คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่290: เอารูปของน้องแอปเปิ้ล



บทที่290: เอารูปของน้องแอปเปิ้ล

ไม่ใช่มีคำนึงเรียกว่า “เมื่อคนมีความจริงใจตั้งใจแล้ว ฟ้าดินก็รับรู้ แม้หินแกร่งยังแยกออกได้หรอ? เขาเป็น ผู้ชายอกสามศอก ฮอร์โมนพลุ่งพล่านจะตาย!

พอคิดแบบนี้ เตชิตก็กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง

“คุณวางใจเถอะ อย่าบอกว่าผมจะปกป้องคุณเลย ขอแค่คุณอยากไป คุณลุงจะต้องคุมคนในครอบครัวไว้ดีๆ แน่ ตอนนี้คุณมีเจ้าลิงน้อยแล้ว ไปร่วมงานศพของเควินยัง ถือว่าให้หน้าตระกูลภิรมย์ภักดีด้วยซ้ำ” เตชิตพูดปลอบใจ

“ถึงเวลาแล้วค่อยว่ากันเถอะค่ะ” พิงกี้ไม่ได้พูดให้ เฉียบขาด

ถ้าเธอบอกว่าไม่ไปดูต้องผิดปกติแน่

ตอนนี้หวังก็แต่เควินจะสามารถกลับมาเร็วๆ รีบ ยกเลิกงานศพที่ไม่เป็นมงคลนั้นทิ้งโดยเร็ว

“งั้นก็ได้” เตชิตไม่ได้เกลี้ยกล่อมต่อ

ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้พิงกี้ไปงานศพเลย จะได้ ไม่กระทบกระเทือนจิตใจอีก แทบอยากจะให้เธอลืมเควิน ทิ้งเสียตั้งแต่ตอนนี้ ต่อไปหัวใจทั้งดวงถูกเขาครอบครอง ทีละนิดๆ จากนี้ไปในสายตามีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น
กลับมาถึงL.K.Crystal วิลล่า

หลังจากเอาตู้อบของน้องแอ๊ปเปิ้ลวางไว้ในห้องเสร็จ เตชิตก็ได้จากไป

เพราะกังวลเรื่องของพายุ เธอเลยไม่ได้รั้งเขาไว้

เพราะยังไงทั้งสองบ้านก็อยู่ใกล้กันมาก ตอนที่เต ชิตอยากมาทานข้าวฟรีสิบกว่านาทีก็ถึงแล้ว ไม่เสียเวลา เลยสักนิด เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดจาเกรงใจกันไป เกรงใจกันมา

พิงกี้ผลักประตูห้องของพายุ พายุเงยหน้าขึ้นเห็นคน ที่เข้ามาคือพิงกี้ ดวงตาได้สว่างขึ้นมาทันที “คุณพิงกี้ไม่ เป็นไรแล้วหรอครับ?

“อืม ช่วงนี้นายเป็นยังไงบ้าง แผลดีขึ้นเยอะหรือ ยัง?” พิงกี้ตอบพร้อมถามเขา

“ผมไม่เป็นไรครับ บาดแผลที่ร่างกายผมเป็นแค่แผล เล็กน้อย คาดว่าอีกประมาณครึ่งเดือนน่าจะหายหมด พอ หายแล้วผมจะไปหาเจ้านายที่อเมริกาครับ ไม่ให้เขาต้องสู้ รบอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายครับ”

“ตอนนี้อาการของเขาเป็นยังไงบ้าง?” พิงกี้รีบถาม
ครึ่งเดือนมานี้ เธออาศัยตอนที่คุยกับป้าเฉินแล้วได้ พูดคุยกับพายสองสามคำ ถ้าไม่ถามสถานการณ์ของเควิน ให้แน่ชัดทุกวัน เธอก็จะรู้สึกไม่สบายใจ

ข่าวที่เธอได้รับมาโดยตลอดคือเควินค่อยยังชั่ว แต่ ว่า ถ้าไม่ถามต่อหน้าพายุเธอก็ยังรู้สึกอดห่วงไม่ได้อยู่ดี

อีกอย่าง เธอกลัวพายุพูดเท็จเพื่อหลอกให้เธอ

สบายใจ

ความคิดถึงและความห่วงหาที่พึงมีต่อเควิน พายุ ย่อมรู้อยู่แล้ว

เขารีบดึงจี้สร้อยคอชิ้นนั้นออกมาจากคอและพูดว่า “วันนี้ผมได้ติดต่อกับเจ้านายอีกแล้วครับ ตอนนี้อาการ ของเขาโอเคอยู่ครับ แต่ถ้าอยากกลับมาในประเทศคงยัง ต้องรออีกสักระยะนึงครับ

“ยังมีอีกล่ะ?” พิงกี้ถาม

“ยังมี……” พายุเกาหัว “ไม่มีแล้วครับ

“ไม่มีละ?”

“คุณพิงกี้ก็รู้นี่ครับ วิธีแบบนี้ส่งข่าวสารได้เยอะซะที่ไหน อยากพูดอะไรก็พูดไม่ได้เลยครับ

“โอเค ฉันรู้แล้ว” ที่จริงไม่ใช่เพิ่งจะรู้ครั้งแรก แต่พิง ก็อดผิดหวังไม่ได้

ดีที่ร่างกายของพายุฟื้นฟูได้ไม่เลว นี่ก็ถือว่าเป็น ข่าวดีอีกหนึ่งอย่าง

ออกจากห้องของพายุแล้ว พิงกี้ได้ไปดูน้องแอ๊ปเปิ้ล ก่อน เห็นเขาหลับปุ๋ยอยู่ในตู้อบอย่างเชื่อฟัง หัวใจทั้งดวง รู้สึกละลายไปหมดแล้ว สัมผัสมือน้อยๆของน้องแอ๊ปเปิ้ล ผ่านตู้อบกั้นที่อยู่ แววตาของพิงกี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น

ลูกน้อยของเธอยิ่งอยู่ยิ่งขาวจั๊วะและแล้ว ตอ นที่เควินกลับมาก็คงจะได้เห็นเจ้าตัวน้อยที่อ้วนท้วนสม บูรณ์แล้วมั้ง?

คิดไปคิดมา พิงกี้ได้ติดต่อสุรพลโดยตรง ได้บอก เรื่องที่ตัวเองไม่ไปร่วมงานศพ” ด้วยความรู้สึกผิด

สาเหตุแรกคือเพราะเธอรู้ว่าเควินยังมีชีวิตอยู่ ถ้าไป ร่วมงานในใจรู้สึกทะแม่งๆยังไงไม่รู้
ถึงเวลาเธอจะร้องไห้ดีหรือว่าไม่ร้องไห้ดี?

ไม่มีเรื่องดีกว่ามีเรื่อง จะได้เลี่ยงถึงเวลาถูกคนจับ พิรุธได้ด้วย

สาเหตุที่สองคือ เธอไม่อยากเห็นหน้าหทัยรัตน์

สุดท้าย ร่างกายของเธอยังไม่หายดี ตอนนี้อากาศยัง หนาวเย็นอยู่ ถ้าเธอแบกสังขารตัวเองออกไปไม่แน่อาจจะ ป่วยได้ ยิ่งอย่าบอกว่าตระกูลภิรมย์ภักดีจะให้แอ๊ปเปิ้ลไป ด้วยเลย

ตอนนี้แอ๊ปเปิ้ลยังอยู่ในตู้อบอยู่เลย จะออกจากบ้าน

ได้ยังไง?

คำนึงถึงจุดนี้ พิงกี้จึงปฏิเสธความคิดเห็นของสุรพล

เธอนึกว่าสุรพลจะโกรธเสียอีก แต่แล้ว ที่ทำให้เธอ คิดไม่ถึงคือฝั่งนู้นเหมือนจะถอนหายใจเสียงนึงและกล่าว คำขอโทษ

“ขอโทษที่ลุงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้นะ เอาอย่างนี้ แล้วกันรอให้ร่างกายของหนูและร่างกายของแอ๊ปเปิ้ล หายดีแล้วค่อยจัดงานศพเถอะ เพราะยังไง…..เพราะยัง ไงก็ไม่มารีบเอาตอนนี้หรอก”
พูดถึงตรงนี้ เสียงของสุรพลค่อนข้างสั่น สุรพลที่อยู่ ในความรู้สึกของพิงกี้คือเป็นชายวัยกลางคนที่สุขุมมาด เข้ม แต่นาทีนี้เธอกลับฟังออกว่าในเสียงของเขาแฝงด้วย ความชราและหมดแรง

เธอรู้ว่าสุรพลหมายความว่ายังไง

อยู่ข้างนอกเควินคือตายแล้ว กลับมาจากอเมริกาไม่ ได้ แม้แต่ศพก็ไม่ได้ส่งกลับมาในประเทศ ในเมื่อเป็นแบบ นี้ เพราะยังไงก็แค่เอาสิ่งของและเสื้อผ้าฝังแทนศพ งั้นก็ ไม่ต้องรีบร้อนหรอก

“ขอบคุณๆลุงที่เห็นใจค่ะ” พิงกี้รู้สึกไม่สบายใจ เธอ

พูดเสียงเบา

สุรพลไม่เหมือนหทัยรัตน์ เธอรู้สึกประทับใจเขาอยู่

เห็นสุรพลเสียใจเพราะเควิน “ตาย”ขนาดนี้ ในใจ เธอรู้สึกทนเห็นไม่ได้ แต่ว่าเธอต้องทำตามคำสั่งของเค วินอย่างเคร่งครัด เรื่องที่เขาไม่ตายห้ามเผยแพร่ออกไป เด็ดขาด

“ไม่เป็นไร” สุรพลเปิดปากพูด

ต่อจากนี้คือความเงียบงัน
ไม่นานพิงกี้ก็รู้สึกอึดอัด เตรียมจะวางสาย “ถ้าคุณ ลุงไม่มีอะไรแล้ว งั้นหนูก็ไม่รบกวนคุณลุงแล้วค่ะ ขอวาง สายก่อนนะคะ”

“อืม” สุรพลตอบเสียงนึง จู่ๆก็พูดขึ้นมาอีกว่า “พิงกี้ หนูส่งรูปของแอ๊ปเปิ้ลให้ลุงดูหน่อยได้มั้ย?

เหมือนเขาค่อนข้างจะรู้สึกเกรงใจ และกลัวถ้าพิง ก็ปฏิเสธจะรู้สึกขายหน้า หลังจากพูดแล้วก็รีบพูดอย่าง เคร่งขรึมว่า “ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ

“สะดวกสิคะ คุณลุงให้ช่องทางติดต่อกับหนูหน่อย ค่ะ หนูส่งรูปให้ทางอีเมล์หรือไม่ก็ส่งไปที่มือถือก็ได้ค่ะ” พิงกี้พูดอย่างละมุน

ใบหน้ายิ้มแย้ม

ตอนนี้แอ๊ปเปิ้ลคือของมงคลของเธอ มีโอกาศอวดลู กชายตัวเองไปทั่ว เธอดีใจแทบแย่

สุรพลเหมือนกลัวเธอจะกลับคำพูดอย่างไรอย่างนั้น จึงรีบเปิดปากพูดว่า “ได้ๆๆ จดเบอร์ของลุงไว้นะ ลุงจะรีบ สมัครวีแชทอันนึง ต่อไปถ้าหนูถ่ายรูปของแอ๊ปเปิ้ลอีกก็ ส่งมาให้ลุงนะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกกับลุงตรงๆไม่ต้อง เกรงใจนะ”
“ได้ค่ะ งั้นก็ขอบคุณๆลุงนะคะ”

หลังจากวางสาย พิงกี้รู้สึกเหลือเชื่อมาก

นี่คือเอาใจว่าที่แม่สามีไม่ได้ แต่กลับเข้ากันได้กับ ว่าที่พ่อสามีเหรอ?

ไม่ๆๆ

เรื่องที่ยังไม่มีท่าทีจะเกิดขึ้น พูดพ่อสามีแม่สามีอะไร

กัน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ