คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่527: วิกฤตที่เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง



บทที่527: วิกฤตที่เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง

เสียงซุบซิบดังขึ้น

“อะไรเนี่ย อาศัยความสัมพันธ์ที่รู้จักกันเห รอ?”

“ใครใช้ให้เกิดมาหน้าตาไม่ดี ไม่มีคนเอาล่ะ เห็นช่อดอกไม้ก็เลยอยากจะแย่งไปหมด”

“ใครเนี่ย ไม่ใช่คนในแวดวงเราสักหน่อน ยัง มีหน้ามาแย่งด้วยเหรอเนี่ย?”

“เอาล่ะๆ พวกเธอพูดน้อยๆหน่อยเถอะ เห็นได้ ชัดว่าคนๆนี้เป็นเพื่อนของคุณพิงกี้ อย่าให้คนได้ยิน เข้าล่ะ มันไม่ดี”

คำพูดเหล่านี้เสียงเบามาก มีบางคำที่น้ำหวาน ได้ยิน บางคำเธอไม่ได้ยิน แต่ถึงไม่ได้ยิน เธอก็ สามารถเห็นการดูถูกและรังเกียจผ่านสายตาของ พวกเธอได้อยู่ดี

เดิมทีเธอไม่ควรแคร์ ก็ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆก็ รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเฉยเลย
ที่จริงเธอก็ไม่ค่อยอยากจะแย่งดอกไม้หรอก อย่างน้อยเธอไม่ได้เฝ้ารอเรื่องความรัก ยิ่งไม่แคร์ เรื่องแต่งงานด้วยซ้ำ

เธอยืนอยู่ที่นี่แค่อยากสร้างบรรยากาศให้มัน คึกคักหน่อย และอยากรับความสุขที่พิงกี้ส่งต่อมา ให้เฉยๆ

เธอแค่มีความเห็นแก่ตัวเล็กน้อยของตัวเอง เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าพิงกี้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ งั้นเธอต้องเป็นคนแย่งช่อดอกไม้ของพิงกี้ได้ถึงจะ ตรงตามการกำหนดของเพื่อนที่ดีที่สุดสิ!

ช่างมันเถอะ..

ในใจคิดแบบนี้ จู่ๆน้ำหวานเตรียมตัวเดินกลับ มาที่โต๊ะ แต่ว่า ในชั่วขณะที่เธอหันหลัง ฝ่ามือใหญ่ ของผู้ชายก็จับไหล่เธอเอาไว้

เธอเงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาพราวเสน่ห์ที่ แฝงด้วยการหยอกล้อ “ทำไม แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้ว หรอ?”

น้ำหวาน “…”
ระยะเวลาสั้นๆที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน ในหมู่คน ส่งเสียงร้องตื่นตกใจขึ้นมา

ในใจของน้ำหวานรับรู้ถึงบางอย่าง มองไป ที่ทิศทางของพิงกี้ เห็นช่อดอกไม้ที่ถูกโยนขึ้นไป กลางอากาศ กำลังจะล่วงลงมาที่ทิศทางของเธอ จริงๆซะด้วย

น้ำหวานยื่นมือไปรับด้วยจิตใต้สำนึก แต่คนที่ อยู่รอบด้านเบียดไปมาที่ทิศทางของเธอ เธอโซเซ จนเกือบจะถูกเบียดจนล้มลงพื้น

มองดูตรงหน้า ช่อดอกไม้ใกล้จะหล่นไปที่ อ้อมอกของผู้หญิงอีกคนแล้ว ทันใดนั้นแววตาของ นํ้าหวานมืดมน

แต่แล้ว ในขณะที่วิกฤติเป็นอันตรายที่ใหญ่ หลวงนี้ มือที่เรียวยาวกลับคว้าเบาๆ ก็คว้าช่อ ดอกไม้สวยงามนั้นจากอากาศมาที่ในมือของตัวเอง จากนั้นก็ยัดมาที่มือของเธอ

น้ำหวาน “…”

ผู้คน “…”
นี่เรียกว่าอะไร?

นี่เรียกว่า ขี้โกง!

นี่เรียกว่า ได้รับชัยชนะโดยการเล่นลูกไม้!

ทุกคนต่างก็ใช้สายตาอึ้งจ้องมองน้ำหวานที่ถือ ช่อดอกไม้ไว้และทำอะไรไม่ถูก และเตชิตที่เย็นชา เหมือนเทพเฝ้าประตูที่ยืนอยู่ข้างกายเธอ ถึงอยาก จะพูดอะไรสักหน่อย แต่พออ้าปากก็พูดอะไรไม่ ออก

ยังเป็นพิงกี้ที่หันมาด้วยความเซอร์ไพรส์ ทำลายบรรยากาศที่แข็งทื่อเล็กน้อยนี้ทิ้ง “น้ำหวาน เธอแย่งได้จริงๆหรือเนี่ย?

น้ำหวาน

ถ้าเธอแสดงสีหน้าใจได้ คนอื่นคงยิ่งอยากจะ ต่อยเธอแล้วมั้ง?

ถือช่อดอกไม้ไว้ น้ำหวานอารมณ์ซับซ้อนจริงๆ
คนที่แย่งดอกไม้ได้ต้องขึ้นไปกล่าวคำขอบคุณ น้ำหวานเดินขึ้นไปบนเวที ในหัวยังรู้สึกว่างเปล่าอยู่ ไม่…..บอกว่าสมองว่างเปล่าก็ไม่ตรงเป๊ะๆ เพราะว่า นาทีนี้เธออดไม่ได้ที่จะนึกย้อนถึงเมื่อกี้ เตชิตที่โผล่ อยู่ที่ข้างกายเธออย่างมหัศจรรย์ เขาจับไหล่เธอไว้ ด้วยสีหน้าชิวๆ ยื่นมือไปช่วยเธอแย่งดอกไม้อย่าง เท่ห์………

ให้ตายสิ!

พิธีกรชี้นําอย่างมีความรับผิดชอบและขยัน หมั่นเพียร “เอาล่ะครับ สาวสวยผู้โชคดีท่านนี้ครับ รบกวนช่วยกล่าวความรู้สึกที่แย่งดอกไม้ได้ และ กล่าวอวยพรให้คู่บ่าวสาวด้วยครับ”

น้ำหวานดึงสติกลับมาได้เล็กน้อย หลังจาก คิดๆแล้วก็ได้เปิดปากพูดอย่างมึนตึ๊บ “อืม ฉันโชคดี มากค่ะ อืม….ขอบคุณพ่อแม่ของฉัน ขอบคุณเพื่อน ของฉัน ไม่ๆๆ…..ขอโทษค่ะ ฉันพูดค่ะ………

ด้านล่างเวทีส่งเสียงหัวเราะเสียงดัง น้ำหวาน ดึงสติกลับมาได้หมด เธอรีบพูดแก้ตัวใหม่

เธอเหงื่อแตกด้วยความอาย
เมื่อกี้สมองของเธอต้องถูกเตชิตถีบแน่ๆเลย นี่ เธอกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย?!

หายใจลึกๆ น้ำหวานพูดใหม่ “เอ่อ…..สวัสดี แขกผู้มีเกียรติทุกท่านค่ะ ฉันเป็นเพื่อนสนิทของพิง กี้ ดีใจมากที่สามารถเป็นพยานให้กับความรักหวาน ชื่นของพิงกี้กับคุณเควิน ฉันขออวยพรให้ทั้งสองจง ร่วมครองรัก ครองเรือนกันด้วยความสุขสดชื่น มี วันฉลองงานวิวาห์ที่เยี่ยมยอด เปี่ยมด้วยความหวัง ความรัก และความทรงจำอันงดงาม คู่บ่าวสาวเป็น คู่รักที่โชคดีที่สุดที่ฉันรู้จัก ขอแสดงความยินดีด้วย กับวันที่แสนพิเศษของทั้งคู่ค่ะ!”

“แน่นอน ตอนที่หวานแหววกันก็อย่าลืมด้วย นะว่าคุณทั้งคู่เป็นพ่อคนแม่คนแล้ว ตอนที่โชว์ ความหวานทารุณคนโสดก็อย่าทารุณแม้แต่ลูก ตัวเอง ต้องให้ความสนใจกับลูกด้วยนะ และอย่า ทำเรื่องที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ต่อหน้า ลูก อย่างเช่นจูบอย่างแยกจากกันไม่ได้ประเภทนั้น อืม…….ก็เหมือนที่ทำในเมื่อกี้แหละ แยกจนแยก จากกันไม่ได้…….…….……..

“และขออวยพรให้แขกผู้มีเกียรติทุกท่านมีชีวิตที่สวยสมบูรณ์แบบ เฮงๆรวยๆ ทำอะไรก็ขอให้ ราบรื่นค่ะ ขอบคุณค่ะ!”

เดิมทีน้ำหวานก็เป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใสอยู่แล้ว พูดจาก็ตรงไปตรงมาและค่อนข้างเปิดเผย ในคำพูด แฝงด้วยการแซวพิงกี้กับเควิน ทำเอาแขกผู้มีเกียรติ ทุกคนหัวเราะติดต่อกัน พ่อแม่ของน้ำหวานยิ่งดีใจ สุดขีด

พิงกี้จ้องมองเธอด้วยการตำหนิทีหนึ่ง และสาย หัวอย่างจนปัญญา

แต่ในแววตา เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

ขั้นตอนโยนช่อดอกไม้เสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอน ต่อไปพิงกี้ก็ต้องไปดื่มเหล้าแสดงความขอบคุณ แล้ว เดี๋ยวก็ต้องไปดื่มเหล้าชนแก้วทีละโต๊ะแล้ว แต่ ว่า พิงกี้รู้สึกเหนื่อย เควินสงสารความเหนื่อยล้าของ เธอ เลยเปลี่ยนขั้นตอนอย่างฉับพลัน

เพื่อลดปัญหา พิธีกรได้ให้เควินกับพิงกี้ดื่ม เหล้าอยู่บนเวทีเลย

แขกผู้มีเกียรติทุกท่านยกแก้วขึ้นมา และดื่มพร้อมกันหมด
ก็ถือว่าแขกผู้มีเกียรติมีความสุขกันอย่างเต็มที่

เพื่อการแอบขี้เกียจของพิงกี้นี้ น้ำหวานก็ไม่ ต้องไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเธอแล้ว ดังนั้นก็เลยกลับ มาที่โต๊ะทานข้าวโดยตรงเลย

เพียงแต่ พอเป็นแบบนี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับใคร บางคนแล้ว

น้ำหวานก็ยังเกรงใจเล็กน้อยอยู่ มีความรู้สึก ซับซ้อนที่พูดไม่ออก เธอกล่าวขอบคุณเตชิตเสียง ต่ำ “เอ่อ……ขอบคุณที่เมื่อกี้ช่วยฉันแย่งดอกไม้นะ ว่าไปแล้ว ดอกไม้ช่อนั้นมันควรจะเป็นของคุณ”

“อือฮี” เตชิตยักคิ้ว แกว่งขาที่นั่งไขว่ห้าง อย่างได้ใจ “ไม่ต้องขอบคุณหรอก! ใครใช้ให้ผมสูง กว่าคุณ ร่างกายแข็งแรงกำยำกว่าคุณ แม้แข็งแกร่ง กว่าคุณล่ะ?”

“สูงกว่าฉันถือว่าเป็นเรื่องที่เจ๋งมากงั้นเหรอ? คนที่สูงกว่าฉันมีเยอะแยะถมเถไป คุณเจ๋งมาจาก ไหนเชียว?” ความคิดสวยงามที่อยู่ในใจของน้ำ หวานได้ปลิวหายไปในพริบตาเลย และจ้องเขา อย่างไม่สบอารมณ์
ไม่นึกเลยว่า เมื่อกี้เธอยังซึ้งอยู่เลย!

ซึ้งๆๆอะไร มีความซาบซึ้งต่อผู้ชายที่ดุร้ายแบบ นี้ เอาความซาบซึ้งนี้ให้หมากินยังดีกว่าให้เขาเสีย อีก!

“เชอะ….” เตชิตหัวเราะเชอะใส่ทีหนึ่ง เห็น แก่ที่พ่อแม่ของน้ำหวานก็อยู่ด้วย อย่างน้อยเขาก็ไม่ ได้พูดคำพูดที่แรงกว่าออกมา

อย่างไรซะ อยู่ต่อหน้าผู้คนเขาก็ยังต้องรักษา ความมีระดับไว้อยู่

บุคลิกที่สูงส่ง ยากที่จะเข้าใกล้จะพังทลายลง

ไม่ได้!

ยามดึก ก็ย่อมเป็นปาร์ตี้ที่บ้าคลั่งอยู่แล้ว

ครั้งนี้คนที่มาเยอะกว่าเมื่อคืน ถ้าบอกว่าเมื่อ คืนเป็นแค่ปาร์ตี้เล็กๆระหว่างเพื่อนๆ วันนี้ก็คืองาน ปาร์ตี้สำหรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน งานคืนนี้ก็ยัง อยู่ที่เนเวอร์แลนด์อีกเช่นเคย แต่ได้เหมาเพิ่มขึ้น กว่าเมื่อคืนชั้นหนึ่ง
ในฐานะที่เป็นตัวเอกของงาน พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องตื่น เช้าอีก พิงกี้กับเควินต่างก็ถูกมอมเหล้าไปไม่น้อย

สุดท้าย ยังได้รับผลประโยชน์จากคำพูด ของดนัยที่ว่า “ผู้ชายดื่มเหล้ามากไปจะกระทบกับ สมรรถภาพทางเพศ พวกนายแน่ใจหรอว่าคืนนี้จะ มอมเควินจนเขาแข็งไม่ได้?” ทีนี้ก็ไม่มีใครกล้ามอม เหล้าเควินอีกแล้ว

จะแบกโทษที่ทำให้ท่านประธานใหญ่ไม่ สามารถส่งตัวเข้าหอไม่ได้เชียวนะ เพราะอย่างไร ซะต่อไปยังต้องร่วมงานกันอีก ยังอยากให้ซอกนิ้ว ของบริษัทข้ามชาติโมเดิร์นกรุ๊ปหล่นเนื้อออกมาสัก ชิ้นอยู่เลย!

แต่แล้ว การปกป้องของดนัยไม่ได้ทำให้เควินที่ ได้รับการช่วยเหลือซาบซึ้งเลย

ต่อหน้าผู้คนไม่ได้เผยอะไรออกมาเลย แต่ ลับหลังคน เควินได้อธิบายให้พิงกี้ฟังอย่างจริงจัง “คุณไม่ต้องฟังดนัยหรอก ขอแค่คุณอยากเอา ผม สามารถแข็งได้ทุกเมื่อ แอลกอฮอล์ไม่มีผลกระทบ อะไรกับผมหรอก”

พิงกี้ “…”
เพราะฉะนั้น ตอนนี้เธอจะเงียบเหมือนไก่ดี หรือว่าชื่นชมเขาดี?

สังเกตสีหน้าของท่านประธานอย่างละเอียด พิงกี้เห็นแววตาลึกๆของเขาแฝงด้วยการคาดหวัง ทันใดนั้นอดไม่ได้ที่จะตบไหล่เขา “ฉันเชื่อคุณค่ะ”

จากนั้น เธอพบว่าเธอทำถูกแล้ว

เพราะว่าผู้ชายหล่อเหลาสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า นี้ หัวเราะขึ้นมากระทันหัน สีหน้ารื่นรมย์สุดขีด ก็ เหมือนเด็กอนุบาลที่ได้กินลูกอม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ