The king of War

บทที่ 138 เล่ห์กลผู้หญิง



บทที่ 138 เล่ห์กลผู้หญิง

ในครั้งนี้ หยางเงินรับสาย

“หยางเฉิน ฉันเอง ซูซาน!”

หยางเฉินนิ่งอึ้งอย่างกะทันหัน ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้จะโทร หาตัวเองทำไม ถามอย่างราบเรียบ เธอ โทรหาฉันมีเรื่องอะไร หรือเปล่า?”

“ฉันอยากเชิญนายไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน ไม่รู้ว่านายมี เวลาว่างมั้ย” ซูซานพูด

หยางเฉินพูด โดยไม่ต้องคิด “ไม่ว่าง!”

แม้ว่าซูซานจะเป็นเพื่อนสนิทของฉินซี เขาก็ไม่มีทางไปทาน อาหารกับเธอตามลำพัง ถ้าหากไม่ใช่ฉินซี เขาไม่มีทางที่จะพูด อะไรมากนักกับผู้หญิงคนนี้

“นายอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิ! ฉันไม่ได้ทานข้าวตามลำพังกับนาย แต่เชิญนายกับเสี่ยวซีทานข้าวกลางวันด้วยกัน

ซูซานรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ฉันโทรหาเสี่ยวซีแล้ว เดิมทีเธอ จะแจ้งให้นาย แต่ว่าโดนฉันปฏิเสธแล้ว ฉันเชิญนายทานข้าว เพื่อขอบคุณบุญคุณสำหรับการช่วยชีวิตของนาย ดังนั้นจึงได้ ติดต่อกับนายด้วยตัวเอง”

เมื่อรู้ว่าเธอยังเรียกฉินซีด้วย หยางเฉินถึงได้ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว: “ได้ เวลาและสถานที่ ฉันจะไปถึงตรงเวลา!”

“เดี๋ยวฉันจะส่งข้อความให้นาย” ซูซานตอบด้วยรอยยิ้ม

หลังจากที่วางสายไป ในไม่ช้า หยางเฉินได้รับข้อความที่ซู ซานส่งมา เป็นร้านอาหารใหญ่แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าร้านอาหารเพิ่ง

เวลานี้ก็ใกล้จะถึงเวลาพักเที่ยงแล้ว เดิมทีหยางเฉินก็ไม่มีธุระ จึงให้หวังเฉียงไปส่งเขาที่ร้านอาหารเพิ่งเลยละกัน

ในขณะเดียวกัน ตระกูล

หลังจากที่ซูซานวางสายไปแล้ว ยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ต่อ จากนั้นก็โทรศัพท์อีกครั้ง: “พวกเราร่วมลงทุนกับซานเรือกรุ๊ปไม่ เหรอ? ตอนนี้คุณสามารถไปหาประธานฉินได้ ด้วยในนาม ทำความเข้าใจกับความคืบหน้าของการร่วมลงทุน

อีกด้านหนึ่ง ซานเหอกรุ๊ป ฉินซีเหลือบมองเวลา ถึงเวลาพัก เที่ยงแล้ว ตั้งใจกำลังจะไปที่ร้านอาหารเพิ่ง เธอ เลขานุการก็มาหา

“ประธานฉิน เมื่อกี้นี้ได้รับโทรศัพท์จาก TIMI Technology บอกว่าประธานหลิ่วกำลังรีบมาที่ซานเหอกรุ๊ป เพื่อทำความ เข้าใจความคืบหน้าของโครงการความร่วมลงทุน เลขานุการ มองไปที่ฉินซีแล้วพูด

“หา? นี่ก็เวลาอาหารกลางแล้ว ทำไมประธานหลิ่วก็มาอย่าง กะทันหัน?”

ฉินซีดูมึนงง แม้ว่าเธอจะรู้ว่า TIMI Technology เป็นกิจการของตระกูลซู แต่ว่าก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงด้วยกันกับซู ชาน

“เลขานุการของประธานหลิ่วแสดงคำขอโทษเป็นพิเศษ บอก ว่าประธานหลิ่วกำลังจะเดินทางไปทำธุรกิจต่างถิ่น เครื่องบินของ บ่ายวันนี้ ที่สำคัญยังจะอยู่ต่างถิ่นอีกนานมาก ก่อนที่จะออกไป จึงอยากทราบความคืบหน้าของโครงการ เลขานุการเอ่ยปาก พูด

ฉินซีถึงได้เข้าใจ: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ เวลาของประธานหลว คงจะเร่งด่วนมากอย่างแน่นอน คุณไปจองโต๊ะที่โรงแรมใกล้ บริษัทก่อน ถือโอกาสแจ้งแผนก โครงการเตรียมเอกสารรายงาน ด้วย”

“ค่ะ!” เลขานุการหันหลังเดินออกไป

ฉินซีโทรหาซูซาน พูดขอโทษอย่างมาก “ซานซาน ขอโทษ จริงๆ พอดีผู้ร่วมลงทุนจะมาที่บริษัท ทานอาหารกลางวัน ฉันไป ไม่ได้แล้ว บอกกับเธอหน่อย”

“หา? แบบนี้เหรอ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันไปยกเลิก โต๊ะที่จองไว้ก่อน รอเธอมีเวลา พวกเราค่อยนัดเจอกันใหม่!”ซู ซานแกล้งพูดทําเป็นเสียใจ

“ในเมื่อจองไว้แล้ว ก็อย่ายกเลิกเลย ยังไงก็ถึงเวลาทาน อาหารแล้ว เธอไปทานกับหยางเฉินเถอะ จะว่าไปเธอก็เพื่อแสดง คําขอบคุณต่อหยางเฉิน ก็ให้เขาไปทานอาหารร่วมกับเธอแทน ฉัน!”
เมื่อได้ยินว่าซูซานจองโต๊ะไว้แล้ว ฉันรีบห้าม

“ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไปเลี้ยงข้าวหยางเฉ นก่อน รอวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันไปหาเธอที่บ้านของเธอ

ซูซานพูดด้วยรอยยิ้ม รู้จักกับฉินซีมานานแล้ว เธอเป็นคน แบบไหน ซูซานจะไม่รู้ได้อย่างไร?

ทุกอย่างอยู่ในแผนการของซูซาน ซูซานที่ตั้งใจแต่งตัวเสร็จ มานานแล้ว และก็ออกจากตระกูลซูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอย ยิ้ม

รอตอนที่หยางเฉินเข้ามาในห้องวีไอพี ก็เห็นซูซานนั่งอยู่ที่นั่น แล้ว

เมื่อเห็นหยางเฉินเข้ามา เธอรีบลุกขึ้นมา และพูดอย่าง

กระตือรือร้น: “ผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่! นายมาแล้ว! เชิญนั่ง! เชิญ

นั่ง!”

จําเป็นต้องยอมรับว่า รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ดีพอๆกับ ของฉินซี รูปร่างก็สูงมาก

เห็นได้ชัดว่าเธอตั้งใจแต่งตัวมาก บนใบหน้าแต่งหน้าบางเบา ใบหน้าที่งดงามละเอียดอ่อน ขนตายาว ตามด้วยกะพริบตา สัน จมูกที่สูงและริมฝีปากบางสีชมพู มาตรฐานของสาวสวย

“เสี่ยวซียังไม่มาเหรอ?”

หยางเฉินเพียงแค่เหลือบมองไปซูซานอย่างราบเรียบ ก็เอ่ย

ปากถามว่า
“เสี่ยวซีเพิ่งคุยโทรศัพท์กับฉัน บอกว่าผู้ร่วมลงทุนจะมาดู ความคืบหน้าของโครงการ เธอมาไม่ได้ ให้ฉันบอกกับนาย” ซู ซานพูดด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ หยางเฉินกลับไม่สงสัยอะไร ตอนนี้ฉัน ซีเป็นผู้จัดการใหญ่ของชานเรือกรุ๊ป และเดิมทีก็มีธุระชั่วคราว มากมาย

“ร้านอาหารแห่งนี้ มีชื่อเสียงทั่วประเทศมาก อยู่ที่นี่ มีเพียง นายคาดไม่ถึง ไม่มีอาหารอะไรที่เซฟของพวกเขาทําไม่ได้”

ซูซานยิ้ม ส่งเมนูให้หยางเฉิน และเอ่ยปากพูดว่า “เมื่อกี้นี้ฉัน ไม่มีอะไรทำ ก็สั่งเมนูพิเศษของที่นี่ไปไม่กี่อย่าง นายดูสิ ยังมี อะไรที่อยากทาน สั่งได้ตามสบาย สนใจเพียงอิ่มก็พอ!

หยางเฉินรับเมนูมา และเหลือบมองอย่างสบายๆ ซูซานสั่ง

อาหารไปแล้วหกอย่าง

“ก็แค่นี้แหละ ถึงยังไงก็มีแค่พวกเราสองคน พวกนี้ก็มาก พอแล้ว”

หยางเฉินสั่งเมนูเสร็จก็ยื่นให้พนักงานที่อยู่ข้างกาย ซูซานยิ้มเล็กน้อย และกำชับว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ตามเมนู เสิร์ฟ อาหารเถอะ!”

สำหรับผู้หญิงคนนี้ หยางเฉินไม่ได้มีความรู้สึกดีมากนัก ถ้า หากไม่ใช่ฉินซี อย่าว่าแต่นั่งทานอาหารด้วยกันกับเธอ แม้แต่พูด ด้วย เขาก็ไม่เต็มใจ
หยางเฉินไม่มีอะไรจะพูดคุยกับหญิงสาวคนนี้ เพียงแค่อยาก รีบทานอาหารให้เสร็จแล้วออกไป ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก เล่น

ซูซานจ้องที่หยางเฉินด้วยรอยยิ้ม และเอ่ยปากพูดว่า: “หยาง เฉิน นายทานอาหารกับผู้หญิง คงจะไม่ใช่แบบนี้นะ?”

“นี่ก็น่าเบื่อไม่ใช่เหรอ? ก็เลยดูข่าว” หยางเฉินกล่าวด้วยรอย

ยิ้ม

ซูซานกลอกตาขาว: “อยู่กับสาวสวยอย่างฉัน นายก็รู้สึกเบื่อ เหรอ?”

“นอกจากภรรยาของฉัน อยู่กับผู้หญิงคนอื่น ฉันก็รู้สึกเบื่อ หยางเฉินกล่าวตามความจริง

“นายก็ตรงไปตรงมาจริงๆ

หลังจากสำลักสองครั้งติดต่อกัน ซูซานก็ไม่รู้จะพูดอะไรอย่าง

กะทันหัน และยิ้มอย่างเคอะเขิน

โชคดีที่ ร้านอาหารเพิ่งจี้เสิร์ฟอาหารได้รวดเร็วมาก และ อาหารบนโต๊ะก็พร้อมทันที

ซูซานเทไวน์แดงสองแก้ว ยื่นแก้วให้หยางเฉินหนึ่งแก้ว และ ยกแก้วแล้วพูดกับ: “หยางเฉิน แก้วนี้ ฉันดื่มให้กับนาย ขอบคุณ สําหรับที่นายช่วยชีวิต!

หยางเฉินรับแก้วไวน์มาวางไว้ข้างๆ แต่หยิบแก้วชาขึ้นมา ชน กับเธอ พูดอย่างราบเรียบว่า “เดี๋ยวฉันยังจะต้องขับรถ ก็แทนชา ด้วยไวน์ละกัน!”
หยางเฉินไม่พูดมาก ดูเหมือนราวกับว่าพูดมากประโยคเดียว ก็จะเสียเปล่า ทําให้ในใจของซูซานรู้สึกอึดอัดมาก

อาหารมื้อนี้ สําหรับซูซาน กำหนดให้ไม่มีทางสบายใจ

ตั้งแต่ที่เธอดื่ม ให้กับหยางเฉินหนึ่งแก้ว หยางเฉินก็เริ่มก้ม หน้าทานอาหาร โดยไม่พูดสักคำ โดยพื้นฐานก็คือเธอถามหนึ่ง ค่า หยางเฉินก็ตอบหนึ่งคำ

“ทำไมเธอไม่กินเหรอ?”

หยางเฉินทานข้าวชามใหญ่สองชาม หลังจากที่เรอ ถึงได้พบ ว่าข้าวชามเล็กๆของซูซานนั้น ยังไม่ได้แตะต้อง

ไวน์ขวดหนึ่ง โดนเธอดื่มทั้งหมด

ในเวลานี้ ใบหน้าของซูซานแดงก่ำ และมุมปากมีรอยยิ้มที่ งดงาม: “ฉันอิ่มแล้ว!

เมื่อได้ยินเธอพูดค่อนข้างลิ้นพันกัน หยางเฉินรับรู้ได้ว่า ผู้หญิง คนนี้มอมเหล้าตัวเองมากเกินไป

“ฉันก็อิ่มแล้ว ในเมื่อเธอไม่ทานแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไป กันเถอะ!” หยางเฉินลุกขึ้นแล้วพูด

ซูซานลุกขึ้นยืน และทันใดนั้นเท้าก็เดินโซเซ และล้มลงบนร่าง ของหยางเฉินโดยตรง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ