คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 415: อึ้งไปเลย



บทที่ 415: อึ้งไปเลย

“นังพิงกี้ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแกจะเป็นคน แบบนี้ แกมันเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ผลประโยชน์ของ ตัวเอง เพื่อตัวเองแล้ว แม้แต่ชีวิตของน้องชายแกๆก็ไม่ สนใจแล้วใช่มั้ย ห้า?!”

มาลาตีโมโหอย่างโหดมาก เข้ามาถึงในห้องโถงก็ ควบคุมรถเข็นพุ่งไปหาพิงกี้ด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดัน สีหน้าร้ายกาจ ดูหน้าตาเหมือนจะมาสู้สุดชีวิตกับเธอ อย่างไรอย่างนั้น

ตอนนี้พิงกี้ยังตั้งครรภ์อยู่ ถึงแม้ร่างกายจะยัง สะดวกและคล่องแคล่วอยู่ แต่ก็ทำเอาป้ามะลิตกใจ เหมือนกัน

ช่วงสามเดือนแรกเป็นช่วงที่อายุครรภ์ยังไม่คงที่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพิงกี้ที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว กว่าจะตั้งครรภ์ครั้งนี้ก็ค่อนข้างที่จะยาก ถ้าถูกรถเข็น ชนเข้าใส่ตัวเธอ ผลที่ตามมาเลวร้ายจนไม่กล้าคิดเลย!

“นี่คุณทำอะไรน่ะ?!” รีบดึงพิงกี้ไปที่ด้านหลังของ ตัวเอง ป้ามะลิทั้งตื่นตกใจและทั้งโมโห น้ำเสียงแฝงด้วย อารมณ์อย่างควบคุมไม่ได้ “คุณมาลาตี คุณอย่ามาว่า คุณผู้หญิงแบบนี้และจะเอาเรื่องโยนมาที่ตัวเธอไม่ได้ นะ!คุณไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงกังวลเรื่องของคุณภูผาจนกิน ข้าวไม่ลงมาหลายวันแล้ว!”

“ฉันไม่สนหรอกว่ามันจะกินลงหรือกินไม่ลงลูกชายฉันจะตายอยู่แล้ว แกคิดว่าฉันไม่เสียใจหรือยัง ไง? ฉันสิถึงจะเป็นคนที่กินไม่ลง นังพิงกี้สีหน้าออกจะดู ดี เหมือนคนที่กังวลจนกินข้าวไม่ลงซะที่ไหน?” มาลาตี ตะคอกอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น “ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อ ที่จะให้พวกแกให้คำตอบกับฉัน!”

“ให้ฉันให้คําตอบคุณ? ฉันจะให้คำตอบคุณยัง

ไง?! ” พิงกี้ยืนอยู่ที่ข้างหลังของป้ามะลิ และย้อนถาม อย่างเย็นชา “ฉันดีกับภูผา ยอมวิ่งเต้นอย่างเหนื่อยยาก ลําบากเพื่อเขา นี่คือน้ำใจของฉัน แต่คุณเอาความหวัง ดีของฉันทำเป็นว่าทุกอย่างนี้ล้วนเป็นหน้าที่ๆฉันต้อง ทำอยู่แล้ว!ฉันเป็นพ่อหรือว่าแม่ของภูผา ห้า? คุณเองก็ ยังไม่สนใจเขาเลย แม้แต่ตรวจจับคู่ก็ยังไม่กล้าที่จะทำ คุณมีสิทธิ์อะไรมากล่าวโทษตัวฉัน?!”

อย่างน้อย เธออยากช่วยภูผาจริงจังและด้วยความ จริงใจ ถ้าวิธีนึงไม่ได้เธอก็ยังคิดว่าอีกวิธีนึงอยู่ แต่ไม่ใช่ แค่พูดเฉยๆแล้วไม่ลงมือทํา

กลับกัน มาลาตีดูเฟคกว่าเยอะ

ถูกมาลาตีซักถามแบบนี้ เธออารมณ์ปริ๊ตแตกจริงๆ

โมโหไปรอบนึง พิงกี้ตะโกนเสียงดัง “ป้ามะลิ ส่ง

แขก!”

ป้ามะลิมีแรงเยอะ เอาไว้รับมือคนอย่างมาลาตีไม่มีปัญหาแน่นอน

แต่แล้ว เพิ่งพูดจบ พิงกี้ที่สีหน้าบูดบึงก็เห็นร่างเงา ผอมสูงของภูผาโผล่อยู่ที่หน้าประตู คำพูดของเมื่อกี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาได้ยินไปเท่าไหร่ เธอหายใจติดขัดขึ้นมา ทันที

รู้สึกมีความเสียใจโผล่ขึ้นมาถี่ยิบ

พิงกี้กัดริมฝีปาก นิสัยที่เธอโมโหแล้วพูดจามั่วซั่ว ต้องแก้สักหน่อยแล้วจริงๆ

“ภูผา ”

ถึงรู้สึกเสียใจ พิงกี้ก็แค่พูดจาซอฟลงมาหน่อย แต่ ไม่ได้รีบร้อนกล่าวขอโทษอะไร

เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด แค่อากัปกิริยาไม่ถือว่าดี เท่าไหร่เอง

แต่ที่เธอโกรธคือโกรธมาลาตี ไม่ได้โกรธภูผา

“ภูผา นี่ลูกมาแล้วหรอ!” มาลาตีหันไปมองด้าน หลัง ก็เห็นภูผาที่ซูบผอมไปเยอะมาก ทันใดนั้นความ เศร้าผุดขึ้นมาจากใจทันที “ ภูผา รีบมาขอร้องพี่สาว เร็ว! คุกเข่าให้มันและกราบเท้ามันเร็วเข้า อย่าให้มัน ใจร้ายใจดำกับลูกขนาดนี้!
ภูผาไม่ได้ทำตามที่เธอบอก เพียงแต่แววตามีความ เสียใจที่เห็นได้ชัดมาก

มาลาตีเห็นเขาไม่ขยับ อดไม่ได้ที่จะควบคุมรถ เข็นไปที่ตรงหน้าเขา และใช้มือตบเขาทีแล้วทีเล่า “ลูก คุกเข่าสิ คุกเข่าเร็วๆ!นี่ชีวิตสำคัญกว่าหรือว่าเอาหน้า สำคัญกว่า?! ในเมื่อนังตัวดีนี่อยากทำให้ลูกลำบากใจ งั้นลูกก็ให้มันได้สมปรารถนาไปเลย ขอแค่ลูกสามารถ มีชีวิตอยู่ต่อไปได้!”

“แม่ไม่ต้องพูดแล้ว พี่พิงกี้ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ครับ!” ภูผามีสีหน้าทุกข์ทรมาน แววตาเต็มไปด้วย ความซับซ้อนที่ทำอะไรไม่ถูก

“มันไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วเป็นคนแบบไหน?! มัน เห็นลูกจะตายอยู่แล้วก็ยังไม่ยอมช่วย ไม่ยอมบริจาค ไขสันหลังให้ลูกนะ!”

“ร่างกายพี่พิงกี้ไม่แข็งแรง แถมยังตั้งครรภ์ด้วย เธอก็หมดหนทางจริงๆครับแม่!”

“ท้องแล้วจะทำไม? เพิ่งจะตั้งครรภ์แค่เดือนสอง เดือนเอง เด็กในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างคนเลย แท้งก็ แท้งไปสิ ไม่ได้ผิดกฎหมายสักหน่อย! อยากมีลูก เดี่ยว ต่อไปก็ท้องได้อีกแหละ จะมีอะไรต้องน่าลำบากใจ? แม้แต่น้องชายแท้ๆยังไม่ช่วย ก็คือเห็นแก่ตัวนั่นแหละ! ภูผา เวลาของลูกมีไม่เยอะแล้ว แม่ร้อนรนใจแทบแย่อยู่แล้ว”

“แม่ พอได้แล้วครับ!

มองดูแววตาที่ยิ่งอยู่ยิ่งเยือกเย็นลงของพิงกี้ ภูผา

ตะโกนเสียงดังคำนึง อารมณ์ขึ้นจนใบหน้าแดงก่ำ คนนึงคือแม่ที่เห็นเขาสำคัญกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก

ส่วนอีกคนก็คือพี่สาว………..

เขาลำบากใจจริงๆ

นาทีนี้พิงกี้ถึงขั้นไม่โกรธแล้ว

เธอมองดูมาลาตีอย่างเย็นชา “เพราะฉะนั้น อยู่ใน ใจคุณ ฉันควรต้องทุ่มเทให้คุณกับภูผาอย่างไร้เงื่อนไข ใช่มั้ย?”

มาลาตีทำเสียงฮีเย็นชาทีนึงและไม่ได้พูดอะไร แต่ ความหมายของเธอก็คือแบบนี้แหละ

ดีมาก!

พิงกี้พูดอย่างเรียบเฉย “ป้ามะลิ ส่งแขก!”

“นี่แกกล้าหรอ?!” มาลาตีคิ้วคว่ำลงมาทันที สีหน้าดุร้ายมาก “ วันนี้ถ้าแกไม่รับปากข้อเรียกร้องของฉัน ฉันก็จะให้คนทั้งโลกได้รู้เลยว่าแกมันลูก อกตัญญู!”

“งั้นคุณก็ไปพูดเลย ดูซิว่าคุณจะลือไปได้ไกลแค่ ไหนเชียว!” เสียงที่เย็นชาและเย่อหยิ่งของผู้ชายก้อง มาจากชั้นสอง เควินที่สวมใส่ชุดสูทสีดำและสีหน้าเย็น ชาปรากฎตัว

“เควิน ทำไมคุณถึงออกมาได้ล่ะคะ?” พิงกี้หัน หน้าไปดูแล้วรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ค่อนข้างรู้สึก สบายใจด้วย

เธอเห็นเควินกำลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์ จึง ไม่ได้ให้ป้ามะลิไปรบกวนเขา คิดไม่ถึงว่าเขาจะโผล่ หน้ามา

“ถ้าผมมาช้าอีก ผมกลัวมีคนจะคนปองร้ายลูก ของผม ผมกลัวว่าลูกที่ผมเฝ้ารอมานานก็จะมาเสียไป แบบนี้น่ะสิ”

“ไม่หรอกครับ พี่เขย” ภูผารีบเปิดปากพูด

ไม่? ” เควินมองเขาทีนึง “ ตอนที่พี่สาวนายท้อง น้องแอ๊ปเปิ้ลอยู่ แม่ของนายเคยทำร้ายเธอจนนับครั้ง ไม่ถ้วน เรื่องพวกนี้พวกนายอาจจะจำไม่ได้แล้ว แต่ฉัน ยังจำขึ้นใจเลย!”
” ภูผามองมาลาตีที่มีสีหน้าหวาดกลัวทีนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจเสียงต่ำ

“นายไม่รู้เรื่องพวกนี้หรือ?”

ถึงภูผาจะก้มหน้าแล้ว แต่เควินก็ไม่คิดจะปล่อย เขาไป ดวงตาเฉียบคมเหมือนเหยี่ยวจ้องมองเขาไว้

ภูผาถูกถามจนตกที่นั่งลำบาก และรู้สึกละอายใจ

มาก

เห็นแบบนี้แล้ว พิงกี้ที่เดิมทีก็รู้สึกติดค้างภูผาก็ได้ ออกมาคลี่คลายสถานการณ์ “เควินคะ ตอนนั้นภูผาอยู่ ต่างประเทศ เขาไม่รู้เรื่องพวกนั้นอยู่แล้วค่ะ……..

“ผมว่ามันก็ไม่แน่หรอก”

หันไปมองพายุที่อยู่ข้างๆ เควินออกคำสั่งด้วยเสียง หนักหน่วง “ไล่พวกเขาออกไป!”

ที่พิงกี้พูดคือส่งแขก ที่เขาพูดคือไล่แขกอย่างไม่ ปราณีเลย

พิงกี้เจาะจงแค่มาลาตี แต่เควินกลับเหมารวมภูผา เข้าไปด้วย

อดไม่ได้ที่จะร้อนรนใจ พิงกี้ยังอยากพูดเกลี้ยกล่อมเควินอีก แต่หางตาเหลือบไปมองเห็นพายุส่ายหัวให้ เธอเล็กน้อย คำพูดที่ใกล้จะถึงปากก็ได้แต่กลืนลงไป อีกครั้ง

พูดตามตรง เธอแคร์น้องชายคนนี้จริง แต่คนที่เธอ ยิ่งเชื่อใจและยิ่งแคร์สุดหัวใจกว่าคือเควิน

เพราะเหตุนี้ เธอจึงไม่ได้เปิดปากพูดอีก

พายุนำตัวมาลาตีที่เหมือนนกกระทาออกไป ภูผา ก็เดินตามไปอย่างเงียบกริบ ไม่นานวิลล่าหลังนี้ก็กลับ คืนสู่ความสงบ

พอคนไปแล้ว พิงกี้หันไปมองเควินที่อยู่ด้านหลัง เขากลับเหมือนรู้ว่าเธออยากพูดอะไรอย่างไรอย่างนั้น เขาหลุบตามองเธอ “เชื่อผม?”

พิงกี้ลังเลไปครู่นึง “ก็ได้ค่ะ..……….

อาละวาทที่L.K.Crystal ไปยกใหญ่ ถึงแม้ มาลาตีถูกไล่ออกมาทำให้ขายหน้ามาก แต่ก็ยังมีที่พึ่ง จึงไม่เกรงกลัวอะไรอีกเช่นเคย เธอไม่รู้สึกมีจะอะไร เปลี่ยนแปลงเลย

แต่ว่า ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงคือ ตอนที่เธอเดินไปที่ห้องผู้ป่วยของตัวเอง กลับพบว่าข้าวของๆตัวเองได้ ถูกเก็บและวางอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วยอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อยแล้ว

นี่มันอะไรกัน?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ