คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่420: ถ้าพวกคุณไม่เชื่อใจผม งั้นแบบนี้ก็โอเคแล้ว



บทที่420: ถ้าพวกคุณไม่เชื่อใจผม งั้นแบบนี้ก็โอเคแล้ว

“ถ้าคุณไม่กลับมา จะทำยังไงครับ?” พายุย้อน ถาม “คุณหนีไปก็เป็นอิสระแล้ว แต่ผมเนี่ยสิจะบอกว่า เจ้านายยังไง ผมจะต้องถูกเจ้านายสั่งสอนจนตายแน่ๆ! คุณก็รู้ว่าคุณมีความสามารถเก่งกาจ ถ้าปล่อยคุณไป นั่นก็เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่า ต่อไปจะจับคุณได้หรือ เปล่านั่นก็พูดยากมากแล้ว”

เขาเป็นคนตรงไปตรงมา อยู่ตรงหน้าของเตชิตจึง ได้พูดออกมาซื่อๆแบบนี้เลย

ที่เตชิตพูดไม่ผิด เควินเอาเขามาปกป้องไว้ในบ้าน หลังนี้ ด้านนึงคือเพื่อปกป้องเขา อีกด้านคือเพื่อจับตาดู เขาอย่างใกล้ชิด

เพราะยังไงซะไกสรยังไม่ได้ถูกจับ จุดสงสัยบนตัว เตชิตก็ยังไม่สามารถชำระล้างได้หมด

แม้แต่ทางฝั่งของคุณหญิงเพียงดาว ก็มีคนเฝ้าดู

อยู่ตลอด

เตชิตแทบจะโมโหจนหัวเราะแล้ว

ลูกผู้ชาย พูดจาคำไหนคำนั้น หรือว่าเขาเป็นคนไม่ น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรอ?

เขาก็ย้อนถาม “ถ้าฉันหนีไปจริงๆ นั่นก็เท่ากับ ว่าทิ้งชีวิตของตัวเอง แค่โดนอะไรขีดข่วนนิดหน่อยก็สามารถทำให้ฉันเลือดไหลออกมาเยอะจนตายแล้ว นายคิดว่าฉันไม่แคร์ร่างกายของตัวเองเลยหรือไง? หรือนายคิดว่าฉันยอมที่จะใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญ แขวนอยู่ตลอดเวลางั้นหรอ?”

“ไม่ใช่บอกว่าอิสระใหญ่กว่าตายกับเกิดหรอครับ? ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่?”

พายุกับเตชิตจ้องตากันไปมา

พิงกี้เห็นทั้งสองที่จ้องตากันไปมาแล้วไม่รู้จะทำยัง ไง แต่ได้ขมวดคิ้วอย่างเงียบกริบ

เรื่องพวกนี้เกี่ยวโยงไปถึงองค์กรSC มันก็ไม่ใช่ เรื่องที่เรียบง่ายขนาดนั้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าถ้าเธอเข้าไป แทรกมันจะไม่ดี

“นั่นก็ไม่ได้ครับ” คิดไปครู่นึง พายุก็ยังส่ายหัวอีก

ครั้ง

พายุเป็นคนสมองทื่อ เขายังไงก็ไม่ปริปาก จู่ๆเต ชิตพบว่าถึงพูดเยอะเท่าไหร่ก็ไม่มีความหมาย

เขารู้สึกหดหู่มาก ถอนหายใจอย่างหนักๆทีนึง

เขาเดินเข้าไปที่ห้องนอนของน้องแอ๊ปเปิ้ล จาก นั้นได้หยิบลูกเป็ดพลาสติกขึ้นมาอันนึงและใช้แรงบีบจนแหลก ทันใดนั้นลูกเป็ดสีเหลืองก็ได้กลายเป็นเศษ พลาสติกกองนึง

พิงกี้กับพายุต่างก็ไม่รู้ว่าท่าทางของเขา หมายความว่าอะไร สบตากันทีนึง แววตาของทั้งคู่ต่างก็ เต็มไปด้วยความแปลกใจ

หรือว่าคุณเตชิตอารมณ์ไม่ดี เลยหยิบลูกเป็ด พลาสติกที่น่าสงสารมาระบายอารมณ์?

แต่นาทีต่อมา เห็นท่าทางของเตชิต ทั้งคู่ถึงแม้จะ ต่างคนต่างใจ แต่สีหน้าของทั้งคู่ต่างก็รู้สึกช็อค

“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ งั้นแบบนี้ก็โอเคแล้ว”

เตชิตเขี่ยพลาสติกออกมาหนึ่งชิ้น จากนั้นก็ทิ่มไป ในฝ่ามืออย่างแรง ทันใดนั้นก็มีเลือดสดๆไหลหยดออก มาจากฝ่ามือของเขา

เขากำหมัดไว้แน่น ยังมีเลือดไหลออกมาจาก บาดแผลอย่างไม่หยุด หยดลงมาจากซอกนิ้วของเขา หยดลงไปที่พรมหนาๆบนพื้นทีละหยดๆ

ปริมาณไม่เยอะ แต่กลับทำให้คนเห็นแล้ว

สยดสยอง

“นี่คุณทำอะไรคะ?” พิงกี้ดึงสติกลับมาก่อน แล้วพุ่งไปที่ตรงหน้าของเตชิต จับมือที่ยังมีเลือดไหลของ เขา ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขา แม้ตะคอกด้วยความเป็น ห่วง “เตชิต ทำไมคุณถึงได้โง่ขนาดนี้ คุณน้ำเข้า สมองหรือเปล่าเนี่ย?”

ถึงแม้เตชิตได้ผ่านการรักษามาเป็นชุด ทั้ง เปลี่ยนถ่ายเลือด ทั้งพิษต้านพิษ แต่สารพิษที่แฝงอยู่ ในร่างกายเขายังไงก็ขจัดออกไปไม่หมด ตอนนี้ผ่าน มาเกือบสองเดือน สารพิษในร่างกายของเขาก็ค่อยๆ สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกแล้ว

ถึงแม้ไม่ได้โหดเหมือนตอนแรกสุด แต่ถ้ากรีดไป หนึ่งแผล แล้วภายในไม่กี่วันไม่ได้ใช้ยาที่ดนัยคิดค้น ออกมาเป็นพิเศษล่ะก็ ไม่ช้าหรือเร็วเตชิตก็ต้องเสียชีวิต แน่นอน

ท่าทางนี้ของเขาคือยอมสวามิภักดิ์

คือแสดงความคิดแก่นแท้ของในใจ

เขาแค่อยากออกแรงช่วยตามหาน้องแอ๊ปเปิ้ล ถ้า เขาไม่กลับมา ภายในไม่กี่วันนี้บาดแผลนี้ก็จะสามารถ ทำให้เขาตายเพราะเลือดไหลออกมาเยอะเกินไป

“ผมแค่อยากช่วยพวกคุณ…..” เตชิตยิ้มมุมปาก เขายกมือขึ้นอย่างเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดี “พอแบบนี้ พายุก็ไม่ต้องกลัวว่าเพื่ออิสระแล้วผมก็จะไม่คิดเอาชีวิตแล้ว

ใช่ อิสระสำคัญมาก แต่อิสระแค่ไม่กี่วันยังสู้ แผนการที่ยาวไกลไม่ได้

ขอแค่เตชิตเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็สามารถ กลับคืนสู่ชีวิตปกติได้

พิงกี้ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วชัดๆ

เธอจะโทรหาดนัย แต่เตชิตไม่ยอมให้เธอโทร พอ สบตากับแววตาที่แน่วแน่ของเขา พิงกี้รู้ว่าตัวเองไม่อาจ ฝืนเขาได้

สุดท้าย เธอได้แต่ทำแผลและพันแผลให้เขาด้วย ความโกรธ

แต่ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งมาก

ถ้าไม่ใช่ว่าจะช่วยเธอหาน้องแอ๊ปเปิ้ล แล้วเตชิตจะ ทำร้ายตัวเองทำไม?

เขาไม่รู้หรือไงว่าแบบนี้มันอันตรายมาก?

พิงกี้แอบดูถูกตัวเองอยู่ในใจ รู้สึกปกติตัวเองดูแล เตชิตไม่เพียงพอเลย…..ถ้าเทียบกับที่เขาดีกับเธอ เธอ แม้กระทั่งเหมือนไม่ได้เห็นเขาเป็นเพื่อนเลยด้วยซ้ำ
เตชิตยอมสวามิภักดิ์ต่อหน้าพายุซะชนาดนี้ เรื่อง ตามหาน้องแอ๊ปเปิ้ลก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ไม่มีใครรู้ เลยว่ามาลาตีผีบ้านั้นมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ ไม่กล้า ละเลย พายุจึงได้ตกลงกับการเข้าร่วมของเตชิต

เตชิตไปได้ แต่พิงกี้กลับถูกเกลี้ยกล่อมให้รออยู่ที่

บ้าน

ถึงแม้ก่อนหน้านั้น เพื่อไปล้วงความลับของตระกูล ดำรงกูล พิงกี้จึงได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของหน่วยสืบลับ ได้ฝึกวิชาป้องกันตัวและการสืบสวนกับเควินไปพักนึง อย่างไรก็ตามไม่ใช่หน่วยรบพิเศษที่เฉพาะทาง อยู่ตรง หน้าของหน่วยรบพิเศษเฉพาะทาง ความสามารถแค่นี้ ของเธอไม่พอใช้หรอก

เธอเองก็ยังตั้งครรภ์อยู่ด้วย ไม่เหมาะกับการวิ่ง วุ่นและเหนื่อยล้า ถ้าออกไปตามพายุกลับจะเพิ่มความ ลำบากให้เขา ถูกพายุเกลี้ยกล่อมพักนึง เธอก็ได้แต่อยู่ ที่บ้านอย่างเชื่อฟัง

เพียงแต่ ในท้ายที่สุดพิงกี้ก็ยังเพราะเป็นห่วงจึง เกิดความโกลาหล ในใจคอยกังวลน้องแอ๊ปเปิ้ลอยู่ ตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้ที่จะรออยู่ในบ้านเฉยๆได้จริงๆ

พอเตชิตกับพายุจากไปปุ๊บ เธอก็ขับรถชิ่งออกไป จากโรงจอดรถแล้ว
ตอนที่ป่ามะลิพบว่าเธอไม่อยู่บ้าน เธอก็ได้ออกไป

ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว

พิงกี้ขับรถออกมาจาก L.K.Crystal วิลล่า ที่จริง ในใจก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหนเลย

เธอจะรู้ได้ยังไงว่ามาลาตีเกิดบ้าอะไรขึ้นมา?

แต่ถึงจะไม่รู้ หลังจากได้ใจเย็นลงมา ที่จริงเธอก็ พอเดาความคิดของมาลาตีได้อยู่นิดหน่อย

ตอนนี้คนที่มาลาตีให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ ลูกชายเธอ แต่ตอนนี้ภูผานอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรง พยาบาลตลอด ไม่แน่มาลาตีอาจจะพาน้องแอ๊ปเปิ้ลไป หาภูผาก็ได้

ถึงเธอจะไม่ไปหาภูผาด้วยตัวเอง ยังไงก็ต้อง ติดต่อกับภูผาแน่นอน ภูผาถือเป็นจุดทะลวงหนึ่งจุด

คิดถึงตรงนี้แล้ว พิงกี้หักพวงมาลัย และยูเทิร์นก ลับไปที่ทิศทางของโรงพยาบาล

ระหว่างขับรถไปด้วย เธอก็หันไปมองกระเป๋าหิ้วที่ วางอยู่ฝั่งข้างคนขับไปด้วย แววตามีแสงเย็นเฉียบแว๊บผ่านไป
เธอก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดยังไง แต่ก่อนจะออกจาก บ้าน เธอได้ไปหาปืนกระบอกเล็กออกมาจากห้องอ่าน หนังสือของเควิน ตอนนี้ปืนกระบอกนั้นอยู่ในกระเป๋า ของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ