คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่395: แสงจันทร์ ดอกกุหลาบ



บทที่395: แสงจันทร์ ดอกกุหลาบ

ห่างไกลจากเมืองหลวง แสงจันทร์ของที่นี่สวยงาม

มาก

เสียงร้องของแมลงในยามค่ำคืนยิ่งทำให้รอบๆ ดูเงียบสงบ มีความสงบแบบที่ไม่มีคนมารบกวนและ สามารถอยู่อย่างอิสระ

ส่วนเควิน…….ถูกแววตาของพิงกี้บีบบังคับจน ค่อนข้างรู้สึกอึดอัด

ดวงตาใสสะอาดของเธอจ้องมองเขา เหมือน สามารถมองทะลุเข้าไปถึงในใจเขา

เควินถูกมองจนหูแดงเล็กน้อย เขากระแอมสองที

เพื่อแก้เขิน

“ผมผิดสังเกตอะไร ถ้าคุณรู้สึกจริงๆว่าผมในวัน นี้ต่างจากก่อนหน้านั้น นั่นก็คงเป็นเพราะว่าคุณให้อภัย กับความผิดของผมและไม่ทำสงครามเย็นกับผมแล้ว จึงทำให้ผมดีใจ เรื่องบางอย่างของก่อนหน้านี้ทำให้ผม ยิ่งรู้จักรักและทะนุถนอมคุณมากขึ้น และจะยิ่งรักคุณ มากยิ่งขึ้นไปทุกวันด้วยครับ”

“จริงเหรอคะ?”

“จริงสิครับ”
“จะรักฉันชั่วนิรันดร์?”

“รักชั่วนิรันดร์ครับ!”

“คำพูดนี้ท่องมานานเท่าไหร่แล้วคะ?”

“สองวัน”

พิงกี้

เควิน “

สบตากันสองวิ จู่ๆพิงกี้อดหัวเราะเสียงดังออกมา ไม่ได้ หัวเราะจนท้องแข็ง สุดท้ายต้องจับแขนของเควิน ไว้ถึงจะฝืนทรงตัวได้ และไม่ขำกลิ้งลงไปที่พื้น

เควินรู้สึกจนปัญญา ยื่นมือพยุงเอวเธอไว้ “คุณ หัวเราะพอหรือยัง?”

“อืม……พอแล้วค่ะ.……….

แต่ว่า ทั้งๆที่ยังหัวเราะอยู่ชัดๆ

มองดูเรื่องตรงหน้านี้อาจจะกลายเป็น “จุดด่าง พร้อย”ของทั้งชีวิต เควินไม่ต้องให้คนสอน ก็ได้ ประคองใบหน้าของพิงกี้ขึ้นมา ริมฝีปากบางได้จูบลงไป โดยตรง
เสียงหัวเราะที่ทำให้เขาอึดอัดไม่มีแล้ว ต่อจากนี้ก็ มีแค่จูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อน

เพราะเร่าร้อนเกินไป อากาศในปอดราวกับว่า ใกล้จะถูกดูดออกจนหมด พิงกี้ขัดขืนออกเบาๆ คอย สูดอากาศอย่างหน้าแดงก่ำ พอเงยหน้าขึ้นมาโดยที่ ไม่ได้ตั้งใจกลับพบว่าถนนเล็กๆตรงหน้ามีไฟที่เหมือน ดวงดาวสว่างไสวขึ้นมา คดเคี้ยวจนถึงสุดปลายทาง

บนพื้นยังปูด้วยพรมแดงผืนนึง

พรมแดงผืนนี้มีกลีบกุหลาบที่สวยสดประดับอยู่ ดอกกุหลาบที่สมบูรณ์แบบชุ่มด้วยน้ำค้างจัดแต่งอยู่ทั้ง สองข้าง และมีดอกลิลลี่เป็นตัวประกอบประดับอยู่ด้วย ดวงดาวเต็มท้องฟ้าทำให้พรมสีแดงผืนนี้ยิ่งดูแจ่มใสขึ้น ไปอีก

สวยเกินคำบรรยาย

พิงกี้รู้สักตกตะลึง เธอมองดูอย่างอึ้ง จู่ๆมือที่ห้อย อยู่ข้างกายได้ถูกผู้ชายจูงเอาไว้

“อยากเดินไปดูข้างหน้ามั้ย?” เควินถาม น้ำเสียง เต็มไปด้วยการสะกดจิต

พิงกี้หันหน้ามามองเขาอย่างอึ้งและพยักหน้า
“งั้นไปกับผมนะ”

ถูกเควินจูงมือเดินไปด้านหน้า แต่พอตอนที่เดินมา ถึงพรมแดง เธอค่อนข้างตัดใจไม่ได้ที่จะยกเท้าเหยียบ ขึ้นไป

สิ่งของที่สวยงาม เธอไม่อาจจะแข็งใจทำลายมัน

ได้

เควินเหมือนเห็นความคิดเธออย่างทะลุปรุโปร่ง “ดอกกุหลาบสามารถซื้อใหม่ได้ พวกมันพยายามเบ่ง บานก็เพื่อความสวยงามของนาทีนี้ แต่ว่าถ้าคุณไม่เดิน ไปถึงจุดสิ้นสุดกับผม ก็จะพลาดสิ่งสวยงามไปเยอะ มาก คุณยอมมั้ย?”

(( พิงกี้แอบกลอกตาขาวอยู่ในใจ “ฉันยอม

ค่ะ

ผู้ชายคนนี้นี่พูดจามาเป็นชุดๆ ก็ไม่รู้ว่าค่านี้ใช้เวลา ท่องมากี่วันกันแน่?

แปลกใจจริงๆ เธอจึงถามว่า “คำพูดท่อนนี้ คุณ ท่องมากี่วันคะ?”

เควินก็ตรงไปตรงมามาก “ท่องแค่วันเดียวเอง

พิงกี้”…”
ก้มหน้าลง มุมปากของพิงกี้มีองศาที่กว้างขึ้น สุดท้ายก็บ่มเพาะเป็นรอยยิ้มที่หวานแหวว ดวงตาทั้งคู่ สว่างยิ่งกว่าเสี้ยวพระจันทร์ที่ห้อยอยู่บนท้องฟ้า

“งั้นเราไปเถอะค่ะ” เธอพูด

เธอพอจะเดาอะไรออกแล้ว ไม่………น่าจะบอก ว่าแน่ใจแล้วว่าเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเหตุนี้ ในใจ เธอจึงเต็มไปด้วยการเฝ้ารอ ครึ่งเดือนมานี้ความทรมาน ซ้ำๆซากๆที่อยู่ในใจเหล่านั้น จู่ๆในนาทีนี้เหมือนได้จาง หายไปหมดแล้ว

เธอรู้สึกตัวเองโง่อย่างห้ามใจไม่ได้

เธอคิดอยู่ว่าทำไมถึงไม่มั่นใจในตัวเควิน และไม่ มั่นใจในตัวเองด้วยนะ?

เธอก็ทอดถอนใจเล็กน้อย ผู้ชายที่ความคิดที่แข็ง ทอคนนี้ ถือว่ารู้…..ฮ่มๆ ในที่สุดสมองของเขาก็ถือว่า คิดได้สักที

แสงจันทร์ ดอกกุหลาบ……….

วินาทีที่เหยียบบนพรมแดง เสียงดนตรีที่ไพเราะดัง ขึ้น ตอนที่เดินไปข้างบน แสงไฟก็สว่างขึ้นตามลำดับ

ปลายสุดของพรมแดงคือเวทีที่กว้างขวาง
เควินจูงมือของพิงกี้ยืนนิ่งอยู่ที่บนเวที จู่ๆ แสงไฟ สีส้มได้เริ่มขยายจากจุดที่ไม่ไกลจากเท้าของพวกเขา ไม่นานก็มีเปลวไฟที่คดเคี้ยวก็แผ่ขยายออกมา ในยาม ค่ำคืนที่โรแมนติกได้วาดเค้าโครงเป็นรูปหัวใจออกมาส องดวง พร้อมทำให้เวทีของฝั่งนี้สว่างขึ้นด้วย

เปลวไฟที่กระโดดโลดเต้นถูกกระจกบังเอาไว้ ถึง เท้าเหยียบอยู่ที่ด้านบนก็ไม่โดนเผา กลับให้คนสัมผัส ถึงความอบอุ่นและความโรแมนติก

พิงกี้หัวใจเต้นแรงจะแย่อยู่แล้ว และรู้สึกเคืองตา เล็กน้อย ราวกับว่าแค่กระพริบตาทีนึง น้ำตาก็จะไหล พรากลงมา

เธอไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ในใจกลับยิ่งมีความ

คาดหวังมาก

ในขณะนี้เอง เสียงข้อความของพิงกี้ได้ดังขึ้น หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงขึ้น ไม่อยากทำลายบรรยากาศ ของนาทีนี้ เธออยากรีบปิดเสียงมือถือ แต่กลับได้ยิน เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังขึ้น

“ในเมื่อมีข้อความ งั้นก็ลองเปิดอ่านดูสิครับ

“หืม?” พิงกี้เงยหน้าขึ้นอย่างงงงวย

เควินโน้มตัวจูบหน้าผากใสเกลี้ยงของเธอ “ลองเปิดอ่านดู”

พิงกี้ในตอนนี้เชื่อฟังมาก

พอเปิดมือถือ เธอเห็นข้อความที่เควินส่งมา (ผมรัก

คุณ)

จนป่านนี้แล้ว เขายังมาส่งข้อความให้เธออีกเหรอ? เชื่อเลยจริงๆ!

พริบตาเดียวพิงกี้ก็จ้องตาโต ดวงตากลมโตของ เธอเต็มไปด้วยความแปลกใจและความงงงวย เธอกัดริม ฝีปากไว้ รู้สึกอยากต่อยคนมาก รู้สึกเพียงว่าผู้ชายคนนี้ นี่อ้อมค้อมจริงๆเลย

กำลังบ่นอยู่ในใจ แต่แล้ว ก็มีข้อความเข้ามาอีก หนึ่งข้อความ

เป็นข้อความจากคุณหญิงเพียงดาว ได้ส่งมาคำ

เดียว (ที่รัก)

มีข้อความเข้ามาอีกหนึ่ง เป็นข้อความจากน้ำหวาน

(คุณ)
ข้อความที่สามคือของดนัย (จะ)

ข้อความที่สี่ พายุเป็นคนส่งมาให้ แค่สั้นๆคำเดียว (แต่งงาน ข้างหลังตัวหนังสือยังมีรูปอิโมจิที่เล่นหูเล่นตา ด้วย ตรงกับนิสัยของเขามาก

ข้อความที่ห้า……พิงกี้เฝ้ารอมาก จากนั้นก็เห็น มือถือสว่างขึ้น มานพที่ไม่ได้เจอนานทากส่งมาคําเดียว (แต่งงาน

เตชิตส่งมาคำเดียว (กับ)

คําสุดท้าย ก็ยังคงเป็นเควินสางมาอีก

ก็ยังเป็นแค่คำสั้นๆคำเดียวอีกเช่นเคย เป็นตัวแทน ของเขาเอง….…..(ผม)

พิงกี้แอบเรียบเรียงอยู่ในใจรอบนึง อดไม่ได้ที่จะ กัดริมฝีปาก นอกจากตื่นเต้นก็ยังคือตื่นเต้นอีก ในใจ เหมือนถูกยัดด้วยสายไหม ที่หวานและอัดแน่น…….

(ผมรักคุณ ที่รัก คุณจะต้องแต่งงานกับผมนะ

“พิงกี้ แต่งงานกับผมนะ” คุกเข่าข้างเดียว เควิน เปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงที่สวยงามในมือออก ด้านในคือ แหวนเพชรที่ดีไซน์เรียบหรูแต่สวยงามเลอค่ามาก
“ฉัน ฉัน……” ล้ำๆอึ้งๆไปสองที หัวใจของพิงกี้ยิ่ง อยู่ยิ่งเต้นแรง เธอปิดปากไว้ น้ำตาเหมือนหยดน้ำที่กลิ้ง ไปมาอยู่ที่บนใบบัว ไหลลงมาตามแก้มที่ขาวเนียนดั่ง สายน้ำ

เธอสะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ