คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่193:ลิสาที่สุขสมหวังจนได้ใจ



เธอยังทำได้ไม่ดีพอจริงๆ

ก่อนหน้านั้นเธอยังเคยสงสัยยายสมศรี เพราะทุกอย่างมันช่างบังเอิญเหลือเกิน เธอก็ เลยคิดว่ายายสมศรีแอบช่วยลิสาสอดส่องเธอ อยู่ลับๆใช่มั้ย? ปรากฏว่าเธอให้เจษฎาช่วยเธอ ตรวจหาหลักฐาน แต่ก็ไม่ได้พบพิรุธอะไร

แต่เดิมเธอก็รู้สึกผิดต่อยายสมศรีอยู่แล้ว ตอนนี้พอโทรคุยกับยายเสร็จ ความรู้สึกผิดที่ เธอมีต่อยายสมศรีก็ได้พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด

นอกจากจ่ายค่ารักษาให้ยายสมศรี สิ่งที่ เธอทำได้ก็คือพยายามสุดความสามารถดูแล ชีวิตและอารมณ์ของท่าน

พิงกี้คิดๆแล้วทานอาหารเที่ยงยังเช้าไป เธอเลยซื้อวัตถุดิบต่างๆไปที่ห้องเช่าของตนเอง เธอกะจะทําอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้ ยายท่าน

เพราะสายฟ้าตามเธออยู่ตลอด เธอเลยทําเพื่อให้เขาชุดนึง เธอเลี้ยงเขาทานข้าวอยู่ใน ห้องให้เสร็จแล้วค่อยไปที่โรงพยาบาล

สายฟ้าเป็นคนเงียบไม่ค่อยชอบพูด แต่ กลับเป็นคนเปิดใจและไม่อ้อมค้อม พิงกี้เลี้ยง เขาทานข้าว เขาก็ทานในทันทีโดยไม่รีรอเลย ภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีเขาก็ทานอาหารที่พิง กี้เตรียมให้เขาจนหมดเกลี้ยง พิงกี้เห็นแล้วทึ่ง มาก

เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าเควินทานข้าวไว มากแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่ทานข้าวไวกว่า เขาอีก………

ความทึ่งของพิงกี้หล่นอยู่ในสายตาของ สายฟ้า ผู้ชายที่เงียบขรึมคนนี้อดหูแดงขึ้นมา ไม่ได้ แต่ว่าสีหน้าเขาเรียบเฉยอยู่ตลอด ดังนั้น ความผิดปกติบางอย่างพิงกี้เลยไม่สังเกตุเห็น

แต่ว่า พิงกี้ก็ได้แอบคิดวางแผนอยู่ในใจ

อย่างลับๆ
สายฟ้าดูแล้วเป็นคนดีใช้ได้เลย เชื่อถือได้ และสุขุม หน้าตาก็เป็นสไตล์ที่น้ำหวานชอบ ไม่ แน่เธออาจจะจับคู่ๆให้พวกเขาสองคนก็ได้นะ ขอแค่ทั้งสองรู้สึกโอเคต่อกัน ก็สามารถพัฒนา ความสัมพันธ์ต่อไปได้อีก

ยัยนํ้าหวานตัวแสบชอบเห่าหอนว่าไม่มี ผู้ชาย คอยสอดแนมเรื่องส่วนตัวของเธอทุก อย่าง รีบๆหาผู้ชายให้เธอจะดีกว่า

พิงกี้ถืออาหารไว้ในมือ และได้มาถึงที่โรง

พยาบาล

เพิ่งเดินมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยของยายสมศรี ทันใดนั้นประตูถูกดึงออกอย่างกระทันหัน ลิสา นำพาสีหน้าที่หมดความอดทนโผล่อยู่ตรงหน้า พิงกี้

ทั้งสองสบตากัน ต่างก็รู้สึกอึ้ง
ฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอเดินเข้าไปดูใน ห้องอย่างห้ามใจไม่ได้

แต่ลิสากลับขยับตัว และจงใจบังสายตา

เธอไว้

หัวเราะเบาๆเสียงนึง ลิสาพูดอย่าง

เหน็บแนม “นี่ไม่ใช่คุณหนูรองของตระกูลดำรง กูลหรอ?ไม่ได้มาหนึ่งเดือนเต็มๆแล้ว ฉันยัง นึกว่าแกลืมยายของแกไปแล้วซะอีก อกตัญญู จริงๆ! นี่ถ้าไม่ใช่ฉันมาเยี่ยมและคอยปลอบใจ ไม่แน่ยายแก่นั่นคงจะเสียใจตายไปแล้วมั้ง?

แววตาเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มของการก ลั่นแกล้ง เธอมองพิงกี้ตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบนึง สีหน้ามีความดีใจและได้ใจที่เก็บไว้ไม่อยู่

สุขสมหวังจนได้ใจจริงๆ

“อ้อหรอ? ยังต้องให้ฉันชอบคุณเธอด้วย มั้ย?” พิงกี้ย้อนถามอย่างเย็นชา
ลิสาอยู่ข้างนอกจะชอบทำตัวเป็นพี่สาวที่ แสนดีตลอด เธอจะแสดงออกถึงด้านที่ใจกว้าง ของตนเองอยู่เสมอ และด้านเฟคที่ทําเป็นคน ดีเข้าอกเข้าใจจิตใจคนอื่น นาทีนี้เผยอารมณ์ แท้จริงที่อยู่ด้านในให้ออกมาเห็น คงจะเพราะ ได้ใจที่ตนเองหมั้นกับเควินแน่ๆ ถึงได้มีความมั่น หน้ามั่นใจขนาดนี้

แต่ว่า ไม่รู้ถ้าลิสาได้เห็นสมุดจดทะเบียน สมรสของเธอแล้วจะมีรู้สึกยังไง?

พิงกี้เดาไม่ผิดจริงๆ!

ลิสาปิดปากหัวเราะทีนึง และเปิดปากพูด อย่างเย่อหยิ่ง “ขอบคุณน่ะไม่ต้อง ต่อไปแกแค่ อยู่ห่างๆว่าที่สามีฉันหน่อยก็พอแล้ว เรื่องที่ฉัน หมั้นกับเควินแกก็คงจะรู้ตั้งนานแล้ว ถ้าแกไม่ อยากให้พ่อแม่ขายหน้าเพราะแกล่ะก็ ดีที่สุดแก ก็ทำตัวให้มันดีๆหน่อย!

ว่าที่สามี?
พิงกี้หัวเราะเย้ยหยันหีนัง ดูใบหน้าที่ แต่งจนสวยสดงดงามของลิสาแล้ว เธอรู้สึก สะอิดสะเอียน

อารมณ์ที่ดีค่อยๆเย็นชาลงมา พิงกี้พูด อย่างเบาบาง “ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็เธอถึงจะ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลบุญถาวร ยาย สมศรีเป็นยายแท้ๆของเธอ เธอไม่ออกค่ารักษา ให้ท่านก็แล้วไป แม้แต่มองยังไม่มาเหลียวมอง ท่านทีนึง นั่นสิถึงจะเรียกว่าเนรคุณ!

“คนที่เนรคุณเป็นแกสิถึงจะถูก ยายสมศรี เลี้ยงแกมาหลายปี แกออกค่ารักษาให้ยาย เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว! ส่วนฉัน คุณพ่อกับคุณ แม่ดีกับฉันขนาดนี้ เลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็กจนโต ต่อไปฉันต้องกตัญญูพวกท่านแน่นอน”

“แค่กตัญญูอย่างเดียว ไม่หวังผล ตอบแทนหรอ?” พิงกี้ย้อนเหน็บแนมต่อ “ถ้า ไม่ใช่เพราะว่าตระกูลดำรงกูลร่ำรวยกว่า ตระกูลบุญถาวร เธอจะเต็มอกเต็มใจกตัญญู ต่อสองสามีภรรยาคู่นั้นหรอ? พ่อแท้ๆที่ถูกเธอหลงลืมไป เธอเคยจําได้มั้ยว่าตอนนี้พวกเขามี ชีวิตความเป็นอยู่ยังไง? เธอกินดีอยู่ดี แล้วให้ ฉันแบกรับค่ารักษาของยายอยู่คนเดียว วันๆ ต้องคอยมานั่งเครียดกับเรื่องนี้ เธอนี่กตัญญูจัง เลยนะ!”

“เรื่องของฉันแกไม่ต้องมายุ่ง แกหุบปาก เดี๋ยวนี้เลยนะ!”

“ในเมื่อเธอบอกให้ฉันหุบปาก งั้นก็รบกวน เธอดูแลปากตนเองให้ดีๆด้วย ฉันอยากทำอะไร ไม่ต้องให้เธอคอยมาชี้นิ้วสั่งหรอก!”

“นี่แก…..” ลิสาโมโหจนหน้าแดงก่ำ และ เชอะเสียงเย็นชาทีนึง “หลายปีมานี้ฉันเป็นลูก ที่กตัญญูต่อคุณพ่อคุณแม่มาโดยตลอด ถึง แม้ฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆของตระกูลดำรงกูล ฉันก็ มีสิทธิ์ได้มรดกของพวกท่าน ส่วนแก……แก ไม่มีเมตตาธรรมและไม่มีคุณธรรมต่อตระกูล บุญถาวร ไม่กตัญญูต่อตระกูลดำรงกูล แกสิถึง จะเป็นคนที่ไม่คู่ควรได้ครอบครองอะไรทั้งสิ้น! ตอนนี้ฉันได้หมั้นกับเควินแล้ว ต่อจากนี้ไปคุณพ่อคุณแม่ก็จะไม่สนับสนุนแกอีก ต่อไปถ้าแก ยังไปราวีเควินไม่เลิกล่ะก็ ฉันจะทำให้แกรู้สึก เสียใจทีหลังแน่ๆ! ”

“อ้อหรอ? ขอถามหน่อยนะคะ….เธอจะ ทำให้ฉันเสียใจทีหลังยังไง?”

พิงกี้ย้อนถามอย่างเรียบเฉย และไม่เห็นลิ สาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ดูท่าเธอแบบนี้เหมือน ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เหมือนกับว่าต่อไปก็ยังจะ ดื้อดึงทำตามใจตนเองเช่นเคยยังไงอย่างงั้น

กิริยาของเธอแบบนี้ อยู่ในสายตาของลิสา ก็คือการท้าทาย

ต้องรู้ไว้นะเธอกลัวที่สุดก็คือพิงกี้พัวพัน กับเควินไม่ยอมปล่อย กว่าเธอจะได้หมั้นกับเค วินไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าเกิดเควินกับพิงกี้พัวพันจนขึ้น เตียงกันอีก งั้นเธอจะทำยังไง?

“พิ้งกี้ ดีที่สุดแกประพฤติตัวดีหน่อยอย่า ออกนอกลู่นอกทาง ไม่งั้นฉันจะให้คุณพ่อลงมือจัดการกับแกเอง!”

ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ใบหน้าลิสาเดี่ยวแดง เดี๋ยวขาว เธอแย่งข้าวกล่องจากมือของพิงกี้ อย่างบุ่มบ่าม จากนั้นก็เขยี้วงลงพื้น กระติก รักษาอุณภูมิถูกเขยื้วงจนแตกออกมา น้ำซุป และกับข้าวต่างก็กระจาดกระจายอยู่บนพื้น กับข้าวที่พิงกี้ใช้เวลาทำสองชั่วโมงกลายเป็น สูญเปล่าหมด

“ลิสา เธอนี่ไม่รู้จักยางอายเลยหรอ?” ถูก ลิสาได้บรรลุตามเป้าหมายอย่างไม่ทันตั้งตัว มองดูพื้นที่เละเทะ ความตั้งใจของตนเองถูก ทำลาย ทำให้พิงกี้โมโหยิ่งนัก

เธอขี้เกียจถือสากับคนที่เบาปัญญาอย่าง ลิสา แต่ลิสากลับได้คืบจะเอาศอก นึกว่าเธอจะ รังแกได้ง่ายๆใช่มั้ย?

พิงกี้โมโหจนตาลุกเป็นไฟ

ด้วยความโมโห เธอเก็บกระติกน้ำซุปที่191117227_494369478551457_7645345857400203126_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ