คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่489:จู่ๆมีแผนขึ้นมาในหัว



บทที่489:จู่ๆมีแผนขึ้นมาในหัว

ไม่ว่าบนตัวของดุสิตมีจุดด้อยมากแค่ไหน แต่เขาก็ เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรัก

กับความรัก ถ้าไม่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ เขาก็ไม่ลืมเลือนแฟนเก่าอย่างซินดี้ไม่ได้สักทีหรอก จน ต่อมาได้คบกับน้ำหวาน ถึงค่อยๆตัดขาดความรักครั้ง เก่าไปได้ ไม่ถูกซินดี้มากระทบอีก

สำหรับความรักกับคนในครอบครัว ถ้าไม่ให้ความ สำคัญกับความรู้สึก ดุสิตก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหา มากมายของตระกูลแถมยังหลุดพ้นไม่ได้ สุดท้าย เพราะเห็นความสำคัญของครอบครัว ยังทำให้ค มรัก ระหว่างเขากับน้ำหวานต้องสั่นคลอนด้วย

อยากไขว่คว้าหัวใจของคนแบบนี้ ก็ต้องมีการ โจมตีที่มีอานุภาพ

สองสามีภรรยาของตระกูลภักดีวัฒนากุลเพื่อไม่ ให้เรื่องเกี่ยวพันถึงดุสิต จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ความ คาดหวังหนึ่งเดียวก่อนตายก็คือให้ดุสิตสามารถมีชีวิต อยู่ต่อไปดีๆ อยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ดุสิตจะเลือก ยังไง?

ขอแค่ดุสิตรักษาความสง ถ้าอย่างนั้นแผนการของ พ่อแม่เขาก็จะได้สามารถบรรลุเป้าหมาย

มีแผนการชั่วร้ายที่สองสามีภรรยาของตระกูลภักดีวัฒนากุลจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า ความผิดทั้งหมดที่ ดุสิตทำลงไปจะถูกโยนไปที่น้ำหวานหมด สุดท้ายน้ำ หวานกลายเป็นแพะรับบาปแทนดุสิต และรับโทษทุก อย่างของเขาไป

คิดถึงตรงนี้ พิงกี้ก็ปวดหัวขึ้นมา

“ไม่ได้” เธอลงมาจากเตียง พูดด้วยสีหน้าใจร้อน “ตอนนี้ดุสิตน่าจะยังไม่รู้เรื่องที่พ่อแม่เขาฆ่าตัวตายมั้ง คะ? ฉันจะฉวยโอกาศตอนที่เขายังไม่รู้ข่าวไปพูดโน้ม น้าวเขา มีแค่อย่างนี้น้ำหวานถึงจะไม่ได้รับความเดือด ร้อน”

ไพโรจน์กับคุณหญิงดวงใจคือคนที่ไม่ว่าเหี้ยมโหด แค่ไหนก็ไม่ทำร้ายลูกของตนเอง และยังมีความรัก ความเมตตาให้ลูก แต่น้ำหวานล่ะ? แล้วเธอโผล่ออกมา จากในหินหรือยังไง แล้วเธอไม่มีคนในครอบครัวที่เป็น ห่วงเธอหรือยังไง?

ไพโรจน์กับดวงใจช่างอำมหิตเกินไปหรือเปล่า?!

“ผมให้พายุไปกับคุณ” เควินไม่มีทีท่าจะขัดขวาง เพียงแค่ย้ำเตือน“ผมขอแนำนะคุณให้ปฏิบัติงานด้วย ความรอบคอบและถี่ถ้วน ก่อนที่เรื่องจะสำเร็จอย่าเพิ่ง บอกน้ำหวาน เพื่อจะได้เลี่ยงไม่ให้มีปัญหาใหม่สอด แทรกเข้ามา และดีที่สุดอย่าเอาตัวเองพัวพันเข้าไป ถึง แม้ทำเรื่องนี้สำเร็จ คุณรักษาชีวิตของน้ำหวานเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้ว่าระหว่างคุณกับน้ำหวานอาจ จะต้องเดินเส้นทางคนแปลกหน้ากัน บางที เรื่องที่คุณ ทําทั้งหมดอาจจะไม่ได้รับความเข้าใจจากเพื่อน ถึงจะ เข้าใจ ก็ยากที่จะรับประกันว่าคนอื่นจะไม่บ่นคุณ”

พิงกี้อึ้ง ทันใดนั้นใบหน้าสะสวยเหมือนมีน้ำแข็ง เคลือบอยู่ชั้นหนึ่ง สีหน้าก็แย่ขึ้นมาทันที

ใช่ ที่จริงเธอก็รู้เหตุผลพวกนี้ดี

สิ่งต้องห้ามที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างคนสอง คนก็คือคนอื่นเข้ามาแทรกแซง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือ ว่าญาติ รักษาระยะห่างหน่อยจะดีกว่า

ยกตัวอย่างที่พบได้บ่อยที่สุด คนๆหนึ่งพบว่าแฟน ของเพื่อนแอบไปลักกินขโมยกินที่ข้างนอก ย้ำเตือน เพื่อนตัวเองต้องระวังแฟนของตัวเองหน่อย แต่เพื่อน ของคุณอาจจะไม่เพียงไม่ฟังคำเตือนของคุณ แต่ยัง รู้สึกว่าคุณกำลังยุให้แตกคอกัน แม้กระทั่งยังคิดว่า กำลังดูถูกแฟนของตัวเองด้วย

ถึงแม้เวลาพิสูจน์แล้วว่าคุณไม่ได้พูดเท็จ บางทีผู้ หญิงที่ถูกแฟนทรยศอาจจะบ่นเพื่อนรักตัวเอง ถ้าไม่ใช่ เธอเปิดโปงความจริง บางทีแฟนของตัวเองอาจจะยอม ปิดบังตัวเองตลอดชีวิตล่ะ? ใช้ชีวิตอย่างสับสนมึนงงก็ ใช่ว่าจะไม่ดีสักหน่อย ทำไมต้องใจดำปลุกเธอตื่นขึ้นมา รับรู้ความจริงด้วย?
ใจคน คาดเดาได้ยากที่สุด

“ฉันรู้ค่ะ” พิงกี้พยักหน้า แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ความคิด “สถานการณ์ที่คุณพูดน่ะฉันรู้ แต่น้ำหวาน ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผลแบบนั้นหรอกค่ะ ถึงเธอจะ ยอมรับความจริงได้ยากในชั่วขณะ แต่ก็ไม่พาลใส่คน อื่นหรอก อีกอย่าง ในเมื่อน้ำหวานเลิกกับดุสิตแล้ว งั้นก็ แสดงว่าในใจก็คงจะสีทางเลือกแล้ว ฉันเชื่อเธอค่ะ”

ถึงพูดถอยหลังไปหนึ่งหมื่นก้าว ถึงในใจของน้ำ หวานจะโทษเธอ เธอก็ไม่เป็นไร

ถ้าเทียบกับชีวิตๆหนึ่งแล้ว ถูกน้ำหวานตำหนิแล้ว จะทำไม?

หรือเพราะเหตุนี้แล้ว เธอก็จะไม่ไปทำเลยหรอ?

ไม่ เธอทำแบบไม่ได้

พิงกี้ติดต่อดุสิต บอกความคิดให้ชัดเจน นัดเจอกับ ดุสิตในสิบโมงครึ่งของวันพรุ่งนี้

จุดนี้ตอบตกลงแล้ว พิงกี้ก็เริ่มฝึกฝนอยู่ในสมอง ว่าจะพูดโน้มน้าวดุสิตยังไง เพื่อรู้เขารู้เรา เธอยังถาม น้ำหวานอย่างเลี่ยงๆเกี่ยวกับนิสัยและความเคยชินของดุสิต จะต้องโจมตีครั้งเดียวก็เอาให้ตายให้ได้

อีกนิดเดียวก็ทำให้น้ำหวานเกิดความสงสัยถึง ความผิดปกติของเธอแล้ว เพื่อเลี่ยงไม่ให้แผนการถูก เปิดเผย เธอจึงต้องรีบเปลี่ยนประเด็น

วันที่สองตอนเช้า

ตอนที่นั่งขึ้นมาบนรถ จู่ๆในหัวของพิงกี้มีไอเดียที่ ใจกล้ามากโผล่ขึ้นมา

ที่ดุสิตยอมเจอหน้ากับเธอ ไม่มีอะไรมากไปกว่า อยากหลอกถามท่าทีของเควินจากเธอ แถมยังสามารถ ถ่ายไถ่ว่าช่วงนี้น้ำหวานเป็นยังไงบ้าง…….ถ้าอย่างนั้น เธอจะสามารถแผนซ้อนแผนล้วงคำพูดจากเขาได้ไหม?

ถ้าจะล้วงคำพูดจากดุสิต อย่างนั้นก็ต้องกระตุ้น

กระตุ้นดุสิต……..

คิดถึงตรงนี้ พิงกี้ตัดสินใจแน่วแน่ ในแววตามีแสง ของความฉลาดระยิบระยับอยู่

รถวิ่งอยู่บนถนนเกือบสองชั่วโมง

ถึงร้านกาแฟที่นัดหมายก็เวลาประมาณสิบโมงเช้าแล้ว เวลาพอดีเลย แต่ไหนแต่ไรพิงกี้ก็ไม่มีนิสัยชอบมา สายอยู่แล้ว ถึงแม้จะกดดันดุสิตก็เถอะ เธอก็ไม่คิดจะ ใช้วิธีนี้

หลังจากดูเวลาแล้ว พิงกี้ลงจากรถอย่างชิวๆ

สถานที่ๆนัดเจอกับดุสิตคืออยู่ระแวกบริษัทของเค วิน เดิมทีพิงกี้กะว่าหลังจากเจอหน้าดุสิตแล้วจะไปหาเค วินที่บริษัทโดยตรง ตอนนี้ถ้าเปลี่ยนแผน งั้นตอนกลาง วันก็ไม่สามารถทานข้าวกับท่านประธานของเธอแล้ว

แต่ว่า ขอแค่แผนการสามารถสำเร็จลุล่วงอย่าง ราบรื่น งั้นเสียสละเวลาหวานแหววสักหน่อยก็ไม่เป็นไร

เพราะมาถึงตั้งนานแล้ว กาแฟที่พิงกี้สั่งมาเสิร์ฟ แล้ว ดุสิตถึงมา

“สวัสดีครับ คุณพิงกี้” ดุสิตพูดทักทายกับพิงกี้

“สวัสดีค่ะ คุณดุสิต” พิงกี้เผยรอยยิ้ม “ยากจะได้ เจอจริงๆ เชิญนั่งค่ะ ฉันสั่งลาเต้ให้ตัวเองก่อนแก้วหนึ่ง แล้ว คุณลองดูค่ะว่าอยากดื่มอะไร ฉันเลี้ยงค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

ดุสิตเปิดเมนูไปเรื่อยเปื่อย และได้สั่งกาแฟดำแก้ว หนึ่ง ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล
พิงกี้ยักคิ้ว “คุณดุสิตนี่เจ๋งจริงๆเลยค่ะ”

“ดื่มกาแฟขมสามารถให้ภาพลวงตาอย่างหนึ่งกับ

คนครับ?”

“ภาพลวงตาอะไรคะ?”

“ถึงชีวิตจะขมเท่าไหร่ ก็ขมสู้กาแฟไม่ได้”

” พิงกี้ยักคิ้วด้วยความประหลาดใจ จาก นั้นก็ “อ๋อ” คำหนึ่ง

” หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ดุสิตเผยรอยยิ้ม ที่ขมขื่น ได้แต่เป็นฝ่ายถามก่อน “คุณพิงกี้ ช่วงนี้น้ำ หวานพักที่บ้านคุณตลอด เธอเป็นยังไงบ้างครับ คุณเล่า ให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย?”

“แล้วคุณถามในฐานะอะไรคะ แฟนเหรอคะ? แววตาของพิงกี้มีความเยาะเย้ยที่เข้มข้น “คุณดุสิต คุณน่าจะรู้ไว้ด้วยนะว่าที่ฉันเชิญคุณมาในวันนี้ไม่ใช่ มาพูดคุยเล่นๆ และไม่ได้อยากมากังวลความสัมพันธ์ ระหว่างคุณกับน้ำหวาน ฉันหาคุณเพราะมีเรื่องจริงจัง คุณพูดขึ้นมาพอดี งั้นฉันอยากถามคุณหนึ่งคำถาม คุณ สามารถตอบฉันด้วยความจริงใจหรือเปล่าคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ