คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทท275: มาพบคุณไกรสร



บทท275: มาพบคุณไกรสร

“ทําไมคุณไม่นอนพักอีกหน่อย ไม่กลัวว่าร่างกายจะ ไม่ไหวรึยังไง?” เขาถามเหมือนบ่นนิดๆ

“ทำไมคุณถึงมาเช้าจังเลยคะ?”

พิงกี้ที่นั่งอยู่บนเตียงได้ยินเสียงแล้วหันหน้ามามอง

เพราะความตื่นเต้นในใจ เตชิตเดินไปที่ตรงหน้าเธอ อย่างห้ามใจไม่ได้ แทบอยากจะยื่นมือเอาเธอมาซบไว้ใน อก แต่ก็ได้แต่พูดว่า “เพราะผมรู้ว่าคุณต้องนอนไม่หลับ แน่ๆ”

“ใช่ค่ะ นอนไม่หลับ

พิงกี้ตื่นตั้งแต่ตีห้า จากนั้นก็นอนไม่หลับอีกเลย

ไหนๆก็นอนไม่หลับแล้ว เธอจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่ง ตัวรอ พอเตชิตมาถึง จะได้ออกไปเลย

“ก็เพราะผมกลัวคุณเป็นแบบนี้ไง ดังนั้นเลยรีบมาแต่ เช้า ไปเถอะ รถผมจอดอยู่ด้านนอกแล้ว

“โอเคค่ะ” พิงกี้พยักหน้า

วันนี้ท่าทางของเธอเชื่อฟังจนเหลือเชื่อ ความร่าเริง ในวันปกติจางหายไปไม่น้อย เห็นเธอที่เป็นแบบนี้แล้วเตชิตรู้สึกบีบคั้นหัวใจมาก แต่ว่าเขาก็เป็นแค่คนนอก ถึง อยากปลอบใจเธอ แต่ว่า แม้แต่แค่โอบกอดเขายังต้อง หลีกเลี่ยงเลย……..

ให้ตายสิ!

ด่าอยู่ในใจคำหนึ่งด้วยความหงุดหงิด เตชิตคอย ปกป้องพิงกี้ที่เดินอยู่ข้างหน้า เพราะกลัวว่าเธอจะเกิด อุบัติเหตุอะไร

นั่งอยู่บนรถ พิงกี้รู้สึกลุกนั่งไม่ติด จิตใจไม่สงบเลย

พอคิดถึงเมื่อก่อน เธอเคยพิงอยู่ที่ไหล่ของเควินอยู่ เบาะนั่งหลัง เขาตั้งใจย่อตัวลง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว เพื่ออยากให้เธอหลับสบายจนถึงบ้านก็ยังไม่ตื่น

ตอนที่ลงจากรถ เขายังอุ้มเธออย่างเบามือ คางที่มี หนวดคอยถูไถอยู่ที่แก้มของเธอ กวนจนเธอตื่นตกใจและ หายจากความง่วงไปเลย

เขาเป็นผู้ชายที่ชอบเผชิญกับทุกสิ่งด้วยสีหน้า เคร่งขรึม แต่อยู่ตรงหน้าเธอ เขาจะชอบเผยด้านที่มี อารมณ์ของเขาออกมา คอยกล่อมเธอ หรือว่ารอให้เธอไปกล่อมเขา

แต่ตอนนี้…………

ส่งของยังเหมือนเดิม แต่คนกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว

ระยะทางแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่พิงกี้รู้สึกเหมือน ได้เดินทางยาวไกลจนผ่านไปเป็นทศวรรษแล้ว

เธอร้อนรนใจ ในใจคิดแต่เรื่องที่อยากไปถามราย ละเอียดกับพ่อของเตชิต เธอนึกไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าไป เยี่ยมคนไข้ต้องมีกระเช้าผลไม้หรือว่าของบำรุงติดไม้ ติดมือไปด้วย

หลังลงจากรถ ยังเป็นป้าเฉินที่มาด้วยไปซื้อกระเช้า ผลไม้ที่ร้านค้า ซื้อเสร็จก็เดินมาด้วยความเร่งรีบ และยื่น ให้กับพิงกี้ มองเธอด้วยความเอ็นดูและพูดว่า “คุณพิงกี้คะ ถืออันนี้เข้าไปค่ะ คุณไม่ต้องกระวนกระวายใจนะคะ คุณเค วินต้องไม่เป็นอะไรแน่นอนค่ะ!”

เพราะอยู่ข้างนอก คนนอกต่างก็ไม่รู้เรื่องที่เควินแอบ จดทะเบียนสมรสกับพิงกี้ ดังนั้นป้าเฉินเลยเรียกคุณพิงกี้มี แต่ตอนที่อยู่บ้านเท่านั้นถึงจะเรียกเธอว่าคุณนาย

“ขอบคุณนะคะ ป้าเฉิน” พิงกี้ขอบคุณด้วยความจริงใจ

“นี่เป็นสิ่งที่ป้าสมควรทำอยู่แล้วค่ะ คุณรีบไปถามราย ละเอียดเถอะค่ะ ถึงผลที่ได้อาจจะไม่ดี แต่คุณก็ไม่ต้อง เสียใจนะคะ คนดีผีต้องคุ้มครองอยู่แล้วค่ะ คุณเควินมีฝีมือ ยอดเยี่ยมขนาดนั้น จะเกิดเรื่องง่ายๆได้ยังไงกัน? ไม่แน่ คนอื่นอาจจะดูผิดก็ได้ค่ะ”

พิงกี้ในตอนนี้ก็อยู่กที่จะได้ยินคำพูดเหล่านี้ จึงพยัก หน้าอย่างแรง “ค่ะ”

เธอหายใจลึกๆ หนึ่งและเคาะประตู

เตชิตคอยเดินตามอยู่หลังเธอ

เดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย ไกรสรกำลังนอนให้น้ำเกลือ อยู่บนเตียง อาจจะเป็นเพราะเสียเลือดเยอะ สีหน้าของ เขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สีหน้าซีดเซียวอมเหลืองเล็กน้อย แขนที่กํายำกับขาต่างก็พันด้วยผ้าพันแผล

คุณหญิงเพียงดาวอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด นาทีนี้ กำลังนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างเตียง

เห็นพิงกี้กับเตชิตเดินเข้ามา คุณหญิงเพียงดาวรีบ เช็ดน้ำตาให้แห้งและลุกขึ้นมาทักทาย “หนูพิงกี้มาแล้วหรอ? รีบมานั่งเร็วลูก

เห็นพิงกี้แล้ว คุณหญิงเพียงดาวรู้สึกสงสารจับใจ เธอยื่นมือมากุมมือของพิงกี้ไว้

ถึงแม้สามีของตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพัก ฟื้นหลายเดือนถึงจะหาย แต่อย่างน้อยก็ได้กลับมาครบ32 ประการ แต่เควิน…….ถึงแม้เธอจะไม่ถูกกับหทัยรัตน์ แต่ เธอก็รู้สึกชอบเควินอยู่ บวกกับสาเหตุของพิงกี้ เธอก็อด รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ เยาวชนที่ยอดเยี่ยม ขนาดนนั้นคนหนึ่งได้จากไปอย่างกระทันหันแบบนี้

รู้สึกได้ถึงความหวังดีของคุณหญิงเพียงดาว ดวงตา แดงก่ำของพิงกี้ก็มีน้ำตาไหลรินลงมาอีก “คุณป้า คะ.

“โอ๋ ไม่ร้องนะลูก” คุณหญิงเพียงดาวรีบเอาผ้า ขนหนูออกมาผืนหนึ่ง และเช็ดน้ำตาให้พิงกี้ “อย่าขึ้ ร้องไห้เหมือนป้าสิ ยังสาวยังแส้อยู่อย่าฝึกแบบอย่างที่ไม่ ดีนะ”

เตชิตอดแซวไม่ได้ “แหมนี่แม่ยังรู้ด้วยหรอครับว่า เนี่ยเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี?”

คุณหญิงเพียงดาวจ้องเตชิตทีหนึ่ง “ไอ้เด็กเวร แม่ร้องไห้ก็ไม่ใช่เพราะถูกลูกกับพ่อทำเอาเครียด จนร้องหรอ? ยังมาพูดมากอีก

เตชิต “ ….………….”

เขาได้ทำท่ารูดซิปปากแล้วสงบลง

ถูกการหยอกล้อนี้เข้ามาแทรก อย่างน้อยบรรยากาศ ในห้องก็ไม่ได้รู้สึกหนักหน่วงขนาดนั้นแล้ว พิงกี้ฝืนยิ้ม ออกมาและทักทายไกรสร

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอหน้าไกรสร เขาดูเป็นคนที่ อัธยาศัยดี ไม่ได้เคร่งขรึมเหมือนสุรพล และไม่ได้ดูดีสง่า เหมือนชาตรี แต่ดูแล้วเขาเป็นคนพึ่งพาอาศัยได้ เหมือน ภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง มีกลิ่นไอของความหนักแน่นและความ อ่อนโยนระเหยอยู่

พูดทักทายเสร็จ พิงกี้ก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มา โดยตรงเลย

“คุณลุงไกรสรคะ รบกวนคุณลุงช่วยเล่ารายละเอียด ของตอนนั้นให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ? คุณเควิน……เขา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคุณลุงถึงบอกว่าเขาสละชีพไป แล้ว?”
“ลุงไม่สะดวกเปิดเผยรายละเอียด แต่…..เฮ้อ!” ถอนหายใจลึกๆ หนึ่ง ไกรสรดวงตาแดงก่ำ และพูดด้วย สีหน้าตึงเครียด “ตอนนั้นเควินถูกยิงเข้าที่ลำตัวไปหลาย นัด สมาชิกของหน่วยสืบลับที่ตามไปด้วยต่างก็สละชีพไป แล้ว เขายืนกรานที่จะให้ลุงไปก่อน ก่อนที่ลุง…ก่อนที่ลง จะแยกกับเขา เห็นร่างกายของเขาไม่ไหวแล้ว ร่างกายได้ โซเซทรุดไปที่พื้น จากนั้น…..ระเบิดที่มีคนไปวางไว้แต่ เนิ่นๆก็ได้ระเบิดขึ้นมา……

พิงกี้หัวใจหนักหน่วงขึ้นมาทันที

รู้สึกตรงหน้ามืดมนไปหมด เธอเอามือกุมหน้าผากไว้ ยังดีที่ถูกเตชิตรับไว้ได้ทัน ถึงไม่ได้ล้มเพราะหน้ามืด

“คุณเป็นยังไงบ้าง?” เตชิตถามด้วยความร้อนรนใจ

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พิงกี้ส่ายหัว น้ำตาได้ไหลรินลง มาจากใบหน้าขาวซีดของเธอ เม็ดใหญ่เหมือนน้ำที่เกาะ อยู่บนดอกบัวขาว

แต่ว่า นาทีนี้เตชินตไม่มีกะจิตกะใจไปชื่นชมความ สวยที่บอบบางและอ่อนแอของเธอ

เขากลัวว่าพิงกี้จะแบกรับไม่ไหวจริงๆ
พิงกี้รู้สึกไม่ไหวแล้วจริงๆ

หัวใจเธอเจ็บปวดมาก เจ็บจนเหมือนใกล้จะตาย แม้แต่หายใจก็ยังกินแรงมาก!

เดิมทีเธอยังตั้งความหวังไว้เสี้ยวหนึ่ง………

แต่ว่า

อยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนั้น เควินยังมีโอกาศที่จะมี ชีวิตรอดจริงๆหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ