คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่239:ยังเชื่ออะไรได้อีก?



บทที่239:ยังเชื่ออะไรได้อีก?

“ที่คุณทำอยู่นี่คือเรียกว่าเช็คข้อมูลหรอ? ที่คุณทำ อยู่นี่คือให้คนมาหัวเราะเยาะฉัน! คำพูดที่คุณพูดมานี้ ก็อยู่ ในขอบเขตหน้าที่การงานของคุณเหรอ?!

“ฉันเป็นอะไร ฉันก็เป็นแบบนี้ของฉันแหละ!

“เหอะๆ…….” พิงกี้ก็ปรี๊ดแตกแล้ว ใบหน้าสะสวย บูดบึ้งไว้ แววตาเย็นชาจ้องเธอและย้อนถาม “คุณนึกว่า คุณอยู่ที่นี่ก็จะสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ทำงาน ตามอารมณ์ และใส่สีหน้าให้ฉันดูใช่มั้ย? คุณเชื่อมั้ยแค่ฉัน โทรกกิ้งเดียว คุณก็เตรียมตกงานได้เลย!

เสียงของเธอไม่สูง แต่มีพลานุภาพทําให้คนยาม เกรงขึ้นมา ทำเอาเจ้าหน้าที่ๆก่อนหน้านั้นรำคาญและ กำเริบเสิบสานอึ้งไปเลย จิตใจกระสับกระส่าย

แต่ว่า เจ้าหน้าที่คนนี้กลับไม่เห็นโลงศพไม่หลั่ง น้ำตา เธอแบกหน้ากล่าวคำขอโทษไม่ลง บรรยากาศก็ยัง คงแข็งทื่ออยู่อย่างนี้

คนที่อยู่ข้างๆก็รีบมาคลี่คลายสถานการณ์ มองมาที่ พิงกี้อย่างรู้สึกผิด “คุณผู้หญิงท่านนี้คะ ขอแค่เรื่องของ คุณเช็คเรียบร้อยแล้วก็โอเคแล้วนี่คะ เรื่องอื่นก็ขอให้ คุณอย่าถือโทษโกรธเคืองเลยนะคะ ต่อไปเราจะพัฒนา คุณภาพการบริการของเราค่ะ
พิงกี้ไม่ได้พูดอะไร

มองดูเจ้าหน้าที่ๆสีหน้าย่ำแย่ทีนึง เธอหยิบบัตร ประชาชนของตัวเองแล้วลุกขึ้นมา

มือที่จับบัตรประชาชนกำไว้แน่น สักพักเธอถึงก้าว เท้าเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่ดี และนำพาหัวใจที่เต็มไป ด้วยรูพรุนออกจากสำนักงานเขต

สถานะของเธอยังโสด แต่สถานะของเควินกลับเช็ค ไม่ได้………ทำไมถึงเช็คไม่ได้ เขากำลังปิดบังอะไรอยู่?

ทำไมในนี้ดูมีเงื่อนงำ?

พิงกี้มีเรื่องหนักอกหนักใจ เดินลงมาถึงขั้นบันได อย่างขวัญหนีดีฝ่อ นาทีนี้เสียงที่เหนือความคาดหมายก ลับดังขึ้นอย่างรวดเร็ว “นี่ไม่ใช่คุณพิงกี้ คุณผู้หญิงของ ตระกูลภิรมย์ภักดีหรอครับ?”

พิงกี้เงยหน้าขึ้น ตรงหน้าเป็นคนรู้จักจริงๆซะด้วย “นายทะเบียน?”

“ใช่ครับ ผมเองครับ” นายทะเบียนยิ้มแฉ่งเหมือน พระยูไล เห็นพิงกี้ไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร เขาจึงได้รีบ แนะนำตัว “คุณพิงกี้ครับ ผมชื่อกำพลครับ คุณเรียกผมว่ากำพลก็พอครับ”

พิงกี้ ” ……….…”

มองคนที่อยู่ตรงหน้าที่นึง จู่ๆเธอรู้สึกค่อนข้างเหมือน

ในละครเลย

ก่อนหน้านั้นเธอจดทะเบียนสมรสกับเควิน ก็คือนาย ทะเบียนที่ชื่อกำพลที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นคนดำเนินการ เรื่องนี้ให้พวกเขาในร้านอาหาร ตอนนี้เธอออกมาจาก สํานักงานเขต กลับไม่คาดคิดว่าจะเจอเขาอีกแล้ว

คิดๆแล้ว ก็ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย

เพราะครั้งที่แล้วก็มาที่ร้านอาหารระแวกสำนักงานนี้ เหมือนกัน แค่ก่อนหน้านั้นไม่ได้ใส่ใจเฉยๆ

“ในเมื่อเจอคุณแล้ว ฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณ หน่อย คุณช่วยฉันจัดการได้ไหมคะ?

“ได้ครับๆ คุณจะให้ผมทำอะไรก็บอกมาเลยครับ ผม จะทำให้เรียบร้อยทุกอย่างจนกว่าคุณจะพอใจเลยครับ”

“งั้นดีค่ะ” พิงกี้ยิ้มอ่อนๆ “เมื่อกี้ฉันพบว่าสถานะของ ฉันยังเป็นโสดอยู่ แต่สถานะของเควินกลับเช็คไม่ได้ ฉันว่าในนี้มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ คุณสามารถอธิบายให้ ฉันฟังหน่อยมั้ยคะ?

“อะไรนะครับ?” กำพลสีหน้าตะลึง แต่พริบตาเดียว ก็กลับยิ้มและพูดว่า “อ๋อ ผมนึกขึ้นมาได้แล้วครับ คนใหญ่ โตอย่างคุณเควิน การปกป้องข้อมูลของเขาก็ย่อมต้อง เยอะกว่าคนปกติอยู่แล้วครับ”

เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เมื่อกี้พิงกี้บอกว่าสถานะของ เธอยังเป็นโสดอยู่

“แล้วคุณมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปเช็คข้อมูลได้มั้ยคะ?

.ผมน่าจะเช็คได้ครับ”

“ดีค่ะ งั้นรบกวนคุณแล้วนะคะ” พิงกี้ยิ้มอ่อนๆ “คุณ กำพล งั้นเราไปกันเถอะค่ะ?”

กำพล “

เขาไปรับปากเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?

แต่ว่า ตอนนี้ก็ค่อนข้างเหมือนไล่เป็ดขึ้นหิ้ง เพราะ เมื่อกี้ตัวเองบอกว่าจะทำให้ทุกอย่างจนพิงกี้พึงพอใจเชียว นะ
ตอนนี้พิงกี้เสนอข้อเรียกร้องมา ถ้าเขาไม่รับปาก งั้น ไม่เท่ากับว่าตบหน้าตัวเองหรอ?

อีกอย่าง คนๆนี้ก็ขัดใจไม่ได้เชียวนะ!

พิงกี้เดินตามกำพลเข้าไปในสำนักงานเขต การปราก ฎตัวของทั้งสองทำให้ห้องโถงที่เดิมทีก็คนไม่เยอะอยู่แล้ว ยิ่งเงียบเข้าไปอีก เจ้าหน้าที่ทำให้พิงกี้ลำบากใจคนนั้นก็ ยิ่งยืนตัวตรงขึ้นมาเลย เหลือบมองพิงกี้ทีนึง แล้วมองไปที่ กําพลด้วยความตื่นเต้น “นายทะเบียนคะ ฉัน…..

“มีอะไร?” กำพลขมวดคิ้ว

สมกับเป็นคนเจ้าเล่ห์ รับราชการมานานจริงๆ มองที เดียวกำพลก็ดูออกว่าบรรยากาศของเจ้าหน้าที่คนนี้กับพิง ก็ผิดสังเกตุ

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เขาถามพนักงานด้วยน้ำ เสียงตำหนิ

เจ้าหน้าที่เห็นพิงกี้เดินเข้ามาพร้อมกำพล เดิมทีก็ รู้สึกใจคอไม่ดีอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นกำพลตำหนิอย่างเด็ด ขาดขนาดนี้ เธอที่รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าและกลัวผู้ที่แกร่ง กว่าก็ได้พูดออกมาจนหมดเปลือก ร้องห่มร้องไห้อ้อนวอน กําพลอย่าลงโทษเธอ
กำพลโมโหจนหน้าดำ

เดิมทีเขาก็แค่เดินผ่านมาสำรวจงานเฉยๆ คิดไม่ถึงว่า ลูกน้องจะใจกล้าและตาไม่มีแววขนาดนี้ ถึงกับกล้าขัดใจ พิงกี้ขนาดนี้

หน้าผากเขามีเหงื่อซึมออกมาทันที “คุณพิงกี้ครับ นี่เป็นการเข้าใจผิดครับ เข้าใจผิดเฉยๆ…….คุณอยาก จัดการยังไงครับ?”

“จะจัดการยังไงได้ล่ะคะ?” พิงกี้ยักคิ้วอย่างไม่ แยแส “เรื่องในถิ่นของคุณๆจัดการเองเถอะ ฉันไม่ แทรกแซงหรอกค่ะ”

“ครับๆๆ……” กำพลพยักหน้าด้วยความเคารพ จาก นั้นหันไปจ้องเจ้าหน้าที่คนนั้น “ปารีณา คุณเก็บของออก ไปตอนนี้เลย ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปไม่ต้องมาทำงานที่ นี่แล้ว!เพิ่งมาทำงานแค่ไม่กี่วันก็ก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ถึง คนอื่นจะมาขอร้อง ฉันก็ไม่มีทางให้เธอกลับมาทำงานต่อ หรอก !

“น้าเขย ฉันผิดไปแล้วค่ะ ฉันไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้ว ค่ะ! ขอร้องอย่าไล่ฉันออกเลยนะคะ ถ้าน้าเขยไล่ฉันออก แม่ฉันต้องตีฉันตายแน่ๆ!” เจ้าหน้าที่ๆชื่อปารีณาพริบตา เดียวก็ร้อนรนใจจนร้องไห้ สีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจเธอแทบอยากให้เวลาย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น จะได้ไม่ ทำเรื่องแบบนี้อีก

น้าเขย?

ดูท่าแล้วเป็นเพราะว่ามีเส้นสายถึงเข้ามาทำงานได้

นี่เอง

ถึงว่าล่ะปารีณาถึงได้มีท่าทีที่ชั่วร้าย กินบนเรือน ขึ้ บนหลังคา นี่คงรู้สึกว่ามีคนให้ท้ายตัวเอง เลยไม่กังวลเลย สักนิดว่าตัวเองจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมา วันนี้ก็เพราะได้เจอ กับเธอเข้า ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็คงถูกรังแกอย่างฟรีๆแล้ว

พิงกี้เหลือบมองกำพลด้วยสีหน้าจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม พบ ว่าคนๆนี้ก็ไม่ได้ถือว่าซื่อสัตย์สุจริตสักเท่าไหร่

ดูยิ้มแฉ่งเหมือนมีอัธยาศัยดี แท้จริงแล้วก็เป็นจิ้งจอก เฒ่าคนนึงนั่นแหละ

การร้องห่มร้องไห้ของปารีณาไม่เพียงแต่ไม่ได้ ผล กลับกันยิ่งทำให้กำพลโกรธกริ้วขึ้นมา “เก็บข้าวของ แล้วไปตอนนี้เลย ไม่งั้นก็อย่าโทษฉันที่เรียกคนมาโยน เธอออกไป! ไม่ทำงานของตัวเองดีๆ ทำเรื่องละอายใจต่อ ประชาชน นี่เธอหาเรื่องใส่ตัวเองชัดๆ!
ต่อจากนี้ ถึงปารีณาร้องไห้หนักแค่ไหน กำพลก็ไม่มี เวลามาสนใจเธอแล้ว

เขามองไปที่พิงกี้ด้วยรอยยิ้ม และถามด้วยความ ระมัดระวัง “คุณพิงกี้ เราไปที่ออฟฟิศกันก่อนดีกว่าครับ ผมช่วยคุณเช็คดูว่าเป็นเพราะระบบมีปัญหารึเปล่า?”

“ได้ค่ะ” พิงกี้พยักหน้า

กำพลนำทางอยู่ด้านหน้า พิงกี้เดินตามหลังเขาอย่าง ไม่สะทกสะท้าน

ก่อนหน้านั้นยังมีท่าทีเย่อหยิ่งและทำให้พิงกี้ลำบาก ใจ ปารีณาที่ดูพิงกี้ขายหน้านาทีนี้กำลังร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ แต่ว่า ครั้งนี้กลับไม่มีใครปลอบใจเธออีกแล้ว ทุกคนต่างก็ หลบหนีสายตาเธอเหมือนหลบหนีภัยพิบัติจากโรคระบาด

เข้ามาในออฟฟฟิศของกำพล พิงกี้ก็พูดตรงประเด็น เลย “คุณกำพลเช็คตอนนี้เลยค่ะ ฉันยังมีธุระต่อ

“ได้ครับๆ”

ถึงรู้สึกแปลกใจมาก แต่กําพลก็ได้ตอบตกลง
ถึงแม้ก่อนหน้านั้นเขาจะเป็นคนทำเรื่องจดทะเบียน สมรสให้พิงกี้กับเควิน แต่ว่าเขากับเควินไม่ได้ไปมาหาสู่ กัน เขาเป็นแค่นายทะเบียนตำแหน่งเล็กๆคนนึง ย่อมไม่มี โอกาสได้ไปมาหาสู่ใกล้ชิดเควินอยู่แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเขาแต่งงานมีลับลมคมในอะไรรึเปล่า?

เปิดระบบและเริ่มเช็คข้อมูล เขากลับพบว่าตัวเองก็ ไม่มีสิทธิ์เช็คสถานะของเควิน ทันใดนั้นทำเอาเขาอึ้งไป

เลย

“เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” เห็นเขาสีหน้าไม่ดี พิงกี้จึงรีบ

“เอ่อ….คุณพิงกี้ครับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ผมเองก็ไม่มี สิทธิ์เช็คสถานะของคุณเควินครับ”

“งั้นคุณเช็คของฉันอีกครั้งค่ะ

“ครับ ครับ.…….” กำพลเช็คปุ๊บ เหงื่อบนหน้าผาก ได้ไหลซิบๆลงมา “คุณพิงกี้ ของคุณ…ของคุณยังเป็น สถานะโสดอยู่ครับ

“อ๋อ…..” เหมือนที่เธอคิดไว้เลย

พิงกี้ไม่มีอารมณ์อื่นใดเพิ่มขึ้นมา
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันขอลาก่อนค่ะ วันนี้รบกวน คุณแล้วนะคะ”

“ไม่รบกวนครับ ไม่รบกวน” รู้สึกมึนตึ๊บ กำพลส่งพิง ก็มาถึงหน้าประตู มองดูเธอขึ้นรถแล้ว ทีนี้ถึงได้ปาดเหงื่อ บนหน้าผากทิ้ง

นั่งอยู่บนรถ พิงกี้มองดูวิวนอกรถ จู่ๆบอกไม่ถูกว่าใน ใจมีความรู้สึกยังไง

เธอไม่รู้ว่าตัวเองยังเชื่ออะไรได้อีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ