คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่365 เชื่อเตชิตมัย?



บทที่365 เชื่อเตชิตมัย?

ห้องอ่านหนังสือ

ดวงตานําเข้มของเควินจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้ นิ้วมือที่เรียวยาวเคาะที่แป้นพิมพ์อย่างมีจังหวะ ในห้อง ที่เงียบสงบส่งเสียงกรอบแบบใสๆออกมา

ถึงแม้เวลาที่ได้เรียนแฮกข้อมูลไม่ถือว่านานเท่า ไหร่ แต่ฝีมือของเขาเก่งมาก เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็แอบ อ้อมผ่านไฟร์วอลล์ของการตั้งค่าความปลอดภัยได้ สา ทารถล้วงเข้าไปในระบบความปลอดภัยของสาธารณะ และดึงคลิปวิดีโอของกล้องวงจรปิดที่เตชิตอาจจะขับ ผ่านได้อย่างราบรื่น

เขาก๊อปปี้มาชุดนึง

ดไม่ถึงจริงๆ ตอนนั้นเพราะงอนเจษฎาเลยไป เรียนการแฮกข้อมูล ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะได้ใช้อยู่เป็น ประจำ ก็ถือว่าจับพลัดจับผลูเหมือนกัน ในสมองมีความ คิดแบบนี้ เขาก็ได้เริ่มตรวจสอบรายการบันทึกของ กล้องวงจรปิดที่ดาวน์โหลดมาส่วนนั้น ดูซิว่าจะสามารถ พบเห็นอะไรหน่อยมั้ย

พอพิงกี้เดินมาถึงหน้าประตูของห้องสมุด ที่เห็นก็ คือหน้าตาที่ตั้งใจทำงานของเควิน

ไฟดวงใหญ่ของในห้องไม่ได้เปิด มีแต่ไฟตรงโต๊ะ ทำงานที่เปิดอยู่
ตอนที่ผู้ชายตั้งใจทำงานดูมีเสน่ห์มาก ส่วนเควิน ก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นอยู่แล้ว นาทีนี้แสงไฟสี เหลืองที่อบอุ่นได้สาดส่องอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของ เขา ยิ่งทําให้โครงหน้าและอวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าเขาดู คมชัดขึ้น ทำให้เขาดูแล้วยิ่งน่าดึงดูดเข้าไปใหญ่

พิงกี้มาด้วยอารมณ์ที่รีบร้อน ทำไมเห็นภาพนี้แล้ว หัวใจอดเต้นตุ้มๆต่อมๆไม่ได้

แต่ว่าไม่นาน เธอก็นึกถึงหน้าตาของผู้ชายที่บุก แทงเข้าไปในร่างกายเธออย่างไม่แยแสเมื่อครู่นี้ ตอน ที่ดึงออกมายังมีสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทันใดนั้น ใบหน้าเธอก็แดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง

“ทำไมคุณถึงมาได้ล่ะ?” เควินเห็นเธอก่อน เลย เปิดปากถามก่อน

พิงกี้ “ห้า” ไปคำนึง จากนั้นก็กระพริบตาปริบๆ “เมื่อกี้ฉันได้นรับข้อความของคุณเตชิต เลยอยากเอา มาให้คุณดูค่ะ”

“มานี่”

พิงกี้รีบเดินไปที่โต๊ะทำงาน และเอามือถือยื่นให้เค วิน “คุณดูซิคะ ข้อความนี้ค่ะ”

เควินกลับไม่รับมือถือมา แต่ดวงตาทั้งคู่กลับจ้องไปที่เท้าเนียนนุ่มที่เหยียบอยู่บนพื้นของเธอ แววตาไม่ ค่อยเห็นด้วย “ตอนนี้อากาศยังหนาวอยู่ ทำไมคุณไม่ ใส่รองเท้าก็วิ่งออกมาเลย?”

พิงกี้ก้มหน้าดู ตอนนี้ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ใส่รองเท้า ก่อนหน้านั้นไม่รู้สึก ตอนนี้พอถูกเตือนแบบนี้ก็รู้สึกเย็น ที่เท้าเลย

“งั้นฉันไปใส่รองเท้าก่อนนะคะ” พิงกี้หันหลัง เตรียมจะไป

“ไม่ต้อง”

เควินดึงมือเธอไว้ เลื่อนเก้าอี้ทำงานไปด้านหลัง และอุ้มเธอมาไว้ในอ้อมอกโดยตรง

มือที่กว้างใหญ่อบอุ่นกุมข้อเท้าเธอไว้เบาๆ พบว่า เท้าของเธอเย็นเฉียบมาก จากนั้นก็ได้แกะกระดุมเสื้อ ออก เอาฝ่าเท้าที่เย็นเฉียบของเธอแนบอยู่ที่หน้าท้อง ของตัวเอง ใช้อุณภูมิร่างกายของตัวเองสร้างความ อบอุ่นให้เธอ

พิงกี้ถูกท่าทางที่เอาใจใส่ของเขาทำเอาอึดอัดเล็ก น้อย และกลัวว่าเท้าของตัวเองเย็นเกินไปจะทำให้เขา หนาวได้ เธอจึงอยากหดขาตัวเองกลับมา คิดไม่ถึงเขา กลับล็อคข้อเท้าของเธอไว้ไม่ให้เธอขยับ จากนั้นก็ได้ ถามว่า “มือถือล่ะ? ผมดซิ”
ทันใดนั้นพิงกี้ลืมขัดขืนไปเลย ปลดล็อคมือถือและ ยื่นให้เขา “คุณดูสิคะ ก็ข้อความอันนี้แหละ”

“อืม”

เควินตอบ จากนั้นได้ดูข้อความไปๆมาๆหลายรอบ ในใจก็เริ่มครุ่นคิดขึ้นมา

ตอนที่เขาทํางานอย่างจริงจังนี่จดจ่อมาก พิงกี้ซบ อยู่ในอ้อมอกของเขาก็รู้สึกได้ เธอจึงไม่กล้าขยับตัว กลัวจะรบกวนสมาธิของเขา

ผ่านไปสักพัก

เควินเปิดปากพูด “คุณมองเรื่องนี้ยังไง?”

พิงกี้เชื่อเตชิตอยู่แล้ว เพียงแต่รู้ว่าเควินชอบหึง เธอก็ฉลาดที่ตอบแบบไม่ชัดเจนขนาดนั้น “ที่จริง ฉัน รู้สึกคุณเตชิตก็มีความน่าเชื่อถืออยู่นะคะ เราลองดูสัก ตั้งมั้ยคะ?”

“คุณเชื่อเขา?” เควินแค่ดูกิริยาของเธอก็รู้แล้ว

พิงกี้มีสีหน้าแววตาเป็นธรรมชาติมาก “ถ้าตามที่ รู้จักคุณเตชิต ฉันคิดว่าคุณที่เป็นทั้งคู่แข่งและถือว่า เป็นเพื่อนด้วยน่าจะรู้ดีกว่าฉัน ทุกอย่างให้คุณตัดสินใจ เลยค่ะ ฉันก็เป็นแค่คนส่งข่าวเฉยๆ
“อืม” ทีนี้ เควินถึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ในขณะนี้เอง มือของเขากดโดนปุ่มย้อนกลับโดย ไม่ได้ตั้งใจ พริบตาเดียวก็เห็นข้อความที่น้ำหวานส่งมา ให้พิงกี้ก่อนหน้านี้

เขาใช้มือสไลด์อย่างไม่ทิ้งร่องรอย สายตากวาด ดูข้อความล่าสุดของพิงกี้ไปทีนึงแล้วจำเอาไว้ในใจ ทีนี้ ถึงได้ล็อคหน้าจอมือถือ

“นี่ก็ดึกแล้ว ผมส่งคุณกลับไปที่ห้องนอนนะ” เขา อุ้มพิงกี้ขึ้นมา

พิงกี้กอดคอเขาไว้ “ แล้วคุณล่ะคะ?”

“เดี๋ยวผมก็ค่อยกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณ…….. หยุดไปครู่นึง เขาเปิดปากพูดอย่างเสียใจเล็กน้อย “แต่ ว่าคืนนี้น่าจะทำการบ้านไม่ได้แล้ว เดี๋ยวผมอาจจะต้อง ออกไปข้างนอก ถ้าคุณอยากเอามากจริงๆล่ะก็ พรุ่งนี้ เช้าผมให้คุณนะ”

‘ พิงกี้บ่นเสียงต่ำด้วยความโกรธ “ฉันไม่ อยากเอาหรอก!”

“ใช่หรอ? เมื่อกี้คุณกัดผมแน่นขนาดนั้น เร่าร้อน จะแย่ ไม่เหมือนคนที่ไม่อยากเอาเลยนะ”
พิงกี้ “ …….

ผู้ชายคนนี้นี่ยิ่งอยู่ยิ่งกำเริบเสืบสานแล้วนะ คนที่ หน้าด้านหน้าทนอย่างเธอก็ใกล้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แล้ว ใครก็ได้ช่วยเอาเขาไปทีซิ?!

ส่งพิงกี้กลับห้อง พอเดินออกมาจากห้องนอน ความอ่อนโยนที่อยู่บนใบหน้าของเควินค่อยๆกลายเป็น ความตึงเครียดขึ้นมา

กลับมาถึงที่ห้องอ่านหนังสือ เขาได้โทรหา สายฟ้าเป็นอันดับแรกเลย “ขึ้นมา ฉันรออยู่ที่ห้องอ่าน หนังสือ ”

ช่วงนี้สายฟ้าเหมือนพักร้อนชัดๆ

ไปเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนกับAliceไม่พอ กลางคืนยัง มีสาวสวยอยู่เคียงข้างด้วย เขาเองก็รู้สึกร่างกายจะขึ้น สนิมอยู่แล้ว เฝ้ารอที่จะได้โถมเข้าสู่โหมดการทำงาน เควินเรียกปุ๊บ เขาก็ใช้เวลารวดเร็วที่สุดในการวิ่งมาที่ ห้องอ่านหนังสือ

“เจ้านายหาผมหรอครับ?”

“อืม” เควินพยักหน้า ดวงตาดำเข้มมองไปที่เขา“ฉันจะมอบภารกิจอย่างนึงให้นาย ในมือของนายยังมี งานอย่างอื่นยุ่งอยู่มั้ย?”

“ไม่มีครับ”

“งั้นดีเลย พรุ่งนี้ฉันจะให้นายเริ่มตรวจสอบน้ำ หวานเพื่อนของพิงกี้อย่างลับๆหน่อย ดูสถานการณ์ครึ่ง ปีถึงหนึ่งปีมานี้ของเธอเป็นยังไงบ้าง ไปที่ไหนมาบ้าง และใกล้ชิดกับใครบ้าง…..ยังมีอีก ตรวจสอบตระกูล ภักดีวัฒนากุลด้วย ดูสิว่าตระกูลนี้มีอะไรน่าสงสัยมั้ย?

ตั้งแต่เกิดเควินก็เป็นคนมีเซ้นส์ไวมาก ถึงแม้จะเห็น แค่ข้อความที่น้ำหวานส่งมาเฉยๆก็ตาม เขารู้สึกว่าเรื่อง นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

ส่วนน้ำหวานก็ไม่ใช่แค่มีความหมายส่งข้อความมา เฉยๆ ในนั้นน่าจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่ด้วย

“ครับ!” สายฟ้าแทบอยากทำงานจะแย่อยู่แล้ว เขาทำความเคารพทางทหารเสร็จก็ได้รับประกัน “เจ้า นายวางใจครับ ผมจะพยายามทำภารกิจให้สำเร็จโดย เร็วที่สุดครับ”

“ต้องปิดเป็นความลับด้วย จำไว้ห้ามแหวกหญ้าให้ งูตื่นเด็ดขาด”
“รับทราบครับ!

พอสายฟ้าออกจากห้องอ่านหนังสือ เควินมอง ดูหน้าจอตรงหน้า สมองมีแผนการและเรื่องที่เกิดขึ้น ในช่วงนี้แว๊บเข้ามารอบนึง ดวงตาดำเข้มยิ่งอยู่ยิ่ง ตึงเครียดขึ้นมา

ยังมีอีก ทางฝั่งของเตชิต…….

เขาจะทําอะไรกันแน่?

วิวกลางคืนที่มืดเหมือนหมึกสีดำ รถสีดำวิ่งผ่าน ถนนไวเหมือนดาวตก

มือทั้งสองของเตชิตวางอยู่บนพวงมาลัย สีหน้า

เคร่งขรึม

ไฟข้างถนนไม่รู้ว่าเกิดเหตุขัดข้องอะไรหรือเปล่า บนถนนถึงได้มืดสนิท ราวกับว่าเป็นแค่ของตั้งโชว์ โลก ทั้งใบมีดมนไปหมด

รถเปิดไฟสูงไว้ แต่ถึงจะอย่างนี้ก็เถอะ ไฟสูงของ รถก็สามารถส่องแสงสว่างแค่ระยะทางสั้นๆ รถทั้งคัน เหมือนขับอยู่ในทะเลสาบที่มืดมน มองเห็นทางข้างหน้า ไม่ชัดเจน
เขามองดูมือถือที่วางอยู่เบาะข้างคนขับ แต่มือถือ

ไม่ได้ส่งเสียงเตือนเลย

คนๆนั้น………

ไม่เห็นข้อความของเขาหรือเปล่า หรือว่าไม่ยอมที่ สนใจเขาด้วยซ้ำ? จะสน

คิดถึงความเป็นไปได้นี้ หัวใจของเตชิตก็รู้สึกเจ็บ จี๊ดขึ้นมา ทรมานจนหายใจก็ไม่คล่อง

แต่ถึงจะอย่างนี้เถอะ เขาก็ไม่ได้ลดความเร็วของ

รถลงเลยสักนิด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ