คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่390 การผ่าตัดเกิดปัญหา?



บทที่390 การผ่าตัดเกิดปัญหา?

การผ่าตัดครั้งแรกเป็นการเปลี่ยนถ่ายเลือด

ในการผ่าตัดครั้งนี้ เตชิตต้องอยู่ในห้องผ่าตัดเป็น เวลานาน อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสิบชั่วโมงขึ้นไป

เดิมทีทางที่ดีที่สุดคือพิงกี้ไม่ต้องรอที่ด้านนอก ห้องผ่าตัด เพราะว่าการที่รออยู่เฉยๆสิบกว่าชั่วโมง ทรมานมาก แต่หลังจากที่เธอรู้รายละเอียดของการ ผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายเลือดแล้ว รู้ว่าการผ่าตัดนี้มีความ เสี่ยง ทันใดนั้นเธอก็ไม่สามารถวางใจได้แล้ว

การผ่าตัดเปลี่ยนเลือดพูดออกมาจากปากของด นัยแล้วเหมือนไม่มีความเสี่ยงอะไรเลย แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่อย่างนั้น

การผ่าตัดเปลี่ยนเลือดเป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก สำหรับการเปลี่ยนเลือดทั้งร่างกาย ไม่ใช่แค่เจาะเลือด ออกแล้วเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่เข้าไปเท่านั้น ยังต้อง คำนึงถึงกรุ๊ปเลือดเข้ากันได้หรือไม่ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ด เลือดต้องผลิตเม็ดเลือดใหม่ เลือดใหม่ที่ได้รับมาต้อง เข้ากับร่างกายไม่เกิดการต่อต้าน และอื่นๆ

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ สมองกับหัวใจต้องมีเลือด ไปหล่อเลี้ยงถึงจะสามารถทำงานได้ ถ้าหากขั้นตอน ไหนเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาทำให้สมองหรือหัวใจมีความ ผิดปกติอะไรล่ะก็ เตชิตก็อย่าคิดว่าจะได้ออกจากห้อง ผ่าตัดอย่างปลอดภัยเลย
แต่ถึงแม้จะมีความเสี่ยง พิงกี้ก็พูดไม่ออกว่าไม่ให้ เตชิตรับการผ่าตัด

ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ต้องรู้จักเลือกในสิ่งที่จำเป็น

ขอรับการผ่าตัดแล้วดีกว่ารอตายอยู่เฉยๆ เธอก็ ต้องสนับสนุน และขัดขวางไม่ได้

แต่ว่า ทันใดนั้นเธอมีความคิดอย่างนึง…….

ถ้าหากเธอไม่เห็นด้วย ถึงแม้จะอันตรายถึงขั้นเสีย ชีวิต ไม่แน่เตชิตก็อาจจะไม่รับการผ่าตัดนี้แล้วจริงๆก็ ได้มั้ง?

ก่อนหน้านี้ตอนที่ยายสมศรีทำการผ่าตัดหัวใจ พิง กี้แค่รออยู่ที่ด้านนอกแป๊บเดียวเองก็กลับโรงแรมพัก ผ่อนแล้ว ไม่ได้ใส่ใจแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ เธอไม่อาจ วางใจได้

ตอนที่รออยู่นอกห้องผ่าตัด พิงกี้ได้คิดถึงเรื่องนี้ จนใจเธอเหม่อลอย

เฮ้อ~

เวลาผ่านไปไม่นาน เธอเห็นยายสมศรีเป็นคนที่ สําคัญมาก เห็นยายสมศรีเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ ในโลกนี้เคารพท่านให้ความสำคัญกับท่าน แต่สุดท้ายทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปคนก็ได้เปลี่ยนไปด้วย ใจคนมัน เปลี่ยนแปลงง่าย………..ไม่มีอะไรเหมือนกับสิ่งที่เธอคิด เอาไว้เลย

เธอไม่เคยเป็นคนที่รู้ว่าเรื่องที่ฝืนไม่ได้แล้วยังจะ พุ่งเข้าไปหาอีก เธอเคยผิดหวังในตัวยายสมศรีมาแล้ว ครั้งที่หนึ่งครั้งที่สองจะไม่มีครั้งที่สามอีก เห็นยายสมศรี ก็ยังดื้อรั้นไม่ยอมกลับตัวอีก เธอก็เลยเก็บความรักของ ตัวเองกลับมาอย่างเด็ดขาด

ว่าแล้ว มองจากมุมมองอื่น เธอก็มีความคล้ายคลึง กับคนของบ้านบุญถาวรเหมือนกันที่ทั้งเย็นชาและ เลือดเย็น มีเล่ห์เหลี่ยมและเห็นแก่ตัวเหมือนคนของ ตระกูลดำรงกูล

แต่ว่า ถ้าหากเป็นแบบนี้แล้วจะสามารถปกป้องตัว เองไม่ให้ถูกทำร้ายได้ และเธอก็ไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่น เธอคิดว่าที่ตัวเองเป็นแบบนี้มันก็ไม่มีความผิดอะไร

ความรักของคนมันก็มีขีดจำกัดนะ เธอยอมที่จะ เอาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่คู่ควรที่สุดเท่านั้น จะไม่ยอม เสียความรู้สึกดีๆให้กับคนเลวๆพวกนั้น

และตอนนี้ เมื่อเทียบกับยายสมศรีแล้ว เธอยิ่งให้ ความสำคัญกับเตชิตอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้เขาจะมีความคิดกับเธอที่เกินกว่าเพื่อนความสัมพันธ์ระหว่างเค้าสองคนก็ไม่ถือว่าบริสุทธิ์นัก แต่ยังดีที่ใจเธอเรียบง่ายพอ พวกเค้าสองคนจึงยังเป็น เพื่อนกันได้

เตชิต……..

เขาจะปลอดภัยใช่มั้ย?

ยังมีโอกาสจะเป็นเพื่อนที่ดีตลอดไปอีกหรือไม่?

เควินมาถึงโรงพยาบาลด้วยสีหน้าเร่งรีบ ก็ได้เห็น พิงกี้ที่รออยู่นอกห้องผ่าตัดหลับอยู่บนเก้าอี้

เส้นผมทิ้งตัวลงมาตรงหน้าเธอ จนบังแสงไฟที่ ส่องลงมาจากบนเพดานไว้ หน้าที่ขาวเนียนของเธอถูก ซ่อนไว้ในเงาผม เธอหลับอย่างเงียบๆ แต่ดูแล้วช่างน่า สงสาร

ก้าวเท้าเดินเบาๆ เควินกลัวว่าจะทำให้เธอตื่น

“หลับไปนานรึยัง?” เขาถามพายุที่อยู่ข้างๆด้วย เสียงเบา

“เพิ่งหลับไปไม่นานครับ” พายุพูดเสียงเบาๆ
“ยังเหลือเวลาอีกนานเท่าไหร่?”

“ผ่านไปแปดชั่วโมงแล้วครับ แต่ดูๆแล้ว คงจะยัง อีกนานครับ”

เควินรู้สถานการณ์ในใจแล้ว

“ได้จองห้องแถวนี้รึยัง?”

“จองแล้วครับ…….” พายุลังเลไปครู่นึงแล้วพูด ว่า“แต่คุณหญิงไม่ยอมไป บอกว่าจะรออยู่ที่นี่ครับ”

“อืม” เควินตอบ

ตาที่แดงก่ำมองไป เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคย ของผู้ชาย ทันใดนั้นสีหน้าแววตาของเธอผ่อนคลายลง มา “ทำไมคุณถึงมาเร็วจังเลยคะ?”

“ผมเป็นห่วงคุณ ก็เลยรีบมา ”

พิงกี้เม้มปาก ซบไปที่อ้อมอกเขาด้วยรอยยิ้ม

เพียงแต่ ตอนที่เควินบอกว่าจะพาเธอไปพักผ่อน ที่โรงแรม เธอกลับไม่ยอมอีกแล้ว “เวลาทำการผ่าตัด ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวคุณเตชิตก็จะออกมาแล้ว ฉันอยากดูเขาก่อนแล้วค่อยไปค่ะ”
“ถึงเขาออกมาจากห้องผ่าตัดก็ยังสลบอยู่ดี ถึง เวลาคุณค่อยมาเยี่ยมก็เหมือนกัน”

สุดท้ายเควินไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะโน้ม น้าวพิงกี้ได้ ได้แต่นั่งลงที่เก้าอี้และอุ้มเธอไว้ ตัวเองเป็น โซฟาให้เธอ ให้เธอได้หลับสบายหน่อย

สำหรับผู้ชายของตัวเอง พิงกี้ไม่รู้ว่าเกรงใจคืออะ ไร นอนตักที่อ้อมอกเขาอย่างสบายๆ แถมยังรังเกีย จอุณภูมิของตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งสูง รู้สึกร่างกายของเขา ร้อนเกินไป

เควิน

เวลาได้ผ่านไปอีกสามชั่วโมง พิงกี้นอนพอแล้ว และเล่นมือถือไปตั้งนานแล้ว ทีนี้ประตูห้องผ่าตัดถึงได้ ถูกเปิดออก

ดนัยโผล่มาพร้อมร่างเงาที่เหนื่อยล้า พิงกี้เห็นแล้ว ก็ได้พุ่งเข้าไปหาทันที “อาการเป็นยังไงบ้างคะ สำเร็จ มั้ยคะ?”

มีท่าทีที่เหมือนถ้าหากการผ่าตัดไม่สำเร็จก็จะลง ไม้ลงมืออย่างไรอย่างนั้น

ดนัยเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง “คุณคิดว่าไงล่ะ?”
พิงกี้พึงพอใจแล้ว

“ลำบากคุณแล้วค่ะ” เธอเปิดปากพูด

“ฮี!” ดนัยชายตามองเธอทีนึง รู้สึกค่อนข้าง ไม่คุ้มค่าแทนเพื่อนตัวเอง “คุณเป็นห่วงผู้ชายคนอื่น น้อยๆหน่อยเถอะ คิดถึงผู้ชายที่อยู่ข้างกายของคุณให้ มากๆ”

พิงกี้ “

นี่ไม่ใช่คนบ้างานวิจัยหรอ? ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น อาชีพไกล่เกลี่ยให้เพื่อนแล้วหรอ?

น่าเกลียดจริงๆเลย

กลอกตาขาวใส่ดนัยทีนึง เตชิตก็ถูกเข็นออกมา จากห้องผ่าตัดพอดีเลน พิงกี้รีบเดินตามไป เธอต้องดูเต ชิตให้เห็นกับตาทีนึง ไม่งั้นพอเตชิตถูกส่งเข้าห้องปลอด เชื้อ ถึงตอนนั้นอยากเห็นก็ไม่ได้เห็นแล้ว

พอพิงกี้เดินตามเตียงผู้ป่วยไปบีบ ดนัยก็เก็บความ เย่อหยิ่งบนใบหน้าไว้และเดินไปที่ตรงหน้าของเควิน

แววตาของนาทีนี้ค่อนข้างตึงเครียด
“เป็นอะไรไป?” เควินกับดนัยสนิทกันมานาน แค่ เห็นดนัยก็รู้ว่าเรื่องมันผิดปกติ เขาขมวดคิ้วถาม “การ ผ่าตัดเกิดปัญหา?

ถ้าไม่ใช่การผ่าตัดมีปัญหา เวลาในการผ่าตัดก็ไม่ นานกว่าที่คาดการณ์ไว้นานขนาดนี้หรอก ก็มีแต่พิงกี้ เท่านั้นที่เชื่อคนง่าย

“อืม……” ดนัยพยักหน้าด้วยสีหน้าตึงเครียด “เราประเมินการโจมตีของเชื้อไวรัสชนิดนี้ต่ำไป เปลี่ยนถ่ายเลือดได้ไม่นาน เลือดที่เปลี่ยนถ่ายเข้าไป ใหม่ก็มีร่องรอยว่าติดเชื้อ ระยะเวลารวดเร็วมาก แม้ กระทั่งถึงขั้นทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไม่ทันแล้วสลบไป ตอนนี้….ยังต้องคอยติดตามอาการอย่างใกล้ชิดดู”

เควินขมวดคิ้วตึง

สถานการณ์นี้ไม่ดีเลยจริงๆ

“งั้นตอนนี้จะทำยังไง? แผนการรักษาของขั้นตอน ต่อไปจะมีการปรับเปลี่ยนมั้ย?” เควินถาม

“คอยสังเกตุการณ์สักสาทวันถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อน หลายสันนี้ฉันก็จะหาแผนการรักษาที่เหมาะสมกว่า และพยายามอย่างสุดความสามารถ” ดนัยรับประกัน ด้วยความจริงจัง สีหน้าแววตาเคร่งขรึมมาก
ตอนนี้ สิ่งเดียวที่พวกเขาสาทารถทำได้ก็คือ พยายามอย่างสุดความสามารถ

ทั้งสองกำลังพูดคุยอยู่ นึกว่าได้หลีกเลี่ยงพิงกี้แล้ว แต่ที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงคือพิงกี้กลับได้ยินทั้งหมดนี้ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ