คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่515: ลงมือไม่ลงจริงๆ



บทที่515: ลงมือไม่ลงจริงๆ

ถามคำถามนี้ออกมา น้ำหวานดูเหมือนจะสงบ แต่แท้จริงแล้วตื่นเต้นมาก

เธอรู้สึกเบียร์ที่ก่อนหน้านั้นดื่มไป รวมถึงเบียร์ ที่เธอนั่งดื่มคนเดียวใต้ต้นไม้ ต่างก็แทรกเข้าไปใน กระแสเลือดของเธอ อีกอย่าง แอลกอฮอล์ทุกหยด ต่างก็ไม่ประพฤติตัวดีๆเลย!

เหล้าพวกนี้วอกแวกอยู่ในกระแสเลือดเธออย่า งมั่วซั่ว เดี๋ยวทำให้เธอหน้าแดง เดี๋ยวทำให้เธอมึน เดี๋ยวก็วอกแวกเข้ามาในหัวใจของเธอ ทำให้หัวใจ เธอเต้นแรงเพราะความตื่นเต้น สูญเสียความสงบนิ่ง ของปกติ

ระหว่างที่รอคำตอบ เหมือนรอตัดสินโทษ เธอคือผู้เสียหายที่น่าสงสาร รอโลกใบนี้ให้ความ ปรารถนาที่ดีกับเธอหน่อย

เธอไม่ถามพิงกี้ที่เป็นเพื่อนสนิท เพราะรู้ว่าพิง กี้ต้องสงสารเธอแน่นอน ไม่ดูถูกเธอเพราะเธอเจอ เรื่องแบบนั้นแน่นอน แต่ตอนนี้เตชิตยังไม่ถือว่าใกล้ ชิดสนิทกับเธอมากนัก บางทีเขาอาจจะยิ่งสามารถ เป็นตัวแทนของคนธรรมดาได้มากกว่า แม้กระทั่งมี ความคิดของคนธรรมดา
ถึงแม้เธอพูดอยู่ตลอดเวลาว่าต่อไปจะใช้ชีวิต คนเดียว แต่ใครเล่าที่อยากให้ความเงียบเหงาอยู่ เคียงข้างกาย?

แต่เธอไม่มีความมั่นใจ และไม่คิดว่าผู้ชายทุก คนจะรับได้

เตชิต………

เขาจะรับได้มั้ย?

“แล้วคุณรับได้มั้ยกับผู้ชายที่เคยมีแฟนหลาย คน?” เตชิตไม่ได้ตอบโดยตรง แต่ได้ใช้คำถามมา แทนที่

“หมายความง่าไงคะ?”

“ความหมายของผมก็คือ เมื่อก่อนผมไม่ถือว่า เป็นคนดีในทางประเพณีเลย ถึงแม้ไม่ได้เปลี่ยน แฟนสัปดาห์ละคนเหมือนที่ลือกัน และมีแฟนทีเดียว หลายๆคน แต่ว่า ผมไม่เคยปฎิเสธผู้หญิงที่ชอบผม และเสนอตัวมาหาผมเอง……คนอย่างผม คุณรับ ได้มั้ย?”

“คุณ…..แค่เล่นๆกับความรักหรอคะ?” น้ำหวานหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่ใช่ ผู้หญิงที่คบกับผม ก่อนที่จะอยู่กับผมๆ ก็จะพูดให้ชัดเจนเลยว่าผมสนใจพวกเธอ แต่นั่น ไม่ใช่ความรัก แต่พวกเธอล้วนมีความมั่นใจคิดว่าจะ มัดใจผมได้ ให้ตัวเองกลายเป็นผู้หญิงคนสุดท้าย ของผม บางคนก็เพื่อเงินทองหรือชื่อเสียงและผล ประโยชน์ งั้นก็ยิ่งง่ายเลย ต่างก็เลือกสิ่งที่ตัวเอง ต้องการ”

“อ๋อ…..” น้ำหวานพยักหน้า “งั้นฉันคงจะรับ ได้มั้งคะ….เพราะอย่างไรซะประสบการณ์ความรัก ของคุณมันเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้จักกัน ถ้าฉันชอบ คุณจริงๆ ฉันคงไม่ปฎิเสธคุณเพราะอดีตของคุณ หรอก”

เธอหน้าแดงอย่างควบคุมไม่ได้ เหมือนกำลัง ตอบรับคำสารภาพรักของเตชิตจริงๆเลย

แต่ว่า หลังจากพบว่าตัวเองมีปฎิกิริยาพวกนี้ น้ำ หวานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตัวเองแสดงออกมาอย่าง เห็นได้ชัดเกินไป จับขวดเบียร์ในมือมาแนบที่แก้ม พยายามอยากลดอุณภูมิให้ต่ำลงหน่อย

“ดูท่าแล้วคุณเป็นคนที่มีสติและฉลาดหนี่” เตชิตหัวเราะเบาๆ นี่ถึงล่อคำพูดที่ตัวเองอยากพูดใน เมื่อกี้ได้ “ในเมื่อคุณไม่แคร์อดีตของแฟนคุณ งั้น ต่อไปผู้ชายที่คุณจะเจอก็คือก่อนที่คุณจะเกิดเรื่อง งั้นเขาก็คงจะไม่ถือสาเรื่องที่คุณประสบพบเจอ หรอก ถูกมั้ย?”

“แล้วถ้าเขาถือสาล่ะ?”

“ถ้าเขาถือสา งั้นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนที่คุณรอ ไอ้เหี้ยแบบนั้นไม่เหมาะสมกับคุณ”

“เอ่อ…..แล้ว….” น้ำหวานเม้มปาก มองเตชิต อย่างกระสับกระส่าย “แล้วถ้าเจอเรื่องแบบนั้นหลัง จากรู้จักกับเขาล่ะ? ก็เหมือนฉันกับดุสิตแบบนั้น ฉัน เขา……สุดท้าย เขาบอกว่าไม่ถือสา แต่ก็ยังถือสา อยู่ดี……….”

ส่ายหน้าพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น เสียงของน้ำ หวานเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน “ถ้าคุณเป็นเขา คุณ จะทำยังไงคะ?”

เขาก็จะปากบอกว่าไม่รังเกียจ แต่ร่างกายและ คำพูดกลับเผยให้เห็นว่าถือสามั้ย?

น้อยมากที่จะย้อนคิดความมืดมนเหล่านั้นและน้อยมากที่นึกถึงคำถามที่บีบคั้นหัวใจขนาด ………แต่นาทีนี้ น้ำหวานรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าตัวเอง ได้กลายเป็นนักสู้หญิงที่แข็งแกร่ง ไม่นึกเลยว่าจะ กล้าท้าทายมารในใจของตัวเอง

จากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงใสๆของผู้ชายที่อยู่ ข้างๆดังขึ้น………..

“ถ้าแฟนของผมเจอเรื่องแบบนั้น ผมจะมีหน้า ไปตำหนิเธอและรังเกียจเธอได้ยังไง? ผมจะคิดว่า ทำไมผมถึงไม่ได้ปกป้องเธอดีๆ ให้เธอต้องประสบ พบเจอความเจ็บปวด ให้เธอต้องตื่นตกใจและหวาด กลัว

เสียงก้องเข้ามาในหู ฟังชัดทุกถ้อยคำ

น้ำหวานก้มหน้าไว้ น้ำตาไหลลงมาที่หลังมือที ละหยดๆ ทิ้งร่องรอยของความเปียกชื้นไว้ ตอนที่เต ชิตมองมาที่เธอด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆเธอถึงเงียบไป จู่ๆในปากของเธอส่งเสียงสะอึก สะอื้นออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป

พริบตาเดียว เตชิตก็ยุ่งวุ่นวายไปหมดแล้ว

เขาตกใจจนทิ้งเบียร์ที่อยู่ในมือไปข้างๆ อยากแตะน้ำหวานดู แต่ก็กลัวเธออ่อนแอเหมือนฟองสบู่ ที่แค่จิ้มก็แตก เขาร้อนรนใจจนมือไม้ทำอะไรไม่ถูก “เฮ้ย นี่คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมเนี่ย? คุณเป็นคน ถามผมเอง และให้ผมตอบเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมพูด อยู่ดีๆก็ร้องไห้เฉยเลย?”

“เฮ้ย นี่คุณพูดสิ”

“ถึงจะซาบซึ้ง ก็ไม่ใช่ซาบซึ้งด้วยวิธีนี้มั้ง?”

“เฮ้ย น้ำหวาน คุณหยุดร้องได้แล้ว! ผมจะ บอกคุณนะ เรื่องที่คุณประสบพบเจอในก่อนหน้านั้น ไม่ใช่ความผิดของคุณด้วยซ้ำ เป็นเพราะนายดุสิต มันเหี้ยเกิน ผู้ชายแบบนั้นเป็นตัวแทนของผู้ชาย อย่างเราๆไม่ได้หรอก ต่อไปคุณต้องเจอผู้ชายที่ดี ได้เป็นเจ้าหญิงและเดินไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้ แน่นอน คุณดีใจมั้ย?”

“เย็ดแม่ง ยังไม่ดีใจอีก……งั้น งั้นคุณร้องไห้

เถอะ….”

เกลี้ยกล่อมอย่างพรวดพราดไปสักพัก พบ ว่าน้ำหวานยิ่งอยู่ยิ่งร้องไห้อย่างควบคุมไม่ได้ แม้ กระทั่งยังมีแนวโน้มที่ยิ่งอยู่ยิ่งเสียใจด้วย ในฐานะ ที่เป็นผู้ชายที่สมองตรงทื่อเหมือนเสาไฟฟ้า เตชิตปิดปากเงียบอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

เขาหยิบเบียร์ขึ้นมาดื่มกระป๋องหนึ่งอย่าง เงียบๆ และคิดเรื่องในใจของตัวเอง

ไม่นาน เขาก็ไม่ได้ติดตามทุกอย่างของรอบๆ แล้ว ก็ไม่รู้ว่าตอนที่เขาดื่มเบียร์ น้ำหวานที่อยู่ข้าง กายก็ดื่มกริ๊บแล้วกริ๊บเล่า ดื่มไม่น้อยกว่าเขาเลยสัก นิด

ตอนที่เตชิตดึงสติกลับมาจากความคิดของตัว เอง ยกมือขึ้นมาดูเวลา พบว่านี่ก็ตีสองแล้ว ส่วนน้ำ หวานที่นั่งดื่มเบียร์อยู่ข้างๆก็ได้พิงอยู่บนเก้าอี้ เอียง ศีรษะนอนสลบไป

อาจจะเพราะร้องไห้จนเหนื่อยแถมยังดื่มเบียร์ ไปด้วย เธอหลับลึกมาก

“น้ำหวาน นี่คุณตื่นสิ!”

“จะนอนก็ไสหัวกลับไปนอนที่ห้องนอนของ คุณเอง นอนที่นี่เดี๋ยวเป็นหวัดนะรู้ไหม?”

“เชดดดด นี่…..นี่คุณเป็นหมูรึไง?”
เตชิตเรียกไปหลายที แต่น้ำหวานก็ไม่ตื่นสักที ได้แต่อุ้มเธอลงไปอย่างจนปัญญา ตัวเองก็ได้กลาย เป็นชนชั้นแรงงานที่“ขนย้ายสินค้า

ใครใช้ให้เขาคิดไม่ปลงเองก่อน และชวนคน อื่นมาพูดคุยดื่มเบียร์ล่ะ?

“ชิ…..นี่ เฮ้อ~ช่างเถอะ ผมอุ้มคุณลงไปเอง!

แต่ว่า มองดูน้ำหวานที่นอนสลบนี้ เขาลงมือไม่ ลงเลยจริงจริ๊ง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ