คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 441:อุปสรรคมากมาย ในห้องที่มืดสลัวมาก



บทที่ 441:อุปสรรคมากมาย ในห้องที่มืดสลัวมาก

ผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มได้บังแสงแดดข้างนอกไว้จน หมด เหลือไว้แต่เพียงช่องเล็กๆที่แดดส่องเข้ามาถึง แสงแดดได้ส่องอยู่บนเตียงใหญ่ ได้ส่องเงาของทั้งสอง คนที่กำลังพัวพันอยู่

ถึงแสงของห้องจะมืดสลัว พิงกี้ก็สามารถดูออก ว่าชายหนุ่มที่ถูกทับอยู่ใต้ร่างของหญิงสาวนั้น คือน้อง ชายตัวเอง ภูผา!

“อ๊า!” เห็นประตูถูกถีบออก ผู้หญิงที่นั่งคร่อมอยู่ บนร่างของภูผารู้สึกตัวแล้วร้องกรีดร้องขึ้นมา ได้กลิ้ง ลงจากร่างของเขา และดึงผ้าห่มที่ก่อนหน้านั้นสองคู่ได้ ห่มเอาไว้

พอแบบนี้ ภาพที่ยิ่งบัดสีบัดเถลิงได้ปรากฏอยู่ตรง หน้าของพิงกี้
ภูผาถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ เอกลักษณ์เฉพาะช่วง ล่างของผู้ชายได้ตั้งขึ้นอย่างสูง ร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ ในนั้นทำให้คนไม่อยากที่จะมองดูอีก ส่วนผ้าปูที่เดิมที ขาวสะอาดเปรอะเปื้อนด้วยสีเลือดหมู

กลิ่นในห้องยังถือว่าสะอาด แต่ภาพนี้กลับทิ่มแทง ลูกตาของพิงกี้เข้าอย่างจัง เธอเห็นเพียงแค่แวบเดียวก็ รีบหันกลับ กลัวภาพนี้จะทำให้เธอฝันร้าย

ภูผา!

นายนี่เก่งจังเลยนะ !

ไม่เพียงแต่เกิดความเห็นใจลูกสาวของอนันต์ แต่ ยังถึงขั้นทำเรื่องแบบนี้กับเธอได้!

นี่หัวสมองของเขาถูกหมาคาบไปแดกแล้วใช่มั้ยเนี่ย?!

“พี่ ไม่ใช่อย่างที่พี่เห็นนะ ผม …….ผมถูกบังคับ นะครับ ! ผมถูกใส่ร้ายครับ!” ทันใดนั้นได้ดึงสติกลับมา จากความอึ้ง ภูผาพยายามรีบลุกขึ้นนั่งที่เตียง แต่เขาก็ ไม่สามารถแย่งเอาผ้าห่มมาปกปิดตัวเองเอาไว้ และไม่ สามารถหลบซ่อนตัวเองได้ในทันที

อารมณ์ที่ตื่นเต้น ใบหน้าที่หล่อเหลาเพราะถูกโรค ร้ายทรมานมานานจนหน้าซีด ใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี่ยวซีด ดูแล้วอารมณ์ไม่สงบมาก

“พี่เชื่อผมนะ พี่ต้องเชื่อผมนะ!”

“เธอพูดสิ พูดว่าเธอเป็น เธอเป็นคน …….

ภูผาหันไปพูดใส่ผู้หญิงที่หลบตัวสั่นอยู่ใต้ผ้าห่ม อย่างเสียงดัง แต่พูดไปถึงครึ่ง ได้สบตาเข้ากับสาวน้อย ที่แววตาอ้อนวอนและน่าสงสาร พอนึกถึงอายุของเธอแววตาของเขากลับเริ่มมีความลังเลเผยออกมา รู้สึก เหมือนไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องต่อจากนี้หรือเปล่า

“เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ คุณสองคนไม่จำเป็น ต้องโต้เถียงกันหรอก แค่ดูกล้องวงจรปิดก็รู้แล้ว” จู่ๆเค วินก็พูดขึ้นมา

เขาเดินไปข้างหน้า หยิบเสื้อผ้ามาตัวนึงโยนไปให้ ภูผา เพื่อให้เขาปิดความอายไว้ หลังจากนั้นก็พูดกับเขา “ก่อนที่จะให้นายย้ายมาที่นี่ ฉันได้สั่งให้คนติดกล้อง วงจรปิดไว้ทุกมุมของคอนโดนี้ ตอนนั้นก็เพราะกลัวว่า นายจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นที่นี่ นานๆทีเราก็จะได้ตรวจ ดูได้บ้าง เห็นสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว………. ดูเหมือน ว่ากล้องพวกนี้ก็สามารถใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้แล้ว”

เควินพูดจบ แล้วหันไปมองสาวน้อยที่ตัวสั่นหลบ อยู่ใต้ผ้าห่ม เห็นร่างกายของเธอสั่นหนักกว่าเดิม แทบ อยากจะมุดหัวเข้าไปหลบในผ้าห่มทั้งคนอย่างไรอย่าง นั้น
แต่ในสายตาของภูผา กลับมีความลังเลเผยออก

มา

เห็นแบบนี้แล้ว มุมปากของเควินได้ยกขึ้นแล้วยิ้ม อย่างประชด

คนนึงก็เจตนาวางแผนมาอย่างดี อีกคนก็ลังเลไม่

เด็ดขาด

“ไปเถอะ เรื่องของที่นี่เดี๋ยวผมให้คนอื่นมาจัดการ เอง อย่าอยู่ตรงนี้เลย เดี๋ยวก็ทำคุณอารมณ์เสียเปล่าๆ เควินได้ตบที่หลังของพิงกี้เบาๆ

พิงกี้ได้สูดหายใจเข้าลึกๆทีนึง “

โอเคค่ะ

เธอสนใจที่นี่ไม่ได้แล้วจริงๆ
เชื่อว่าเควินจะต้องจัดการเรื่องได้เรียบร้อยแน่ พิงกี้ก้าวเท้าเตรียมอยากเดินจากไป แต่ข้างหลังก็ได้ ยินเสียงน่าสังเวชดังมา “อย่าไปค่ะ คุณ…คุณพิงกี้ ไม่…คุณผู้หญิง หนูขอร้องคุณอย่าไปเลยนะคะ อย่าไป

พิงกี้ขมวดคิ้ว

สาวน้อยที่อยู่ข้างหลังก็ร้องเสียงดังขึ้นมา “หนูรู้ ว่าหนูผิดไปแล้วค่ะ หนูไม่ควรวางแผนคิดร้ายคุณภูผา แต่หนูไม่มีวิธีอื่นจริงๆ คุณพ่อถูกประหารชีวิตแล้ว เงิน หนึ่งล้านบาทที่พ่อให้ไว้กับหนูก็ถูกแม่เลี้ยงของพ่อ แย่งไปจนหมด ในตัวของหนูไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท หนู หนูไม่รู้จะอยู่ต่อยังไง ถึงได้คิดมาหาคุณภูผาที่ นี่ค่ะ……

“ที่เธอมาหาเขาก็เพื่อวางอุบายเขาใช่มั้ย?”

“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ หนูก็แค่กลัว…..กลัวว่าเขาจะไม่ช่วยหนู ตอนนี้หนูไม่เหลืออะไรเลย ก็มีแค่ร่างกาย ที่ยังถือว่าบริสุทธิ์อยู่ .

พิงกี้หันไป แล้วเผชิญกับดวงตาที่ร้องไห้จนแดง

ของเธอ

ทั้งๆที่สาวน้อยคนนี้ทำหน้าดูน่าสงสารมาก แต่ไม่รู้ เป็นเพราะอะไร เธอกลับไม่รู้สึกเห็นใจเธอเลย

“เธอโชคร้าย ก็จะสามารถวางอุบายคนอื่นได้ อย่างงั้นเหรอ?” เธอถามขึ้นมา

“หนู หนู…… สาวน้อยคนนี้ล้ำๆอึ้งๆ

“เธอชื่ออะไร?”
“หนูชื่อดารินค่ะ”

“คงยังม.ปลายอยู่ใช่มั้ย?

“ใช่ค่ะ หนู • หนูยังเรียนม. สี่อยู่ค่ะ”

“เด็กม.ก็มีความคิดต่ำช้าและไม่อยากลงแรงก็ อยากจะได้มาฟรีๆแบบนี้ เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองน่ากลัว มากเลยเหรอ?”

“หนูไม่ได้หวังเอาฟรีๆนะคะ หนู หนูได้ทุ่มเทสิ่งที่มี ค่าที่สุดของหนู!” ดารินเงยหน้าขึ้นอย่างกระทันหัน กัด ริมฝีปากไว้แล้วพูดอย่างดื้อด้าน “หนูเพิ่งจะอายุสิบห้า หนูจะทำอะไรได้คะ? หนูทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่หนูให้ ได้ก็มีแค่นี้ค่ะ!”

“แต่ก่อนที่เธอจะให้ เคยคิดมั้ยว่าคนอื่นอยากได้หรือเปล่า ? ดูพวกเธอสองคนซิ เธอหลอกใช้ความเห็น อกเห็นใจของภูผาถึงได้ทำสำเร็จสินะ? เธอพูดว่าที่เธอ ให้ได้ก็มีแค่เรื่องนี้ แต่อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เธอกลัวที่สุด คือถ้าเธอไม่ให้อะไรเลย เธออาจจะถูกไล่ออกไปใช่ มั้ย?”

ถ้ามีอะไรกับภูผาแล้ว ทุกอย่างก็จะไม่เหมือนเดิม

ไม่ว่ายังไง ผู้หญิงก็ได้เสียเปรียบขนาดนี้แล้ว ไม่ ว่าจะดูแลรับผิดชอบเธอหรือว่าชดใช้ก็ดี ยังไงซะดาริน ก็ได้รับประโยชน์อยู่แล้ว

ในฐานะเป็นหญิงสาวที่ไม่มีพ่อแม่ดารินไม่ง่ายก็ จริง พิงกี้เองก็เห็นใจเธอมาก แต่ว่าเรื่องที่ดารินทำออก มาพวกนี้ เธอรู้สึกขยะแขยงมาก

“ใช่ค่ะ • หนูขอโทษ หนูก็แค่กลัว ว่าพวก คุณจะไม่ยอมรับหนูเอาไว้ หนูขอโทษ หนูผิดไปแล้ว ค่ะ.…………. ” ดารินอึ้งไปครู่นึง จ่ๆก็จับผ้าห่มไว้แล้วลกจากเตียง และก้มคำนับให้ทุกคน “ขอโทษค่ะคุณภูผา ขอโทษค่ะคุณผู้หญิง ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย หนู ……. ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง หนูจะไปเดี๋ยวนี้เลย ค่ะ”

“เรื่องของวันนี้ หนูเป็นคนวางอุบายคุณภูผาเอง เป็นความผิดของหนูเอง หนูจะไม่สร้างปัญหาให้พวก คุณอีกแล้วค่ะ จริงๆนะคะ!”

พูดจบ ดารินก็ได้ก้มลงไปเก็บเสื้อผ้าที่อยู่บนพื้น อย่างยากเย็น

เสื้อผ้าของเธอดูเรียบง่ายมาก เรียบจนดูไม่ได้ ดูก็ รู้เลยว่าซักมาหลายครั้ง สีซีดเก่ามาก

ตอนเธอก้มไปเก็บเสื้อผ้า บนใบหน้าก็รู้สึกอายมาก
เก็บเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็เดินไปทางห้องน้ำ

“รอก่อน!” จู่ๆภูผาก็เรียกเธอไว้

“คุณภูผา?” ดารินหันกลับมา ดวงตาที่ขี้ขลาด เอ่อล้นด้วยน้ำตามองไปที่ภูผา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ