คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่423เขามาแล้ว



บทที่423เขามาแล้ว

ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนรออยู่ตลอด เหมือนเสือชี ตาร์ที่พร้อมจะจู่โจมได้ทุกเมื่อ แต่ก็เหมือนหินสีดำที่ตั้ง อยู่ระหว่างฟ้าดินมานาน

ตอนที่พิงกี้โทรมา ดวงตาลุ่มลึกของเควินกำลัง จ้องตัวหนังสือบนข้อความสั้นๆง่ายว่า “เชื่อฉัน” ใจทั้ง ดวงกลับห่วงหาอยู่ที่ชั้นบนสุด

ในที่สุดก็มีสายเรียกเข้าจากพิงกี้ ทันใดนั้นม่านตา เขาหด ทั้งเนื้อทั้งตัวเกรงไปหมด

“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” เขาถามด้วยเสียงสั่น

“ฉัน……” พิงกี้แค่เปิดปากพูดก็คือเสียงของ ความเจ็บปวด หลังจากบรรเทาลงมาหน่อยถึงพูดด้วย โทนเสียงร้องไห้ “เควิน คุณรีบขึ้นมาเร็วๆ พาฉันไป ล้างกระเพาะด่วนเลย…..แอ๊ปเปิ้ลปลอดภัยดี แต่ฉัน ฉัน………….”

พิงกี้เพิ่งพูดว่าล้างกระเพาะ เควินก็เหมือนลูกธนูที่ ยิงออกไปจากธนูและพุ่งไปที่ประตูหนีไฟอย่างเร็ว

รอลิฟท์ไม่ไหว เขาวิ่งขึ้นบันไดโดยตรง เหมือน ลมกรดสีดำที่พริบตาเดียวก็หายไปในต่อหน้าต่อตา พายุ
เห็นเควินจากไป พายุอึ้งไปครู่นึงถึงได้โบกมือส่ง สัญญาณให้คนที่อยู่ด้านหลัง “ตามาเร็วเข้า

คนที่ตามมาด้วยต่างก็ตามพายุไป มีแค่คนเดียวที่ ไม่ขยับ

เตชิตกำผ้าพันแผลที่พันอยู่ในมือไว้แน่น หลุบตาม องเลือดที่ซึมออกมาจากแผล เขายกมุมปากขึ้นอย่าง เหงาหงอยเศร้าซึม จากนั้นก็หันหลังเดินไปที่หน้าลิฟท์ และกดปุ่มลงไปชั้นล่าง

ที่นี่ใครก็เหมาะที่จะปรากฎตัว มีแต่เขาเท่านั้นที่ไม่

เหมาะ

เขาไม่มีสิทธิ์

เควินวิ่งมาถึงที่โซนพักผ่อนของชั้นบนสุด เห็น มาลาตีที่เงียบเหมือนคนตายมาแต่ไกล ส่วนพิงกี้ก็ เหมือนปลาเกยตื้นตัวนึง นอนอยู่ที่บนพื้นอย่างเจ็บปวด และหมดหนทาง น้ำตานองอาบสองแก้ม ตอนที่เห็นเขา ทั้งเสียใจทั้งและทั้งมีความสุข…….

ไม่เคยรู้มาก่อนว่าดวงตาของคนจะสามารถสื่อ ความรู้สึกออกมาได้เยอะขนาดนี้ นาทีนี้ หัวใจของเค วินเหมือนถูกบิดไว้อย่างแรง เจ็บจนแทบจะไม่สามารถหายใจได้

เขาแทบจะไม่คิดอะไรเลยก็พุ่งไปอุ้มพิงกี้ขึ้นมา จากพื้น

“พิงกี้ คุณเป็นยังไงบ้าง? คุณอย่าทำผมตกใจสิ พิงกี้!” มือที่เขาอุ้มเธอไว้สั่นคลอนอยู่ แววตาดำเข้ม จ้องเธอไว้ แต่ฝีเท้ากลับไม่หยุด “ที่นี่คือโรงพยาบาล คุณจะไม่เป็นไรแน่นอน ต้องไม่เป็นอะไรเด็ดขาด!”

เขาเหมือนปลอบโยนพิงกี้ แต่ยิ่งเหมือนปลอบโยน

ตัวเอง

ก่อนหน้านั้นตอนที่โทรศัพท์ พิงกี้บอกว่าจะล้าง กระเพาะอาหาร เควินก็เข้าใจความหมายของเธอแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น เขาอุ้มพิงกี้ลงไปชั้น ล่างและไปล้างกระเพาะอาหารก่อน

พิงกี้กลับไม่มีเวลามาสนใจอะไรเยอะขนาดนั้น เธออุ้มน้องแอ๊ปเปิ้ลไว้แน่นๆก่อน และพูดด้วยสีหน้าขาว ซีด “คุณ…..ดูแลแอ๊ปเปิ้ลด้วย อย่าให้ลูกกลิ้งตกลงไป บนพื้น”

ถ้าเกิดเธอช่วยน้องแอ๊ปเปิ้ลอย่างยากลำบากแสน เข็ญ แต่ลูกชายเธอกลับถูกพ่อแท้ๆของตัวเองทำเอา กลิ้งไปที่พื้น งั้นก็เป็นเรื่องตลกจริงๆแล้ว
“คริๆๆ”

เดิมทีน้องแอ๊ปเปิ้ลถูกพิงกี้อุ้มเอาไว้ในอ้อมอก หลัง จากได้กลิ่นไอที่คุ้นเคยบนตัวแม่ เขาก็ได้เงียบลงมาตั้ง นานแล้ว ตอนนี้พิงกี้ถูกเควินอุ้มมาจากบนพื้น เขาก็ถูก เควินอุ้มเอาไว้ในอ้อมอกเหมือนพิงกี้เช่นกัน

ถึงแม้เขาไม่ได้อยู่ในสายตาของพ่อตัวเองเลย อีก นิดเดียวก็เกือบจะถูกท่าทางที่หยาบกระด้างของเควิน ทําเอากลิ้งลงไปที่พื้น แต่เจ้าตัวแสบยังนึกว่าพ่อตัวเอง กำลังเล่นกับตัวเองอยู่

ตอนที่พิงกี้พูดถึงชื่อของเขา ศีรษะน้อยๆของเขา หันหน้ามามองและยิ้ม“ไร้ฟันอย่างมีความสุขให้เควิน

น้องแอ๊ปเปิ้ลร่าเริงขนาดนี้ ก็ทำให้หัวใจที่เย็นเฉียบ

ของพิงกี้ค่อยๆอบอุ่นขึ้นมา

เธอมองไปที่เควิน นึกถึงเรื่องของเมื่อกี้แล้วแววตา ซับซ้อนมาก แต่ว่าเธอกลับกลืนความต้องการที่อยาก จะระบายทั้งหมดลงไป และพูดเรื่องสำคัญก่อน “เควิน ฉันจะล้างกระเพาะ ด่วนเลย….ฉันถูกมาลาตีบีบบังคับ ให้กินยาทำแท้ง คุณให้หมอ ช่วยฉันคิดหาวิธีหน่อย ฉัน จะต้องรักษาลูกเอาไว้ ต้องรักษาลูกเอาไว้!”

คำพูดเหล่านี้ เพราะความเจ็บปวดจำให้เธอพูดติดๆ ขัดๆ แต่ความหมายกลับสื่อออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
“ผมรู้ครับ! ผมจะเตรียมการเดี๋ยวนี้เลย!”

เควินตอบ จากนั้นก็ได้อุ้มพิงกี้ที่หมดเรี่ยวแรงก้าว เท้ายาวจากไป

ทั้งคู่ไม่ได้มองมาลาตีที่เพิ่งตายและอุณภูมิของ ร่างกายค่อยๆลดลงเลย

ไม่ว่าโรงพยาบาลอะไรก็แล้วแต่ ล้างกระเพาะ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ต้องทำได้แน่นอนอยู่แล้ว

พอพิงกี้ถูกเข็นเข้าไปในห้องรักษา เควินอุ้มน้อง แอ๊ปเปิ้ลยืนรออยู่ที่ข้างนอก ดวงตาดำเข้มคู่นั้นมีแสง เย็นเฉียบที่ทำให้คนหวาดกลัวระยิบระยับอยู่ เหมือน แสงของดาบที่ถูกดึงออกมาจากในซอง แสงเย็นเฉียบนี้ ราวกับว่าสามารถเอาชีวิตคนได้

มาลาตีสมควรตายจริงๆ!

ในขณะนี้เอง พายุเดินเข้ามาใกล้ๆ “เจ้านายครับ ผมมีเรื่องจะรายงานครับ”

“ว่ามา “เควินพูดอย่างเฉยเมย

“เมื่อกี้อยู่ชั้นบน หลังจากที่เจ้านายกับคุณผู้หญิงลงมา ผมได้ไปจัดเก็บที่ในเหตุการณ์ พบว่า…….. พายุอยากพูดแต่ก็หยุดชะงักเอาไว้

“พบอะไร?”

“พบว่ามาลาตีตายแล้วครับ”

เควินยักคิ้วด้วยความตื่นตะลึง “อะไรนะ? นาย บอกว่ามาลาตีตายแล้ว?”

เมื่อกี้เพราะมัวแต่อุ้มพิงกี้จากไปด้วยความเร่งรีบ ส่วนปฎิกิริยาของมาลาตี เขาไม่ได้เห็นอยู่ในสายตา เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าตายแล้ว มาลาตีที่ชอบตวาดและน่ารำคาญจะเงียบขนาดนั้นได้ ยังไง?

“เธอตายยังไง?” เควินถาม

นี่เป็นคำถามที่สำคัญมาก

“เอ่อ…….” พายุมองดูทิศทางที่พิงกี้รักษาตัว อยู่อย่างแม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านไปแล้ว แต่ในใจยังคง หวาดผวาอยู่ และพูดการคาดเดาของตัวเองออกมา “ผมพบปืนกระบอกนึงอยู่ในที่เกิดเหตุ เหมือนปืนที่เจ้า นายเก็บเอาไว้ที่ห้องอ่านหนังสือเป๊ะๆไม่มีผิดเลยครับ นอกจากนี้ ดูจากร่องรอยที่มาลาตีถูกกระสุน ต้องเป็นก ระสนของปืนกระบอกนี้แน่นอนครับ”
เควิน “

เขามองไปที่พายุ ได้เห็นพายุพยักหน้าอย่างหนัก

แน่น

“นายแน่ใจ?” เควินถาม

“ผมแน่ใจครับ”

“เป็นปืนที่เหมือนกันเป๊ะๆ แถมยังเป็นปืนกระบอก เดียวกันอีก?” เควินถามอีก

ครั้งนี้พายุไม่ได้ตอบ เขาได้คว้าปืนกระบอกเล็กๆ นั้นออกมาจากข้างหลังเอว และส่งปืนมาที่ตรงหน้าของ เควิน

เควินหยิบมาดูปุ๊บ ไม่ต้องแยกแยะอย่างละเอียด เลยด้วยซ้ำ แค่ดูจากภายนอกและมือสัมผัสก็รู้ว่าเป็น ปืนที่ตัวเองใช้จนชิน เป็นปืนที่ตัวเองซ่อนอยู่ใต้ลิ้นชัก กระบอกนั้น

ดังนั้น…..

“น่าจะเป็นคุณผู้หญิงที่ยิงมาลาตีเสียชีวิตครับ” พายุพูดคำพูดที่เควินคิดได้แต่ไม่ได้พูดออกมา และ ถามต่อว่า “เจ้านายครับ ตอนนี้เราจะจัดการยังไง ครับ?”
เควินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ พิงกี้ เป็นสมาชิกของหน่วยสืบลับ”

“ใช่ครับ จนถึงตอนนี้ก็ยัง

เป็นสมาชิกของหน่วยสืบลับอยู่ครับ!”

“ในเมื่อเธอเป็นสมาชิกของหน่วยสืบลับ

นั่นก็หมายความว่าเธอมีสิทธิ์เหมือนพวกเรา ภายใต้สถานการณ์คับขัน เธอมีสิทธิ์ฆ่าผู้ร้าย โดยตรง………..ถึงแม้ตัวประกันครั้งนี้จะเป็นลูกของ ฉันกับพิงกี้ และคนที่ฆ่าผู้ร้ายคือแม่แท้ๆของตัวประกัน ก็ตาม จุดนี้ก็ไม่มีช่องว่างให้โจมตีได้”

“ครับ!” พายุรู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว

ตอนที่พิงกี้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ลืมตาขึ้นมาก็เห็นฝ้า เพดานสีขาวลางๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ