The king of War

บทที่ 109 ตระกูลกวนยอมจํานน



บทที่ 109 ตระกูลกวนยอมจํานน

กวนเจิ้งซานเพียงแค่มีความหวังที่จะมาขอหยางเฉิน แต่สิ่งที่ ไม่คาดคิดคือ หยางเฉินปล่อยตระกูลกวนแล้วจริงๆ

ไม่นาน คนของตระกูลกวนได้กลับไปถึงบ้านทั้งหมด

จนกระทั่งถึงตอนนี้ กวนเจิ้งซานเหมือนตื่นจากฝัน สิ่งที่เผชิญ ในคุกช่วงหลายวันมานี้ ทำให้เขาเหมือนตายทั้งเป็น หลายครั้งที่ เกือบจะฆ่าตัวตาย

“คุณปู่ ครั้งนี้ ผมเกือบตายในนั้นแล้ว ทุกอย่างต้องโทษได้ เหี้ยหยางเฉินนั่น พวกเราปล่อยมันไว้ไม่ได้

กวนเสวซงกล่าวอย่างเคียดแค้น เขาหน้าจมูกบวม หน้าตา

ดูไม่ดีอย่างมาก ในช่วงที่ถูกขัง เขาโดนเล่นงานไปเยอะ

“เพี่ยะ!”

เขาพูดจบ กวนเจิ้งซานได้ตบไปที่หน้าของกวนเสวซง แล้ว เกรี้ยวกราด “ตั้งแต่นี้ไป ถ้าใครกล้าทำผิดต่อคุณหยาง ก็ใสหัว ไปตั้งแต่ตอนนี้ซะ อยากตาย ก็อย่าทำให้ตระกูลกวนลำบาก”

กวนเสวซงคือหลานชายที่กวนเจิ้งซานรักมากที่สุด ถึงขั้น ฝึกฝนให้เป็นทายาทของวงศ์ตระกูลเลยทีเดียว ตอนนี้เพียงแค่ว่า คนอื่นเท่านั้น ก็ถูกตบต่อหน้าผู้คนแล้ว

กวนเจิ้งซานมองไปหาทุกคน กล่าวอย่างสงบว่า “ครั้งนี้ที่พวกเราออกมาได้ เพราะคุณหยางไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกเราทั้งนั้น มิเช่นนั้น ต่อให้พวกเราไม่ตาย ก็จะต้องถูกขังอยู่ในที่บ้าๆนั้น เหมือนตายทั้งเป็น

จนกระทั่งบัดนี้ คนของตระกูลกวนเพิ่งจะรู้ ที่พวกเขาถูกปล่อย ออกมา ก็เป็นเพราะหยางเฉิน

กวนเสว่างหน้าตาหวาดกลัว นึกถึงเรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้นใน ช่วงที่อยู่ในแดนประหาร เขารู้สึกเสียวสันหลังวูบ แล้วรีบกล่าว “คุณปู่ สบายใจได้ครับ ต่อไปผมจะไม่มีทางหาเรื่องคุณหยางอีก แล้ว”

คนอื่นๆก็แสดงท่าทีออกมา “ผู้นำวางใจได้ พวกเราจะไม่หา เรื่องคุณหยางอีกต่อไป

ลูกหลานเหล่านี้ของตระกูลกวน ปกติจะใช้ชีวิตที่มีเกียรติ มั่งคั่งและร่ำรวยจนเคยชิน แล้วจะเคยเห็นความน่ากลัวของเรือน จำที่ไหนกัน เมื่อนึกถึงความมืดมนของช่วงเวลานั้น พวกเขาไม่ อยากเข้าไปอีกต่อไป ถึงขั้นไม่อยากนึกถึง

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลกวนของพวกเราจะฟังคำสั่งของ คุณหยาง เมื่อเจอเขา ต้องเคารพมากกว่าที่เจอฉันเข้าใจกันหรือ ยัง?” กวนเจิ้งซานไม่ไว้ใจ ได้ทำการเตือนสติอีกครั้ง

ทุกคนรับรู้ได้ถึงความสำคัญของหยางเฉินที่มีต่อกวนเจิ้งซาน ต่างพากันแสดงท่าที “เข้าใจ!

“คุณปู่ จะทำยังไงกับเสบู่เฟิงละ?”
ทันใดนั้นกวนเสว่างพูดถึงกวนเสเฟิงขึ้นมา ครั้งนี้ที่ตระกูล กวนเจอกับเรื่องราวร้ายๆแบบนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะกวนเสวีเฟิง ลักพาตัวลูกสาวของหยางเฉินไป

งานวันเกิดวันนั้น ตอนนั้นที่กวนหม่าชาวพาเสาเพิ่งมา ก็ถูก ต่อยจนเกือบตายแล้ว วันนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู

กวนเจิ้งซานอดไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึงการกระทำของกวนเสเพิ่ง ก็ต้องเงียบไป จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาว่า “แจ้งโรงพยาบาล ยกเลิก การรักษา!”

คําพูดของเขา เป็นการตัดสินประหารชีวิตกวนเสเพิ่งอย่างไม่ ต้องสงสัย

ผู้คนของตระกูลกวนต่างตะลึง แต่ทุกคนเข้าใจว่าถ้าไม่ใช่

เพราะกวนเวเฟิง ตระกูลกวนก็คงไม่เกือบถูกล้างบาง ทำให้คน

จํานวนมาก เกลียดกวนเวเฟิง

กวนเสวซงตกตะลึง ไม่ว่าจะยังไง กวนเสวีเฟิงก็เป็นน้องชาย

แท้ๆของเขา แต่เมื่อนึกถึงชายที่มีอำนาจยิ่งใหญ่คนนั้น เขาทำ

อะไรไม่ได้ และไม่กล้าแม้แต่จะแค้น ข่าวการยกเลิกการรักษาของกวนเวเฟิง แพร่สะพัดเข้าหูของ

หยางเฉินอย่างเร็ว

“กวนเจิ้งซาน ไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ

หยางเฉินยืนด้านหน้าหน้าต่างยาวถึงพื้นขนาดใหญ่ ด้วยรอย

ยิ้ม
“พี่เฉิน ตระกูลกวนไม่เหมือนตระกูลหยาง ที่ต่อหน้าอย่างลับ หลังอย่างหรอกนะ?”

หม่าชาวยืนอยู่ด้านหลังของหยางเฉิน ขมวดคิ้วถาม

หยางเฉินดูแคลน “ต่อหน้าอำนาจที่เห็นได้ชัด ไม่เหมาะที่จะ พูดถึงการหักหลัง ฉันก็แค่จะยืมมือพวกมัน สร้างอาณาจักรธุรกิจ ของฉันก็เท่านั้น”

“ท่านประธาน หยางเวยมาถึงแล้ว”

ขณะนี้ ซุนเถียนเคาะประตูอย่างระมัดระวังแล้วกล่าว หลังจากที่หยางเฉินมอบอำนาจของเยี่ยนเงินกรุ๊ปให้ฉันแล้ว นั้น ซุนเถียนจึงได้เลื่อนขั้นเป็นเลขาของฉัน

“ให้เขาเข้ามา!”

หยางเฉินกล่าวอย่างสงบ

ไม่นาน หยางเวยก็ถูกพาเข้ามา

“คุณหยาง ไม่เจอกันนาน

เมื่อหยางเวยเข้ามาในห้องทำงาน ก็กล่าวอย่างยิ้มกริ่ม พูด โดยไม่ค่อยให้เกียรติสักเท่าไหร่

ไม่รอหยางเฉินพูดใดๆ เขาก็ได้นั่งลงบนโซฟาข้างๆแล้ว หยางเฉินก็ไม่สนใจ กล่าวอย่างเน้นย้ำ “หาฉันมีธุระอะไร?” “วันนี้ที่ฉันมา ก็เพื่อมาคุยเรื่องความร่วมมือกับคุณหยาง”หยางเวยยิ้มพลางกล่าว

“พวกเราร่วมงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”

หยางเฉินจ้องหยางเวยอย่างครุ่นคิด จากการที่หยางเวย แสดงท่าทางไม่ให้เกียรติแต่อย่างใด ก็รู้ความหมายของอีกฝ่าย แล้ว

หยางเวยหัวเราะ “ฉันคิดว่า การร่วมมือกันเมื่อก่อน มีปัญหา นิดหน่อย วันนี้ที่มา คืออยากจะคุยกับคุณหยางเรื่องการแบ่ง

หยางเฉินก็ไม่พูดอะไร เพียงแต่กำลังดูหยางเวยแสดงละคร

“ก่อนหน้านี้พวกเราให้หุ้นกับบริษัทก่อสร้างหลงเหอ49% เพ ราะพาวเวอร์ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แต่ตอนนี้ผู้จัดการทั่วไปของ สาขาเจียงโจวถูกจับ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปไม่มีสิทธิ์มากพอที่จะเป็นคู่ค้า ของตระกูลหยางของเราแล้ว

หยางเลยนั่งไขว่ห้าง กล่าวด้วยสีหน้า โอหัง “แต่ตระกูลหยาง ของเราก็ไม่ได้เป็นคนที่พอบรรลุเป้าหมายแล้วถีบหัวส่ง จากการ ปรึกษากันของตระกูล ได้เสนอมาสองวิธี

“วิธีแรก คุณหยางคืนหุ้นของบริษัทก่อสร้างหลงเหอ จํานวน49%มาทั้งหมด การร่วมมือกันระหว่างเรา สิ้นสุดลง วิธีที่ สอง ยังคงร่วมมือกันต่อไป แต่คุณหยางต้องลงทุนร้อยล้าน ถือ หุ้นลดลงมาเหลือ5%

หยางเฉินยังคงไม่พูดอะไร กำลังมองหยางเวยเหมือนกับมองคนบ้า

“อ้อ อีกเรื่อง ต้องบอกคุณหยางไว้หน่อย เวเฟิงกรุ๊ปในนาม ของตระกูลกวน ได้ตกลงร่วมมือกับตระกูลหยางของเราแล้ว ผู้รับผิดชอบธุรกิจอื่นๆ พวกเรากำลังทาบทาม น่าจะใช้เวลาไม่ นาน ธุรกิจทั้งหมดในนามของตระกูลกวน ก็จะเป็นคู่ค้าของ ตระกูลหยางของพวกเราทั้งหมด

จู่ๆหยางเวยก็พูดขึ้นมาอีก “ตอนนี้คุณยังมีโอกาสในการเป็น คู่ค้ากับเราอยู่ ถ้าหลังจากที่เราร่วมมือกับทุกธุรกิจของตระกูล กวนสําเร็จแล้ว ถึงตอนนั้นคุณหยางจะไม่มีโอกาสแม้แต่นิด เดียว”

“ดูๆแล้ว ตระกูลหยางน่าจะลืมอะไรไปนะ”

จู่ๆหยางเฉินก็ยิ้มมุมปาก

“เรื่องอะไร?”

หยางเวยแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ

หยางเฉินกล่าวอย่างสงบ “ผมไม่เคยพูดมาก่อนว่าจะร่วมมือ

กับตระกูลหยาง”

หยางเวยขมวดคิ้ว “ดูๆแล้ว คุณเลือกวิธีแรกนะ ในเมื่อเป็น แบบนี้ ก็เอาหุ้นของบริษัทก่อสร้างหลงเหอกลับมา!

“ถ้า ผมไม่คืนให้ละ?”

หยางเฉินครุ่นคิด
“หยางเฉิน เยียนเฉินกรุ๊ปไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนตอนที่อยู่ในมือ

ของตระกูลอวี่เหวินแล้ว แกไอ้สวะที่ถูกตระกูลไล่ออกมา ยังกล้า แอบอ้างบารมีคนอื่น ในเมืองเจียงโจว”

หยางเวยไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย “ถ้าแกไม่คืนหุ้นมา ตระกูล หยางของฉันนจะสั่งสอนแกทำอย่างไรให้เป็นผู้เป็นคน

“ฉันเข้าใจผิดไปเรื่องหนึ่งนะ ฉันไม่เคยพูดมาก่อนว่าจะร่วม มือกับตระกูลหยาง แต่จะให้ตระกูลหยางยอมจำนนต่อฉัน

หยางเฉินยิ้มออกมา “แต่ตอนนี้ดูๆแล้ว ตระกูลหยางเลือกที่จะ หักหลัง?”

“ตลก!”

หยางเวยเกรี้ยวกราด “ตระกูลหยางของฉันตกลงจะยอม จำนนต่อแกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ธุรกิจในนามของตระกูลกวน จะ เป็นของตระกูลหยางทั้งหมด แกมีสิทธิ์อะไร ให้ตระกูลหยางยอม จํานน?”

“ตระกูลหยางคิดจะฮุบบธุรกิจของตระกูลกวน ตระกูลกวนรู้ มั้ย?” หยางเฉินยิ้ม

“ตระกูลกวนล่มสลายไปแล้ว ไม่แน่กวนเจิ้งซานลงนรกไปแล้ว ก็ได้? แล้วจะทำอะไรฉันได้?”

หยางเวยดูแคลน “จะว่าไป ทุกๆอย่างนี้โชคดีที่มีแก มิเช่นนั้น ตระกูลหยางของเราก็ไม่มีทางแทรกเข้าตระกูลกวนได้ง่ายดาย แบบนี้”
“ขี้โม้ดีเหมือนกันนะ ฉันทวนเจิ้งซานยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับจะ แข่งกันให้ตกนรกเสียแล้ว”

หยางเวยเพิ่งพูดจบ จู่ๆก็มีคนเดินเข้ามา

เมื่อหยางเลยเห็นหวนเจิ้งซาน ก็หน้าถอดสี ด้วยความคาดไม่

ถึง “คุณ ทำไมคุณยังมีชีวิตอยู่?”

กวนเจิ้งซานมองเขาอย่างเลือดเย็น แล้วเดินไปที่ข้างหน้าของ หยางเฉินทันที ก้มหน้าช้าๆ “คุณหยาง ธุรกิจในนามของตระกูล กวน ได้เคลียร์หมดแล้ว นี่คือเอกสารต่างๆ ยังมีสัญญา เพียงแค่ คุณหยางเซ็นชื่อ ทุกสิ่งของตระกูลกวน จะเป็นของคุณหยางโดย ส่วนตัวทั้งหมด”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ