คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่456คุณเควินที่น่ากลัว



บทที่456คุณเควินที่น่ากลัว

แววตาเย็นชาขอฃเควินจ้องมองมา ทันใดนั้นจง เจตรู้สึกหัวโตแล้ว

“เมื่อกี้ผมได้คุยกับคุณพิงกี้ไปพักหนึ่ง พบว่าไม่ เพียงแต่เรื่องของการแท้งลูกของครั้งนี้ก่อให้เกิดการ ทําร้ายจิตใจเธอ เรื่องที่เธอประสบพบเจอในตอนเด็ก ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตอนนี้เธออารมณ์ไม่คงที่ครับ การกระตุ้นทั้งสองด้าน ถึงทำให้เธอจมเข้าไปในกลไก ของการปิดผนึกตัวเองอย่างมิดชิดเพื่อเป็นการปกป้อง ตัวเอง ดีที่เดิมทีคุณพิงกี้เป็นคนที่ค่อนข้างเข้มแข็งอยู่ แล้ว อาการไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ ตอนนี้ก็อยู่ในทิศทาง ของการบรรเทาอยู่ครับ”

นี่ถือเป็นข่าวดีจริงๆ เควินไม่ได้วิเคราะห์ผิด ตอนนี้ พิงกี้อาการดีขึ้นจริงๆ ไม่ใช่เขาคิดไปเอง

แต่ว่า….……….

“เรื่องของสมัยเด็กๆ ยังมีผลกระทบรุนแรงกับเธอ

อีกเหรอ?” เควินขมวดคิ้ว

เขารู้ว่าสมัยเด็กๆ พิงกี้มีชีวิตที่ยากลำบากมาก

ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็แล้วแต่ บ้านบุญถาวรสำหรับ ผู้หญิงก็เหมือนฝันร้าย มืดครึ้มหนาวเย็นและโหดร้าย เต็มไปด้วยกลิ่นไอของการวางกลอุบายของชาวเมือง ชนชั้นนายทุนน้อย เจอพ่อบุญธรรมที่เกือบจะข่มขืนเธอ แถมยังเจอแม่บุญธรรมอย่างวันเพ็ญที่ช่วยเหลือ สามีตัวเองก่อกรรมทำเข็ญ สุดท้าย แม้แต่ยายสมศรี ที่เธอรัก เคารพและเชื่อใจที่สุดก็ยังละทิ้งเธอเพราะ สาเหตุต่างๆนาๆ แถมยังทำร้ายเธอด้วย

เธอเคยได้รับความอบอุ่นไหม?

แม้แต่บ้านดำรงกูลที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เดียวกัน ก็อาจจะไม่เคยให้ความอบอุ่นแม้แต่เสี้ยวเดียว กับเธอเลย

แต่เขารู้สึกมาตลอดว่าเธอเป็นคนที่ดื้อรั้นและมอง โลกในแง่ดี นึกว่าบาดแผลพวกนั้นเธอล้วนแต่รักษา หายได้ด้วยตนเองหมดแล้ว และกลายเป็นแหล่งที่มาซึ่ง ความเข้มแข็งของเธอ……

นึกไม่ถึงว่าบาดแผลเหล่านั้นยังคงอยู่ในใจเธอ

“ไม่เพียงแค่มีผลกระทบ แม้กระทั่งสาทมารถบอก ได้ว่านี่คือด้านที่มีผลกระทบหนักทีเดียวเลย เรื่องของ ครั้งนี้เป็นแค่จุดชนวนเฉยๆครับ..………….” จงเจตพูด “อาจ จะเพราะสิ่งแวดล้อมที่คุณพิงกี้ใช้ชีวิตอยู่สมัยเด็กมีข้อ เรียกร้องที่สูงเกินไป ดังนั้นถึงได้ติดนิสัยที่แคร์ความ รู้สึกมากเกินไป ยอมกล้ำกลืนฝืนทนตัวเอง ก็ไม่ยอม ทำให้คนอื่นผิดหวัง

คนที่มีข้อเรียกร้องกับตัวเองมากเกินไป โดยทั่วไปก็จะมีแรงกดดันในใจมาก

พอเสียสมดุลปุ้บ ก็ง่ายที่จะพังทลายลง

“ถ้าว่ากันโดยทั่วไป คนที่เคยประสบพบเจอแบบ นั้นในวัยเด็ก ปฎิบัติกับลูกตัวเองก็จะเดินไปสองเส้น ทางที่สุดขีด ไม่ก็เย็นชาไม่เป็นห่วง ให้ลูกเดินเส้นทาง ที่ซ้ำรอยของตัวเอง หรือไม่ก็แคร์ลูกมากเกินไป อยาก ชดเชยให้ความรู้สึกที่พลาดพลั้งไปในอดีตกลับมา และ ให้ความสำคัญกับลูกมาก

“เห็นได้ชัดเจนมากว่าคุณพิงกี้เป็นแบบที่สอง ลูก อยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอเป็นสัญลักษณ์ของตัวเองใน อดีต เธอไม่เพียงแต่อยากดีกับลูก และอยากดีกับตัว เองในอดีตด้วย ลูกก็คือคนที่เธอแคร์มากที่สุดและไม่ ยอมทำให้ผิดหวังมากที่สุด สูญเสียลูกไป เธอเอาความ ผิดพลาดทั้งหมดแบกไว้ที่ตัวเอง นึกว่าเพราะสาเหตุ ของตัวเองถึงได้ก่อให้เกิดการสูญเสียลูก ถึงได้เป็น แบบนี้ครับ”

“แล้วตอนนี้จะทำยังไง?” เควินถาม

“คุณเควินไม่ต้องรีบร้อนเกินไปครับ อาการของ คุณพิงกี้ยังถือว่าไม่เลว” จงเจตกลับยิ้มอย่างอ่อนโยน “คุณกับคุณพิงกี้มีลูกคนหนึ่งแล้ว ถึงคุณพิงกี้จะเสียใจ มากแค่ไหน เธอก็เป็นคนที่อึดมาก ไม่ทิ้งคุณกับลูก ของพวกคุณหรอกครับ อาการในตอนนี้ ถ้าคณพิงกี้มาปรึกษาสัปดาห์ละครั้ง หรือว่าไม่มาปรึกษาก็ได้อารมณ์ ของคุณพิงกี้จะค่อยๆกลับมาหายดีเหมือนเดิมเองครับ

“อืม” เควินพยักหน้า

ได้คำตอบที่แน่ชัดของจงเจต ความกระวนกระวาย ใจของเขาถือว่าวางลงได้สักที

แต่ว่า ความสงสารกลับยิ่งเข้มข้นมากขึ้น

“แต่ว่า….” หยุดไปครู่หนึ่ง จงเจตคิดๆแล้วพูดอีก “คุณเควินครับ มีคำแนะนำหนึ่งอย่างที่ผมเสนอออก มาอาจจะไม่ค่อยเหมาะสม แต่ว่าผมก็ยังอยากแนะนำ ว่าคุณยังไม่ต้องพิจารณามีลูกคนที่สองครับ ก่อนอื่น ร่างกายของคุณพิงกี้ต้องใช้เวลาสักปีสองปีถึงจะกลับ มาข็งแรงขึ้น รองลงมา……ผมก็เป็นห่วงนิดหน่อยว่าถ้า หากตั้งครรภ์อีก ผมกลัวคุณพิงกี้……….

เควินก็กวาดสายตาเย็นชามาอีก

จงเจตรีบเปลี่ยนคำพูด “ผมกลัวว่าถ้าคุณพิงกี้ตั้ง ครรภ์อีกครั้ง จะทำให้จิตใจเหมือนทรยศลูกที่เคยสูญ เสียไปคนนั้น แล้วทำให้เกิดแผลใจใหม่อีกครับ”

“อืม” เควินพยักหน้า

ถูกเควินกวาดสายตาเย็นชามาสองครั้ง จงเจตก็มีอารมณ์เล็กๆอยู่เหมือนกัน เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “ยังมีคำแนะนำที่ดีมากอยากเสนอให้คุณเควินครับ ก็ คือ……แฮ่มๆ ถ้าคุณถือสาคนอื่นจะเรียกภรรยาคุณยัง ไง สู้ให้งานแต่งที่ยิ่งใหญ่ให้เธอโดยตรงดีกว่า คุณว่าล่ะ ครับ?”

เควิน “ ….…………….”

เควินดวงตาเปล่งประกาย ทันใดนั้นเขารู้สึกเป็น ความคิดที่ดีเลยทีเดียว

คนเรางานยุ่งขึ้นมาปุ๊บก็จะลืมเรื่องกลุ้มใจไปเยอะ มาก ถ้าจะเตรียมงานแต่ง ดีเทลต่างๆของการเตรียม งานก็ต้องให้เจ้าสาวเข้าร่วมด้วย ไม่แน่พอพิงกี้งานยุ่ง ขึ้นมา ก็จะปล่อยวางอะไรๆได้อย่างไม่รู้ตัวแล้วก็ได้

อย่างนี้ดีมาก

แต่แล้ว ยังไม่รอให้เขาได้เผยแววตาที่เห็นด้วย ออกมา จงเจตก็ตบศีรษะแล้วพูดว่า “อุ๊ย~ผมลืมไปเลย ว่า ตอนนี้ร่างกายของคุณพิงกี้คงทนทานไม่ไหวกับงาน แต่งที่เลิศหรูระดับศตวรรษ ทางด้านอารมณ์อาจจะต้อง ฟื้นฟูสภาพก่อนถึงจะได้ อืม………หรือว่าพักคำแนะนำนี้ ไว้ก่อนดีกว่าครับ ดูการปรึกษาทางจิตในขั้นต่อไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

เควิน “….”
เควินที่เป็นคนใจเย็นและหนักแน่นตั้งแต่ไหน แต่ไร และไม่ให้อารมณ์ส่วนตัวมากระทบเรื่องเป็น ทางการ…… แต่นาทีนี้ มีความวู่วามอยากจะโยน จิตแพทย์ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไปให้หมากิน ก็ไม่รู้ว่าเขา กินหัวใจหมี ดีเสือชีตาร์เข้าไปหรือเปล่า ถึงได้ใจกล้า ขนาดกล้าเอาเขามาเป็นที่ระบาย!

สีหน้าแววตาของเขาเยือกเย็น นาทีนี้มองจงเจต ด้วยการกดขี่ เหมือนเฉกเช่นได้ล้างความวู่วามในสมอง ของจงเจตไปรอบหนึ่ง

จงเจตรู้สึกตัวเองคงน้ำเข้าสมองแน่เลย(เลยโง่) สงสัยตอนที่ฝนตกหนักคงจะลืมกางล่ม.………

เควินผู้ที่มีชื่อเสียงสะเทือนทั่วทั้งเมืองหลวงว่าเป็น เหล็กรากษส ไม่นึกเลยว่าเขาจะกล้าไม่สามหาวกับเขา นี่ไม่ใช่กำลังดึงขนอยู่บนหางเสือหรือ?

น่ากลัวเกินไปแล้ว

ทันใดนั้น จงเจตรู้สึกหัวใจถูกแขวนขึ้นมาในอยู่ใน

อากาศทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ