คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่299: ละเหยไปจากโลกนี้



บทที่299: ละเหยไปจากโลกนี้

พิงกี้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้สุรพลฟัง และบอกสิ่ง ที่ตัวเองคาดเดาต่อว่า “ถ้าเป็นอย่างที่หนูคิด งั้นเรื่องนี้ก็ ไม่ง่ายแน่นอยค่ะ นี่เอาไฟมาเผาที่บนตัวหนูก็แล้วไป ถ้า ยังเอาไฟไปเผาที่คุณลุง งั้นปัญหาก็ยิ่งใหญ่แล้วค่ะ”

สุรพลเงียบขรึมไม่พูดอะไร

พิงกี้แทบจะนึกภาพออก เขาที่อยู่ในสายต้องขมวด คิ้วแน่นแน่ๆ

เธอพูดต่ออีก “ถ้าคุณลุงยอมช่วยหนูล่ะก็ ช่วยหนู ตรวจสอบว่าหยาดทิพย์อยู่ที่ไหนได้มั้ยคะ?”

ก่อนที่เควินจะกลับมา เธอรู้สึกอาศัยอำนาจของ ตระกูลภิรมย์ภักดีก็เป็นอีกวิธีนึงที่จะช่วยหาหลักฐานได้ ยิ่งไปกว่านั้นสุรพลก็อยากปกป้องเธอจากใจจริงไม่ว่าจะ เพราะเควินหรือเพราะน้องแอ๊ปเปิ้ล ไม่ว่าเพราะใครเธอก็ จะรับความหวังดีนี้ไว้เช่นกัน

“ได้” สุรพลตอบตกลง

บรรยากาศที่ L.K.Crystal วิลล่า No.1 ตึงเครียด

มาก
อารมณ์ของพิงก็ไม่ถือว่าดี ป้าเฉินละอายใจและรู้สึก ผิดจึงไม่กล้าพูดมาก พยาบาลก็แทบอยากจะให้ตัวเอง ล่องหนได้……….ไม่มีใครพูดจา

เวลาได้ผ่านไปอีกวัน

เควินก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา แม้กระทั่งสองวัน นี้เตชิตก็เหมือนกับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย วันนี้มีแต่ หมายศาลที่ทางศาลสั่งมาให้

คนในครอบครัวของหยาดทิพย์ได้ฟ้องเธอขึ้นศาล

วันขึ้นศาลคือวันศุกร์นี้ นั่นก็คือมะรืน

มือถือหมายศาลไว้ในที่สุดพิงกี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว เธอยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกร้อนรนใจ

โทรหาเตชิตไปหลายสาย แต่ก็ปิดเครื่องทุกครั้ง พิง ขมวดคิ้วตึง แล้วโทรหาสุรพลถามข่าวคราวของหยาด ทิพย์ สุรพลได้รับสาย แต่ข่าวที่ได้รับกลับไม่ค่อยดีเลย

“สองวันนี้ลุงส่งลูกน้องที่มีความสามารถสูงในการ ไปหาผู้เสียหายที่ถูกรถชนคนนั้น แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย เบาะแสทั้งหมดได้ถูกทำลายไปหมด คลิปวิดีโอและกล้องวงจรปิดก็หาไม่เจอ รถคันที่หนูนั่งในตอนนั้นก็เป็น ป้ายสวมทะเบียน ผู้เสียหายที่ชื่อหยาดทิพย์คนนั้นเหมือน ละเหยไปจากโลกนี้อย่างไรอย่างนั้น ไม่เห็นแม้แต่เงา เลย”

“ยังไงก็หาตัวไม่เจอหรอคะ?” พิงกี้ถาม

ทุกเรื่อง ต่างก็เป็นข่าวที่ไม่ดีทั้งนั้น

“ใช่ หาไม่เจอเลย

พิงกี้กัดริมฝีปากไว้เบาๆ แววตาร้อนรนใจ

เสียงที่หนักแน่นของสุรพลดังขึ้นอีกครั้ง “เรื่อง นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ลุงว่าความสงสัยของหนูอาจ จะเป็นจริง อีกอย่างนึง ในขณะที่ลุงส่งคนไปตรวจสอบ เหมือนกับว่ามีคนกลุ่มนึงก่อกวนการเคลื่อนไหวของลูก น้องลุงอยู่ลับๆ ก็เพื่อจะให้เราหาที่อยู่ของผู้เสียหายไม่ เจอ”

“คุณลุงคะ ใช่ตระกูลดำรงกูลควบคุมอยู่เบื้องหลัง เปล่าคะ?” พิงกี้รีบถาม

“เหมือนจะไม่ใช่ตระกูลดำรงกูล ถ้าวิเคราะห์จาก เบาะแสในตอนนี้เหมือนจะเกี่ยวข้องกับตระกูลศิลปการสกุล”

ตระกูลศิลปการสกุล

จู่ๆพิงกี้นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนที่ลิสาอยู่ในโรงพยาบาล จิตเวชได้ติดต่อกับธีระอยู่เป็นประจำ เหมือนธีระเอง ก็ได้ไปเยี่ยมเธออยู่เป็นประจำด้วย………….ใช่แล้ว โรง พยาบาลจิตเวช

ลิสาถูกส่งไปที่โรงพยาบาลจิตเวชตั้งนานแล้วหนึ่ เธอหนีออกมาได้ยังไง แถมยังใส่ร้ายเธอได้ด้วย?

หลายวันมานี้เธอไม่ได้นึกถึงจุดนี้เลย!

“คุณลุงคะ ความสัมพันธ์ของธีระกับลิสาใกล้ชิด กันมาก พวกเขาเคยเจอหน้ากันหลายครั้ง ไม่แน่ตระกูล ศิลปการสกุลก็ได้เข้าร่วมกับเรื่องนี้ด้วยค่ะ เบาะแสที่คุณ ลุงได้น่าจะถูกต้องแล้วค่ะ อีกอย่างถ้าหาหยาดทิพย์ไม่เจ อจริงๆ เราสามารถใช้เรื่องที่ลิสาเข้าโรงพยาบาลจิตเวช มาสร้างเป็นประเด็นมั้ยคะ?

ลิสาสามารถใส่ร้ายเธอได้ แล้วเธอจะไม่มีวิธีสาดน้ำ สกปรกคืนยังไง?

คนปกติกับคนบ้าขึ้นรถคันเดียวกัน คนบ้าไม่มีความตระหนักเรื่องความปลอดภัย หมุนพวงมาลัยไปมั่ว เหยียบ คันเร่งไปมั่ว……..เรื่องพวกนี้ต่างก็อาจจะเกิดขึ้นได้

ในเมื่อลิสาทําลายกล้องวงจรปิดทุกอย่างงั้นเธอก็ ไม่มีวิธีไปพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์

“ไม่ได้” สุรพลปฏิเสธความคิดนี้ เท่าที่ตรวจสอบ มาในสองวันนี้ ลิสาได้ออกจากโรงพยาบาลมาหนึ่งเดือน กว่าแล้ว ตอนที่ออกจากโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาล จิตเวชยังได้วินิจฉัยว่าเธอไม่ได้เป็นบ้า เราไม่สามารถใช้ เรื่องนี้มาสร้างเป็นประเด็นได้

“อะไรนะคะ?” พิงกี้ตื่นตะลึงจะแย่อยู่แล้ว

มีคนเฝ้าจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของลิสาอยู่ ตลอด แต่เธอไม่เคยได้รับข่าวสารเกี่ยวกับทางเรื่องนี้มา ก่อนเลย!

นี่เกิดความผิดพลาดจากตรงไหน?

“ลุงจะหาทนายความให้หนูคนนึง หนูอย่าตื่น ตระหนกนะ ถึงต้องขึ้นศาล แต่เพราะหลักฐานไม่ครบ ดัง นั้นตัดสินโทษไม่มีทางไวขนาดนั้นหรอก” เรื่องมาถึงขั้นนี้ สุรพลก็ได้แต่ยืดเยื้อเวลาไว้ จากนั้นก็รีบหาหลักฐาน
“ได้ค่ะ” พิงกี้ตอบ

หลังจากวางสาย พิงกี้ยังรู้สึกมึนตึ๊บ

คนที่รับผิดชอบเฝ้าจับตาดูลิสาคือคนโปรดของเควิน ชื่อประทีป คอยรับใช้อยู่ที่ข้างกายของเควินมาเจ็ดแปด ปี ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ทำไมเวลาสำคัญ แบบนี้ถึงมาผิดปกติได้ล่ะ?

หรือเป็นเพราะว่ามีข่าวลือว่าเควินตายแล้ว ทำให้ ประทีปเปลี่ยนใจ?

ไม่

ไม่นานพิงกี้ก็ตัดความเป็นไปได้อันนี้ออก

เธอเคยเห็นประทีปสองครั้ง ตามความรู้สึกของเธอ เธอว่าประทีปไม่น่าใช่คนที่เห็นแก่ผลประโยชน์แบบนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวการตายของเควินได้แพร่สะพัด มาในประเทศตั้งนานแล้ว ทำไมประทีปถึงมาเปลี่ยนใจ ตอนนี้ได้ล่ะ? เขาทรยศเควินก็เท่ากับทรยศสหายของเขา หน่วยสืบลับไม่มีทางให้คนอย่างเขามีที่ยืนหรอก นี่มีผล ประโยชน์อะไรกับเขาล่ะ?
นอกเสียจากว่าลิสาได้ให้ผลประโยชน์ที่มหาศาลกับ

เขา

ไม่ว่ายังไง โทรไปถามให้รู้เรื่องเลยดีกว่า คาดเดาไป คาดเดามาก็ไม่มีประโยชน์

นั่งเงียบๆอยู่บนโซฟาไปหลายนาที พิงกี้หยิบมือถือ มาโทรหาประทีปโดยตรง และถามเขาอย่างตรงไปตรงมา ว่า “ประทีป ตอนนี้นายอยู่ไหน? นาย สถานการณ์ช่วงนี้ ของลิสามั้ย?”

“ตอนนี้ผมลาพักงานอยู่ที่บ้านเกิดครับคุณพิงกี้ ลิสา….เธอไม่ใช่กลับไปที่ตระกูลดำรงกุลแล้วหรอครับ?”

“ทำไมนายถึงอยู่บ้านเกิด?” พิงกี้ขมวดคิ้ว “ฉัน ไม่ใช่ให้นายเฝ้าจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของลิสา หรอ? ในเมื่อนายรู้ว่าลิสากลับตระกูลดำรงกูลแล้ว ทำไม ไม่แจ้งให้ฉันทราบ?”

เพราะใจร้อน เสียงของพิงกี้จึงค่อนข้างวาม

ประทีปรู้สึกงงงวย “ตอนที่ลิสาออกจากโรงพยาบาล จิตเวช ผมได้โทรหาคุณพิงกี้ก่อนเป็นคนแรกเลยนี่ครับ ที่ ผมกลับมาบ้านเกิดก็คุณพิงกี้เป็นคนอนุญาติเอง คุณพิงกี้ จำไม่ได้แล้วหรอครับ?
“นายโทรหาฉันเมื่อไหร่กัน ทำไมฉันจำเรื่องนี้ไม่ได้ เลย?”

“ผมโทรจริงๆนะครับ วันนั้นคุณพิงกี้เป็นหวัดเสียงยัง ฟังดูแปลกๆด้วย จากนั้นคุณพิงบอกว่าเจ็บคอไม่สบาย ก็ เลยส่งข้อความคุยกับผม…… ประทีปรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ “หรือว่าโทรศัพท์วันนั้นจะมีปัญหาครับ?”

พิงกี้ ” …….…….”

ต้องมีปัญหาแน่นอน!

เพราะเธอไม่ได้รับสายเลยด้วยซ้ำ

พอถามประทีปว่าโทรมาวันไหน พิงกี้ได้นึกคิดความ เคลื่อนไหวของวันนั้นอย่างละเอียด จำได้ว่าวันนั้นเธอไม่ ได้ออกจากบ้านเลย

ในบ้านมีกล้องวงจรปิดหลายตัว เธอแค่ดูกล้อง วงจรปิดก็สามารถหาเบาะแสได้แล้ว

พอเปิดดูกล้องวงจรปิดปุ๊บ อารมณ์ของพิงกี้สุดจะ

บรรยาย

ป้าเฉินไม่เพียงแต่ให้ยายสมศรีแอบเจอแอ๊ปเปิ้ลที่ข้างนอก แต่ยังใจกล้าถึงขั้นฉวยโอกาศตอนที่เธอหลับ ได้วางยาสลบให้พยาบาลและพายายสมศรีเข้ามาในบ้าน ด้วย!

ยายสมศรีเป็นคนรับสายมือถือของเธอ!

ป้าเฉินนังตัวดี!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ