คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 77: ทําอะไรเพ้อเขาหน่อย



บทที่ 77: ทําอะไรเพ้อเขาหน่อย

เพราะนอนไม่ค่อยหลับเลยตื่นมาแต่เช้า

เธอมองดูข้างนอกเพิ่งมีแสงอ่อนๆส่องมา ดูแล้วน่า จะแค่หกโมงเช้า

พิงกี้ลุกขึ้นจากเตียงเงียบๆ เธออยากหลบหน้าเขา

ไม่อยากเผชิญหน้ากับผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงจะได้

ไม่รู้สึกอึดอัด

เสี้ยววินาทีที่เธอดึงผ้าห่มออก กลับถูกเขาเอาแขน

ขวางไว้

ทำให้เธอล้มลงที่เตียงอีกครั้ง “ คุณจะทำอะไร คุณ เป็นผู้ชายหัวงูหรือ?”

คงไม่ใช่อยากเอาอีกมั้ง? พิงกี้รู้สึกโมโห ใบหน้า แดงก่ำจ้องไปที่เขา

เธอด่าอย่างดุร้าย แต่เสียดายด่าแล้วถึงสังเกตุเห็น

ผู้ชายที่อยู่ข้างกาย ยังหลับสนิทอยู่ ท่าทีของเมื่อกี้คงเป็นแค่ปฎิกิริยาที่

สมองสั่งการ

ทันใดนั้น พิงกี้รู้สึกเหมือนเอาหมัดชกไปที่สำลี แต่ก็ดี

ฉวยโอกาศตอนที่คนยังไม่ตื่น เธอลุกจากเตียงอย่าง เบาๆ ตอนที่จะจากไป

เธอเห็นกุญแจรถของเควินวางไว้บนหัวเตียง

คิดๆแล้วเธอก็หยิบเอากุญแจไปด้วย เธอเปลี่ยน เสื้อผ้าเสร็จก็เดินจากไป

แต่เธอไม่รู้แค่ปิดประตู ผู้ชายที่หลับสนิทอยู่บน เตียงก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว

พลิกตัวมามองดูประตูที่ปิดลง ชัดเจนเลยเมื่อเขา แค่แกล้งหลับ

พิงกี้เดินลงไปที่ชั้นล่าง คนรับใช้ป้าเจี๊ยบยังไม่ตื่น

เธอเดินไปที่ตู้เย็นหยิบขนมปังและนมขึ้นมากินรอง

เธอรู้สึกเบื่อเซ็งและมองดูกุญแจรถอย่างเหม่อลอย

ตอนที่หยิบกุญแจรถมา

เธอไม่ได้คิดมาก แต่ตอนนี้ความคิดที่จะไปเยี่ยม บาบหน้าบยังไงก็ห้ามไปอย่
เมฆหลวงวิลล่าค่อนข้างไกลจากตัวเมือง

แต่ว่าถ้าขับรถก็ใช้เวลาแค่ประมาณสองชั่วโมง

แต่ว่าเมื่อวานเธอทะเลาะกับเควินไปทีนึง ต้นเหตุ

เพราะมานพ

ถ้าตอนนี้เธอไปเยี่ยมเขาอีก ไม่แน่อาจจทำให้เขายิ่ง เดือดร้อนเข้าไปอีก….

เธอไม่อยากให้อารมณ์ชั่ววูบทำให้เรื่องมันเลวร้ายก ว่านี้อีก เธอรู้สึกลังเลใจ

คิดไปคิดมา เธอโทรหาน้ำหวานถามไถ่อาการก่อนดี

อาจจะเพราะนอนอยู่ โทรไปสักพักน้ำหวานถึงรับ

น้ำเสียงเธอยังง่วงซึมไม่ตื่น น้ำวานถามอย่างขี้เกียจ

“ ใครคะ? ”

* ฉันเอง ” พิงกี้ถามตรงประเด็น “น้ำหวาน

เธอกับ มานพสบายดีไหม?
คนที่มาเฝ้าจับตาดูพวกเธอ ตอนนยังเฝ้าอยู่ไหม?

” เอ่อ…เธอหมายถึงสุชาติหน่ะหรือ เขายังอยู่สิ ! ยังดีเมื่อคืนที่เขาคอยวิ่งขึ้นวิ่งลงไปจ่ายค่ารักษา ต่างๆนาๆให้

ฉันถึงสามารถดูแลพี่ชายฉันอย่างเต็มที่ ไม่งั้นฉันคง

ลําบากแย่เลย

ลำพังฉันคนเดียวคงแบกพี่ชายฉันไม่ไหวหรอก” น้ำ หวานบิขี้เกียจไปทีนึง

“ เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่ชายฉันก็สบายดี เขาก็ แค่ถูกคนฟันไปไม่กี่

แค่ได้รับบาดเจ็บภายนอกเฉยๆไม่ตายหรอก”

พิงกี้ทำตาขาว ถูกแทงไปหลายที่ยังไม่สาหัสอีก

ไม่เคยเห็นน้องสาวที่ใจร้ายใจดำแบบนี้มาก่อน

โลกนี้ก็คงมีแค่น้ำหวานคนเดียวแล้วแหล่ะ!

แต่ว่าพิงกี้รู้ว่ามานพไม่เป็นไรแล้ว เธอก็ไม่ได้ถาม

ต่อ
เธอกลับสนใจสชาติทนาหวานพูดถึง

“น้ำหวาน สุชาติที่เธอบอกก็คือคนที่เควินส่งไป

หรือ?

ทำไมเขาถึงดูแลพวกเธอแถมยังช่วยพวกเธอจ่าย ตังค์ล่ะ?” พิงกี้ไม่เข้าใจ

* เขาไม่ใช่คนที่เควินส่งไปจับตาดูพวกเธอหรือ?

จุดประสงค์ที่เขาส่งคนไป

ไม่ใช่เพื่อจะควบคุมตัวพวกเขาจะได้ควบคุมตัวเธอ

หรือ?

“ เปล่าหนิ! เอ่อ…ก่อนหน้านั้นฉันคงไม่ได้พูด

ชัดเจนกับเธอ

เธออย่าเข้าใจเขาผิดนะ ถ้าสุชาติเป็นคนที่เควินส่ง มาเฝ้าจับตาดูฉัน

งั้นฉันยังอยากให้เขาส่งมาหลายคนหน่อย ฉันจะได้

สบาย

ใช่ๆแล้ว เธอกับเควินเป็นอะไร ทำไมฉันรู้สึกเธอ

สองคนดูแปลกๆ!”
พิงกี้ “

เธอยังไม่ได้คลี่คลายเงื่อนงา

ยังไม่อยากพูดเรื่องวุ่นวายพวกนี้ให้น้ำหวานฟัง พูด

ได้แค่

เราสองคนทะเลาะกันนิดหน่อย เขาจึงลงมือกับ

คนรอบข้างฉัน…

แต่ว่าเธอวางใจ ตอนนี้ฉันเคลียร์เรียบร้อยแล้ว

“ เขาคงไม่ใช่ช่วยลิสาแก้แค้นมั้ง?

“….น่าจะไม่ใช่

“ อืม งั้นก็ดีแล้ว

“ ไม่มีธุระอะไรแล้ว เธอดูแลพี่ชายเธอดีนะ วันนี้ถ้า ฉันว่างจะไปเยี่ยมพวกเธอ

ก่อนไปฉันจะโทรแจ้งอีกทีนะ” วางสายลง พิงกี้

เตรียมตัวออกไป

ในเมื่ออาการของมานพคงที่แล้ว

เธอก็ไม่รีบร้อนไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลแล้ว
แต่ว่าเธอก็ยังอยากทําอะไรเพ้อเขาหน่อย ปาเลยบ

ตื่นมาพอดี

เธอก็บอกกับป้าเจี๊ยบ “ ป้าเจี๊ยบคะ ฉันจะออกไป ข้างนอก เดี๋ยวถ้าเควินตื่น

ป้าบอกเขาหน่อยนะ ฉันน่าจะกินข้าวเย็นที่ข้างนอก

บอกเขาไม่ต้องรอฉันนะคะ

คุณพิงกี้ พูดกับคุณเควินเองดีกว่าไหมคะ?

“ เวลาเร่งรีบไม่ทันแล้วค่ะ ฉันต้องรีบไปแล้ว “พิงกี้ หยิบกระเป๋าก็ไปเลย

ไม่ใช่ไม่มีเวลา แต่เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา

มากกว่า

รถมายบัคสีดำขับออกจากวิลล่า เควินมองยืนอยู่

ระเบียงชั้นสอง

มองดูรถที่ขับจากไป แววตาที่คมเข้มมีความมืดมน

เขาโทรหาพายุอย่างสงบนิ่ง “ ขับรถมารับฉันเดี๋ยว

นี้ »
“ เจ้านายครับ

เมื่อวานเจ้านายบอกว่าจะขับรถมาที่บริษัทเองไม่ใช่ หรือครับ?”

“ ฉันจำเป็นต้องอธิบายให้นายฟังด้วยหรือ?”

* ไม่ต้องครับๆ…” ทันใดนั้นพายุรู้สึกตื่นตกใจ

เขารีบลุกขึ้นจาเตียงเตรียมตัวไปรับคน

แต่ว่าเขาก็อดถามไม่ได้อีก “ เจ้านายครับ รถของ เจ้านายหล่ะครับ?”

” เอ่อ…คงจะโดนแมวคาบไป” แถมเป็นแมวที่ ที่สุดซะด้วย

พายุ “………….”

แมวอะไรมีความสามารถเก่งกาจจนคาบรถมายบัคที่

เขานั่งไปได้?

คงจะเป็นแมวเทพหล่ะมั้ง?! แม้แต่คำโกหกก็ยังไม่

ตั้งใจคิดให้เนียนหน่อย

ทำให้อยากโกรธจริงๆ แต่แล้วก็ยังต้องรักษารอยยิ้มไว้

ลมเย็นสบายในยามเช้าพัดเข้ามาที่กระจกรถ พิงกี้ สูดหายใจลึกๆ

สัมผัสกับความผ่อนคลายในนาทีนี้ ระหว่างขับรถอยู่

เธอมีอาการเหม่อลอยนิดๆ เมื่อวานเธอรู้สึกเก ลียดเควินเข้าแล้วจริงๆ

แต่ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว เธอวามไปหน่อยหรือ

เปล่า?

เควินส่งคนไปเฝ้าที่ฝั่งมานพ ในนั้นคงมีปัจจัยที่จะ

เอาไว้ข่มขู่

เธออย่างแน่นอน แต่เขาก็ช่วยเหลือน้ำหวานอย่าง

จริงใจ

ไมถึงขั้นทำให้น้ำหวานถูกจับมัดมือไว้ทำอะไรไม่ได้

เขาชกจนมานพสลบ

อาจจะเพราะภาพนั้นมันบาดตาเกิน และเขาก็แคร์

เธอมาก…..

ไม่ใช่สิ ทำไมเธอถึงคิดว่าเขาแคร์เธอ
ถูกความคิดที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ท่าจนตกใจ

พิงกี้ส่ายหัวและไม่กล้าคิดต่ออีก พอขับรถมาถึง

บริษัทของมานพ

เธอสังเกตุเห็นข้างในว่างเปล่าไม่มีคน

ดูออกอย่างชัดเจนมาก บริษัทยังไม่ได้กลับมา

ทํางานเหมือนเดิม

แม้แต่ประตูก็ไม่ได้ล็อค ข้างในยังคงยุ่งเหยิงเหมือน

ประตูไม่ได้ล็อคก็สะดวกกับเธอเลย

พิงกี้เอาผมที่ยาวจนถึงเอวรวบมัดเป็นทรงลูกชิ้น

เธอหาอุปกรณ์ทำความสะอาดได้จากห้องน้ำ จาก

นั้นก็เริ่มทำความสะอาด

เก็บกวาดจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน พิงกี้เช็ดเหงื่อ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว เอ่อ…เธอรู้สึกว่าเธอต้องกลับ

ไปทำหน้าที่ของเธอแล้ว
วันนี้หายตัวมาทั้งวัน คนบางคนจะให้สีหน้าเธอดูไห

มน้อ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ