คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 412: มาด้วยท่าทีที่จริงใจ



บทที่ 412: มาด้วยท่าทีที่จริงใจ

ผู้สมัครใจบริจาคบางคนตอนที่ทำการตรวจมี ความคิดที่เห็นอกเห็นใจคนอื่น อยากสร้างโอกาศที่ สามารถทำให้คนอื่นมีชีวิตอยู่ต่อได้ ความคิดแบบนี้น่า นับถืออย่างยิ่ง

แต่ว่า ตามความคิดที่เปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆของ คน ความคิดของพวกเขาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าติดงานมาไม่ได้ หรือว่า คนในครอบครับไม่เห็นด้วย ตอนที่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อ พวกเขา พวกเขาก็เลือกที่จะปฎิเสธด้วยความเสียใจอีก เช่นเคย

ถ้าผู้สมัครใจบริจาคเห็นด้วยก็ถือว่าโชคดี ทั้งหมด นี้ก็รอผู้สมัครใจมาที่เมืองหลวงก็พอ

แต่ถ้าผู้สมัครใจบริจาคไม่ยอมมาพวกเขาก็ต้อง พยายามสุดฤทธิ์ในการพูดโน้มน้าวผู้สมัครใจคนนั้น

ติดต่อผู้สมัครใจแล้ว ฝั่งนู้นว่ายังไงบ้างคะ?” พิง กี้ถามพยาบาลที่รับผิดชอบคุยเรื่องนี้

พยาบาลถอนหายใจทีนึง “ ผู้สมัครใจท่านนั้น ต้นปีนี้เพิ่งจะเปลี่ยนงานใหม่ ตอนนี้กำลังเตรียมตัวไป ทำงานที่ต่างถิ่น ปีสองปีนี้คงจะยุ่งกับงานมาก บวกกับ ปีที่แล้วเขาเพิ่งจะแต่งงาน เขายังบอกอีกว่าเรื่องนี้ต้อง ปรึกษากับภรรยาของเขาก่อน……ดิฉันคิดว่า ค่อนข้างยากที่เขาจะมาบริจาคค่ะ

“ผู้สมัครใจคนนั้นอยู่เมืองอะไรคะ?”

เขาอยู่เมืองHค่ะ ค่อนข้างจะไกลหน่อย

“ ค่ะ…” พิงกี้เงียบไปครู่นึง “ สะดวกให้ที่อยู่ ของผู้สมัครใจกับเรามั้ยคะ?

เธอพูดคำนี้ออกมาปุ๊บ พยาบาลก็เผยสีหน้าที่ ลำบากใจออกมาทันที

ต้องรู้ไว้นะ เพื่อป้องกันผู้สมัครใจบริจาคถูกคนไข้ หรือญาติของคนไข้ก่อกวน เบอร์ติดต่อกับที่อยู่จะเปิด เผยออกมาง่ายๆไม่ได้

ถ้าอยากได้ช่องทางการติดต่อ โดยทั่วไปจะมีเจ้า

หน้าที่เฉพาะทางไปติดต่อ

“ถ้าคุณอยากติดต่อกับผู้สมัครใจบริจาค สามารถ แจ้งข้อมูลต่างๆให้กับเจ้าหน้าที่ ถ้าทางฝั่งของผู้สมัคร ใจบริจาครู้สึกว่าเงื่อนไขไม่เลว ก็อาจจะยอมติดต่อกับ คุณก็ได้ค่ะ”

กับผู้สมัครใจที่มุ่งมั่นจะบริจาคพวกนี้ โดยทั่วไปจะ จ่ายค่าชดเชยเสียเวลาในการทำงานกับค่าซื้อของกิน บำรุงร่างกาย แต่ค่าชดเชยพวกนี้ไม่ได้เยอะเท่าไหร่มากสุดก็แค่ไม่กี่หมื่นบาท บางทีไม่เพียงพอชดเชยค่า เสียหายของผู้บริจาคด้วยซ้ำ

ในเวลานี้ ถ้าทางฝั่งของคนไข้เป็นฝ่ายเสนอว่า สามารถให้ค่าน้ำใจ อาจจะสามารถดึงดูดผู้สมัครใจได้

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องทำแบบนี้แล้วแหละ

สองวันต่อมา พยาบาลได้โทรหาพิงกี้ บอกว่าฝั่ง น้นยอมติดต่อกับเธอแล้ว

เพียงแต่ พวกเธออาจจะต้องไปที่เมืองHเที่ยวนึง

ถ้า“ค่าน้ำใจ”ที่เป็นที่พึงพอใจล่ะก็ ทุกอย่างก็คุย

ง่ายแล้ว

พยาบาลเปิดปากพูดอย่างโกรธ “ดิฉันฟังความ หมายของฝั่งนู้นคือ ถ้าไม่มีเงินสองแสนห้าหมื่นบาทนี่ พวกเขาไม่อยากคุยเลยด้วยซ้ำ โลภไม่รู้จักพอจริงๆ เลยค่ะ”

“ได้ค่ะ อันนี้ไม่มีปัญหา ฉันจะไปหาพวกเขาเอง และเป็นคนพาพวกเขามาที่เมืองZเองค่ะ” พิงกี้อารมณ์ ดีมาก น้ำเสียงก็ชิวๆ
ปัญหาที่สามารถใช้เงินแก้ไขได้งั้นก็ไม่ได้เรียกว่า ปัญหาแล้ว ถ้าเทียบกับชีวิตของคนๆนึง ขอแค่สามารถ รักษาภูผาให้หายป่วยได้ นี่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

สําหรับเธอแล้ว สามแสนบาทถือว่าชิวๆมาก

ติดต่อเสร็จแล้ว พิงกี้อยากเดินทางไปหาผู้สมัครใจ คนที่ชื่อลือชัยโดยเร็วที่สุด

เด็กในท้องของเธออาการไม่ค่อยคงที่ แต่เธอก็ยัง ดื้อดึงว่าจะไปเอง

เควินไม่ยอม……….

แต่ไม่มีประโยชน์

แม้กระทั่งภูผาเองก็เปิดปากเกลี้ยกล่อมแล้ว เดิมที พิงกี้ก็รู้สึกผิดต่อเขาอยู่แล้ว เพราะท้องจึงต้องเปลี่ยน แผน เธอพูดจาเชื่อถือไม่ได้เอง เธอรู้สึกละอายใจมาก ตอนนี้กว่าจะหาผู้สมัครใจบริจาคได้คนนึงไม่ใช่ง่ายๆ เธอไม่ยอมให้มันเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นมา แล้วก่อ ให้ผู้สมัครคนนี้เปลี่ยนความคิดที่จะบริจาคหรอก

เธอไปเองถึงจะวางใจ
ใครก็เกลี้ยกล่อมพิงกี้ไม่สำเร็จ เควินได้แต่ ประนีประนอมอย่างจนปัญญา

พิงกี้รอที่เมืองหลวงไปสองวัน เควินถึงเคลียร์งาน ที่อยู่ในมือเสร็จ ทีนี้ถึงพาเธอนั่งเครื่องไปที่เมืองH

เดิมทีเตชิตก็บอกว่าอยากไปด้วยกัน แต่ถูกทุกคน คัดค้านความคิดนี้หมด

ล้อเล่นอะไรกัน อาการป่วยยังไม่หายดีก็อยากจะ เดินทางไกล ถ้าเกิดเรื่องจะทำยังไง?

สำหรับเรื่องนี้ คนที่คัดค้านรุนแรงที่สุดคือดนัย

ตอนนี้เตชิตเป็นเป้าหมายสำคัญที่เขาต้องคอย สังเกตที่สุด และสำคัญกว่าพวกหนูทดลองที่อยู่ในห้อง แลปเชียวนะ เขาไม่ยอมให้เตชิตเกิดอะไรขึ้นเด็ดขาด แม้แต่ผิวถลอกก็ไม่ได้!

ท้ายสุด ก็มีแต่เควิน พิงกี้ พายุและสายฟ้าทั้งหมด สี่คนไปที่เมืองH

พอถึงเมืองH พิงกี้ไม่เสียเวลารีรออีกแม้แต่น้อย

ได้ติดต่อลือชัยโดยตรงเลย
ฟังจากเสียงในโทรศัพท์สามารถฟังออกว่าลือชัย เป็นคนที่อ่อนโยน น้ำเสียงไม่ช้าไม่เร็ว แม้กระทั่งยัง ค่อนข้างนุ่มนวลด้วย

หลังจากพูดคุยกันไปรอบนึง ทั้งสองนัดเจอกันที่ ร้านอาหารร้านนึง

หลังจากไปเจอกับลือชัย พิงกี้ยิ่งมีความมั่นใจมาก ยิ่งขึ้น ถึงเควินจะมีธุระกระทันหันมาเป็นเพื่อนเธอไม่ได้ เธอก็ไม่กลัวว่าจะทำภารกิจไม่สำเร็จ

อาหารยังไม่ได้มาเสิร์ฟ พิงกี้เอาถุงกระดาษสี นํ้าตาลออกมา ด้านในใส่เงินไว้ห้าแสนบาท เยอะกว่าที่ ลือชัยเรียกร้องเป็นเท่าตัว

เธอไม่ค่อยอยากเอาเงินฟาดหัวคนจริงๆ แต่เธอ คิดว่าแบบนี้จะสามารถแสดงออกถึงน้ำใจของตัวเอง มากกว่า และแบบนี้อาจจะดีกว่าด้วย

สายตาของเธออ่อนโยน “คุณลือชัยคะ ที่ฉันมา หาคุณในวันนี้คือ เพราะน้องชายฉันป่วยเป็นมะเร็งเม็ด เลือดขาว ต้องการๆบริจาคต้นกำเนิดของเซลล์เม็ด เลือดจากคุณมาก ฉันก็ได้รู้มาบ้างว่าตอนนี้คุณงานยุ่ง มาก ถ้าลางานมาช่วยเหลือเรา เห็นได้ชัดว่าจะทำให้ คุณเสียหายหนักมาก ดังนั้นเราจึงอยากแสดงความ จริงใจหน่อย นี่คือน้ำใจเล็กๆน้อยๆของเราค่ะ……
พิงกี้ลุกขึ้นเล็กน้อย เอาซองสีน้ำตาลผลักไปที่ตรง หน้าของลือชัย ท่าทางนี้แสดงออกถึงความจริงใจมาก

“คุณ นี่พวกคุณเกรงใจเกินไปแล้วครับ……. ลือ

ชัยดูก็ไม่ได้ดูซองสีน้ำตาล เขาพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ที่จริง ที่จริงผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้ครับ คุณ คุณเอาของสิ่งนี้กลับไปเถอะ ผมรับไว้ไม่ได้.

“ทำไมจะรับไว้ไม่ได้? ของสิ่งนี้จำเป็นจะต้องรับ เอาไว้!” จู่ๆ ผู้หญิงใส่เสื้อแดงแต่งหน้าจัดบุกเข้ามา ในร้านอาหาร จ้องลือชัยที่ทำตัวอึดอัดพร้อมพูดด้วย ลักษณะท่าทางที่ดุดัน

พอเธอเห็น“ซองสีน้ำตาลหนาปึก “ที่วางอยู่บนโต๊ะ อาหารแล้ว ดวงตาทั้งคู่ยิ่งเปล่งประกายเข้าไปใหญ่

“ฉันขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ฉันชื่อเมญ่า เป็น ภรรยาของลือชัยค่ะ เรื่องของครอบครัวฉันเป็นคน ตัดสินใจเองหมด พวกคุณมีอะไรก็คุยกับฉันโดยตรง เลยค่ะ.……..” เปิดซองออกมาดูและใช้สายตานับดู ทันใดนั้นเมญ่ายิ้มจนตาหยี

เพียงแต่ พริบตาเดียวเธอก็เก็บสายตาไว้ และ เปลี่ยนมาเป็นสีหน้าที่ลำบากใจ จ้องมองพิงกี้อย่างลังเล “เงินแค่นี้เกรงว่าคงจะน้อยไปหน่อยนะคะ….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ