The king of War

บทที่ 27 ไปขอร้องน



บทที่ 27 ไปขอร้องน

หลังจากที่ดินเฟยเอาทรัพย์สมบัติไปมากมายขนาดนั้น บน ใบหน้าของนายท่านฉินก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เสี่ยวเฟย ทำได้ดีมาก ขอเพียงแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้ของ ตระกูลฉินได้ จะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้เจ้า” นายท่านฉิน

พูด

คนในตระกูลฉินได้ยินประโยคนี้ของนายท่านฉันก็ล้วนแต่มี

สีหน้าตกตะลึง

ฉันเฟยยินดีปรีดาในทันที พูดขึ้นทันทีว่า “ขอบคุณท่าน ท่านวางใจ รอจนรับสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว ผมจะต้อง นําพาตระกูลเดินไปสู่อนาคตที่รุ่งโรจน์ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”

“ฮ่า ๆ ดี ดีมาก!” นายท่านฉันพูดไปหัวเราะไป

“เสี่ยวเฟย ตอนนี้นายได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่แล้ว ใน ที่สุดก็แก้ไขวิกฤตการณ์ของตระกูลฉินได้แล้ว”

“ฉันบอกแล้วว่าเสี่ยวเฟยถึงจะเป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งของ ตระกูลฉิน ทั้งตระกูลฉินมีแค่เสี่ยวเฟยที่เหมาะสม

“สองมือของฉันจะสนับสนุนให้เสี่ยวเฟยสืบทอดตำแหน่ง

ผู้นําตระกูล”
เวลาผ่านไป ทุกคนต่างเริ่มประจบสอพลอ

ฉันเฟยมีสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน ยิ้มอย่างถ่อมตัวแล้วพูดว่า “คุณงามความดีเหล่านี้เป็นของคนตระกูลฉินทุกคนครับ ตระกูล ฉันหลังจากนี้ จะต้องแทรกเข้าไปในอันดับสูงสุดของตระกูล ร่ำรวยได้แน่ ๆ”

“พูดได้ดี!” ในสายตาของนายท่านฉันเต็มไปด้วยความเชื่อ

ใจ

ในตอนที่ตระกูลฉันกำลังจินตนาการถึงอนาคตที่งดงาม เลขาฯ ก็วิ่งเข้ามาอย่างลนลาน “ท่านประธานคะ ประธานหลิว จากหงยนกรุ๊ปมาแล้วค่ะ”

ประธานหลิวมาด้วยตัวเอง?” นายท่านฉินมีสีหน้า ประหลาดใจ

หงยนกรุ๊ปเป็นคู่สัญญาที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลฉิน พูดได้ว่า สาเหตุที่ตระกูลฉินยังสามารถพยุงตัวอยู่ได้ชั่วคราวนั้น สาเหตุ หลัก ๆ ก็เป็นเพราะความร่วมมือของบริษัทนี้

เลขาฯ ยังไม่ได้ทันได้ตอบ ก็มองเห็นเงาของหลายร่างเดิน เข้ามา คนที่เดินนำหน้าคนนั้นก็คือประธานหลิวจากหงอุ่นกรุ๊ป

นายท่านฉินมีสีหน้าประจบประแจง รุกเข้าไปต้อนรับ ยิน สองมือออกมา “ประธานหลวมาด้วยตัวเอง เป็นเกียรติกับ ตระกูลฉินอย่างยิ่ง ยินดีต้อนรับครับ ยินดีต้อนรับครับ!!!

ประธานหลว ท่าทางเหมือนมองไม่เห็นนายท่านฉินที่ยื่นมือออกมาอย่างไรอย่างนั้น บนใบหน้ามีแววหยอกล้อ “ถ้า ประธานฉันรู้จุดประสงค์ที่ผมมาที่นี่ เกรงว่าจะไม่มีไมตรีจิตขนาด นี้แล้วล่ะ”

นายท่านฉันขมวดคิ้วอย่างไร้ร่องรอย ยิ้มเยาะขึ้นมาทันที “ประธานหลิวพูดเรื่องตลกแล้ว ท่านเป็นพันธมิตรที่ร่วมงานกันที่ สําคัญของตระกูลฉิน ผมจะไม่ยินดีต้อนรับได้อย่างไรกัน?

ประธานหลิวนั่งลงที่ตำแหน่งหัวโต๊ะ หยิบซองเอกสารของหนึ่ง มาโยนลงบนโตะ “นี่คือหนังสือสัญญายกเลิกความสัมพันธ์ทาง ด้านการร่วมมือกับตระกูลฉินของหงยนกรุ๊ป ท่านประธาน น สักหน่อย ถ้าหากไม่มีปัญหาอะไรก็รีบลงชื่อเสีย

“อะไรนะ?”

ได้ยินอย่าง น ทุกคนในตระกูลฉินก็ตกใจจนหน้าซีด

หงอุ่นกรุ๊ปเป็นมิตรที่ร่วมมือกันที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลฉิน เมื่อยกเลิกสัญญา สําหรับตระกูลฉินแล้วถือเป็นการเติมกันขึ้น

ไปอีก

นายท่านฉันยังตกตะลึงเข้าไปใหญ่ “ท่านประธานหลิว การ ร่วมมือกันของพวกเราทั้งสองตระกูลมันก็ดีมาตลอดไม่ใช่หรือ ครับ? ทำไมอยู่ดี ๆ ก็จะยกเลิกสัญญาล่ะ? ถ้าหากท่านประธาน หลิวไม่พอใจเนื้อหาในสัญญา พวกเราสามารถมาแก้กันอีกได้นะ ครับ พวกเรายอมลดกำไรลงก็ได้”
“ผมมาด้วยตัวเองขนาดนี้แล้ว คุณคิดว่ายังมีทางหนีทีไม่อยู่ อีกเหรอ?” ประธานหลิวพูดด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น

จินเฟยเข้าใจความหมายของประธานหลิวแล้ว วันนี้เขามา เพื่อที่จะยกเลิกสัญญา ไม่ให้โอกาสใดใดกับตระกูลฉินโดยสิ้น เชิง เขาจึงโมโหขึ้นทันควัน “ท่านประธานหลิวครับ ต่อให้จะ ยกเลิกสัญญา นั่นก็ต้องให้เหตุผลที่สมเหตุสมผลกับพวกเราสัก ข้อไม่ใช่เหรอครับ?”

“เจ้าหนุ่ม ข้าพูดกับปู่ของเอ็ง เอ็งมีคุณสมบัติอะไรจะมาเอา เหตุผลกับข้า?” ประธานหลิวมองไม่เห็นฉันเฟยอยู่ในสายตาเลย สักนิต

“ท่าน ท่านหมายความว่าอย่างไร?” ฉินเฟย โกรธจนหน้า แดงไปทั้งหน้า

“หุบปาก!”

นายท่านฉินตำหนิเสียงดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง เขาดูออกได้อย่าง ชัดเจนแล้วว่าที่ประธานหลิวมาในวันนี้ ไม่ได้กะจะให้โอกาสใด ใดกับตระกูลฉิน

“คนรุ่นหลังของตระกูลฉินนี่ ไม่ได้เรื่องเลยสักนิดจริง ๆ ไม่ แปลกใจเลยที่ตระกูลฉินนับวันจะยิ่งตกต่ำลงทุกที ๆ” ประธาน หลิวพูดยิ้ม ๆ

นายท่านฉันฝืนยิ้ม “ท่านประธานหลิว หลานชายของผมยัง เด็ก ไม่รู้ความ ท่านอย่าถือสาหาความกับเขาเลยนะ”
“ประธานฉิน เห็นแก่ที่เราเป็นพันธมิตรร่วมงานกันมาหลาย ปีนี้ ผมขอเตือนอะไรคุณสักอย่าง ไม่ใช่ว่าคุณจะไปล่วงเกินใคร ก็ได้นะ” ประธานหลวพูดขึ้นในที่สุด

นายท่านฉินตกตะลึง พูดขึ้นทันที “ท่านประธานหลว หมายความว่าที่ตระกูลฉินประสบเรื่องวุ่นวายมากมายขนาดนี้ เป็นเพราะไปล่วงเกินใครเข้า?”

ประธานหลิวพูดขึ้น “คุณอย่าถามผมเลย ผมไม่รู้อะไรทั้ง

เห็นปฏิกิริยาตอบโต้ของประธานหลิว นายท่านฉันก็สูดลม หายใจเย็นเข้าไป เมื่อวานเขายังสงสัยอยู่ว่าตระกูลฉินไปล่วง เกินใครเขาเข้า คำพูดเป็นนัย ๆ ของประธานหลิวได้ยืนยันแล้ว

“ขอให้ประธานหลิวเห็นแก่หน้าผม โปรดชี้แจงหน่อยว่า

ตกลงแล้วตระกูลฉินไปล่วงเกินใครเขาเข้า

ประธานหลิวไม่เคลื่อนไหว ถอนหายใจออกมา “เหล่าน

พูดอย่างไม่ปิดบังคุณเลยนะ เมื่อกี้นี้มีคนติดต่อผมมา ให้ผม

ยกเลิกความร่วมมือกับตระกูลฉิน ไม่อย่างนั้นจะทำให้หงอุ่นกรุ๊ป

ล้มละลาย เดิมทีผมยังไม่ถือเป็นเรื่องเป็นราว แต่ผลลัพธ์คือหลัง

จากโทรศัพท์ของอีกฝ่ายเพิ่งจะวางสายไปก็มีคู่สัญญาหลาย

เจ้าของหงยนกรุ๊ปของผมบังคับยกเลิกสัญญากับพวกเราเพียง

ฝ่ายเดียว

ได้ฟังค่าของประธานหลว นายท่านฉันก็หน้าซีดเหมือนกับ

ศพ
เมื่อกี้ยังคิดว่าฉันเฟยไปเอาสินสอดที่ตระกูลขส่งมาให้แล้ว ก็จะสามารถแก้ไขวิกฤตการณ์ของตระกูลฉินได้ แต่นึกไม่ถึงว่า ยังไม่ทันจะได้แก้ไขปัญญา ปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งก็มาแล้ว

“ขอบคุณที่ประธานหลิวแจ้งให้ทราบ!” นายท่านฉันคำนับ แล้วพูดขึ้น

ประธานหลิวเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ฝ่ายที่ร่วมมือกันที่เหลือ อยู่ไม่มากก็มายกเลิกสัญญากันจนหมด

ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงสั้น ๆ ตระกูลฉินก็สูญเสียความร่วม มือทั้งหมด

“ท่านปู่ ตกลงพวกเราไปเหยียบเท้าใครเขาเข้า? ทําไมถึงได้ มีอำนาจมากมายขนาดนั้น? แม้แต่หงอุ่นกรุ๊ปก็ยังถูกบีบบังคับ ให้ยกเลิกสัญญากับพวกเรา” ฉุนเฟยมีสีหน้าสิ้นหวัง

นายท่านฉินเงียบอยู่นาน นึกอะไรขึ้นมาได้ทันที มองไปที่ดิน เฟยทันทีทันใด

“เพียะ!”

เสียงตบหน้าก็ดังกังวานขึ้น

ฉันเฟยมีสีหน้าไม่มั่นคง “ท่านปู่ ทำไมท่านจะต้องตบผม ด้วย?”

“หรือว่าแกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? หลังจากวันนั้นที่ไปเจอทั้ง ครอบครัวของจินซีที่โรงแรมสตาร์ไลท์ วันที่สองโรงงานของพวก เราถูกปิด ธนาคารทวงหนี้
นายท่านฉิน ใบหน้าโมโหโกรธา เช้าวันนี้แกเพิ่งจะไปแย่ง เอาสินสอดที่ตระกูลซูส่งไปกลับมา จากนั้นฝ่ายที่ร่วมงานกัน ทั้งหมดก็มายกเลิกสัญญาถึงที่ ตอนนี้แกเข้าใจแล้วหรือยัง?

ฉันเฟยมีสีหน้าไร้วิญญาณทันที

เขาไม่ได้โง่ กลับกัน เขาฉลาดมาก เขาสามารถเข้าใจความ หมายของนายท่านฉินได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดเป็นอย่างที่นายท่านฉันพูด ใบหน้าของเขาซีดเผือด “ท่านปู่ หรือว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของตระกูลซูเหรอครับ?”

“แกไม่หัดใช้สมองเสียบ้าง ตระกูลซูถูกใจฉัน มอบสินสอด ราคาแพงระยับขนาดนั้น แต่กลับโดนแกพาคนไปขโมยมาจน หมด แกคิดว่าตระกูลซูจะปล่อยพวกเราไปหรือไง?” นายท่านฉัน ระเบิด โมโหในทันที

เขาโยนความคิดทั้งหมดไปให้ฉันเฟย ไม่รับเอามาเลยสัก นิด ที่ฉันเฟยไปยื้อแย่งเอาสินสอดมาก็ผ่านการอนุมัติของเขา แล้ว

ฉินเฟยก้มศีรษะ สองมือกําหมัดแน่น ในใจเต็มไปด้วย ความไม่ยินยอม

“ท่านปู่ ผมยอมรับผิดแล้ว ตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไร ดี?” ผ่านไปครึ่งค่อนวันฉันเฟยถึงจะเงยหน้าขึ้นมา ในดวงตาทั้ง คู่แดงฉานไปด้วยเลือด

“ในเมื่อเรื่องนี้แกเป็นคนก่อ ถ้างั้นก็ทำได้แค่ให้แกไปแก้ไขแกไปหาจินยี ให้เธอไปขอความเมตตากับตระกูลซูแทนพวกเรา ขอเพียงตระกูลซูยินดีจะปล่อยพวกเราไป ตระกูลฉินถึงจะมีความ หวัง” นายท่านฉินพูด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ