คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่235:คนหายไปไหนแล้ว



บทที่235:คนหายไปไหนแล้ว

พิงกี้ไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น แม้แต่รองเท้าก็ใส่เพราะ การเตือนและบังคับของน้ำหวาน ถ้าไม่ใช่น้ำหวานเรียก ร้อง เธอไม่อยากเสียเวลากับการใส่รองเท้าเลยด้วยซ้ำ

ออกจากห้องผู้ป่วย เธอเดินไปขึ้นลิฟท์พร้อมสายฟ้า ด้วยความเร่งรีบ ลิฟท์ได้ขึ้นมาชั้นบนสุดของโรงพยาบาล

ผู้คนที่ชั้นบนสุดน้อยและสงบมาก ทั้งชั้นต่างก็ สามารถได้ยินเสียงวิ่งของเธอ

สายฟ้าไม่กล้าขวางเธอด้วยความแข็งกร้าว ได้แต่ เดินตามหลังเธออย่างอกสั่นขวัญแขวน กลัวก็แต่เธอจะ ล้มจนแท้งลูก เขาเตรียมตัวพร้อมไว้คอยรับเธออยู่ตลอด เวลา

พอมาถึงห้องICU พิงกี้ก็เหนื่อยจนหอบแล้ว แต่ว่า ดวงตาคู่โตที่ใสสะอาดกลับยิ่งอยู่ยิ่งเปล่งประกายระยิบ ระยับเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า

มีร่างเงาที่ใส่เสื้อคลุมหมอเดินออกมาจากด้านใน

พิงกี้สีหน้าดีใจสุดขีด

“หมอดนัยคะ ฉันเข้าไปเยี่ยมเขาหน่อยได้มั้ยคะ?ดึงชายหนุ่มที่สวมใส่กรอบแว่นดำที่เดินออกมาจาก ห้องICUไว้ พิงกี้ยังไม่ทันหายใจทั่วท้องก็ถามด้วยความ ใจร้อนแล้ว

เพราะวิ่งมาตลอดทาง แก้มของเธอดูมีเลือดฝาด เหมือนออกกำลังกายมา เธอหายใจหอบเร็ว หัวใจเต้นแรง ผิวพรรณที่ขาวเนียนนี้เป็นที่ดึงดูดความสนใจมาก

แต่ว่า เธอไม่ได้สังเกตุเห็นเลย ชายหนุ่มที่ถูกเธอดึง เสื้อไว้ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แววตาไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย สักนิด

เขาแค่ขมวดคิ้วมองเธอ แววตาแฝงด้วยการซักถาม

“หมอดนัย?”

เห็นดนัยไม่เปิดปากพูดสักที แค่ใช้แววตาที่ซับ ซ้อนลุ่มลึกมองตัวเองไว้ เหมือนกับว่าตัวเองเป็นเซลล์ ใต้กล้องจุลทรรศน์ที่ถูกเขาแยกเซลล์ออกมาวิเคาระห์ อย่างไรอย่างนั้น พิงกี้ขมวดคิ้วอย่างอึดอัด แววตาแฝง ด้วยความสงสัย

ดนัยดึงสติกลับมา

เขาเป็นโรคกลัวความสกปรกมาก สายตารังเกียจหล่นอยู่ที่มือของพิงกี้ เขาดึงแขนเสื้อออกจากมือของเธอ

พิงกี้สีหน้าแดงก่ำ และพูดด้วยความเกรงใจ “ขอโทษค่ะ ฉันได้ยินว่าคุณเควินตื่นแล้วเลยตื่นเต้นไป หน่อย เอ่อ…..หมอดนัยคะ ฉันเข้าไปเยี่ยมเขาได้มั้ยคะ? ฉันรับประกันว่าจะไม่รบกวนเขานาน ดูเดี๋ยวเดียวก็ออกมา แล้วค่ะ!”

“คุณได้ยินใครบอกว่าเขาตื่น?” เสียงของดนัยเย็น ชาและรำคาญ

“อะไรนะ?” พิงกี้อึ้งเล็กน้อย

“เควินยังไม่ฟื้น คุณอย่าได้ยินข่าวอะไรหน่อยก็บุก มาที่นี่ด้วยความเร่งรีบได้มั้ย? เขารักษาอยู่ที่นี่ต้องปิดเป็น ความลับ คุณทำงานสะเพร่าขนาดนี้นี่อยากให้เขาตาย จริงๆใช่มั้ย?”

“ฉัน……” พิงกี้ถูกการซักถามที่เย็นชารัวๆจนถึง ค้างไว้ มองไปยังสายฟ้าที่ยืนอยู่ข้างหลัง “นายบอกว่า คุณเควินตื่นแล้วไม่ใช่หรอ?”

“ก็ใช่น่ะสิครับ ผมเห็นกับตาเลย ผม…………… สายฟ้า ก็มึนตึบ
ดนัยพูดแทรกเขาด้วยความรำคาญ “พวกคุณเป็น หมอหรือว่าผมเป็นหมอ? มองผ่านผนังกระจกเห็นคนไข้ ขยับนิ้วสองที่ก็บอกว่าคนไข้ฟื้นแล้ว คุณเก่งขนาดนี้ยัง เป็นทหารอยู่ทำไมๆไม่มาเป็นหมอเลยล่ะ? ขอแค่คนที่ สมองเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างคุณไม่กลัวรักษาคนตาย งั้นผมก็กล้าถอดเสื้อคลุมหมอนี้ให้คุณใส่โอเคมั้ย?!

คำพูดสุดท้ายนี้ ดนัยจ้องไปที่สายฟ้าแล้วพูด

เดิมทีสายฟ้าก็เป็นคนพูดไม่เก่งอยู่แล้ว และเป็นคน พูดจาระมัดระวัง แต่ถูกดนัยด่าว่าเหน็บแนมแบบนี้ ทำให้ เขาเองก็เริ่มสงสัยการตัดสินของตัวเองแล้ว หรือว่า ผม จะดูผิดจริงๆ?”

“เหอะ……” ดนัยยกมุมปากขึ้นอย่างเย็นชา “คุณ นึกว่าสายตาคุณดี ก็จะหมายความว่าสมองคุณดีไปด้วยเห รอ?”

พายุ “…..

ไม่ว่าจะยังไง พิงกี้ก็ฟังรู้เรื่องแล้ว

ดังนั้น……….

เควิน เขายังไม่ฟื้น?!
เหมือนมีน้ำเย็นถังนึงเทลงมาจากหัว พิงกี้รู้สึกหนาว จับใจ หนาวจนเธอตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

แต่เธอก็ยังไม่ย่อท้อ มองดนัยที่ปากจัดเย็นชาด้วย ความคาดหวัง และถามทั้งๆที่รู้ “ความหมายของคุณคือ คุณเควินเขายังไม่ฟื้น

“ถ้าเขาฟื้นแล้ว ผมก็ไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว คุณนึกว่า ผมอยากอยู่ที่นี่มากงั้นหรอ?”

พิงกี้ “ …………….”

ดนัยลุ่มหลงกับการวิจัยทางการแพทย์ ถึงยังหนุ่มยัง แน่น แต่ด้านประสาทศัลยศาสตร์กลับเป็นคนที่มีชื่อเสียง ระดับนานาชาติ สามารถบอกได้ว่าเป็นทรัพยากรที่สวรรค์ ประทานมาให้จริงๆ

แต่ว่า เขาไม่มีความสนใจในด้านการช่วยเหลือ คน แต่จะเป็นคนที่อยู่แต่ในห้องแลปไม่ขยับไปไหนเลย มากกว่า

ครั้งนี้สามารถดึงเขาออกมาจากห้องแลปได้ หนึ่งคือ เพราะเควินเป็นเพื่อนสนิทของเขา สองคือเพราะอาการ ของเควินสาหัสมาก มีเขาที่เก่งด้านประสาทศัลยศาสตร์ อยู่ล่ะก็ เปอร์เซ็นต์ที่เควินจะฟื้นขึ้นมามีสูงมาก
ถ้าเควินฟื้นแล้ว ดนัยคงไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ดูดนัยที่เป็นแบบนี้………

พิงกี้ยื่นมือจับผนังไว้ รู้สึกขาทั้งสองข้างอ่อนแรงไป หมด สายฟ้าที่เห็นแบบนี้แล้วรีบประคองตัวเธอไว้

“หมอดนัยคะ แล้ว…คุณเควินจะฟื้นเมื่อไหร่คะ?”

“ผมจะไปรู้ได้ยังไง?” ขมวดคิ้วและกวาดสายตาไป ที่พิงกี้ ดนัยพูดด้วยความเย็นชา “ผมไม่ใช่หมอดู ถ้าคุณ อยากดูดวงอย่ามาหาผม! ไม่มีอะไรก็รีบลงไปซะ อย่ามา ยืนเสียเวลาอยู่ที่นี่”

พูดจบ เขาเดินผ่านตรงหน้าเธอ สีหน้าเหมือนปฏิเสธ คนให้ไปอยู่ไกลๆเป็นพันล้ำเลย

“คุณพิงกี้อย่าถือสาเลยนะครับ หมอดนัยก็นิสัย แบบนี้แหละครับ ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะคุณคนเดียวหรอก” สายฟ้ากลัวพิงกี้ไม่สบายใจ และอธิบายและยกตัวอย่าง ให้ฟัง “เขาคงจะมีเรื่องไม่สบายใจ ถึงได้พูดจาไม่เกรงใจ ขนาดนี้ ตอนนั้นหมอดนัยไปฝึกอบรมพิเศษที่หน่วยสืบลับ ก็เพราะถูกเจ้านายบังคับให้ไป อยู่ที่นั่นหนึ่งสัปดาห์เขาก็ ไม่เคยสีหน้าดีใส่พวกเราเลยครับ”
……อืม” พิงกี้ตอบ

ที่จริง……กิริยาท่าทาง สีหน้า จะมีความอะไรสำคัญ

ล่ะ?

เธอขอแค่เควินฟื้นขึ้นมาก็พอแล้ว

แต่ว่า…..เขาไม่ฟื้น

เธอยังต้องรออีก

ขอแค่วันนั้นมาถึง กระบวนการรอคอยเธอก็สามารถ

ไม่แคร่ได้

สายตามองไปดูผู้ชายที่อยู่ในห้องICU สายตาส่อง ผ่านใบหน้าหล่อเหลาที่ซีดเซียวของเขาทีละคืบๆ สุดท้าย เธอหลับตาลงแล้วพูดว่า “ไปเถอะ เราลงไปเถอะ”

เวลาต่อมา ก็ยังรอๆๆอีกเช่นเคย

พิงกี้จะขึ้นมาดูเควินทุกคืน มาทุกครั้งก็จะยืนดูเขาอยู่ ด้านนอกอย่างห่างๆ แต่ว่า เควินกลับไม่มีท่าทีที่จะฟื้นเลย

พิงกี้ยิ่งอย่ยิ่งร้อนรนใจขึ้นมา
ก่อนหน้านั้นหมอเคยบอกว่า ถ้าเควินไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ อย่างนี้ตลอด งั้นมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะไม่ฟื้นขึ้นมา ชั่วนิรันดร์เลย!

ผู้ชายที่เย่อหยิ่งและโดดเด่นคนนี้ สุดท้ายจะต้อง กลายเป็นเจ้าชายนิทราที่ใช้ชีวิตอยู่บนเตียงตลอดชีวิจ แม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง ได้…….พิงกี้ไม่กล้าจินตนาการเหตุการณ์แบบนั้น

ทุกครั้งที่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ เธอก็รู้สึกหัวใจ เหมือนถูกคนแทงจนเป็นรูพรุน

เพราะร้อนรนใจ เธอจึงเริ่มหาดนัยเพื่อถามอาการ ของเควินอยู่บ่อยๆ ถึงแม้ดนัยจะใส่สีหน้าให้เธอตลอด เธอก็ยังยืนหยัดอย่างไม่ลดละ เธอคิดหาวิธีอยู่ตลอดว่าจะ ให้เขาอนุญาติให้เธอเข้าห้องICได้ยังไง

แต่เสียดาย ตลอดมานี้เธอพูดโน้มน้าวดนัยไม่ได้เลย

สถานการณ์แบบนี้คงที่ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าพิงกี้ขึ้น ลิฟท์มาถึงที่ชั้นบนสุด ตอนที่เดินมาถึงหน้าห้องICU กลับ พบว่าเควินที่นอนอยู่บนเตียงไม่เห็นแล้ว!

นี่จะเป็นไปได้ยังไง?!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ