คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่539: คนๆนั้น เป็นคนที่เธอรู้จักเหรอ?



บทที่539: คนๆนั้น เป็นคนที่เธอรู้จักเหรอ?

“เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” พิงกี้ถาม

.………ใช่” เงียบไปหลายวิ เควินเปิดปากพูด “คนขององค์กรSCแอบเข้ามาในประเทศอีกแล้ว ตอนนี้ผมกำลังนำกำลังจับกุมอยู่ คืนนี้คงกลับบ้าน ไม่ได้แล้ว พิงกี้……ขอโทษด้วย คงต้องทำให้คุณ ผิดหวังแล้ว”

ตอนเช้าบอกแล้วว่าจะกลับมาทานกับข้าวที่พิง กี้ทำแน่นอน แถมยังจอง“โปรแกรมของยามดึกไว้ แล้ว แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าจะเบี้ยวนัด

เขาถึงขั้นไม่รู้ว่าต่อจากนี้หลายวันจะกลับบ้าน ได้มั้ย?

“ฉันรู้ ไม่เป็นไรค่ะ” พิงกี้ส่ายหัว และพูดเบาๆ “ขอแค่คุณแคล้วคลาดปลอดภัย ฉันก็จะไม่ผิด หวังค่ะ คุณต้องดูแลตัวเองดีๆนะคะ อย่า…..อย่า หักโหมเกิน ตอนนี้คุณยังมีฉันกับแอ๊ปเปิ้ลอยู่ พวก เรารอคุณอยู่ที่บ้าน คุณจะเกิดเรื่องไม่ได้เด็ดขาด นะคะ”

“ผมรู้แล้ว”

พูดไปแค่สองคำ เควินก็วางสายแล้ว
แต่ตอนที่วางสาย ไม่นึกเลยว่าพิงกี้จะได้ยิน เสียงปืนของทางโน้น ทันใดนั้นหัวใจเธอเหมือนถูก แขวนอยู่กลางอากาศ เธอลุกขึ้นมาจากเก้าอี้กระทัน หัน

ไม่ได้!

เธอไม่วางใจ!

แต่ว่า ตอนนี้เธอจะทำยังไงได้?

ถึงพิงกี้จะเป็นห่วงความปลอดภัยของเควินมาก ก็เถอะ แต่ก็รู้สึกตามความสามารถของเธอในตอน นี้ ถึงรีบไปถึงที่ข้างกายของเควิน คาดว่าก็คงจะไป สร้างความเดือดร้อนให้เขาเฉยๆ แต่ไม่สามารถช่วย เหลืออะไรเขาได้เลย

ถึงเป็นห่วงแค่ไหน ก็ได้แต่อดทนเอาไว้

“ป้ามะลิ วันนี้เควินไม่กลับแล้ว

ป้าไปเรียกพยาบาลลงมาทานข้าวด้วยกันเถอะ ค่ะ” พิงกี้เปิดปาก “อ้อใช่ ป้าช่วยอุ่นกับข้าวให้ด้วย นะคะ”
รอมานานขนาดนี้ รอจนกับข้าวเย็นหมดแล้ว ต้องเอาไปอุ่นถึงจะได้ ไม่งั้นทานกับข้าวเย็นก็ไม่ อร่อย

ทานข้าวเสร็จอย่างไม่รู้รสชาติ พิงกี้นั่งเหม่ออยู่ บนโซฟา

ในรายการทีวีต่างๆที่ฉลองวันคริสต์มาสกัน อย่างคึกคัก ดูจนรู้สึกไร้รสชาติ ในหัวของเธอมัวแต่ คิดถึงเสียงปืนนั่น ไม่รู้เพราะอะไร รู้สึกว่าจิตใจสงบ ไม่ลงสักที

มีลางสังหรณ์ไม่ดี เหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่างไรอย่างนั้น

นั่งทรมานอยู่บนโซฟาอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับ ตัว นั่งจนถึงเที่ยงคืน ในที่สุดพิงกี้ก็ยืนหยัดไม่ไหว แล้ว

เธอกะว่าจะกลับไปนอนที่ห้อง

ใครจะไปรู้ เธอเพิ่งเหยียบขึ้นบันได เสียงเรียก เข้าของโทรศัพท์ก็ได้ทำลายความเงียบเควิน?
บทที่539: คนๆนั้น เป็นคนที่เธอรู้จักเหรอ?

พิงกี้ดีใจขึ้นมาทันที เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมา

มอง

แต่ว่า คนที่โทรมากลับไม่ใช่เควิน แต่เป็นพายุ

“ฮัลโหล พายุ มีเรื่องอะไรใช่หรือเปล่า” พิงกี้ รีบสายและรีบถามขึ้นมา

“มีเรื่องเร่งด่วนนิดหน่อยครับ คุณผู้ หญิง……ทางเราเกิดเรื่องนิดหน่อย อาจจะต้องการ ความช่วยเหลือจากคุณผู้หญิง รบกวนคุณผู้หญิง หน่อยได้มั้ยครับ” พายุถาม

“รบกวนอะไรกัน นายบอกมาว่าอยู่ที่ไหน ฉัน จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” พิงกี้ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล ฝีเท้าที่เดินขึ้นไปชั้นบนได้เร่งให้เร็วขึ้น

ในเมื่อจะออกจากบ้าน งั้นเธอต้องรีบเปลี่ยน เสื้อตั้งแต่ตอนนี้ พยายามเสียเวลาให้น้อยที่สุด

“ได้ครับ งั้นรบกวนคุณผู้หญิงแล้วครับ” พายุ บอกที่อยู่ให้ “คุณผู้หญิงมาถึงที่นี่ก็โทรหาผม เลยครับ ผมไปรับคุณผู้หญิงเอง อ้อใช่แล้วครับ ที่ผมโทรหาคุณผู้หญิงคือปิดเจ้านายไว้ คุณผู้ หญิง…..อย่าบอกให้เจ้านายทราบได้มั้ยครับ? ผมกลัวเขาจะไม่เห็นด้วย แน่นอน เรื่องที่ต้องการให้ คุณผู้หญิงช่วยไม่ใช่เรื่องที่มีความเสี่ยงอะไรครับ น่าจะไม่ถือว่าอันตรายครับ..……….

เควินไม่รู้?

ทันใดนั้น หัวใจของพิงกี้มีความรู้สึกแปลก ประหลาดโผล่ขึ้นมา

สถานที่ๆพายุแจ้งให้เป็นที่เปลี่ยวมาก ที่นั่นคือ สวนสาหกรรมที่ไม่ได้สร้างสำเร็จ เพราะเกิดวิกฤติ ทางการเงินที่จะนำมาพัฒนา โครงการดีๆเลยต้อง หยุดไปกลางคัน

ถึงแม้ที่นั่นไม่ไกลจากL.K.Crystalวิลล่า แต่กลับอยู่ในชานเมืองกว่า ขับรถก็ต้องใช้เวลา ประมาณสี่สิบนาที แทบจะออกจากขอบเขตของ เมืองหลวงแล้ว

แต่ว่า พิงกี้ก็เชื่อพายุอยู่ เชื่อว่าที่เขาทำแบบนี้ ต้องมีเหตุผลของเขาแน่นอน และไม่เชื่อว่าเขาจะ ทรยศเควินกับแอบใช้กลอุบายเล่นตุกติก เธอพูด อย่างรวดเร็วและเฉียบขาด “โอเค ได้”

พิงกี้หยิบกุญแจรถขึ้นมา เลือกขับรถปอร์เช่ที่ประสิทธิภาพไม่เลวออกจากบ้าน

เพราะร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว พิงกี้ขับรถเร็วมาก

ตอนที่ใกล้ถึงสถานที่ๆนัดหมาย พิงกี้ได้โทรหา พายุ เพิ่ง “ตุ๊ด” เสียงดียว พายุก็รับสายแล้ว

“คุณผู้หญิงใกล้ถึงแล้วเหรอครับ?”

“ผมก็ใกล้ถึงแล้วครับ ถ้าคุณผู้หญิงถึงก่อนก็ รอแป๊บหนึ่งนะครับ

พูดสั้นๆง่ายๆไปสองคำก็วางสายแล้ว

ห้านาทีผ่านไป พิงกี้ได้มาถึงที่ด้านหน้าของ

อุตสาหกรรม

พอเธอจอดรถเรียบร้อย ได้มองไปที่ด้านหน้า รู้สึกเหมือนอุตสาหกรรมที่อยู่ตรงหน้า ตึกทั้งตึก เหมือนสัตว์ป่าตัวมหึมาที่อยู่ในความมืดมน ส่วนเธอ กลับเล็กขนาดนั้น แม้แต่แสงไฟก็ส่องความมืดมนที่ อยู่ไม่ไกลไม่สว่าง
รออีกสักพัก ตรงหน้าของพิงกี้มีรถจอดอยู่คัน หนึ่ง

รถคันนั้นเปิดไฟกระพริบใส่เธอ มือถือของพิงกี้ ดังขึ้น คนที่โทรเข้ามาคือพายุ

“คุณผู้หญิง ขับตามผมไปเลยครับ อยู่ข้างใน

เอง”

“โอเค”

พิงกี้สตาร์ทรถ ขับตามหลังพายุไปสองสาม นาที รถก็ได้จอดลงที่หน้าตึกใหญ่ที่มีแค่โครงสร้าง

หลังจากพายุโดดลงมาจากในรถก็พุ่งมาที่ ข้างรถของพิงกี้ เปิดประตูรถให้เธออย่างเอาใจใส่ พร้อมอธิบายด้วย “เจ้านายและพวกอยู่ชั้นดาดฟ้า กันหมดครับ แต่ว่าตึกหลังนี้ยังไม่ได้ติดตั้งลิฟท์ เรา ต้องเดินขึ้นบันไดเองนะครับ”

ตึกที่มีแค่โครงสร้างแม้แต่ผนังก็ยังไม่มี แล้วจะ มีลิฟท์ได้ยังไง?

พิงกี้พยักหน้า และขมวดคิ้วถามอย่างจน ปัญญา “ตึกนี้มีกี่ชั้น?”
“เอ่อ……” พายุเกาศีรษะ “ผมไม่ได้นับครับ แต่น่าจะประมาณ…..น่าจะประมาณ35ชั้นครับ”

พูดคำหยาบคายได้มั้ย?

35ชั้น สลบแป๊บ!

พิงกี้กัดฟันแน่น “ไปเถอะ”

อย่าว่าแต่35ชั้นเลย ถึงจะ350ชั่นก็เถอะ ขอแค่ เควินอยู่ชั้นบน ขอแค่เขาต้องการเธอ ถึงคลานเธอก็ จะต้องคลานขึ้นไปหาเขาให้ได้

พอเดินขึ้นมาถึงชั้นแปด พิงกี้ก็เริ่มเดินไม่ไหว

แล้ว

ต่อจากนี้ เธอเดินก้าวหนึ่งก็แทบจะหอบครั้ง หนึ่ง จนมองพายุใจร้อนจะแย่ อยากยื่นมือพยุงเธอก็ ไม่กล้า อย่าให้พูดเลยว่าร้อนรนใจมากแค่ไหน

“พายุ ฉันเดินไม่ไหวแล้ว เธอดึงฉันเถอะ” พิง กี้เป็นฝ่ายยื่นมือไปที่ตรงหน้าของพายุ “นายดึงข้อ มือฉันไว้ พาฉันไป แบบนี้จะสามารถเดินเร็วหน่อย”
ตอนที่เจอเรื่องคับขัน ต้องเปลี่ยนไปตาม สถานการณ์

ร่างกายเธอไม่ไหว ฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว ถึงจะ อาศัยความมุ่งมั่นยืนหยัดต่อไปมากแค่ไหน ก็ยังช้า พอๆกับความเร็วของหอยทาก เวลายังมาคำนึงเรื่อง รักนวลสงสนตัวอะไร? นั่นมันน้ำเข้าสมองแล้วชัดๆ!

“ได้ครับ!” พายุรอคำนี้มานานแล้ว ทันใดนั้น ก็รีบพยักหน้าเลย “คุณผู้หญิงครับ ดึงคุณผู้หญิงก็ เดินไม่เร็วหรอกครับ หรือผมแบกคุณผู้หญิงขึ้นไป ครับ?”

พิงกี้คือดไแล้ว จึงได้พยักหน้า

พายุแบกเธอพุ่งขึ้นมาสิบกว่าชั้น พิงกี้มองลงไป ด้านล่าง พบรอบๆของตึกมืดสลัว เสียงพัดของลมก็ ทำให้คนเกิดความหวาดกลัว ทันใดนั้นเธอตกใจจน หลับตา

แบกคนๆหนึ่งขึ้นบันไดก็ไม่ใช่เรื่องชิวๆเลย รู้สึกได้ว่าพายุก็เริ่มหอบหืดแล้ว กำลังของพิงกี้ฟื้นฟู กลับมาบ้างแล้วให้ธอตบที่ไหล่ของพายุ “เธอปล่อย ฉันลงมาเถอะ ฉันเดินพักหนึ่ง นายก็พักผ่อนหน่อย”
“………ได้ครับ” พายุก็ไม่ได้ฝืน

ทั้งสองก็ยืนหยัดอดทนถึงขึ้นไปชั้นดาดฟ้า

ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้า พิงกี้เองก็ไม่รู้ว่า เมื่อกี้ตัวเองยืนหยัดมาได้ยังไง

ยืนอยู่ชั้นดาดฟ้าที่ไม่มีสิ่งบดบังใดๆ พิงกี้ หายใจหอบหืด เงยหน้ามองค่ำคืนที่มืดสลัวตรงหน้า เห็นภาพที่คนสองฝ่ายกำลังต่อกรกันอยู่

ด้วยความที่คุ้นเคยเควินเข้ากระดูกดำ พิงกี้แค่ มองแว๊บแรกก็ดูออกว่าคนที่ระยะทางที่ค่อนข้างใกล้ กับตัวเองคือกำลังพลของเควิน ร่างเงาที่ยืนตัวตรง อยู่ตรงกลางก็คือเควิน

ส่วนตรงหน้าของเควินก็ยืนอยู่หลายคน ถูกเค วินและพวกห้อมล้อมไว้ เพราะระยะทางห่างกันไกล เกิน บวกกับไม่มีแสงไฟ แถมยังถูกผู้คนบดบังเอาไว้ พิงกี้เลยมองไม่เห็นหน้าตาของคนพวกนั้น

แต่ว่า คงไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน!

เดิมทีทั้งสองกำลังต่อกรอย่างตื่นเต้นสุดๆ สถานการณ์และบรรยากาศตึงเครียดมาก ราวกับว่าแค่เสียงไอก็ยังสามารถกลายเป็นตัวกระตุ้น ฉนวนได้ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่กล้าแม้แต่จะ หายใจเสียงดัง

การมาถึงของพิงกี้กับพายุ เหมือนก้อนหินลูก หนึ่งที่ทำลายความเงียบสงบของน้ำ

สายตาของทั้งสองฝ่ายต่างก็หันมามองด้วย ความตื่นเต้น ภายใต้ความมืดสลัวสายตานี้ สายตา ของทุกคนต่างก็รวบรวมอยู่ที่บนตัวของพิงกี้และ พายุ

อึ้งไปพริบตาเดียว เควินก้าวเท้ายาวมา จับข้อ มือเธอไว้ และดึงเธอมาปกป้องไว้ในอ้อมอก พร้อม ถามเสียงต่ำด้วย “นี่คุณมาได้ยังไง?”

เสียงของเขาไม่มีความเซอร์ไพรส์เลยแม้แต่ น้อย มีแต่ความร้อนรนใจและความโกรธ มีความห วุดหงิดที่แทบอยากจะห่อเธอโยนกลับไปที่บ้าน

“ผมเองครับ…………..” พายุรีบเป็นฝ่ายพูดก่อน “ผมเป็นคนโทรให้คุณผู้หญิงมาเอง เจ้านายครับ ฝ่ายตรงข้ามพาตัวประกันมาด้วย เราจัดการได้ยาก มาก แต่ถ้าคุณผู้หญิงมา……พูดโน้มน้าว ไม่แน่อาจ จะสามารถพูดโน้มน้าวให้ฝ่ายตรงข้ามยอมแพ้ในการต่อต้านก็ได้ครับ”

อะไรนะ?

ที่พายุเรียกเธอมาคือมีความคิดแบบนี้?

พิงกี้ตื่นตกใจ พริบตาเดียวนึกถึงเรื่องหนึ่ง— ในเมื่อพายุคิดว่าเธอสามารถพูดโน้มน้าวคนที่เควิน ต่อกรอยู่ละทิ้งตัวประกัน แม้กระทั่งละทิ้งในการต่อ ต้าน ถ้าอย่างนั้นคนๆนั้นใช่คนที่เธอรู้จักหรือเปล่า แถมความสัมพันธ์ยังลึกซึ้งด้วย?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ