือนเป็นลิง

หยางเฉินจับมือของฉันไว้แน่น ส่ายหน้าเล็กน้อย พูดแบบ หน้าตาเคร่งขรึม “ผมเคยบอกแล้วว่าจะไม่ยอมให้คนมารังแก คุณโดยเด็ดขาด!”

“ที่รัก…..…..
ในใจฉินซีเต็มไปด้วยความรู้สึกประทับใจ

เธอเรียกว่า รัก หัวใจของหยางเฉินก็ใกล้ละลายเช่นกัน แต่ เวลานี้กลับไม่ใช่เวลามารู้สึกปลื้มใจ สายตาของเขาตกอยู่บนตัว เฝิงเจียในชั่วขณะหนึ่ง

ถูกหยางเฉินจ้องขึ้นมากะทันหัน เฝิงเจียอดสั่นไปทั้งตัวไม่ได้ มีความรู้สึกว่ากำลังถูกสัตว์ป่ายุคดึกดำบรรพ์จ้องอยู่ หัวใจเต้น แรงตุบๆ หลบอยู่ด้านหลังเฉาเจี้ยน โดยจิตใต้สำนึก

“ที่รัก พวกเราอย่าไปสนใจเขาเลย คิดเงินแล้วไปดีกว่า!!

เฝิงเจียพูดแบบหวาดผวา

เฉาเจี้ยนมองหยางเฉินด้วยสายตาเย็นชา หยิบบัตรธนาคาร ใบหนึ่งออกมาแบบองอาจมาก “เอาเสื้อโค้ตตัวนี้ใส่ถุงให้ฉัน

หยางเฉินไม่ได้ขัดขวาง ดูอยู่ด้านข้างอย่างเฉยชา เขาอยากดู สักหน่อยว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถซื้อได้หรือไม่

เพราะเมื่อสักครู่ เขามองเห็นป้ายราคาที่ติดบนเสื้อโค้ตกันลม ตัวนี้แล้ว ราคาสามแสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อย

ก่อนหน้านี้ตอนที่เฝิงเจียแกล้งแสดง เคยพูดว่าเงินเดือนรวม ของเฉาเจี้ยนห้าแสน แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คำพูดพวกนี้ ไม่น่าเชื่อถือ แค่ผู้จัดการฝ่ายโครงการของกวนเจิ้งกรุ๊ปเท่านั้น เอง อย่างมากเงินเดือนรวมสองแสนต้นๆ

เขาไม่เชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถซื้อเสื้อโค้ตกันลมที่ราคา สามแสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อยตัวหนึ่งได้ ถึงแม้จะสามารถอไหว เขาก็ไม่เชื่อว่าเพื่อเสื้อผ้าตัวเดียว อีกฝ่ายจะใช้จ่ายแพง ขนาดนี้

แน่นอนว่าถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะซื้อได้จริง เขาก็มีวิธีทำให้อีก ฝ่ายชดใช้ให้อย่างสาสม

“ซื้อไม่ได้ยังมาเสแสร้งต่อหน้าพวกฉันอีก!”

เห็นหยางเฉินไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เฝิงเจียจึงพูดเยาะเย้ย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ