คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 488: สถานการณ์ใหม่



บทที่ 488: สถานการณ์ใหม่

กำลังนั่งโกรธอยู่บนเตียง นาทีนี้ประตูห้องถูกเปิด

ออกพอดี

พิงกี้หันหน้าไปมอง ตัวการที่ก่อกรรมทำชั่วกำลัง ยืนอยู่ที่หน้าห้อง นับน์ตาดำเข้มมองดูเธอไว้อย่างเรียบ เฉย ไม่รู้สึกอายที่ต้มตุ๋นเธอเลยสักนิด

“เควิน!” โมโหจนโดดขึ้นมาจากเตียง แต่เพิ่งโดด

ก็ล้มกลับไปที่เดิม แถมยังร้อง“โอ๊ยยย” คำหนึ่งด้วย

เควินสีหน้าเปลี่ยน รีบพุ่งมาที่ข้างกายเธอ “คุณ เป็นอะไร?”

“ก็คุณนั่นแหละ” พิงกี้หันหน้าไปจ้องมองเขา ทันใดนั้น เควินก็อึดอัดขึ้นมาทันทีเลย

ช่วงนี้ไม่ได้เสพสุขสวัสดิการในฐานนะที่เป็นสามี นานแล้วจริงๆ เมื่อคืนเธอมีใจอยากยั่วยวนเขา เขาก็ เลยปล่อยเนื้อปล่อยตัวเลย ทำจนเธอเป็นแบบนี้ก็เป็น ความผิดของเขาจริงๆแหละ

โน้มตัวอุ้มพิงกี้ขึ้นมาวางบนเตียงใหม่ แววตาของ เควินมีความกังวลโผล่ขึ้นมา “เมื่อคืนผมทำให้คุณได้ รับบาดเจ็บหรือเปล่า จะให้หมอมาดูหน่อยไหม?”

“ไม่ต้อง!” พิงกี้ยิ่งหดหู่แล้ว “ฉันไม่ใช่เพิ่งจะทำครั้งแรกสักหน่อย ฉันรู้ดีแก่ใจ ที่จริง…..ก็ไม่ได้เจ็บ ขนาดนั้นหรอก’

เพียงแค่ปวดเอว เมื่อยขา รู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปทั้ง เนื้อทั้งตัว…………..

“อืม” เควินกลับพยักหน้าอย่างจริงจัง “เมื่อคืน หลังจากคุณหลับ ผมได้ช่วยคุณตรวจเช็คไปครู่หนึ่ง พบว่าอาการของที่นั่นยังโอเคอยู่ แค่บวมแดงเล็กน้อย อาทิตย์นี้ผมจะไม่แตะเนื้อต้องตัวคุณ คุณพักผ่อนดีๆ นะ”

” พิงกี้กอดผ้าห่มและด่าทออย่างหน้าแดง “คุณนี่โรคจิตเหรอ?”

เธอคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เมื่อคืนหลังจากเธอหลับ เขาจะไปดูตรงนั้นของเธอ…………

ถึงจะเพราะเป็นห่วง แต่ตอนนี้ฟังเขาพูดแล้วก็รู้สึก แปลกๆยังไงไม่รู้

เควินยิ้มมุมปาก “เพื่อความยุติธรรม คุณจะดูของ ผมคืนมั้ย?”

ระหว่างพูด เขาก็ลุกขึ้นมาจะปลดเข็มขัด

“ที่รัก ไม่เอาแล้วค่ะ! ฉันจะเป็นคนที่ใจแคบแบบนั้นได้ยังไงล่ะ อยู่ตรงหน้าคุณ ฉันยอมที่จะเสียเปรียบ ค่ะ!” พิงกี้รีบส่ายหัวปฎิเสธ เบิกตาโตมองเควินด้วย หน้าตาน่าสงสาร กลัวจะกระตุ้นโดนโดนอารมณ์ของ ผู้ชายคนนี้ แล้วถูกเขาจัดที่บนเตียงอีกรอบหนึ่ง

เมื่อวานเธอมีความคิดอยากจะพูดกลอกหูจริงๆ แต่ ตอนนี้เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะไปกลอกหูแล้วด้วยซ้ำ!

แต่ว่า เธอสามารถขอดอกเบี้ยได้แล้ว……..มั้ง?

พิงกี้ถามอย่างหยั่งความคิด “เควิน เมื่อวานฉันไป หาคุณที่ห้องอ่านหนังสือคือมีเรื่องจริงจัง คุณน่าจะรู้ว่า ฉันไปเพื่อใครใช่มั้ย?

นึกถึงคำพูดที่เควินข่มขู่เธอ พิงกี้ยิ้มเล็กน้อย

“ผมรู้” นึกถึงสถานการณ์ของเมื่อคืน เควินก็อด ขำไม่ได้

เพียงแต่ พอคิดถึงคำพูดที่พิงกี้จะถาม รอยยิ้มบน ใบหน้าของเขาก็ค่อยๆจางหายไป

“ทำไมคะ เรื่องของน้ำหวานรับมือยากมากเลย

หรอ?”

“มีความซับซ้อนนิดหน่อย” เควินยอมรับ “ก่อน หน้านั้นผมเคยคุยกับน้ำหวานครั้งหนึ่ง ตอนที่เธอเข้าร่วมทำการค้าขายก็บองค์กรSC เพราะการค้าขายทุก ครั้งได้จดบันทึกสถานการณ์และแอบอัดเสียงไว้ แม้ กระทั่งได้ติดต่อคนที่จดบันทึกของเราทุกครั้ง ดังนั้น ความสงสัยในเรื่องพวกนี้สามารถกำจัดทิ้งไป บวกกับ ครั้งนี้เธออยู่หมู่บ้านถือว่าได้สร้างคุณงามความดีไป ด้วย ดังนั้นเพราะเหตุนี้ จะไม่ไปตัดสินโทษเธอแน่นอน แต่ว่า………..

“แต่ว่าอะไรคะ?”

“ตามหลักฐานที่ผมได้มาในตอนนี้ ผมได้สั่งคนไป ควบคุมตัวพ่อแม่ลูกทั้งสามคนของตระกูลภักดีวัฒนา กุลแล้ว แต่ไพโรจน์ ก็คือพ่อของดุสิตให้หลักฐานที่มีผล เสียต่อน้ำหวานมาก กัดฟันพูดอย่างแน่วแน่ว่าระหว่าง น้ำหวานกับดุสิต ดุสิตไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้น น้ำหวานเป็น คนทําทุกอย่าง”

“ต๊ะ อะไรนะ?” พิงกี้ประหลาดใจจนลุกขึ้นมานั่ง บนเตียง แม้แต่ความปวดเมื่อยของร่างกายก็ลืมไปหมด แล้ว เธอถามอย่างช็อกและตะลีตะลัน “เรื่องที่ทำการ ค้าขายกับองค์กรSCน้ำหวานก็มีการป้องกันตัวทั้งนั้น ทำการค้าขายทุกครั้งทุกเรื่องก็มีหลักฐาน ทำไมพวก เหี้ยอย่างตระกูลภักดีวัฒนากุลยังสามารถใช้สิ่งนี้มา โจมตีเธอได้คะ?”

“เพราะหลักฐานที่อยู่ในมือของน้ำหวานไม่ครบ ถ้วนน่ะสิ เธอยังมีการละเลย
“หลักฐานไม่ครบ

“ใช่” แววตาของเควินลุ่มลึกหนักแน่นและเฉียบ ! “ไพโรจน์เอาหลักฐานตอนที่น้ำหวานเซ็นต์สัญญา คม ทำการค้าขายกับองค์กรSCออกมา ผ่านการพิสูจน์แล้ว ว่าเป็นลายเซ็นต์ของน้ำหวานจริงๆ ไม่มีเป็นการปลอม แปลงขึ้นมา อีกอย่างสัญญาพวกนี้ไม่ใช่สัญญาที่น้ำ หวานเคยมอบให้กับผม คุณเข้าใจมั้ย?”

พิงกี้พยักหน้า

เธอเข้าใจแล้ว

ความหมายของเควินคือ หลักฐานที่ไพโรจน์เอา ออกมา เป็นหลักฐานที่น้ำหวานไม่ได้แจ้งให้กับพวกเขา

งั้นสถานการณ์ก็มีอยู่แค่สองอย่าง หนึ่งคือน้ำ หวานจงใจปกปิด พูดแต่สิ่งที่มีผลดีกับตัวเอง ไม่ได้พูด สิ่งที่มีผลเสียกับตัวเอง ส่วนอีกอย่างคือ น้ำหวานเซ็น ต์สัญญาที่ถึงขั้นเอาสามารถชีวิตพวกนั้นโดยที่ไม่ได้ ตั้งใจ ไพโรจน์อยากอาศัยเหตุนี้ให้เธอกลายเป็นแพะรับ บาปแทนดุสิต

ต้องบอกว่าไพโรจน์ช่างฉลาดจริงๆ

อยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขารู้ว่าเป็นไปไม่ ได้ที่ตัวเองจะสามารถช่วยพ่อแม่ลูกทั้งสามค ามคนออกมาจากคุกได้ ดังนั้นเลยให้น้ำหวานรับบาปแทนดุสิตคน เดียว

พอเป็นแบบนี้ล่ะก็ คุ้มครองหนึ่งคนมีโอกาศ มากกว่าคุ้มครองสามคน และจะไม่ทำให้น้ำหวานเกิด ความเกลียดชังด้วย

ถ้าน้ำหวานรักดุสิตจริงๆ รักจนยอมเสียสละเพื่อ เขา ไม่แน่น้ำหวานอาจจะสมองเบลอขึ้นมา แล้วไปรับ โทษแทนดุสิตก็ได้

“ชิบหายแล้ว

พิงกี้นั่งเอ๋อ

“งั้นเราจะทำยังไงกันดีคะ?” เธอมองไปที่เควินอีก

เควินไม่ได้พูด

พิงกี้เลียริมฝีปาก จู่ๆรู้สึกคอแห้งเล็กน้อย “เควิน คุณเชื่อน้ำหวานไหมคะ?

“ผมเชื่อ” คิดไตร่ตรองไปหนึ่งวินาที เควินเปิด

ปากพูด

พริบตาเดียว ดวงตาของพิงกี้ก็เปล่งประกายขึ้นมา
ที่เธอกังวลที่สุดคือเควินจะสงสัยน้ำหวานด้วย ถึง แม้จะยังไม่พอที่จะตำหนิอย่างรุนแรง แต่ก่อนที่เรื่องจะ กระจ่าง สถานการณ์อะไรก็เป็นไปได้ แต่ถ้าเควินเชื่อ น้ำหวาน งั้นก็จะไม่พูดเรื่องนี้ด้วยอคติ

นี่มีผลดีต่อน้าหวาน

“งั้นตอนนี้เราจะทำยังไงคะ?” เธอถามอีก

“คอยดูการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ” เควินเปิด

ปากพูด

“เราจะถูกกระทำอยู่ตลอดไม่ได้นะคะ” พิงกี้ กลอกตาไปมา แผนการขึ้นมาในหัวสมอง “เควิน คุณ ลองคิดดูนะ ในเมื่อไพโรจน์ยังสามารถหลอกใช้น้ำ หวานได้ ในทางกลับกัน ทำไมเราถึงจะหลอกใช้ดุสิต ไม่ได้ล่ะ? ถ้าสามารถหาจุดทะลวงจากดุสิตได้ บางที สถานการณ์ก็อาจจะพลิกผันได้แล้ว ไม่ใช่เหรอคะ?”

เควินค่อนข้างประหลาดใจ ยักคิ้วมองมาที่เธอ “คุณพูดต่อ”

“น้ำหวานกับดุสิตต่างก็ไม่พอใจกับการร่วมมือ ของตระกูลภักดีวัฒนากุลกับองค์กรSC ถ้าไม่มีการ ช่วยเหลือจากดุสิต ยังไงน้ำหวานก็ไม่สามารถอาศัย พลังของตัวเองทำลายการค้าขายของหลายครั้งที่ผ่าน มาหรอก นี่แสดงว่าดสิตก็เป็นคนที่มีแนวคิดที่ต่างกับครอบครัวถูกมั้ยคะ? เท่าที่ฉันรู้ ถึงแม้คนอย่างดุสิตจะ กากไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลย ถ้าดุสิต รู้ว่าไพโรจน์ทำแบบนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะปฎิ เสธ” พิงกี้วิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผล สุดท้ายเสนอความ คิดเห็นของตัวเองออกมา “ฉันอยากจะไปพบดุสิต พูด โน้มน้าวให้เขาลุกขึ้นมา”

“ลุกขึ้นมาชี้ตัวพ่อแม่เขาเนี่ยนะ?” เควินส่ายหัว “พิงกี้ ถึงคนอย่างดุสิตไม่ใช่คนเลวอะไร แต่เขาเป็นคน ไม่เด็ดขาด ใจร้ายกับใครไม่ลงสักคน คุณคิดว่าเขาจะ ทำเรื่องที่จัดการกับญาติพี่น้องเพื่อความชอบธรรมได้ จริงๆเหรอ?”

ไม่แน่ ดุสิตอาจจะเชื่อฟังไพโรจน์ทุกอย่างด้วยซ้ำ เพราะอย่างไรซะ พ่อแม่ก็สำคัญกว่าแฟนอยู่แล้ว

พิงกี้เงียบสงบลงมา

เสียงมือถือของเควินดังขึ้นมาอย่างกระทันหัน

เขาหยิบมือถือออกมาก็ขมวดคิ้วแน่นเลย หลังจาก รับสาย สีหน้ายิ่งเคร่งเครียดเข้าไปใหญ่

พอวางสาย เขามองมาที่พิงกี้ แววตาแฝงด้วยความ จนปัญญา
พิงกี้หัวใจเต้นแรง จึงรีบถามว่า “มีอะไรคะ?

“เมื่อกี้ดุสิตไปยื่นคำร้องว่าจะขอพบพ่อแม่เขาที่ สถานกักกัน ถ้าตามกระบวนการปกติ เวลานี้พ่อแม่เขา ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ เขาถูกปฎิเสธใน การเข้าพบ ผลปรากฎว่า ดุสิตเพิ่งกลับไม่นาน ไม่รู้ว่า ใครเอาข่าวที่ดุสิตไปยื่นคำร้องขอเข้าพบไปบอกให้กับ ไพโรจน์ ต่อมาพ่อแม่ของดุสิตก็ได้ฆ่าตัวตายไปทั้งคู่”

“ต๊ะ อะไรนะ?” พิงกี้อึ้งจนอ้าปากค้าง

ถึงเธอไม่ค่อยเข้าใจความซับซ้อนของวงการ ราชการ แต่เธอรู้ว่าการตายของสองสามีภรรยาของ ตระกูลภักดีวัฒนากุลต้องกระตุ้นโดนดุสิตแน่นอน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ